วาดฝันประเทศไทยให้เป็นบริษัทจำกัด

เราเคยมีความคิดกันว่า หากได้ผู้บริหารองค์กรธุรกิจเข้ามาปกครองบ้านเมืองในรูปแบบที่เป็นลักษณะบริษัทเอกชน คงจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศชาติบ้านเมือง ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก

การบริหารธุรกิจเอกชนเป็นรูปแบบที่ทันสมัย กล้าคิด กล้าตัดสินใจ มีความคล่องตัว รวดเร็ว และเป็นองค์กร ที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง หรือมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จะมีสินค้าหรือบริการ ที่เป็นนวัตกรรมออกมาต่อเนื่องตลอดเวลา ดังนั้น หากองค์กรภาครัฐได้มีการปรับเปลี่ยน ให้มีลักษณะแบบองค์กรเอกชน ก็คงจะมีรูปแบบเช่นนั้นด้วย

องค์กรเอกชนมีลักษณะของการมุ่งสนองตอบต่อลูกค้าและมีกำไร (สูงสุด-ในอดีต) อย่างเหมาะสม เมื่อองค์กรภาครัฐซึ่งไม่มุ่งแสวงหากำไรก็น่าจะได้ลักษณะของการมุ่งตอบสนองผู้ใช้บริการหรือประชาชน และการบริหารธุรกิจที่มีความต่อเนื่องยาวนาน จนกระทั่งกลายเป็นผู้นำตลาด ผู้บริหารองค์กรธุรกิจน่าจะผลักดันประเทศชาติ ให้สามารถออกไปแข่งขันในเวทีโลกได้สง่าผ่าเผย หรือไม่ล้าหลังประเทศใดๆ อีกต่อไป

อดีตบอกความอหังการนักธุรกิจหรือผู้บริหารธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ หรือในประสบการณ์ของผู้เขียน ที่ได้เคยทำงานเป็นที่ปรึกษาร่วม กับผู้บริหารธุรกิจระดับสูงสุด มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ความสำเร็จในอดีตของธุรกิจไม่ใช่สิ่งการันตีความสำเร็จในปัจจุบันหรืออนาคต ที่รุนแรงหนักไปกว่าอีกมักจะบอกว่า ให้ลืมอดีตที่เคยทำมาแล้วมาคิดใหม่ ทำนอกคอกหรือนอกตำรากันให้สุดๆ ไปเลย ซึ่งอาจจะขัดแย้ง หรือสวนหมัดโดยตรงกับสำนักนักวิชาการทั้งหลายที่นิยมยกย่องตะวันตก ประดุจดังเทพที่ทรงประทานความเกิดดับให้กับมวลมนุษยชาติ โดยมีนัยสำคัญว่าหากไม่ทำตามตำรา หรือหลุดเลยไปจากตำราก็แทบจะบ้าคลั่ง ยอมรับไม่ได้

ผู้เขียนก็ยังเชื่อตามที่เคยร่ำเรียนมาว่า ประวัติศาสตร์ยังไงก็สามารถบอกเรื่องราวความล้มเหลว หรือความสำเร็จที่ผ่านมา และประวัติศาสตร์ก็ยังมีวันซ้ำรอยเดิม แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปยึดติดกับอดีต หรือไม่ยอมเปลี่ยนแปลงวิธีการทำไปจากอดีต

เมื่อเราเรียกร้องให้มีการบริหารประเทศแบบการบริหารธุรกิจ ซึ่งประเทศในปัจจุบันกับอนาคต ก็คงจะมีรูปแบบของการบริหารธุรกิจมากขึ้น

ประการแรก ประเทศสาระขัณฑ์ในกระแสบริหารธุรกิจ ที่มีความจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ แม้ทฤษฎีทางธุรกิจและกลยุทธ์ทางธุรกิจ มีความเหมาะสมที่จะหยิบนำมาใช้เพื่อให้ธุรกิจมีความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ในกรณีของประเทศจะมีความแตกต่างจากบริษัทในทุกมิติ

สิ่งที่เป็นข้อกังขาคือ ประเทศ (Country) กับ บริษัท (Company) จะมีความเหมือนกันหรือไม่ในทางจัดการ ทั้งนี้ก็เพราะว่า ประเทศมีลักษณะเป็นรัฐที่จะแบ่งแยกไม่ได้ หากแต่บริษัทสามารถจดทะเบียนนิติบุคคลแยกออกเป็นบริษัท หรือจะรวมเป็นโฮลดิ้งคอมปะนีก็ย่อมทำได้ จะออกไปตั้งนอกประเทศก็ยังทำได้ จะโอนไปขอสัญชาติประเทศอื่นก็ยังทำได้อีกด้วย

เวลาที่พนักงานของบริษัททำความผิด ก็สามารถเลิกจ้างแล้วไล่ออกจากบริษัทได้ ซึ่งจะไม่มีพวกเรียกร้องสิทธิมนุษยชนข้ามประเทศ เข้ามาต่อสู้เรียกร้องสิทธิให้ และบริษัทก็จะบริหารพร้อมดำเนินธุรกิจได้อย่างตลอดรอดฝั่ง

ในทางกลับกันหากประชาชนทำความผิดจะไล่ออกจากประเทศคงทำไม่ได้ ยกเว้นพวกที่ก่อการกบฏหากไม่ถูกขังคุกก็ถูกเนรเทศไปอยู่ถิ่นทุรกันดารหรือประหารชีวิต

ประการต่อมา ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทนึกจะสั่งซ้ายหัน ขวาหันทำอย่างไรก็ได้หมดเพราะมีความเป็นเจ้าของบริษัท

ผู้อ่านคงเคยได้ยินประโยคต่อไปนี้ "ใช่ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับนาย..."

บริษัทจึงจำเป็นต้องมีผู้ทำหน้าที่สูงสุดที่เรียกว่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท (CEO: Chief Executive Officer) อีกหลายๆ "Chiefs" แต่ที่ขาดไม่ได้คือ COO (Chief Operation Officer) หรือประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ แต่ในประเทศสาระขัณฑ์จะมี CEO เต็มไปหมด ก็คงสอดคล้องกับตำราด้านการบริหารธุรกิจว่า ผู้จัดการห้องรับส่งเอกสารก็เปรียบได้กับ CEO ห้องรับส่งเอกสาร นายสถานีรถขนส่งจึงเปรียบได้กับ CEO สถานีรถขนส่ง ลักษณะอย่างนี้ถือว่าเป็นการนำแนวคิดทางธุรกิจมาใช้ได้อย่างเหมาะสมเต็มรูปแบบ

ประการสุดท้าย เมื่อประเทศสาระขัณฑ์ปรับเปลี่ยนแนวคิดการบริหารราชการไปสู่การบริหารตามแนวคิดการจัดการสมัยใหม่ คงจะสามารถอธิบายได้ในรูปแบบการจัดการดังต่อไปนี้

1.การมี CEO ของ Thailand Inc. ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จคือ คิดคนเดียวทำสองคนก็สามารถสั่งการให้ทุกคนปฏิบัติตามได้

2.การขยายบริษัท Thailand Inc. หรือเกิดมีบริษัทลูก เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่คงให้ผู้บริหารที่เคยไว้ใจได้ไปปกครองหรือกินเมืองแบบสมัยก่อน

3.คนในประเทศสาระขัณฑ์เปรียบเสมือนพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัท Thailand Inc. ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ ตามกฎหมายประกันสังคม กฎหมายคุ้มครองแรงงาน หรือแล้วแต่ CEO ของ Thailand Inc.จะพิจารณาให้เป็นปีๆ ไป และในสิ้นปีก็อาจจะได้ปรับเงินเดือนประจำปีหรือมีโบนัส

พนักงานและลูกจ้างของ Thailand Inc. คงจะมีสภาพเหมือนบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศทั่วโลกที่เจริญเติบโตก้าวหน้าอย่างมั่นคง เพราะสิ่งเหล่านี้คงจะเปลี่ยนฝันเป็นจริงไปอีกนานนับสิบๆ ปี นับจากนี้ไป...

อ.ดนัย เทียนพุฒ
Aj.Danai Thieanphut
DNT Consultants

Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2549		1 comments
Last Update : 22 มกราคม 2551 17:30:47 น.
Counter : 708 Pageviews.
Share Tweet