|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ตัวแบบ (Model) สู่ธุรกิจแห่งนวัตกรรม
ธุรกิจแห่งนวัตกรรม หรือ Innovative Enterprises เป็นวิสัยทัศน์ใหม่ กฏเกณฑ์ใหม่หรือกลยุทธการเติบโตใหม่ของธุรกิจที่ทั่วโลกยอมรับว่า เป็นดังสกุลตราใหม่ของการแข่งขันหรืออาหารมื้อศักดิ์สิทธิ์ของธุรกิจแห่งศตวรรษที่ 21ในนิตยสารบิสซิเนสวีค ครบรอบ 75 ปีเดือนตุลาคม 2004 ได้นำเสนอถึง อนาคตของนวัตกรรมไว้อย่างน่าสนใจ อาทิ
ด้านเทคโนโลยีใหม่ จะอยู่ใน 3 กลุ่มคือ นาโนเทค (Nanotech) เป็นความสามารถในการสร้างวัสดุใหม่ๆ จากระดับล่างสุดให้สามารถแปลงไปสู่ การรักษาสุขอนามัย (การต่อสู้กับมะเร็ง) การผลิตและคอมพิวเตอร์ พลังงาน (Energy) ซึ่งถ้าพลังงานยังคงราคาสูงต่อไป เทคโนโลยีใหม่อาจจะกลายเป็นสิ่งที่มีมูลค่าเชิงเศรษฐกิจเร็วกว่าที่ทุกๆ คนคาดคิด เช่น ไฮโดรเจนจากพลังงาน พลังงานจากแสงอาทิตย์หรือก๊าซธรรมชาติ ชีววิทยา (Biology) มูลค่าเชิงเศรษฐกิจของไบโอเทคมีผลกระทบพอๆ กับไมโครชิป ซึ่งในทางการแพทย์อาจทำให้มนุษย์มีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น
ด้านแหล่งของนวัตกรรม จะมีในซิลิคอนวัลเล่ย์ ซึ่งยังคงเป็นผู้นำในการร่วมลงทุนของบริษัทที่เกิดจากการรวมของอินโฟเทคกับไบโอเทคและนาโนเทค แหล่งที่สองคือเอเซีย ประเทศญี่ปุ่นที่มีการลงทุนด้าน R&D มาอย่างยาวนานได้ขยับไปร่วมลงทุนกับประเทศอื่นๆ เช่น อินเดียและจีน อย่างเช่นกรณีของหัวเว่ย เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมระดับโลกโดยรัฐบาลจีนหวังว่าจะช่วยลดช่องว่างการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระหว่างจีนกับไต้หวัน ญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ......บริษัทหัวเว่ย (Huawei) มีพนักงานด้าน R&D 10,000 คนหรือ 46% ของพนักงานทั้งหมด มีห้องแล็บในอังกฤษ อินเดีย สวีเดน สหรัฐอเมริกาและอีก 7 เมืองในจีน มีสิทธิบัตรในปี 2004 จำนวน 1,590 รายการ เพิ่มขึ้น 33% จากปี 2002 โครงการใหม่ เช่น โทรศัพท์ 3G เครือข่ายเทเลคอมรุ่นใหม่และอินเตอร์เน็ตเกียร์
.....กรณีของอินเดีย บริษัท ทาทา (Tata) ซึ่งได้ประโยชน์จากนวัตกรรมโดยเฉพาะในการพัฒนา Indica ในราคา 6,000 ดอลลาร์สหรัฐและส่งออกไปยังยุโรป วิศวกรของทาทาพัฒนาขึ้นมาจากแนวคิดของการใช้ทักษะแรงงานที่ราคาถูกแทนหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใช้ในบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นหรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้ประหยัดต้นทุนได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในด้านต้นทุนการออกแบบและการผลิต ผลลัพธ์ที่ได้คือ Indica มีจุดคุ้มทุนที่จำนวน 80,000 คัน เทียบแล้วราวๆ ต่ำกว่าราวๆ 30% ของบริษัทรถยนต์ระดับโลกถ้าต้องการกำไรในรุ่นแบบเดียวกัน นั่นคือ ธุรกิจต่างประเทศที่ต่างกำลังเร่งเครื่องเต็มที่ในการหนีชาติอื่นด้วย นวัตกรรม (Innovation)
ตัวแบบ (Model) สู่ธุรกิจแห่งนวัตกรรม ผู้เขียนจึงสนใจว่าธุรกิจไทยเราจะมีโอกาสในการสร้างสู่การเป็นธุรกิจแห่งนวัตกรรม (Innovative Enterprises: IE) ได้หรือไม่
ด้วยการศึกษาแนวคิด หลักการและทฤษฎีด้านการสร้างทุนทางปัญญา (Intellectual Capital : IC) หรือสินทรัพย์ทางปัญญา (Intellectual Asset) พบว่า องค์ประกอบของทุนทางปัญญานี้จะนำไปสู่ความสำเร็จของนวัตกรรมที่มีมูลค่า (Value Innovation) ซึ่งเป็นแนวทางที่แตกต่างไปจากเดิมของการสร้างนวัตกรรมโดยการสร้างความคิดใหม่ หรือมุ่งแต่การทำด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) จุดประกายในเรื่องทุนทางปัญญา (IC) ทำให้ผู้เขียนสนใจพัฒนาตัวแบบเชิงยุทธศาสตร์ของทุนทางปัญญาสำหรับธุรกิจไทยขึ้นมา
ทุนทางปัญญาที่ว่านี้หมายถึง ความรู้ที่ปรับเปลี่ยนสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Assets) ให้มีคุณค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้นี้เป็นผลรวมของสิ่งที่เรียกว่า องค์ประกอบของทุนทางปัญญา เช่น ทุนมนุษย์ หรือทุนทรัพยากรบุคคล ทุนความสัมพันธ์กับลูกค้า ผู้ร่วมค้าหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ และทุนโครงสร้าง อาทิ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ตราสินค้า ลิขสิทธิ์ ฯลฯ
ตัวแบบเชิงยุทธศาสตร์ของทุนทางปัญญาสำหรับธุรกิจไทยนี้ เรียกย่อๆ ว่า ตัวแบบ SICM (A Strategic IC Model) พัฒนาขึ้นจากการlสังเคราะห์สิ่งที่บริษัทได้จัดทำวิสัยทัศน์ ภารกิจ การจัดทำระบบ ISO และกลยุทธที่มี KPIs วัดกลยุทธทั้งหมดสร้างเป็นต้นแบบ IC ของธุรกิจพร้อมดัชนีวัด IC หลังจากนั้นจึงแปลงสู่ตัวแบบ SICM ที่มีองค์ประกอบหลักและองค์ประกอบย่อยของทุนทางปัญญาพร้อมด้วย KPIs วัดองค์ประกอบดังกล่าว สำหรับตัวแบบ SICM จะมีรูปแบบที่นำไปปฏิบัติภายในธุรกิจดังรูปต่อไปนี้
โดยที่องค์ประกอบหลักทั้ง 4 ของตัวแบบ SICM จะมีองค์ประกอบย่อยของทุนทางปัญญาสำหรับธุรกิจที่น่าสนใจดังนี้ ทุนภาวะผู้นำ(Leadership Capital) จะมีองค์ประกอบย่อยคือ วัฒนธรรมเชิงคุณค่าและความภูมิใจในประสิทธิภาพขององค์การ ทุนความสัมพันธ์ (Relational Capital) จะมีองค์ประกอบย่อยคือ ความสัมพันธ์กับลูกค้า ผู้ร่วมค้า และพนักงาน ความพึงพอใจและจงรักภักดีต่อองค์การของลูกค้าและการรักษามูลค่าเพิ่มในบริการ
ทุนองค์การ (Organizational capital) จะมีองค์ประกอบย่อยคือ กระบวนการเรียนรู้ในการผลิต ทรัพย์สินทางปัญญา (ตราสินค้า, เครื่องหมายการค้าและซอฟท์แวร์) คุณสมบัติเฉพาะผลิตภัณฑ์และฐานข้อมูลทางความรู้
ทุนทรัพยากรบุคคล (Human Resource) จะมีองค์ประกอบย่อยคือ ความเชี่ยวชาญเฉพาะ การริเริ่มและการเรียนรู้ การจัดการความรู้ให้เพิ่มขึ้น การฝึกอบรมและพัฒนา กับสวัสดิการและการดูแลพนักงาน
ซึ่งตัวแบบ SICM จะใช้วัดธุรกิจและคนในองค์การด้วยองค์ประกอบของทุนทั้ง 4 ด้านว่าจะมีช่องว่าง (GAP) อะไรกับผลิตภัณฑ์และบริการของธุรกิจเทียบกับคู่แข่งขันสำคัญในอุตสาหกรรมแล้วจึงจะนำไปสู่นวัตกรรมเชิงมูลค่า เพื่อจะได้รูปแบบแห่งนวัตกรรม
หากผู้บริหารธุรกิจหรือองค์การใดสนใจ สามารถอีเมล์พูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้เขียนได้ ก็เพราะว่า ตัวแบบ SICM นี้เป็นจุดประกายที่จะใช้แปลงสินทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้แต่มีมูลค่าขององค์การให้นำไปสู่นวัตกรรมเชิงมูลค่าสำหรับธุรกิจที่อยากจะก้าวสู่การเป็น ธุรกิจแห่งนวัตกรรม
อ.ดนัย เทียนพุฒ Aj.Danai Thieanphut DNT Consultants
Create Date : 05 สิงหาคม 2549 |
Last Update : 22 มกราคม 2551 17:27:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3599 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]
|
ที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำด้านจัดการกลยุทธ ( ผู้นำและริเริ่มการจัดทำ Balanced Scorecard & KPIs) การบริหาร HR ที่เน้นความสามารถ (Competency Based Approach) การพัฒนา HRD-KM และ การจัดการสมัยใหม่ *************************
|
|
|
|
|
|
|
|