ก่อนที่จะถึงเวลาอาหารเช้าพวกเราไทยพีวายก็นัดรวมกันมาถ่ายรูปชุด Attire ลำลองที่บรรดาสปอนเซอร์ที่ได้กรุณาให้เสื้อผ้าชุดต่างๆให้พวกเราได้สวมใส่ระหว่างร่วมกิจกรรมบนเรือซึ่งก็เป็นหน้าที่พวกเราต้องช่วยกันไปวิ่งหามาตามห้างร้านบริษัทต่างๆก่อนที่จะเริ่มโครงการต้องสาธยายโครงการให้บริษัทเหล่านั้นเห็นความสำคัญของโครงการรวมทั้งพวกเราด้วย จึงจะมอบชุดต่างๆให้มา หน้าที่พวกเราก็จะต้องถ่ายรูปกับชุดสปอนเซอร์เหล่านั้นเพื่อกลับไปรายงานเป็นการตอบแทน
หลังอาหารเช้า Administration เรียกประชุมห้อง Dolphill Hall เป็นการซักซ้อมเรียนรู้วิธีช่วยตนเองหากเกิดเหตุฉุกเฉินว่าจะต้องทำอะไร อย่างไรบ้าง เสื้อชูชีพ อุปกรณ์ช่วยชีวิตอื่นๆ เรือเล็ก ฯลฯ ใช้เวลาไม่นานนักประมาณ 30 นาที จากนั้นก็ Freetime จนถึงเวลาอาหารกลางวัน
ช่วงบ่ายประชุมแยกกลุ่ม Solid Group (SG) กลุ่มโซลิดกรุ๊ปเป็นการแบ่งกลุ่มโดยพีวายทุกชาติจะคละกันประเทศละประมาณ 6-8 คน เป็นโซลิดกรุ๊ป A-G ผมอยู่โซลิดกรุ๊ป E มีพีวาย(Participant Youth)ไทยทั้งหมด 7 คน โดยมี 1.พี่ต่าย ข้าราชการสาวสวยจากสำนักราชเลขาธิการ ซึ่งมีตำแหน่งผู้ช่วยผู้นำคณะเยาวชนไทย Assistant Youth Leader (AYL) ของคณะพีวายไทยด้วย 2.พัทยา คนนี้ภาษาอังกฤษดีมากทำหน้าที่เป็นเอ็มซีของพีวายไทยตลอด 3.สุมัธยานักศึกษาจากธรรมศาสตร์ 4.น้องมนน้องเล็กสุดของพีวายไทยอายุ 18 ปีกำลังเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่จังหวัดอุทัยธานี 5.ปุ๊ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 6.อิฐ เด็กหนุ่มผิวหมึกจากจังหวัดภูเก็ตเยาวชนได้รับโล่เยาวชนดีเด่นจากนายกรัฐมนตรีเพิ่งกลับจากประเทศแคนาดามาหมาดๆในโครงการเยาวชนแลกเปลี่ยนระหว่างไทยกับแคนาดา และ7.ผมเอง โชคดีที่ผม อิฐ ปุ๊และน้องมน เป็นก๊วนเดียวกันอยู่แล้วด้วยก่อนจะมาไม่รู้ด้วยอะไรอาจจะเป็นเพราะเราเป็นเด็กบ้านนอกเหมือนกัน ดังนั้นการทำกิจกรรมของโซลิดกรุ๊ปจึงอาศัยพี่ต่ายกับพัทยาและน้องมัทเป็นหลักพวกผมก็ทำตามๆเขาไป
เย็นมีประชุมพีวายไทยซ้อมร้องเพลงประสานเสียงที่ที่จะแสดงในงานเวลคัมปาร์ตี้ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งพวกเราพยายามทำให้ดีที่สุด พูดถึงเรื่องร้องเพลงประสานเสียง ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์จะเก่งมาก มีไล่ระดับโทนและคีย์ตัวโน้ตที่แตกต่างของนักร้องทำให้เพลงประสานเสียงที่ร้องฟังแล้วไพเราะมาก พวกเราถึงจะไม่มืออาชีพอย่างเขาแต่เราก็อยากทำ เพราะเราคือ เยาวชนชาติไทย ต้องหยิ่งในความเป็นไทย ชีวิตจิตใจ อย่าให้ใครดูหมิ่น...และเพลงเยาวชนไทยคือเพลงที่พวกเราเลือกที่จะร้องในงานเวลคัมปาร์ตี้ที่ภูเก็ตอีกสองวันข้างหน้า
วันนี้ผมได้ใช้เงินเยนแล้วจากที่แลกติดตัวมาจากประเทศไทยเผื่อว่าจะใช้สอยอะไรส่วนตัวบ้าง ผมกับเพื่อนเล็งไอ้เจ้าตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัตินี่มาตั้งแต่วันแรกๆที่ขึ้นเรือ มีทั้งร้อนและเย็น เช่น กาแฟ น้ำอัดลม เบียร์ ฯลฯ มีตั้งไว้บริการบนชั้นสองของเรือหน้าห้องอาหาร ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเมืองไทยก็ยังไม่มี เมื่อหยอดเหรียญตามราคาเครื่องดื่มที่ระบุไว้จากนั้นกดปุ่มไฟสีแดงตรงสินค้าที่เราเลือกเครื่องดื่มก็จะหล่นลงมาในช่องด้านล่าง หากเป็นกาแฟร้อนก็จะมีแก้วกระดาษมารองกาแฟอีกช่องจากนั้นกาแฟร้อนที่ปรุงรสเรียบร้อยก็จะพุ่งลงในแก้วที่รองไว้จนค่อนถ้วยเอาออกมาดื่มได้เลย เออแฮะน่าสนใจ ต้องลอง ผมหยอดแล้วกดเบียร์อาซาฮี กระป๋องละ 150 เยน เป็นเงินไทยตอนนั้นก็ประมาณ 40 บาท ความรู้สึกผมตอนนั้นผมว่ามันค่อนข้างแพงทีเดียว แต่ช่างมันเถอะเอาประสบการณ์ ไม่ลองไม่รู้
บันทึกไว้เถอะค่ะ เป็นความโชคดีของคนรุ่นหลังๆ ที่มีที่ทางให้ได้เก็บบันทึกเป็นประสบการณ์แบ่งปันคนอื่นด้วย เราไม่ได้บังคับอยู่แล้วนี่คะ ใครใคร่อ่านก็อ่าน แต่อย่างน้อยเราก็ได้เก็บไว้ดูด้วย ใช่ค่ะ เหมือนอย่างที่ว่า 20 ปีเก็บไว้ก็ต้องขาด เหลือง กรอบ...ตามกาลเวลานะคะ
เสียดายภาพที่หายไปนะคะ ยิ่งถ้าเป็นตัวเอง ความจำไม่ค่อยดี ส่วนมากเล่าเรื่องด้วยภาพอยู่แล้ว คงเสียดายมากเลย...
แถวๆ นี้คงมีบ้านเราที่เจริญกว่าเ้ค้าหน่อย แต่ก็อยากไปเปิดหูเปิดตาดูบ้านเมืองเค้าบ้างค่ะ ในชีวิตจริงยังไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศไทยไปไหนเลยค่ะ
เค้ายังใช้เรือลำเดิมหรือปล่าวคะ เรือนิปปอนมารู
ถึงจะภาษาไม่แข็งแรงยังไง ผ่านเข้าไปเป็น 1 ใน 20 คงไม่ธรรมดาหรอกค่ะ เค้ารับช่วงอายุห่างกันมากเลย 18-30 ปี
สวัสดีวันศุกร์ค่ะ