|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Diplomatic Baggage : ชีวิตคุณน้ายคุณนายทูต
เมื่อก่อนสมัยจขบ.ยังมีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว ชอบมีคนถามปนกระเซ้าบ่อยๆว่า เป็นเจ้าหน้าที่การทูตจะดีเร้อ เป็นคุณนายทูตดีกว่ามั้ง ซึ่งจขบ.ก็จะตอบเสมอว่าว้า ไม่เอาหรอก เป็นทูตซะเองเรยดีกว่า วะฮ่าๆๆ แต่แล้วกาลเวลาผ่านไป คำโบราณก็เป็นจริงอีกแล้ว ประมาณว่าเกลียดอะไรจะได้อย่างนั้น เพราะตอนนี้ท่านผบ.ก็เป็นเจ้าหน้าที่การทูต แต่จขบ.ไม่ได้เป็นคุณนายทูตหรอกนะคะ ยังอีกยาวไกลนัก (ยิ่งคิดว่าพ่อดอกพิกุล เลียนแบบพ่อดอกมะลิโกโบริน่ะค่ะ พูดน้อยยยยยยยขนาดไหน ยิ่งไม่ต้องคิด เอิ้ก)
พอหันมาทำงานด้านหนังสือที่ใจรักมานาน เมื่อกลางปี จขบ.ก็ได้เจอหนังสือเล่มนึงเข้า โอ้ ฟ้าประทาน ศรรักปักอกจริงๆค่ะ เพราะมันชื่อว่า Diplomatic Baggage : The adventures of a trailing spouse ของ Brigid Keenan ภริยาทูตสหภาพยุโรปประจำคาซัคสถาน ไม่รอช้า หยิบขึ้นมาเปิดอ่าน โอ้ย หัวใจจะวาย ทำไม้ทำไมมันกระแทกใจอย่างนี้หนอ
เดี๋ยวดูรูปปกก่อนเล่าต่อค่ะ
เรื่องของเรื่องก็คือ คนมักจะคิดว่าชีวิตเหล่าภรรยาทูตแดนไกลนั้นแสนจะหรูหรา เต็มไปด้วยงานเลี้ยงสังสรรค์ ใส่ชุดสวยๆ จิบค็อกเทลคุยกับคนโน้นคนนี้ที่ดูดีพอกัน แต่ความจริงนั้น จขบ.ขอบ๊อกขอบอกว่าห่างไกลสุดๆๆเลยค่ะ สภาพชีวิตเหล่าเมียๆทั้งหลายส่วนใหญ่ก็จะเป็นแจ๋วดีๆนี่เอง วันๆก็นั่งคิด เอ๊ะ จะทำอะไรกินดี ทำไมไม่มีชายสี่ปากซอย (อันนนี้จขบ.คิดทุกวัน ฮ่า) ไหนจะเรื่องย้ายบ้าน เก็บข้าวเก็บของ ซักผ้ารีดผ้าล้างจาน สาระพัดจะจาระไนค่ะ บ่อยครั้งเดินหน้ามันไปตลาด หอบหิ้วข้าวของกลับมาเหนื่อยใจจะขาด เพื่อนฝูงก็ยังไม่มี จะคุยจะบ่นกับใครก็แสนยาก ปะเหมาะเจอประเทศที่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ก็เป็นใบ้ดีๆนี่เอง ส่วนใครที่มีลูกก็ห่วงเรื่องโรงเรียน จะกลับไปต่อกับโรงเรียนอินเตอร์บ้านเราได้มั้ย หลักสูตรเดียวกันรึเปล่า ลูกปรับตัวพูดภาษาได้รึยัง สารพัดจริงๆค่ะ และแน่นอนว่าที่ท้าทายสุดๆ ก็คือการที่เรารู้ว่าชีวิตของเราจะเป็นวัฎจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ จบจากประเทศนี้ เราจะไปไหนก็ไม่รู้ จะต้องลาจากครอบครัว เพื่อนสนิท ญาติพี่น้องซ้ำแล้วซ้ำอีก เราจะทำยังไง เราจะรับมือได้มั้ย หรือจะเหงาจนขาดใจไปซะก่อน Brigid Keenan เขียนเกี่ยวกับชีวิตแบบนี้ได้อย่างสนุกขบขันและเปี่ยมอารมณ์มากค่ะ
ยกตัวอย่างตอนที่กระแทกใจมากมาก่อนนะคะ
"ความทุกข์ของฉันมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ภรรยาแดนไกลเป็นได้แค่ภาคผนวกของสามีเท่านั้น ที่จริงแล้ว ตำแหน่งทางการของเราที่รู้กันในกลุ่มผู้ว่าจ้างสามีเราก็คือ ภรรยาผู้ติดตาม เราตามติดอยู่ข้างหลัง เราไม่มีตัวตนของเราเอง เรามาอยู่ที่เอเชียกลาง อินเดีย แอฟริกาหรือที่ไหนก็ตามเพียงเพราะสามีของเราเท่านั้น เราอาจจะเป็นวิศวกร เภสัชกร นักหนังสือพิมพ์ นักธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญของเก่า ผู้เชี่ยวชาญพันธุศาสตร์ แต่เวลาเจอหน้ากัน เราไม่ได้ถามว่า คุณทำงานอะไร แต่ถามว่าสามีเราทำงานอะไร เราเชื่อมโยงกับโลกภายนอกผ่านทางที่ทำงานของเขาเท่านั้น เพราะหนังสือพิมพ์และจดหมายจะถูกส่งมาที่นั่น แล้วเลขาก็เป็นคนจัดทำนัดหมายต่างๆให้ และเพราะว่าตามปกติเราไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ เราก็เลยต้องขอเงินสามีทุกครั้งเวลาที่อยากใช้จ่าย (เอดับบลิวใจกว้างมาก แล้วปกติก็ให้โดยไม่ค่อยซักไซ้อะไรเท่าไหร่ แต่ว่าเรื่องของเรื่องก็คือเราต้องขอเขาอยู่ดี)
บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนเป็นหมาตัวโตที่รอคอยตลอดวันให้เจ้าของกลับมาพาออกไปเดินเล่น พอได้ยินเสียงกุญแจของเอดับบลิวเมื่อไหร่ ฉันล่ะอยากจะวิ่งลงบันไดไปเห่าแล้วกระโดดขึ้นๆลงๆเลียหน้าเขาจริงๆ"
จขบ.ขอสารภาพว่ากระโดดเลียหน้าพ่อดอกพิกุลไปแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ
หนังสือเล่มนี้มีอารมณ์ขันเต็มไปหมดเลยค่ะ แล้วคนเขียนก็ช่างสังเกตเลยเล่าเรื่องชีวิตของตัวเองในการติดตามสามีไปประเทศต่างๆ ตั้งแต่เนปาลยุคแสนยากลำบาก บรัซเซลล์ บาร์เบโดส เอธิโอเปียจนถึงคาซัคสถานได้สนุกมากๆ มีเรื่องความเปิ่น เอ๋อ เผลอเรอและเซ่อซ่าไปจนถึงเหตุการณ์พลิกประวัติศาสตร์อย่างการปฎิวัติในเอธิโอเปีย แผ่นดินไหวในบาร์เบโดส ฯลฯ เธอเขียนเรื่องกระจุ๊กกระจิ๊กได้น่ารักน่าติดตามจริงๆค่ะ อย่างแค่เรื่องฮิปโปข้ามถนนยังเขียนได้อ่านแล้ววางไม่ลงเลย แล้วเธอก็ยังยอมรับด้วยว่าตัวเองวิตกกังวลสารพัด นูโรติกสุดๆ แต่เธอก็ไปอยู่หลายประเทศได้ แถมยังมีเพื่อนดีๆทุกที่ด้วยสิเอ้า ทำให้จขบ.มีกำลังใจมากๆเชียวค่ะ
อยากยกตัวอย่างในหนังสือมาเล่าอีก แต่มันยาว ตัดทอนแล้วก็อ่านไม่สนุก อย่างล่องแม่น้ำจระเข้เพียบ งานเลี้ยงคุณทูตที่เพี้ยนสุดๆกันแทบทุกคน ทำนองนี้ แต่ด้วยความที่จขบ.รู้สึกว่าเรื่องนี้แทงใจดำมากๆ อินสุดๆ ก็เลยเสนอแปลไปแล้วล่ะค่ะ :) ใครที่อยากอ่านเรื่องตลกๆ แทรกซึ้งประทับใจเล็กน้อยของคนที่ใช้ชีวิตไกลบ้าน (หรือสาวไหนสนใจเป็นคุณนายทูตจริงๆ แฮ่ม) รออ่านนะคะ ปีหน้าจขบ.แปลเสร็จแน่นอน (เพราะมติชนเค้าจะตัดหางปล่อยวัดแล้ว เอิ้ก)
ส่วนใครที่ชอบหนังสือของ Peter Mayle ที่เขียนหนึ่งปีแสนสุขในโปรวองซ์ที่คุณงามพรรณ เวชชาชีวะแปล หรือแนว armchair traveller รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
พอหนังสือคลอดเมื่อไหร่ มาเล่นเกมส์แจกรางวัลด้วยกันนะคะ อดใจรออีกนิ้ด รับรองความสนุกค่ะ :)
Create Date : 12 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 12 ธันวาคม 2549 23:22:16 น. |
|
15 comments
|
Counter : 1371 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Clear Ice วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:7:39:20 น. |
|
|
|
โดย: Crono วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:9:15:43 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:23:25:57 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:23:57:16 น. |
|
|
|
โดย: nzmum วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:5:38:36 น. |
|
|
|
โดย: ฝนตกแดดออก วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:11:13:14 น. |
|
|
|
โดย: BoOKend (BoOKend ) วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:18:16:47 น. |
|
|
|
โดย: momijimi วันที่: 19 ธันวาคม 2549 เวลา:14:28:39 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 19 ธันวาคม 2549 เวลา:20:55:33 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 22 ธันวาคม 2549 เวลา:7:47:45 น. |
|
|
|
โดย: nzmum วันที่: 23 ธันวาคม 2549 เวลา:12:25:12 น. |
|
|
|
โดย: Crono วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:10:36:25 น. |
|
|
|
โดย: tistoo วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:48:32 น. |
|
|
|
|
|
|
|
พี่พัทแปลเสร็จแล้วขอไถเล่มนึงน้า 555