The world around us: My perspective
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
1 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
มาลองอ่าน joke in English กัน

ขอออกตัวก่อนว่า ถึงแม้ผมจะมีประสบการณ์ในการใช้ภาษาอังกฤษพอสมควร
แต่ก็ไม่อยากเอาตัวเองไปเทียบกับอาจารย์ที่เปิดติวอังกฤษกันเป็นอาชีพ เนื่องจาก Vocab ของผมคงไม่ครอบคลุมเท่ากับเขา

อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์จากการเปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ (แม้จะสั้นๆ เพราะถอนหุ้นออกมาแล้ว) ช่วยให้ผมรู้และเข้าใจนักเรียนนักศึกษาอยู่บ้าง เคยเอาประโยคจากหลายๆ สื่อมาสอน แต่ที่น่าสนใจที่สุดกลับเป็น joke

Joke นั้นโดยมากจะใช้ศัพท์ไม่ยากนัก และจะเป็นศัพท์ในชีวิตประจำวันเสียด้วย ทำให้อ่านแล้วพอจะเอาไปใช้ได้จริงบ้าง เสียอยู่ว่า Joke นั้นชอบเล่นกับความหมายของคำ ดังนั้นผู้อ่านต้องเข้าใจสำนวนต่างๆ พอสมควร ซึ่งผมมองว่าจุดนี้แหละน่าสนุก ก็เลยเอามาสอน และนักเรียนก็ดูจะโอเคกับเนื้อหาตรงนี้ด้วย

วันนี้เริ่มต้นแบบอุ่นเครื่องด้วย Dialogue สั้นๆ หลายๆ อันก่อนละกัน อ้อ บางคำศัพท์จะไม่อธิบายนะครับ เพราะไม่ยากนัก แล้วถ้าลองเปิดดิคดูจะจำได้ง่ายกว่าอีกด้วย

Sailor: I was shipwrecked, and lived on a can of sardines for a week.
Captain: My, weren't you afraid that you'd fall off?

คำว่า shipwreck นี่ แปลว่าเรือล่มครับ คำว่า wreck นี่เป็นกริยาแปลว่าเสียหาย ดังนั้นถ้าพูดว่า car wreck ก็รถเสีย หรือถ้าพูดว่า wreckage ก็คือซากของที่พังแล้วนั่นเอง

ประโยคนี้จุดขำหลักอยู่ที่ live on a can of sardine ครับ
กลาสีใช้ live on ในความหมายว่าจะดำรงชีพอยู่ด้วยปลาซาร์ดีนกระป๋องเดียวได้หรือ
แต่กัปตันดันตอบว่า "เอ็งไม่กลัวตกเหรอ" ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาแปล live on เป็น "ใช้ชีวิตอยู่บน" แบบตรงตัวเลย

เอ จะขำดีไหมเนี่ยยยย

เอ้า มา Dialogue ที่สองเลยดีกว่า

Ben: Did you hear about the new dance called the elevator?
Mike: I sure didn't! What's it like?
Ben: It has no steps!

จุดขำของอันนี้อยู่คำว่า step ครับ
โดยเริ่มเรื่องจากเบ็นพูดแนวประชดว่ามีท่าเต้นใหม่ชื่อ Elevator ที่แปลตรงตัวได้ว่า "ลิฟต์"
ที่บอกว่าประชดเพราะเบ็นมาเฉลยตอนท้ายว่า ท่าเต้นใหม่ไม่มี step
แล้วถ้าท่าเต้นไม่มี step นี่ คือเต้นมั่วครับ ไม่มีจังหวะ ไม่มีขั้นตอนอะไรเลย
ส่วน Elevator นี่ มันเป็นลิฟต์ เลยไม่มี step ที่แปลว่าขั้น (ใช้แทนขั้นบันได) อยู่แล้ว

Get ไหมครับ :-) เนี่ยนะ ตอนผมสอน joke นี่ บางอันอ่านแล้วนักเรียนเครียดแทนที่จะหัวเราะ ผมล่ะขำแทน ฮะๆๆ

ต่อด้วยอันที่สามนะครับ

Teacher: Duff, please use the word "window" in a sentence.
Duff: Yes, sir, here goes: "I entered a contest but didn't window."

อันนี้เฉลยง่ายๆ ว่า window อันแรก ครูเขาหมายถึงหน้าต่าง แต่ไอ้ window อันที่สอง Duff ดันใช้ window ให้พ้องเสียงกับคำว่า win, though
ผมว่าอันนี้ขำดีนะ เอ หรือผมเส้นตื้นเนี่ย

เอ้า อันที่สี่นะ
Jack: Did you hear about the giant that threw up?
Jill: No, how'd you know?
Jack: It is all over town!

Threw up เป็นช่องสองของ Throw up ที่แปลว่า Vomit หรืออาเจียน ดังนั้นการที่บอกว่า all over town นั้นเลยมีความหมายได้สองแบบ
แบบแรกคือ อาเจียนมัน all over town คือไหลนองไปทั่วเมืองเนื่องจากเป็นอาเจียนของยักษ์
แบบสองคือ ข่าวยักษ์อาเจียนนี่ถูกพูดกันไปทั่วเมือง (all over town) อันนี้ใช้ได้เพราะมันสอดคล้องกับคำว่า hear ไงครับ

ต่อเลยนะ

Mary: Did you know they're not making pencils any longer?
Sue: Wow! Why not?
Mary: They're already long enough!

อันนี้ any longer มีความหมายสองแบบเช่นกัน
แบบแรกคือ "ไม่อีกต่อไป" แปลว่าไม่มีการสร้างดินสออีกแล้ว (เหมือนกับ no longer นั่นแหละ)
แบบที่สองคือ "ไม่ยาวกว่านี้" ซึ่งเป็นการใช้คำว่า long ให้สื่อถึงคำว่ายาวนั่นเอง (อันนี้รู้ได้จากคำตอบสุดท้ายของแมรี่)

แล้วก็มาถึง Dialog อันสุดท้าย

Why has no one ever spotted a leopard in Africa?
Because leopards are already born with spots.

อันนี้ spot มีสองความหมาย (อีกแล้วแฮะ ใช้มุขแบบนี้บ่อยจัง)
ความหมายแรก spot หมายถึง notice, look, see, meet นั่นคือ "พบเจอ" "มองเห็น" นั่นเอง ซึ่งอันนี้เป็นความหมายที่ผู้ถามต้องการสื่อถึง
แต่ว่าผู้ตอบดันตอบโดยแปล spot ให้หมายถึง "จุด" โดยเขาคิดว่า spot ในประโยคแรกเป็นกริยา ซึ่งหมายถึงการเติมจุดให้เสือดาว ส่วน spot ในประโยคสองเป็นนาม ซึ่งหมายถึงเสือดาวมีจุดอยู่แล้ว

อ่าน joke เสร็จแล้วมีขำสักอันไหมครับนี่ :-)


เอ้า แถมเรื่องยาวให้อีกสักอันครับ

เรื่อง Morning Sickness

The neighbor dropped in on a friend and found her sitting at the kitchen table, staring blankly at a half-empty cup; her three children squabbling loudly in the other room.
"What's wrong?" she asked.
"Morning sickness."
Surprised, the neighbor replied,
"I didn't even know you were expecting."
"I'm not." the harried young woman replied. "I'm just thoroughly sick of mornings"

คำว่า drop in on someone แปลว่าไปเยี่ยม someone ครับ แต่ไม่ได้หมายถึงเยี่ยมไข้นะครับ :-)

ส่วนคำว่า find นั้น โดยมากจะใช้ในรูป find + noun + V เติม ing ครับ เช่น Find a friend eating something, find a cat catching a mouse แต่ก็มีกรณีที่ใช้ find + noun + adjective เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น I find it easy ที่แปลว่า "เขาพบว่า it นี่ง่าย" แต่อย่าไปสับสนกับบางกรณี เช่น He finds it fast ที่แปลว่า "เขาหา it ได้เร็ว" ซึ่ง fast อันนี้ถูกใช้เป็น adverb เพื่อขยายคำว่า find ครับ

ส่วนจุดขำของเรื่องนี้อยู่ที่คำว่า morning sickness ที่แปลว่าแพ้ท้อง ซึ่ง neighbor ก็เลยงงว่าเพื่อน expect อยู่เหรอ (ในที่นี้ expect หมายถึงท้องครับ แบบว่า expect a child ประมาณนี้ แต่เขานิยมใช้ expect โดดๆ เลยมากกว่า)
คราวนี้ที่ตลกคือเพื่อนดันตอบว่า sick of morning ที่แปลตรงตัวได้เลยครับ คือกำลังเซ็งกับช่วงเช้า (อ้าว พูดจากำกวมแบบนี้ อยู่เมืองไทยโดนเซ็นเซอร์ไปแล้วนะนี่)

--- เอ้า ไม่รู้ว่าจะมีคนชอบหรือไม่อย่างไรกับบล็อกภาษาอังกฤษอันแรกของผม แต่ว่านี่เป็นสไตล์ที่ผมเคยใช้สอนเลยครับ ถ้ามีคนชอบบ้างผมคงดีใจ แบบว่านี่ก็คิดๆ อยู่ว่าถ้าเคลียร์งานหลักๆ ได้ ปีหน้าอาจจะเป็นโรงเรียนใหม่เป็นของตัวเองเสียเลย :-) ถ้ายังไงก็ขอ comment ด้วยนะครับ ---


Create Date : 01 พฤษภาคม 2550
Last Update : 24 ตุลาคม 2550 22:27:41 น. 15 comments
Counter : 4548 Pageviews.

 
หวัดดีค่ะพี่พล




ดีใจจังมีสมาชิกมาเพิ่มแล้ว


โดย: aquaworld วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:30:01 น.  

 
ง่า นู๋อ่านแย้ว ม่ายขำซักอันเลยอ่าพี่พล แต่มึนแทน @_@ หรือว่านู๋ม่ายฉลาดหว่า

มุขอังกฤษมันต่างกับมุขภาษาไทยมั๊งคะ ^_^

ว่า บอกแบบนี้ เดี๋ยวมะมีกำลังใจ อัพ blog ภาษาอังกฤษทำงานนี่ อาวเป็นพี่พลลงเพลงภาษาอังกฤษเพราะ ๆ ที่ชอบ อย่างพวกเพลงหนังอารัยแบบนี้ แล้วลงเนื้อเพลง แปลศัพท์ หรือยกเอาสำนวนเด็ด ๆ ในหนัง มาสอนดีมั๊ยคะ ^_^ งิงิ (เสนอแนะ)


โดย: Beee (Beee_bu ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:5:49:32 น.  

 
พี่พล ปายต่างจังหวัดช่ายม้า มาเฝ้าบ้านให้ค่ะ ^_^


โดย: Beee (Beee_bu ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:51:53 น.  

 
EMM, ......

Useful English
I'll keep it for playing w/ some foreigner na ka


โดย: LynnPE วันที่: 5 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:41:33 น.  

 
ดีใจที่มีคนชอบนะครับ ขอบคุณน้องฮุ้งน้องบีที่เข้ามาทักทาย
ขอบคุณคูณ LynnPE (ลิ้นปี่???) ที่เข้ามาคอมเม้นต์ :-)
แล้วผมจะเขียนให้ชมกันใหม่ คราวนี้จะลองใช้หนังเป็นสื่อดูบ้าง

อ้อ แล้วผมลบความเห็นที่เข้ามาโฆษณาอย่างเดียวทิ้งไปแล้ว
ผมไม่ว่าที่มีการใช้บล็อกหรือเว็บเป็นที่หารายได้พิเศษ
แต่ต้องมีมารยาทกับสำนึกด้วยสิครับว่านี่คือบล็อกส่วนตัว
พวกเข้ามาใช้พื้นที่คนอื่นแล้วก็ไม่มีการคอมเม้นต์ใดๆ เลย
นอกจากโฆษณาอย่างเดียวนี่ เข้าขั้นไร้มารยาทมากๆ
เจออีกก็ลบอีกแน่นอนครับ ขอประณามไว้ ณ ที่นี้เลย


โดย: MrET_TK วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:54:50 น.  

 
เผานักเรียนซะงั้นนะคะพี่พลนี่
อิอิ


โดย: minki_cvt IP: 61.19.65.199 วันที่: 8 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:42:39 น.  

 
อ่านแล้วหนุกดีค่ะ แต่ get ช้าหน่อย ไม่ค่อยถนัดต้องค่อยๆคิดอ้ะค่ะ ความถี่ในการเขียนเป็นอย่างไรคะ อ่านไปถึง The Devil Wears Prada แล้ว


โดย: Experience IP: 203.156.191.183 วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:30:04 น.  

 
ผมเขียนไม่ค่อยถี่ครับ
งานเยอะเหมือนกัน
แต่ดีใจที่มีคนชอบครับ
แล้วจะพยายามอัพให้บ่อยๆ ขึ้น


โดย: MrET_TK วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:20:52 น.  

 
มาอ่านด้วยคนนะคะ ขอแอดไว้ด้วยเนอะ


โดย: AccessError วันที่: 26 กรกฎาคม 2550 เวลา:3:36:58 น.  

 
อืม อ่านแล้วงงอ่ะนี้ดส์นึง อาจเป็นเพราะไม่คุ้นกะมุกของฝรั่งม้าง อยากให้พี่ช่วยแปลเป็นไทยกำกับไวด้วย จะได้รู้ว่าคำไหนความหมายอะไร เพราะบางคำแปลได้ 2 อย่าง เหมือนที่คุณบอก ไม่เคลียร์ค่ะ


โดย: ฉันเอง IP: 222.123.144.87 วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:21:42:02 น.  

 
ชอบอ่าน jokes และ riddles
ขอบคุณค่ะ


โดย: Aisha วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:9:47:32 น.  

 
ดีค่ะ หนุกดี งงบ้าง อ่ะขำๆ


โดย: pp IP: 125.24.36.157 วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:12:15:54 น.  

 
'' - '' งง งง งง


โดย: ปุ้มปุ้ย doraemon_340928@hotmail.com/Hi 5 IP: 117.47.21.38 วันที่: 17 ตุลาคม 2551 เวลา:13:48:58 น.  

 
ขำดีครับ ขอบคุณครับ


โดย: วิทย์ IP: 125.24.87.81 วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:7:29:09 น.  

 
สนุกมากครับ ถึงบางอันจะขำไม่ออกก็ตามที


โดย: kira7 IP: 58.137.74.20 วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:12:41:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MrET_TK
Location :
พิษณุโลก Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




วิศวกรคอมพิวเตอร์โดยปริญญา แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นอาจารย์ในที่สุด (แถมเป็นคณะวิทยาศาสตร์ด้วย ฮะๆๆ) ปัจจุบันเป็นวิทยากรด้านการตลาดออนไลน์ให้กับสถาบันในเครือกรุงเทพธุรกิจและเว็บ exitcorner รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ให้บริษัทเอกชน

ปัจจุบันผมเขียนบทความใน fan page เป็นประจำ (http://www.facebook.com/dr.ekkasit กับ http://www.facebook.com/InspireRanger)
Friends' blogs
[Add MrET_TK's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.