Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
12 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
Diplomatic Baggage : ชีวิตคุณน้ายคุณนายทูต

เมื่อก่อนสมัยจขบ.ยังมีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว ชอบมีคนถามปนกระเซ้าบ่อยๆว่า เป็นเจ้าหน้าที่การทูตจะดีเร้อ เป็นคุณนายทูตดีกว่ามั้ง ซึ่งจขบ.ก็จะตอบเสมอว่าว้า ไม่เอาหรอก เป็นทูตซะเองเรยดีกว่า วะฮ่าๆๆ แต่แล้วกาลเวลาผ่านไป คำโบราณก็เป็นจริงอีกแล้ว ประมาณว่าเกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น เพราะตอนนี้ท่านผบ.ก็เป็นเจ้าหน้าที่การทูต แต่จขบ.ไม่ได้เป็นคุณนายทูตหรอกนะคะ ยังอีกยาวไกลนัก (ยิ่งคิดว่าพ่อดอกพิกุล เลียนแบบพ่อดอกมะลิโกโบริน่ะค่ะ พูดน้อยยยยยยยขนาดไหน ยิ่งไม่ต้องคิด เอิ้ก)

พอหันมาทำงานด้านหนังสือที่ใจรักมานาน เมื่อกลางปี จขบ.ก็ได้เจอหนังสือเล่มนึงเข้า โอ้ ฟ้าประทาน ศรรักปักอกจริงๆค่ะ เพราะมันชื่อว่า Diplomatic Baggage : The adventures of a trailing spouse ของ Brigid Keenan ภริยาทูตสหภาพยุโรปประจำคาซัคสถาน ไม่รอช้า หยิบขึ้นมาเปิดอ่าน โอ้ย หัวใจจะวาย ทำไม้ทำไมมันกระแทกใจอย่างนี้หนอ

เดี๋ยวดูรูปปกก่อนเล่าต่อค่ะ



เรื่องของเรื่องก็คือ คนมักจะคิดว่าชีวิตเหล่าภรรยาทูตแดนไกลนั้นแสนจะหรูหรา เต็มไปด้วยงานเลี้ยงสังสรรค์ ใส่ชุดสวยๆ จิบค็อกเทลคุยกับคนโน้นคนนี้ที่ดูดีพอกัน แต่ความจริงนั้น จขบ.ขอบ๊อกขอบอกว่าห่างไกลสุดๆๆเลยค่ะ สภาพชีวิตเหล่าเมียๆทั้งหลายส่วนใหญ่ก็จะเป็นแจ๋วดีๆนี่เอง วันๆก็นั่งคิด เอ๊ะ จะทำอะไรกินดี ทำไมไม่มีชายสี่ปากซอย (อันนนี้จขบ.คิดทุกวัน ฮ่า) ไหนจะเรื่องย้ายบ้าน เก็บข้าวเก็บของ ซักผ้ารีดผ้าล้างจาน สาระพัดจะจาระไนค่ะ บ่อยครั้งเดินหน้ามันไปตลาด หอบหิ้วข้าวของกลับมาเหนื่อยใจจะขาด เพื่อนฝูงก็ยังไม่มี จะคุยจะบ่นกับใครก็แสนยาก ปะเหมาะเจอประเทศที่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ก็เป็นใบ้ดีๆนี่เอง ส่วนใครที่มีลูกก็ห่วงเรื่องโรงเรียน จะกลับไปต่อกับโรงเรียนอินเตอร์บ้านเราได้มั้ย หลักสูตรเดียวกันรึเปล่า ลูกปรับตัวพูดภาษาได้รึยัง สารพัดจริงๆค่ะ และแน่นอนว่าที่ท้าทายสุดๆ ก็คือการที่เรารู้ว่าชีวิตของเราจะเป็นวัฎจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ จบจากประเทศนี้ เราจะไปไหนก็ไม่รู้ จะต้องลาจากครอบครัว เพื่อนสนิท ญาติพี่น้องซ้ำแล้วซ้ำอีก เราจะทำยังไง เราจะรับมือได้มั้ย หรือจะเหงาจนขาดใจไปซะก่อน Brigid Keenan เขียนเกี่ยวกับชีวิตแบบนี้ได้อย่างสนุกขบขันและเปี่ยมอารมณ์มากค่ะ

ยกตัวอย่างตอนที่กระแทกใจมากมาก่อนนะคะ

"ความทุกข์ของฉันมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ภรรยาแดนไกลเป็นได้แค่ภาคผนวกของสามีเท่านั้น ที่จริงแล้ว ตำแหน่งทางการของเราที่รู้กันในกลุ่มผู้ว่าจ้างสามีเราก็คือ ‘ภรรยาผู้ติดตาม’ เราตามติดอยู่ข้างหลัง เราไม่มีตัวตนของเราเอง เรามาอยู่ที่เอเชียกลาง อินเดีย แอฟริกาหรือที่ไหนก็ตามเพียงเพราะสามีของเราเท่านั้น เราอาจจะเป็นวิศวกร เภสัชกร นักหนังสือพิมพ์ นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญของเก่า ผู้เชี่ยวชาญพันธุศาสตร์ แต่เวลาเจอหน้ากัน เราไม่ได้ถามว่า ‘คุณทำงานอะไร’ แต่ถามว่าสามีเราทำงานอะไร เราเชื่อมโยงกับโลกภายนอกผ่านทางที่ทำงานของเขาเท่านั้น เพราะหนังสือพิมพ์และจดหมายจะถูกส่งมาที่นั่น แล้วเลขาก็เป็นคนจัดทำนัดหมายต่างๆให้ และเพราะว่าตามปกติเราไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ เราก็เลยต้องขอเงินสามีทุกครั้งเวลาที่อยากใช้จ่าย (เอดับบลิวใจกว้างมาก แล้วปกติก็ให้โดยไม่ค่อยซักไซ้อะไรเท่าไหร่ แต่ว่าเรื่องของเรื่องก็คือเราต้องขอเขาอยู่ดี)

บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนเป็นหมาตัวโตที่รอคอยตลอดวันให้เจ้าของกลับมาพาออกไปเดินเล่น พอได้ยินเสียงกุญแจของเอดับบลิวเมื่อไหร่ ฉันล่ะอยากจะวิ่งลงบันไดไปเห่าแล้วกระโดดขึ้นๆลงๆเลียหน้าเขาจริงๆ"

จขบ.ขอสารภาพว่ากระโดดเลียหน้าพ่อดอกพิกุลไปแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ

หนังสือเล่มนี้มีอารมณ์ขันเต็มไปหมดเลยค่ะ แล้วคนเขียนก็ช่างสังเกตเลยเล่าเรื่องชีวิตของตัวเองในการติดตามสามีไปประเทศต่างๆ ตั้งแต่เนปาลยุคแสนยากลำบาก บรัซเซลล์ บาร์เบโดส เอธิโอเปียจนถึงคาซัคสถานได้สนุกมากๆ มีเรื่องความเปิ่น เอ๋อ เผลอเรอและเซ่อซ่าไปจนถึงเหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์อย่างการปฎิวัติในเอธิโอเปีย แผ่นดินไหวในบาร์เบโดส ฯลฯ เธอเขียนเรื่องกระจุ๊กกระจิ๊กได้น่ารักน่าติดตามจริงๆค่ะ อย่างแค่เรื่องฮิปโปข้ามถนนยังเขียนได้อ่านแล้ววางไม่ลงเลย แล้วเธอก็ยังยอมรับด้วยว่าตัวเองวิตกกังวลสารพัด นูโรติกสุดๆ แต่เธอก็ไปอยู่หลายประเทศได้ แถมยังมีเพื่อนดีๆทุกที่ด้วยสิเอ้า ทำให้จขบ.มีกำลังใจมากๆเชียวค่ะ

อยากยกตัวอย่างในหนังสือมาเล่าอีก แต่มันยาว ตัดทอนแล้วก็อ่านไม่สนุก อย่างล่องแม่น้ำจระเข้เพียบ งานเลี้ยงคุณทูตที่เพี้ยนสุดๆกันแทบทุกคน ทำนองนี้ แต่ด้วยความที่จขบ.รู้สึกว่าเรื่องนี้แทงใจดำมากๆ อินสุดๆ ก็เลยเสนอแปลไปแล้วล่ะค่ะ :) ใครที่อยากอ่านเรื่องตลกๆ แทรกซึ้งประทับใจเล็กน้อยของคนที่ใช้ชีวิตไกลบ้าน (หรือสาวไหนสนใจเป็นคุณนายทูตจริงๆ แฮ่ม) รออ่านนะคะ ปีหน้าจขบ.แปลเสร็จแน่นอน (เพราะมติชนเค้าจะตัดหางปล่อยวัดแล้ว เอิ้ก)

ส่วนใครที่ชอบหนังสือของ Peter Mayle ที่เขียนหนึ่งปีแสนสุขในโปรวองซ์ที่คุณงามพรรณ เวชชาชีวะแปล หรือแนว armchair traveller รับรองไม่ผิดหวังค่ะ

พอหนังสือคลอดเมื่อไหร่ มาเล่นเกมส์แจกรางวัลด้วยกันนะคะ อดใจรออีกนิ้ด รับรองความสนุกค่ะ :)


Create Date : 12 ธันวาคม 2549
Last Update : 12 ธันวาคม 2549 23:22:16 น. 15 comments
Counter : 1371 Pageviews.

 
กี๊ดดดด อยากอ่านๆๆๆ

พี่พัทแปลเสร็จแล้วขอไถเล่มนึงน้า 555


โดย: Clear Ice วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:7:39:20 น.  

 
ยังดีที่ไม่ว่าจะเหงาปากเพียงใด ยังมี บล็อกไว้ระบาย ออกได้
มีคนรอบข้าง ที่พูดภาษาเดียวกันมาคอบรับฟัง
และติดตามข่าวสาร

อยู่ที่ไหน ก็ไม่อุ่นในเหมือนบ้านเราเนอะ


โดย: Crono วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:9:15:43 น.  

 
ต้องขอเล่มนึงเหมือนกันครับ

อยากไปเที่ยวบาร์เซโลน่าเหมือนคุณพัท น้องสาวไปมาแล้วบอกว่าสวยมาก..อิจฉาคนที่อยู่ยุโรปครับ :)


โดย: BlueWhiteRed วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:15:07:26 น.  

 
กำลังจะบอกว่าให้แปล เจอย่อหน้าท้ายพอดี

พี่ว่า.. พ่อดอกพิกุลของพัทนี่เขาคงไม่ได้อยากพูดน้อยหรอก แต่เผอิญพูดช้า เลยพูดไม่ทันพัทมากกว่านะ 555


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:23:25:57 น.  

 


^
^

กำลังจะแอบแซวอยู่พอดีค่ะ คุณยาคูลท์ขโมยซีนไปซ๊าแร่ววว

เที่ยวให้สนุกนะค่ะคุณพัท เกาดี้ไปชื่นชมกันเต็มๆ เลยค่ะ แล้วรอเรื่องเล่าของทริปเที่ยวสนุกๆ นะคะ


โดย: JewNid วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:23:57:16 น.  

 
น่าอ่านมากๆเลยจ้ะ เข้าใจเลยว่าคงจะโดนมากๆ แล้วจะแปลเสร็จเมื่อไหร่บอกด้วยเน้อ ทำไมพัทไม่ทำเวอร์ชั่นพัทมั่งอ่ะ ไปมาตั้งหลายที่แล้วเหมือนกัน ประสบการณ์มันส์ๆก็น่าจะเยอะอยู่

A year in Provence สนุกเนอะ นี่เราเพิ่งขุดเอามาอ่านใหม่อีกรอบล่ะ Peter Mayles เขียนดีจริงๆ

ไปเที่ยวให้สนุกน้า รออ่านทริปมันส์ๆอยู่จ้า ยังไงก็ขอให้พัท พ่อดอกพิกุล และ อ้วนตั้บ มีความสุขมากๆตลอดปีใหม่นี่นะจ๊ะ


โดย: nzmum วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:5:38:36 น.  

 
อยากอ่าน อยากอ่าน อยากอ่าน
เอาใจช่วยให้แปลเสร็จเร็วๆ นะคะ

ว่าแต่ทำไมเราไม่เคยเห็นหนังสือต้นฉบับเลยอ่ะ ปกติถ้าเห็นปกแบบนี้แล้ว จะต้องคว้าแน่ๆ ค่ะ ดูน่าสนใจมาก แถมเป็นรูปวาดอีก ชอบๆ ขออนุญาตเซฟจ๊ะ

ปล. เป็นแฟนโปรวองซ์ค่ะ อ่านทั้งต้นฉบับและฉบับแปล ทำให้ไปตามเก็บหนังสือเล่มอื่นของคุณลุงปีเตอร์มาด้วย ชอบ A Dog's life มากเลย จขบ. อ่านหรือยังจ๊ะ


โดย: ฝนตกแดดออก วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:11:13:14 น.  

 
น่าอ่านๆ


โดย: BoOKend (BoOKend ) วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:18:16:47 น.  

 
มารออ่านหนังสือค่ะ เรื่องน่าสนใจจังค่ะ ดีจังที่คุณพัทแปล(ไม่มีปัญญาอ่านฉบับอังกฤษ ถ้าอ่านเองคงนานน่าดู) หลังไมล์สูตรขนมไปให้แล้วนะคะ แต่อีกสูตรขอติดไว้ก่อน


โดย: momijimi วันที่: 19 ธันวาคม 2549 เวลา:14:28:39 น.  

 
มาเยี่ยมค่ะ
ชอบจังเลยหนังสือเล่มนี้ อยากได้ เตรียมไป search หาทาง amazon.com อยู่แล้วเชียวนา ได้ยินว่าคุณพัทแปล รีบเก็บเครดิตการ์ดไว้ทันที รอเล่นเกมส์ดีกว่า อิ อิ


โดย: the Vicky วันที่: 19 ธันวาคม 2549 เวลา:20:55:33 น.  

 


สุขสันต์วันคริสต์มาสต์และปีใหม่ ขอให้ปีใหม่ไฉไลยิ่งกว่าเดิม สุขภาพแข็งแรง แฮปปี้ดีพร้อมนะจ้ะ

(ขออวยพรก่อน อาจงานติดพันจนไม่ได้เข้าบล็อกแล้ว)


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 22 ธันวาคม 2549 เวลา:7:47:45 น.  

 
ขอให้ป้าพัทและครอบครัวมีความสุขมากๆนะคับ



โดย: nzmum วันที่: 23 ธันวาคม 2549 เวลา:12:25:12 น.  

 
ส่งการ์ดไทย ๆ มาให้ จะได้คิดถึงเมืองไทยขึ้นอีก อิอิ



โดย: Crono วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:10:36:25 น.  

 
ฝากพิจารณาบล็อกตกแต่งยอดเยี่ยมค่ะ

//scarborough.bloggang.com


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 27 ธันวาคม 2549 เวลา:17:08:28 น.  

 
จะรออ่านนะคะพี่...พิมพ์กะ สนพ.มติชน ซื้อลดได้ 20 % ค่ะ อิๆ


โดย: tistoo วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:48:32 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Il Maze
Location :
Athens Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




Friends' blogs
[Add Il Maze's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.