|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ป่วยครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ฮือออ
บล็อกที่แล้วจขบ.อุตส่าห์หมายมั่นปั้นมือเป็นดิบดีว่าจะไปทำงานสั่งลาเสียให้สมแค้น (ของบอกอ ฮ่า) ก่อนจะไปเที่ยวบาร์เซโลน่าสงท้ายปี แต่ทว่าความฝันมันก็คือความฝัน ไอ้ที่ว่าจะส่งงานได้ตามกำหนดหมายมั่นนั้นอย่าหวัง ฮือ อันนี้โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองเลยจริงๆ
เมื่อเสาร์อาทิตย์ก่อนก็มีงานหลวงให้ไปช่วยกันค่ะ ซึ่งทุกคนที่สถานทูตก็ยินดี นั่นก็คืองานขายของไทยที่งานคริสต์มาสบาซาร์ที่จัดโดยสถานทูตต่างๆในกรีซ ปีนี้ออกร้านกันทั้งหมด 38 ประเทศ เนื่องจากจขบ.เพิ่งย้ายมา ก็เลยไม่รู้ว่างานเป็นยังไง แต่ก็จะได้รู้กันล่ะค่ะคราวนี้
พวกเราไปจัดร้านกันก่อนวันงานหนึ่งวัน น่าเสียดายที่พี่ตุ๊กตา ภรรยาท่านทูตซึ่งเป็นคนน่ารักมากกลับเมืองไทยไปช่วงนี้เพราะคุณแม่ป่วยเลยไม่ได้มาขายของกับเรา ทั้งๆที่ของทั้งหมดพี่ตุ๊กตาเป็นคนจัดการเอามาทั้งนั้น บรรดาหลังบ้านที่เหลือและพี่คลังก็เลยมาช่วยกันจัด โดยมีท่านทูตมาดูแลเอง ที่จัดงานก็เป็นตึกใหญ่ในตัวเมืองน่ะค่ะ แต่ปีนี้เราขอโต๊ะไว้เยอะหน่อย เพราะขายผัดไทยด้วย นี่ค่ะภาพบรรยากาศจัดงาน
แต่ตอนแรกที่เราไปถึงเป็นร้องจ๊ากกันทุกคน ไม่ใช่อะไร ก็ธงที่แปะไว้มันเป็นของฟิลิปปินส์น่ะสิคะ จขบ.ดันถ่ายไว้แต่ในมือถือซะด้วย ท่านทูตรีบเดินไปดูธงของสถานทูตฟิลิปปินส์ทันทีว่าสลับกับของเรารึเปล่า เอ ของเค้าก็ถูกนี่นา สรุปว่าเลยรีบโทรหาคนจัดงานเปลี่ยนธงจนทัน
รูปนี้ก็จัดกันง่วนค่ะ
การบินไทยให้โปสเตอร์มาแปะด้วย ปรากฎว่ามีประโยชน์มาก เพราะอะไร โปรดตามอ่านค่ะ
ระหว่างนั้นก็ลอบถ่ายรูปโตะเพื่อนบ้าน มีตุรกี สาวสวยสะโพกไหวสมกับเป็นดินแดนต้นตำรับระบำหน้าท้องเจงๆ (พอเห็นพุงหมูน้อยของตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนใจ ฮืออ)
ตามมาด้วยยูเครน มีขายผ้าปูโต๊ะกับของกินเล่นนิดๆหน่อยๆ สองสาวที่มาขายหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูมาก เสียดายที่ถ่ายมาไม่ครบอีกแล้ว
ตามมาด้วยกรีซ ประเทศเจ้าภาพที่เหมือนจะเน้นขายอาหารชีวจิตเป็นหลัก เพราะทั้งโต๊ะมีแต่น้ำมัน!
ถัดไปเป็นซีเรีย ของเพียบ ถูกใจพระเดชพระคุณคนชอบสะสมมั่กๆ ขายๆอยู่ได้ยินเสียงแก้วแตกด้วย
อิตาลียกร้านกาแฟมาเลย เสียดายมากๆๆๆๆๆ (ลากเสียงสุดๆ) ที่ไม่ได้ถ่ายน้องคนขายสุดหล่อมา จขบ.กินทุกวัน วันละสองแก้วด้วย ขนาดไม่ชอบกินกาแฟนะเนี่ย ก็น้องเค้าหล่อ เอ๊ย กาแฟเค้าดีเจงๆ เอิ้ก
รูปนี้เป็นหน่วยเสริมการขายสำหรับลูกค้ากรีกที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้โดยเฉพาะ ถ้าบอกว่าป้าคนกลางอายุ 60 แล้ว จะเชื่อมั้ยเนี่ย ป้าคนนี้เป็นเลขาท่านทูตค่ะ อยู่สถานทูตเรามาตั้งกะเริ่มเปิด เรียกว่าเป็นอะโครโปลิสของสถานทูตไทยก็ได้ เอิ้ก แต่ป้าแกเปรี้ยวมากนะคะ ถ้าเห็นหน้าแกกับชุดเริ่ดๆ เจ็บๆ เด็กแนวยังอายเนี่ยจะอึ้งไปเรย
รูปตอนขายจริง จขบ.ไม่ได้ถ่ายไว้เลยค่ะ เพราะตอนนั้นวิญญาณอวสานเซลล์แมนมันเข้าสิ่ง เอาแต่จะทำยอดๆๆ บริษัทประกันไหนขาดคนสามารถมาเอาตัวดิชั้นไปได้ทันที เพราะลูกค้ายังออกปากมาแล้วว่าขายเก่งเหลือใจ ไม่ใช่อะไรอ่ะค่ะ ครือว่าอยู่นี่มาจะหกเดือน พูดกับปั๋ว ปั๋วก็กลัวพิกุลจะร่วงเสียเหลือเกิน ได้โอกาสเจอผู้เจอคนที่ไม่ใช่หมาอ้วน ดิชั้นเลยรัวไม่ยั้ง ฮ่า
แต่จริงๆแล้วต้องยกความดีความชอบให้กับคุณพี่ตุ๊กตาที่เลือกของมาขายได้เก่งมาก ของทุกชิ้นกิ๊บเก๋ สุด kitsch แล้วก็กระแทกใจคนกรีกมากๆ (คือคนกรีกชอบของถูกแต่ดีอ่ะค่ะ ไม่มช่ถูกอย่างเดียวนะคะ ต้องถูกม้ากมากม้ากมากด้วย ไม่งั้นยูโรไม่กระเด็น) วันแรกเลยของที่ขายหมดก่อนใครก็คือผ้าคลุมไหมเหลือบสี เพราะสวยจริงๆและคุ้มมากสำหรับราคาแค่ 20 ยูโร จขบ.ขายไปก็พรีเซ้นท์ เอาผ้ามาพันๆๆให้ลูกค้าดู คนไหนแก่ก็สีเข้มหน่อย คนไหนสาวๆก็เอามันสีชมพูไปเลย ที่ขายดีมากอีกอย่างก็คือตุ๊กตุ่นตุ๊กตารูปช้างม้าหมูหมาทั้งหลาย เพราะว่าพอลูกเด็กเล็กแดงเดินมา ขจบ.ก็รีบชูขึ้นให้เตะตาเด็กน้อยๆทันที ปากก็ยิ้มหวาน (รักเด็กอ่ะค่ะ เอิ้ก) บอกว่าน่ารักมั้ย มีตัวเดียวเองนะ แล้วก็หันไปบอกบรรดาปะป๊ามะม๊าว่าราคาถู้กถูก การันตีใส่ถุงขายออกทันทีค่ะ
ของอื่นๆที่มีมาขายอีกก็คือพัดและร่มเชียงใหม่ พัดใบลาน กระเป๋าสาน กระเป๋าถัก กระเป๋าผ้าไหม หมวกผ้า ปลอกหมอนอิงช้าง (น่ารักมากๆ มีหางด้วย จขบ.ยังอยากได้ไว้เองเลยค่ะ) ถาดไม้ไผ่ ถ้วยไม้มะพร้าว ชามไม้แดง แจกันไม้ลงรัก ช้อนส้อมขนมหวานทำจากเปลือกหอย ส้อมจิ้มผลไม้ ที่ใส่สบู่ เทียน กิ๊บติดผม สร้อย ต่างหู ฯลฯ
ระหว่างนั้นพลพรรคร่วมวงการขายก็ทำหน้าที่กันอย่างขมีขมัน ผัดไทยขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจริงๆค่ะ ทุกคนชอบมาก ถึงขั้นว่ามีโทรมาสั่งสำหรับวันรุ่งขึ้น หรือพอตัดชิมเข้าปากปุ๊บสั่งกลับบ้านอีกสี่ห่อปั๊บ เล่นเอาแผนกผัดไทยมือเป็นระวิง ไม่ทันบ่ายสาม ของก็หมด ท่ามกลางความเสียใจของคนที่มาทีหลัง
พอขายๆกันไปได้สักพัก วิญญาณนักช็อปของเพื่อนร่วมงานก็เริ่มแอบซ่อนตัวอยู่ไว้ไม่ไหว เริ่มมีการแปะมือกันขาย หลบชะแว้บหายไปดูของร้านอื่นกันอย่างเมามัน เพราะว่าของงานนี้นอกจากจะถูกและดีแล้ว รายได้ยังสมทบทุนกองทุนเพื่อเด็กในกรีซอีกด้วยค่ะ เรียกว่าช็อปไปได้บุญด้วย พอเพื่อนร่วมอุดมการณ์กลับมา ก็มีการสำรวจความเสียหาย ซึ่งบางรายก็เรียกว่าบาดเจ็บสาหัส เพราะซื้อตั้งแต่โคมไฟอันเท่าบ้านของโมร็อกโกยันเบาะหนังนั่งเล่น บางรายแค่เลือดซิบๆเพราะซื้อแต่เครื่องประดับกระจุ๊กกระจิ๊ก ได้สร้อยมุกเส้นสวยราคาไม่แพงของฟิลิปปินส์กลับมา รายไหนชอบเครื่องแก้วตรงดิ่งไปโต๊ะเช็กก็เดินตัวเอียงๆกลับมา ไม่ใช่ไรค่ะ คริสตัลแท้ๆมันหนักกกกก ส่วนเป๋าที่อยู่อีกข้างมันเบาหวิวไปแล้ว กร้าก
ส่วนจขบ.นั้นก็เป็นที่รู้กันอยู่ว่า แฮ่ม ตะกละ ก็เลยไปเสร็จพวกชิราอิชิ ซูชิของญี่ปุ่น ทาโก้ของเม็กซิกัน ขนมจีบซาลาเปาของฟิลิปปินส์ (จีนไม่ขาย แต่พี่ปินส์ขาย งงๆ) ข้าวริซ็อตโต้ใส่เห็ด เส้นลิงกวินี่ กาแฟเอสเปรซโซ่คั่วบดของอิตาลี แยมเชอรี่ทำเองของฝรั่งเศส ขนมวัฟเฟิลไส้ไซรัปของเนเธอร์แลนด์ ไอ้เจ้านี่อร่อยมากกกกกกกกค่ะ เห็นปุ๊บคว้าปั๊บ ตกบ่ายหมดแล้ว แล้วก็อุดหนุนประเทศเจ้าภาพ ซื้อน้ำมันกลับบ้านอีกสามชนิด แฮ่ สรุปว่าไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกับเขาเลยจริงๆ (ขอสารภาพว่าจขบ.ไม่ค่อยชอบสะสมของกระจุกกระจิกด้วยน่ะค่ะ ชอบแต่แจกันแก้ว)
แต่สามีเป็นพวกชอบน้ำๆ ก๋วยเตี๋ยวก็ต้องกินแบบน้ำ แห้งไม่เอา งานนี้เนื่องจากหาเตี๋ยวไม่ได้ สามีเลยไปกินน้ำแทบทุกชนิดที่มีขายในงาน อันได้แก่ มาการิต้า (ฟาดเข้าไปสี่) ไฮเนเก้น (ล่อเข้าไปห้า) ไวน์ท่านทูต อันนี้ไม่ถูกปาก เอาแค่สองจิบ ปรากฎว่าเดินแอ๋เข้ามาหน้าเป็นสีชมพู ปากที่เคยหุบตลอดเวลาก็อ้าออก อะนั่น เซลล์คนใหม่ของวงการเกิดแล้ว ฮ่า
ระหว่างนั้นสาวสวยสุดเซ็กซี่ของตุรกีที่อยู่ตรงกันข้ามก็โบกมือดักกวักมือเรียกจขบ.ให้ไปชี้ชมของที่ร้านเธอ อะหนอ ก็อยากอุดหนุนน้องอยู่หรอก แต่ของที่น้องขายอ่ะ มันต้องมีเอวทั้งนั้นเลยนี่นา น้องคนสวยควักเข็มขัดลูกปัดสามสายมาคาดบนเอวบางๆ หน้าท้องเรียบๆให้ดู สวยเก๋บาดใจซะไม่มี แต่พออิชั้นก้มลงมองพุงน้อยของตัวเองก็ได้แต่ถอนใจ น้องจ๋า ชาติหน้ายามพี่เกิดใหม่แล้วกันนะจ๊ะ
จะว่าไปแล้วของที่ขายดีที่สุดในงานคือของกินจริงๆค่ะ แถมประเทศยุโรปตะวันออกทุกประเทศยังพากันประโคมขายเครื่องดื่มดีกรีแรงๆของตัวเองกันอย่างไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหม มันแรงจริงๆนะคะ แล้วยังขายถูกมากๆด้วย แก้วละยูโรเดียว กินคู่กับขนมปังหน้าซัลมอนรมควันหรือแตงกวาดอง แต่ใครล่ะจะไม่เมา เดชะบุญที่เจ้าประคุณสามีไปไม่ถึงโต๊ะเหล่านั้น หรืออาจจะไปถึงแล้วไม่สนใจ เพราะไม่งั้นดิชั้นอาจจะต้องร้อยมาลัยพิกุลทั้งคืนจนไม่ได้หลับได้นอน เอิ้ก
พอหมดงานวันแรกเท่านั้นเอง ของในร้านไทยก็แทบไม่เหลืออะไรให้ขายอีกค่ะ เป็นการพิสูจน์ว่าของไทยได้รับความนิยมจริงๆ แต่ทว่ายังมีของอีกหนึ่งชิ้นที่หินเหลือเกิน ขนาดที่ว่าเซลล์ระดับเพชรคู่อย่างจขบ.ยังต้องกุมขมับ นั่นก็คือ รูปวาดสีน้ำภาพดอกลั่นทมที่พี่ผู้บริหารการบินไทยบริจาคมาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ แต่ว่าของมันจะขายได้ มันก็ขายได้ล่ะน้อ แถมยังเกินความคาดหมายอีกต่างหาก
วี่แววของความฮ็อตของสินค้าชิ้นนี้เริ่มขึ้นหลังสินค้าอื่นๆมาก นั่นก็คือก่อนเราจะปิดร้านวันสุดท้ายเมื่อไม่กี่ชั่วโมง เพื่อนจากสถานทูตฟิลิปปินส์เดินมาดูแล้วทำหน้าครุ่นคิดแบบไม่ต้กไม่ตกอยู่เป็นนานสองนาน จขบ.รีบเข้าไปบอกว่ายูเห็นมั้ย เราลดราคากว่าครึ่งเชียวนา ไอเห็นๆ เนี่ยดูแล้วมันคลายเครียดมากๆ ใช่ๆๆ สีมันสว่างเนอะ แบบเนี้ยไว้ในห้องนั่งเล่นสบายเลย รับแขก จขบ.ได้ทีรีบบอก อือ นั่นสินะ เอ ไอขอไปคิดดูก่อนแล้วกัน โอเชๆๆ รีบๆคิดนะ คนสนใจเยอะ (ที่จริงยังไม่มีเรย ฮ่วย)
แต่แล้วก็มีมาดามมาดสง่ากับลูกสาวสุดหรูหน้าตาคมขำประสาแขกเดินเข้ามาทักทายที่ร้านของเรา ได้ความว่าเป็นภรรยาท่านทูตปากีสถานที่นี่ มาดามเดินไปมองภาพวาดด้วยสีหน้าเดียวกันกับเพื่อนสาวชาวปินส์ (อืม ไม่ยักกะรู้ว่ามองดอกลั่นทมมันต้องคิดกันหนักขนาดนี้ด้วยนะเนี่ย) และแล้วก็เอื้อนเอ่ยว่า นี่รูปวาดสีน้ำเหรอจ๊ะ ใช่ค่ะ ออริจินัลจากเชียงใหม่เลยค่ะ (ไม่กล้าโม้ว่าจากจิตรกรเอก กลัวถูกจับได้ ฮ่า) เหรอ นี่ไอก้เรียนวาดภาพสีน้ำอยู่นะ เหรอคะ ดูลายเส้นสิคะ คมมากเลย (อึ้ม พูดไรไปฟะเนี่ย) มาดามสนใจไหมคะ นี่เราลดราคาลงเยอะเลย เพราะอยากให้ขายได้สำหรับการกุศล งั้นรึ เอาสิ ถ้าอย่างนั้นไอซื้อเอง ช่วยให้คนไปส่งที่ร้านปากีสถานด้วยนะ นี่จ้ะเงิน ว่าแล้วมาดามและลูกสาวสุดสวยก็เยื้องย่างจากไปอย่างสง่างามดั่งเดินบนพรมแดง
ทันใดนั้นเอง เพื่อนปินส์ของเราก็กลับมาพร้อมเพื่อนอีกคน อะจ๊าก ยูขายไปแล้วเรอะ (ฮ่วย แขวนไว้วันครึ่งไม่มีใครมาถามข้าเจ้าเลย ทำไมถึงใจตรงกันเอาตอนนี้ด้วยน้า เกาหัวแกรกๆในใจ) ขายไปแล้ว ไอเสียใจจริงๆ แต่มาดามปากีชอบมากๆ ยูอย่าเพิ่งผิดหวังเลยนะ นี่นะ โปรดรับโปสเตอร์ของการบินไทยไปเป็นของรางวัลปลอบใจ (จขบ.รีบปลดโปสเตอร์มาม้วนส่งพร้อมโค้งน้อยๆ แปลงสัญชาติเป็นพี่ยุ่นทันที) โอเชๆๆ ไม่เป็นไร แต่ไอชอบมันจริงๆนา ฮือ ยูไม่น่าเลย (แง้ ทำไงอ่า ของมันต้องขายน่อ) ยิ้มพร้อมลูบหลังปลอบใจเพื่อนปินส์ไปสองสามที พร้อมเอ่ยมธุรจวาจาว่า บ้านไออยู่เชียงใหม่ มาเมื่อไหร่ จะพาไปถึงแกลเลอรี่เลยนะ สองเราจากกันด้วยความเข้าใจอันดีประหนึ่งดากานดากับไข่นุ้ย (เว่อซะ)
สรุปแล้วสองวันเราขายของไปได้ถึงสามพันยูโรค่ะ หักต้นทุนแล้วบริจาคสองพันหนึ่งแน่ะ คาดว่าน่าจะเป็นอันดับแรกๆของสถานทูตทั้งหลาย แต่จขบ.ยังไม่รู้แน่นอน ไว้รู้เมื่อไหร่ จะมาบอกนะคะ
แต่ทว่าในช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานเจอเพื่อนใหม่นั้นเอง มหันตภัยของชาวกรีกก็มาเยือนจขบ. นั่นก็คือควันบุหรี่ค่ะ คนกรีกสูบบุหรี่จัดมากกกกกกกกกกกกกกก เรียกว่ามวนต่อมวนต่อมวนทีเดียว เมื่อจขบ.เจอบุหรี่ไปสองวันกับอากาศที่จู่ๆก็หนาวเย็นขึ้นมา ไข้หวัดก็มาเยือน มาเยือนแบบรักมากไม่อยากจากไปไหนเสียด้วย
วันรุ่งขึ้นหลังงานเสร็จ จขบ.ก็ตัวรุมๆ คัดจมูก เพลีย เจ็บคอ แต่ไม่ทันไรก็ลุกไม่ขึ้นเอาซะดื้อๆ ปวดหัวเหมือนถูกใครทุบ (อาจจะเป็นสามีทำยามดึก น่าสงสัยๆ) ไข้ขึ้นสูง เพลียมาก ปากแห้ง ไม่ได้กลิ่นอะไรอีกเลย หมาน้อยไม่ได้อาบน้ำมาเกือบเดือนก็อุ้มได้สบายใจ แต่งานน่ะสิคะ ทำไม่ไหวเลยจริงๆ ได้แต่นอนๆๆๆ ในใจขอขมาลาโทษบอกอ รำพึงรำพันถึงเงินที่น่าจะได้แต่ก็ไม่ได้ซะที แง้ๆๆ
ที่เหนื่อยมากคือเวลาป่วยอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอย่างนี้ หลายๆอย่างก็ยังต้องทำเองอยู่ เช่น พาหมาน้อยเดิน ทำกับข้าว ข้อหลังนี่สามีทำไม่ได้เลย เพราะกินเข้าไปแล้วอาจจะพาลป่วยหนักกว่าเดิม ฮ่า แต่ก็มีข้อเสนอเช่นสั่งมากิน หรือกินนอกบ้านแทน แต่มันก็ไม่อยากกินน่ะค่ะ เพราะถ้าไม่เลี่ยนมาก ก็ผงชูรสเยอะจริงๆ จขบ.เลยสะโหลสะเหลมาทำข้าวต้มปลาหมึกใส่หมูสับหม้อนึง กินไปสองวันแทน แต่เจ้าหมาน้อยนี่สิ ใครที่เคยกิน artifect หรือยาลดน้ำมูกคงรู้ว่ามันทำให้ช้างหลับได้ นับประสาอะไรกับหมูน้อยๆอย่างอิชั้น พอกินเข้าไปเริ่มเคลิ้ม อะบรู๋ๆๆๆๆๆ อุ๊ ไอ้หมาน้อยเห่าแมวทำม้ายย แม่มันจะตายอยู่แล้ว โผเผขึ้นมาลากไอ้อ้วนเข้าห้องนอนปิดประตู ตายไปอีกสามชั่วโมง อ๊ะ ได้เวลาพามันเดินแล้ว ยังไม่หายมึนเลย เอาๆๆ ไปก็ไป อ๊ะ อย่าเห่า หัวจะระเบิด ไอ้อ้วนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรทั้งนั้น ระริกระรี้วิ่งท้าลมหนาวลากแม่มันไปเหมือนเล่นว่าว อิชั้นไม่รู้อะไรเลย เดินตามหมาอย่างเดียวกับหลบรถให้พ้น ขาไปขากลับเหมือนภาพเบลอ กลับบ้านโยนรองเท้าแตะหนังของโปรดให้มันกินอีกอัน แล้วล้มตัวลงตาย
ชีวิตประจำวันเป็นอย่างนี้ไปสี่วันค่ะ เพิ่งฟื้นขึ้นมาได้เมื่อวานนี้เอง เฮ้อ
เอาภาพไอ้อ้วนแลบลิ้นมาฝากด้วยค่ะ
Create Date : 04 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 4 ธันวาคม 2549 1:53:16 น. |
|
11 comments
|
Counter : 760 Pageviews. |
|
|
|
โดย: rayasuree (Jeab) (rayasuree ) วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:2:14:40 น. |
|
|
|
โดย: nzmum วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:3:15:53 น. |
|
|
|
โดย: the Vicky วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:4:32:27 น. |
|
|
|
โดย: grappa วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:9:03:28 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:12:19:37 น. |
|
|
|
โดย: Crono วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:13:16:08 น. |
|
|
|
โดย: beer87 วันที่: 4 ธันวาคม 2549 เวลา:18:17:39 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:5:28:43 น. |
|
|
|
โดย: ฝนตกแดดออก วันที่: 7 ธันวาคม 2549 เวลา:9:25:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
สวัสดีค่ะ เจี๊ยบแวะมาทักทายค่ะ
วันนี้อย่านอนดึกน่ะคะพรุ่งนี้ไป
ทำงานเดี๋ยวไม่สวยค่ะ เอิ๊ก ๆ
Goodnight ค่ะ หลับฝันดีน๊า
3/12/2006