มาเลือกคุชชั่นตามสไตล์ตัวเองกับ Innisfree My Cushionเพื่อสาวๆสุดป๊อปแบบเรา
สวัสดีค่าวันนี้โบว์หยิบคอลเลคชั่นสุดPop อย่าง Innisfree My Cushionมารีวิวให้ชมกันค่าโดยคราวนี้เค้าเปิดโอกาสให้สาวๆได้เลือกคุชชั่นที่เป็นสไตล์ของตัวเอง จะป็นตลับแบบไหน เนื้อคุชชั่นสูตรใด สาวๆสามารถเลือกตามความต้องการเลยค่ะ เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าเค้ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
ขั้นตอนการเลือก My Cushionก็ไม่ยากค่ะ ก่อนอื่นเราก็มาเลือกเคสใส่คุชชั่นกันก่อนค่ะ ขั้นตอนนี้จะนานเป็นพิเศษเพราะว่าเค้ามีดีไซน์ให้เลือกเยอะมากกกก มากกว่า100แบบเลยทีเดียว เลือกกันตาแฉะค่ะบอกเลย นี่โบว์ก็เลือกอยู่นาน สุดท้ายก็ได้มา3แบบนี้
แต่ละสีเค้าก็มีเบอร์ให้ดูทางด้านหลังกล่องนะคะ ฝากซื้อได้ไม่ผิดแน่นอน
เมื่อเลือกดีไซน์ได้แล้วเราก็มาเลือกเนื้อคุชชั่นกันค่ะ เค้ามีอยู่2สูตรด้วยกันคือ Water Fit Cushion และ Long Wear Cover Cushion โดยตัว Water Fit Cushion จะให้ลุคที่ฉ่ำวาว ผิวจะเรียบเนียนแบบสาวเกาหลี ส่วน Long Wear Cover Cushion จะเป็นคุชชั่นเนื้ออกแมต ไม่ฉ่ำวาวค่ะเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราแถมยังปกปิดดีผิวเรียบเนียนสวยเลย โบว์ชอบสูตรนี้มากกกกกกก
เมื่อเลือกคุชชั่นได้แล้วเราก็ปิดท้ายด้วยการเลือกอุปกรณ์ที่ใช้ในการทาหน้ากันค่ะ ปกติแล้สาวๆก็จะใช้พัฟที่มากับตัวคุชชั่นเนอะ แต่คราวนี้เค้ามีอุปกรณ์เสริมมาให้สาวๆได้เลือกใช้ในรูปแบบอื่นกันด้วยค่ะ
มาเริ่มที่ตัวพัฟกันค่ะ เป็นอุปกรณ์ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว แต่คราวนี้เค้ามี2แบบค่ะคือแบบ Air Magic Puff Glowกับ Air Magic Puff Fitting ซึ่งโบว์เดาเอาเองว่าตัว Air Magic Puff Glowน่าจะเหมาะกับสูตรWater Fit ส่วน Air Magic Puff Fitting น่าจะเหมาะกับสูตร Long Wearนะคะ
Cover Stamping Puff เป็นตัวฟองน้ำปลายตัดที่จับถนัดมือ เมื่อลงคุชชั่นไปบนผิวหน้าก็จะได้ความแน่น และปกปิดที่ดีกว่าฟองน้ำรูปไข่ ตัวนี้เค้าแนะนำให้ใช้คู่กับ Long wear Cover Cushion เพื่อผิวเนียนเรียบตลอดทั้งวัน
Cushion brush เป็นแปรงที่ขนนุ่มมากๆ ตัวปลอกสามารถดันเพื่อปิดขนแปรงก่อนปิดฝาได้ทำให้เวลาปิดฝาขนแปรงก็จะไม่ถูกหนีบทำให้เสียทรง เค้าแนะนำให้ใช้คู่กับ Water Fit Cushion เนื่องจากแปรงจะช่วงซอกซอนและตัวแปรงยังสามารถช่วยให้เนื้อคุชชั่นอำพรางรูขุมขนได้ดีด้วยค่ะ
เอาล่ะเมื่อเราเลือกส่วนต่างๆเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวเรามาประกอบร่างตัวคุชชั่นกันจ้านั่น คือเมื่อเราฉีกซองคุชชั่นออกมาเราก็เอามาใส่ในตลับคุชชั่นเค้าจะมีตัวล็อคไว้เราก็กดให้ลงล็อคก็เป็นอันเสร็จ เมื่อเปิดฝาออกมาก็จะเห็นแผ่นปิดเรียบร้อย
อย่างที่บอกไปว่าเค้ามี2สูตรเดี๋ยวเรามาดูแต่ละสูตรกันดีกว่าค่า
Water Fit Cushion เมื่อฉีกซองคุชชั่นออกมา ก็จะเห็นตัวตลับคุชชั่นสีขาวแบบนี้ มีเบอร์เฉดสีและรายละเอียกทางด้านหลังแต่จะเป็นภาษาเกาหลีค่ะ แต่เค้าก็เพิ่มคำอธิบายเป็นภาษาไทยอยู่บนซองด้านหลังนะคะจะได้อ่านกันออก สำหรับโบว์ปกติจะใช้สีเบอร์23ค่ะเข้ากับผิวโบว์สุดล่ะ
เนื้อคุชชั่นดูมีความฉ่ำวาวแต่ไม่ได้เยอะมากจนหน้ามันนะ สาวๆที่ชอบสไตล์แบบสาวเกาหลีก็เลือกสูตรนี้เลยค่ะ
ลองลงกับใบหน้าแล้วก็ถือว่าปกปิดรูขุมขนและจุดด่างดำได้ดี ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนและมีความฉ่ำวาว แต่ไม่ได้ฉ่ำจนรู้สึกรำคาญนะคะแต่ถ้าเทียบกับ Long Wearแล้วตัวนี้จะหนึบกว่าหน่อยค่ะ สาวๆหลายคนมักจะเอาแป้งทาทับซึ่งก็ไม่ได้ห้ามนะ แต่โบว์ว่ามันก็สูญเสียความเป็นคุชชั่นไป
Long Wear Cover Cushion เป็นสูตรที่โบว์ชอบมากเพราะเค้าจะออกแมตไม่หนึบหน้าและปกปิดดีมากทาตัวนี้คือจบ ไม่ต้องลงคอนซีลเลอร์แล้วแค่นี้ก็เอาอยู่ค่ะ แถมยังไม่เป็นคราบระหว่างวันด้วย เหมาะกับสาวไทยมากๆ
ลองลงกับใบหน้าแล้วจะเห็นชัดเลยค่ะว่าปกปิดเนียนเรียบจริงๆ รูขุมขนไม่ต้องพูดถึงจุดด่างดำแทบไม่เห็นล่ะ ชอบๆๆ
ถ้าสาวๆสนใจก็ไปเลือกMy Cusjionของตัวเองได้ที่ Shop Innisfreeนะคะ ส่วนราคาเค้าก็แยกได้ตามนี้เลยค่ะ อะไรหมดหรืออยากซื้อแยกชิ้นก็ตามใจชอบเลย
เคสคุชชั่น ราคา 290 บาท รีฟิลคุชชั่น ราคา 490 บาท Air Magic Puff (Glow) ราคา 90 บาท Air Magic Puff (Fitting) ราคา 80 บาท Cover Stamping Puff ราคา 200 บาท Cushion Brush ราคา 400 บาท
หมดแล้วจ้าสำหรับรีวิววันนี้หวังว่จะเป็นประโยชน์นะค๊า แล้วพบกันใหม่ค่า
Create Date : 27 กันยายน 2559 |
Last Update : 27 กันยายน 2559 10:37:35 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3563 Pageviews. |
|
|