หอมกลิ่นหวาน...และขมของชีวิต
Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
12 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
บทนำ


“เค้กโอเปร่า มิลฟิลล์ ช็อคโกแลตฟัด ชีสเค้ก….”
เสียงสั่งรัวจากบริกรชุดขาวและผ้ากันเปื้อนผูกเอวสีดำ ทำให้ชายในชุดขาวและหมวกคลุมสีขาวหลายคนชะงัก ทันใดนั้นบริกรอีกคนหนึ่งก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา


“คุณผู้หญิงเค้าสั่งอาหารเพิ่มน่ะพี่” แล้วคนมาทีหลังก็ร่ายรายการอาหารที่สั่งเพิ่มมาอีกยาว ทำเอาหลายคนที่ได้ฟังส่ายหน้า
“มาอีกแล้วเหรอ”
เสียงห้าวๆเสียงหนึ่งเลยมาตามลมปลายเสียงฟังดูเหนื่อยหน่าย


“ฮื่อ” บริกรหนุ่มทั้งสองพยักหน้าหงึกๆ
”ท่าทางคุณเธอดูเหี่ยวๆ สงสัยอกหัก คงกะจะกินประชดรัก”
“เหี่ยวไม่เหี่ยวคุณเธอก็กินแหลกประจำนั่นแหละ เอ้า ! ใครมีธุระรีบโทรไปยกเลิกซะ วันนี้ได้ทำโอทีแน่ โอทีบังคับนะเว้ย”
คราวนี้ต้นเสียงเป็นชายวัยกลางคนร่างสันทัดท่ทางทะมัดทะแมง พอเขาพูดจบหลายคนในครัวก็ถอนหายใจพร้อมกันดังเฮือก


“แล้วอีกอย่างไปดูที่เบเกอรี่ว่ามีอะไรเหลือมั้ง แล้วตอนที่เอาไปเสริฟก็อย่าลืมบอกคุณเค้าด้วยล่ะว่าวันนี้อะไรมีอะไรหมด”


คุณหรือเจ้าหล่อนของทุกคนในครัวนั่งหน้ายุ่งกดโทรศัพท์มือถือมือเป็นระวิง
“รับสิ รับสิ ยัยจี มัวแต่ทำอะไรอยู่เนี่ย”
มืออวบอูมขาวผ่องปิดโทรศัพท์มือถือเครื่องบางอย่างขัดใจ ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็ตักเค้กโอเปร่าเข้าปากเสียคำหนึ่ง แต่คำหนึ่งของเจ้าหล่อนนั่นมันก็ประมาณเกือบครึ่งชิ้น


“อืม”
หญิงสาวครางเบาๆ ต้องให้ได้อย่างนี้สิเค้ก มันต้อมีความละมุนของครีม ความหอมของเนย ความขมลุ่มลึกของช็อคโกแลต หล่อนละเกลียดนักเชียวไอ้เค้กที่มีแต่รสสัมผัสของแป้งและความหวานแหลมของน้ำตาลทราย


เวลาหล่อนเอ่ยปากวิจารณ์เค้กร้านที่เพื่อนสนิทอย่างจีรดาหรือยัยจีของหล่อนอวดว่าอร่อยนักอร่อยหนา ระดับคนทำจบมาจากกลอดองเบลอหรือกระดองเอร์ที่หล่อนชอบค่อนแคะ พอพูดว่ายังใช้ไม่ได้เท่านั้นแม่เพื่อนรักก็สวนทันที


“ย่ะ แม่หิรัญญิการ์ ไม่ถูกปากหล่อนอีกใช่ไหมล่ะเนี่ย นี่ขนาดหล่อนเลือกกินแล้วนะเนี่ยน้ำหนักยังปาไปเกือบร้อยกิโล”
คำพูดนี้ถือว่าเป็นคำแสลงหู อาจทำให้หล่อนตาเขียวหรือใครบางคนในบริษัทผลิตอัญมณีของพ่อหล่อน ยกเว้นก็แต่ยัยจีเพื่อนสนิท


“ก็มันไม่ใช่อ่ะจี มันไม่ใช่”
คนถูกค่อนแคะจีบปากจีบคอพูดล้อโฆษณาพลางแกล้งทำท่าดีดดิ้น ใช่! นี่ขนาดหล่อนเป็นคนเลือกกินแล้วนะแต่น้ำหนักยังตั้ง 90 กิโล ก็ได้ ก็ได้ หล่อนไม่โกหก 99.5 กิโล ถ้าบางวันกิ่นอิ่มมากหน่อยก็ประมาณ100 กิโล แต่เป็นบางวันนะ ย้ำบางวัน


หล่อนจัดอยู่ในกลุ่มของผู้มีน้ำหนักเกินหรือจะเรียกอย่างไม่สุภาพก็ว่าอ้วนนั่นแหละ สาเหตุมันก็มาจากตอนที่คุณแม่หล่อนตั้งท้องท่านแพ้ท้องมากไปหน่อย จนคลอดหล่อนออกมาน้ำหนักแค่ 1,600 กรัม คลอดก่อนกำหนดแถมต้องเข้าตู้อบอีกเรียกว่าจะรอดแหล่มิรอดแหล่นั่นแหละ หลังจากออกจากตู้อบแล้วจึงมีการบำรุงกันขนานใหญ่ทั้งประคบประหงม สรรหายาบำรุงต่างๆขนมนมเนยมิได้ขาด จนส่งผลมาให้หล่อนเป็นเช่นทุกวันนี้


เสียงริงโทน เพลง Beautiful ของ Christina aguilera ดังขึ้นจากมือถือเครื่องน้อยของหล่อน
“สวัสดีค่ะ”
“น้องครีมเหรอจ้ะ”เสียงหวานของคุณแม่หล่อนดังมาตามสาย
“วันนี้น้องครีมจะไปงานผู้ส่งออกอัญมณีกับพ่อแม่ไหมลูก”
น้องครีมของคุณแม่แอบเบ้ปาก แล้วตอบเสียงหวานปานกันออกไป


“ขอโทษนะคะคุณแม่ น้องครีมไม่ว่างค่ะ นัดกับจีเอาไว้ค่ะ”
หล่อนโกหกคำโต เอาน่ายังดีกว่าหล่อนไปเป็นตัวประหลาดท่ามกลางดงเครื่องเพชรเคลื่อนที่
“เหรอจ๊ะ”คุณแม่หล่อนกล่าวทอดเสียง”งั้นไม่เป็นไรจ๊ะคราวหน้าลูกชวนหนูจีมาทานข้าวบ้านเราบ้างนะจ๊ะ”
“ค่ะ คุณแม่”หญิงสาวรับคำพลางคิดถ้ามันยอมมานะ


“อย่างงั้นแค่นี้แหละจ๊ะ แม่รักลูกนะ”
ปลายสายตัดไปแล้ว หญิงสาวยิ้มให้กับโทรศัพท์ คุณแม่น่ารักอย่างนี้เสมอ ทำไมนะเธอถึงไม่ได้รูปร่างหน้าตาอย่างคุณแม่มาบ้างเลย ที่ได้มาแค่ความขาวของผิว แต่คนที่ได้คุณสมบัติดีๆไปเต็มๆคือน้องชายปากเสียของหล่อนที่แคะพิมพ์แม่ออกมา ถ้าเป็นผู้หญิงก็ต้องชมว่าสวย ถ้าเป็นผู้ชายก็ต้องเป็นหล่อ แล้วหล่อนละจะเป็นอะไรดี


“พยูนเผือก “ คำที่เจ้าน้องชายปากเปราะชอบล้อ
“พยูนสิดี ของหายาก คนสมัยโบราณยังคิดว่าผยูนเป็นนางเงือกเลย”
หิรัญญิการ์เถียงไม่ลดละ ก่อนที่จะมีการต่อปากต่อคำระหว่างพี่น้องอีกเล็กน้อย


“ชั้นกะอยู่แล้วว่าต้องเป็นแก”
ร่างสูงโปร่งของจีรดาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวตรงข้ามกับหล่อน
“เลิกงานแล้วเหรอ”
“ฮื่อ มีอะไรกินมั่งที่นอกจากขนม”
จีรดาว่าพลางหยิบเมนูขึ้นมาดู ”ขอเป็นคลับแซนวิชก็แล้วกัน” หญิงสาวหันไปสั่งบริกร


“ว่าแต่แกมีอะไรเหรอ”
ร่างสูงถามพลางกวาดตาดูเศษซากเค้กบนโต๊ะ


“แม่จะให้ฉันดูตัว”
“อะไรนะ” จีรดาเลิกคิ้วอ้าปากเหวอ ”กับใคร”
หญิงสาวตักเค้กเข้าปากเคี้ยวหยับๆแล้วถอนหายใจ
“ลูกชายบริษัทคอนสรัคชั่น เพื่อนของเพื่อนคุณพ่ออีกที”
“อ้อ ลูกชายบริษัทก่อสร้าง”
“เดี๋ยวนี้เค้าเปลี่ยนเป็นคอนสรัคชั่นแล้วย่ะ ไม่ใช่ก่อสร้าง”
หล่อนว่าพลางค้อนประหลับประเหลือก


“ถึงฤดูกาลแล้วเหรอเนี่ย”อีกคนพึมพำพลางส่ายหัว
“ฤดูอะไร” ใบหน้าอวบอูมเลิกคิ้ว
“จับคู่เพื่อธุรกิจไง”ร่างโปร่งยกชาขึ้นจิบแล้วอมยิ้ม
“แต่ชั้นอยากแต่งงานกับคนที่ชั้นรักนี่นา การแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ อย่างนั้นชั้นยอมไม่ได้”


“แล้วไง พูดจาเหมือนนางเอกนิยายไปได้” หล่อนว่าพลางเอื้อมมือไปรับคลับแซนวิชจากบริกร
”พ่อกับแม่ท่านรักแกนะ ถึงได้หาข้อเสนอดีๆให้กับชีวิตแกอย่างนี้ ถ้าไม่ชอบก็บอกไปตรงๆเลยซิ”
หิรัญญิการ์หน้าง้ำ


“ถ้าทำอย่างนั้นคงถูกนายปอนด์ล้อว่าเป็นครีมบูดพยูนขึ้นคานแน่ๆ”
เพื่อนซี้หล่อนโคลงศรีษะไปมาพลางนึกหน้านายปอนด์หรือปฤตน้องชายของหิรัญญิการ์
“แล้วไง คงไม่ใช่ให้ฉันพาหนีหรอกนะ”
หล่อนว่าพลางยกคลับแซนวิชขึ้นมากัด
“ไม่ใช่ แค่บ่นให้ฟังเฉยๆ ชั้นกำลังกลุ้มอยู่ว่าทางฝั่งโน้นที่ชั้นจะดูตัวด้วยเป็นคนยังไง ถ้าเกิดเค้าตั้งหน้าตั้งตาจะแต่งกับฉันเพื่อธุรกิจอย่างเดียวล่ะชีวิตฉันคงอับเฉาเป็นเมียหลวงกอดทะเบียนสมรสแน่ๆ” เจ้าหล่อนพูดพลางหายใจฮึดฮัด


“ดูละครมากไปแล้วแก” เพื่อนซี้หล่อนปลอบ
“ยังไง แกก็มีหน้าตาเป็นอาวุธอยู่แล้ว”
จีรดาพูดเสียงล้อๆ ทำเอาคนถูกล้อค้อนประหลับประเหลือก
“ไม่อ้วนบ้างให้มันรู้ไป”
“แล้วตกลงดูตัวโรงแรมไหน”
“โรงแรม...วันที่3เดือนหน้า”หล่อนบอกชื่อรงแรมดังกลางใจเมือง


จิรดาเลิกคิ้ว
“โรงแรมนี้ วันที่3มีงานเทศกาลอาหารฝรั่งเศสนี่ ชั้นเห็นเจ้านายว่าจะพาคู่หมั้นไป”
พอได้ยินคำว่าอาหารหิรัญญิการ์ก็หูผึ่งทันที
“จริงอ่ะ”


คนบอกพยักหน้า “ก็เจ้านายชั้นยังเอาบัตรเข้างานมาแจกที่ทำงานเลย เพราะเชฟที่มาเป็นเพื่อนกับเจ้าหนายชั้น เอาน่าถึงแห้วจากผู้ชายก็ยังมีอาหารอย่างอื่นรออยู่”
แต่หญิงสาวทำหน้าเหยเก พลางเอามืออุดปากแล้วคายบางสิ่งออกมา คนเป็นเพื่อนก็ตกใจเรียกหล่อนละล่ำละลัก


“เฮ้ย! ครีมเป็นอะไร กินอะไรเข้าไป”
จีรดาหันซ้ายหันขวา กำลังจะอ้าปากเรียกบริกรแต่เพื่อนสาวท้วงไว้ก่อน
“เดี๋ยวไม่มีอะไร มีกระดาษใน fortune cookies น่ะ สั่งมาเลยลืมเลย”
คนก่อเรื่องว่าพลางหยิบชาขึ้นมาจิบ
ร่างสูงส่ายหัว “ไอ้ครีมปลาทองเอ้ย หัดจำซะบ้างซิว่าสั่งอะไรมาบ้าง เล่นเอาตกอกตกใจหมด”


“ก็มันลืมนี่สั่งมาตอนกลุ้มๆไ ร่างอวบอูมบ่นอุบอิบพลางคลี่กระดาษ fortune cookiesที่คายออกมาดู
“แล้วคำทำนาย ว่ายังไงมั่งล่ะ”
เงีบยไม่มีเสียงตอบรับจากเพื่อนตัวอ้วนของหล่อน


“ครีมคำทำนายว่ายังไงมั่ง”
ก็ยังเงียบอยู่อีก
“ยัยครีมหรือว่ามันเป็นกระดาษบอกว่าแลกเค้กฟรีได้อีกชิ้นเหมือนบนไม้ไอติม ชั้นไม่ช่วยกินแล้วนะ” ร่างสูงว่าพลางเบ้ปาก


“แกว่าคำทำนายจะแม่นสักแค่ไหนจี”
หิรัญญิการ์เอ่ยถามเสียงแปร่ง
จีรดายกชาขึ้นจิบพลางว่า
“ห้าสิบห้าสิบ เพราะมันคือการเดิมพันกันระหว่างมนุษย์กับคนบนฟ้า เค้าบอกทางมาแล้ว สุดแท้แต่เราว่าจะไปถึงทางนั้นได้หรือเปล่า แล้วตกลงคำทำนายในกระดาษว่ายังไงมั่ง”
มืออวบอูมยื่นำทำนายมาตรงหน้าด้วยดวงตาระยับ
“ลองอ่านดูสิ”


หล่อนรับมาและเริ่มอ่านออกเสียง
“โชคชะตาของท่าน ท่านจะเจอบุคลแห่งพรหมลิขิตในเร็ววัน จับเขาไว้ให้มั่น เพราะเขาคือรักแท้ครั้งเดียวของคุณ มิฉะนั้นคุณต้องรอไปอีก20ปี อะไรเนี่ย! คำทำนายอย่างกับการ์ตูน”
จีรดาอ่านจบก็เงยหน้ามองเพื่อนสาว ใบหน้าอวบอูมตอนนี้เปล่งประกายระยิบระยับ แถมหน้าแดงแปร้ด


“อย่าบอกนะว่า แกเชื่อ” หญิงสาวว่าพลางขมวดคิ้ว
“แกคิดเหมือนกันใช่ไหม นี่มันคือลางบอกเนื้อคู่ ชั้นจะเจอเนื้อคู่ใช่ไหม”
ใจหนึ่งจีรดาอยากบอกเพื่อนว่าอย่างมงาย แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจน้อยๆของเพื่อน หล่อนจึงตอบแบบอ้อมแอ้ม
“คำทำนายก็คือคำทำนาย บอกแล้วไงว่าห้าสิบห้าสิบ มันก็เหมือนกับหวยนั่นแหละ”


“งั้นไปพิสูจน์กัน หวยอาจจะล็อกก็ได้” หิรัญญิการ์ว่าแล้วฉุดข้อมือเพื่อนและเรียกบริกรมาคิดค่าอาหาร ท่ามกลางความโล่งอกของพนักงานในครัว
แล้วจีรดาก็เจอหวยล็อกจนได้ หลังจากหิรัญญิการ์ลากหล่อนมาศาลเจ้าแห่งหนึ่งเพื่อเสี่ยงเซียมซี แล้วได้เซียมซีเลขเดียวกัน3ใบซ้อน แถมเนื้อหายังบอกว่าจะเจอเนื้อคู่ในพหรมลิขิตต่อด้วยทายเพศลูกไว้ด้วย


“จี แม่นจริงๆ ชั้นจะต้องเจอเนื้อคู่แน่ๆ”
หล่อนยิ้มร่าแทบจะกระโดด จีรดาต้องคอยดึงมือไว้ไม่งั้นอะไรต่อมิอะไรในศาลเจ้าคงต้องพังกันล่ะ
“ต้องเป็นเค้าแน่ๆเลย คนที่จะมาดูตัวกับชั้น ใช่! คุณพ่อคุณแม่ คงเลือกมาแล้วว่านี่เป็นคนในพหรมลิขิตของชั้น”
มืออวบอวมยกใบเซียมซีขึ้นแนบกับหน้าทำตาเคลิ้ม อีกคนเลยได้แต่ส่ายหน้า


สักพักคนทำตาเคลิ้มทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้จึงรีบฉุดมือเพื่อนไปที่รถ
“ไม่ได้ ไม่ได้ แค่คำทำนายบนกระดาษอาจจะยังไม่แม่น มันต้องไปดูหมอที่เป็นคนสิถึงจะชัวร์ ชั้นรู้จักซินแซที่เพื่อนคุณแม่บอกว่าแม่นอยู่คนหนึ่ง รีบไปเถอะเดี๋ยวคิวจะเต็ม”
และแล้วหวยล็อกงวดสุดท้ายก็ออกจนได้ ซินแสทายตรงกับ fortune cookiesเป๊ะ แถมประโยคเด็ดตบท้าย
“ถ้าคุงหนู ไม่ล่ายแต่งกับเขา ต้องรอไปอีกสี่สิกปี เลี้ยวจะชีช้ำหน่อ”


หิรัญญิการ์ได้แต่ร้องกรี้ดๆสลับกับทำตาเคลิ้ม ทำเอาจีรดาส่ายหัว
“เฮ้อ! คนบนฟ้าเจ้าคะ ยังไงจะทำอะไรก็สงสารยัยพยูนครีมของอิชั้นหน่อยนะคะ ขอให้เจอกับเนื้อคู่แบบธรรมดา อย่ามีอุปสรรคมากนัก อิชั้นขี้เกียจฟังเสียงพยูนร้องไห้ค่ะ” แต่ทุกคนคงไม่รู้ว่าคนบนฟ้าก็มีมาตราฐานเหมือนกันนะ

++++++++++++++



Create Date : 12 เมษายน 2552
Last Update : 12 เมษายน 2552 13:43:14 น. 1 comments
Counter : 232 Pageviews.

 

สนุกมากมาย จะตามมาอ่านเรื่อย ๆ จนกว่าจะจบเน้อพี่สาว ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเขาก็รอได้ เหอ เหอ เพิ่งเจอนางเอกบวมๆ ชอบบบบบบบบบบบบบ


โดย: แองจี้ IP: 115.67.127.8 วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:21:22:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จโกระ&ลาชา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Something has come and gone,and that it 's all.


free counters
Friends' blogs
[Add จโกระ&ลาชา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.