|
อาณาจักรทวารวดี เรียบเรียงโดย นายตรี อมาตยกุล พิมพ์โดย bird2001
อาณาจักรทวารวดี
เรียบเรียงโดย นายตรี อมาตยกุล
ดินแดนในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งเป็นประเทศไทยในปัจจุบันนี้ ตลอดลงไปจนถึงแหลมมลายู ได้มีชาวอินเดียไปมาค้าขายและตั้งถิ่นฐานอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ชาวอินเดียที่ไปค้าขายหรือไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศนั้น
ถ้าใครนับถือศาสนาอย่างใด ก็มักจะพาศาสนานั้นไปประพฤติปฏิบัติ และสั่งสอนชาวประเทศที่ตนไปอาศัยอยู่ให้ประพฤติปฏิบัติตาม เป็นทำนองเดียวกันทั้ง พุทธศาสนา และศาสนาพรามณ์ แต่คติศาสนาทั้งสองนั้นมีผิดกันเป็นสำคัญอย่างหนึ่ง คือ พวก ที่นับถือ ศาสนาพรามณ์ ไม่ค่อยขวนขวายในการเที่ยวสอนศาสนามากนัก เพราะศาสนาพราหมณ์นั้นอาศัยอำนาจเป็นสำคัญ ส่วนพุทธศาสนานั้นอาศัยแต่ความศรัทธาเลื่อมใส จึงเป็นของสำคัญของชาวพุทธมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ในรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองและแพร่หลายขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพราะพระองค์โปรดให้เที่ยวสั่งสอน ปรากฏในหนังสือ มหาวงศ์พงศาวดารลังกาว่า พระเจ้าอโศกมหาราชได้จัดส่งพระมหาเถระ 2 องค์ คือ พระโสณะกับพระอุตตระ เข้ามาเผยแพร่พุทธศาสนาในสุวรรณภูมิประเทศ แต่มีปัญหาว่า สุวรรณภูมิอยู่ที่ไหนนั้น เป็นเรื่องที่ได้ถกเถียงกันมานานแล้ว
นักปราชญ์ฝ่ายไทยอ้างว่า สุวรรณภูมิอยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีเมืองนครปฐมเป็นราชธานี ส่วนพม่าอ้างว่าเมืองสะเทิมอันเป็นหัวเมืองมอญข้างฝ่ายใต้ เป็นราชธานีของสุวรรณภูมิ แต่เมื่อได้สำรวจตรวจสอบทางโบราณคดีโดยละเอียดแล้ว จะเห็นได้ว่าเมืองสะเทิมไม่มีสิ่งสำคัญอันใดซึ่งสร้างขึ้นตามคตินิยมในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชสมดังคำกล่าวอ้างนั้นเลย แต่ที่เมืองนครปฐมมีซากเจดีย์องค์เดิมซึ่งสร้างเป็นทรงบาตรคว่ำคล้ายกับสถูปที่พระเจ้าอโศกมหาราช ทรางสร้างไว้ที่เมืองสัญจี ประเทศอินเดีย และได้พบศิลาธรรมจักรกับกวางหมอบและคาถาที่จารึกพระธรรมเป็นภาษามคธลงในแผ่นอิฐ
ซึ่งวัตถุเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า เป็นของสร้างขึ้นตามคตินิยมในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ดังนั้น เพราะฉะนั้น ตามหลักฐานที่ได้พบนี้ จึงควรจะเชื่อได้ว่าสุวรรณภูมิน่าจะอยู่ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในประเทศไทยมากกว่าที่จะตั้งอยู่ ณ เมืองสะเทิมในประเทศพม่า หลังรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชแล้วในปลายพุทธศตวรรษที่ 3 ก็ยังมีปรากฏว่ามีชาวอินเดียได้เข้ามาค้าขายในดินแดนที่เรียกกันว่าสุวรรณภิมดังกล่าวอยู่เรื่อยมา มีหลักฐานที่จะทราบได้ก็คือ ได้ค้นพบโบราณวัตถุที่ตำบลพงตึก จังหวัดการญจนบุรี อาธิ
พระพุทธรูปแบบอมราวดีของอินเดีย ซึ่งมีอายุในระหว่างพุทธศตวรรษที่ 7 9 กับชวาลาโรมัน ซึ่งไม่ใช่เป็นของที่สร้างขึ้นในพื้นเมือง แต่เป็นของที่ชาวอินเดียได้นำติดตัวเข้ามาในสมัยนั้นประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งชื่อเมืองซึ่งอยู่ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยานั้นมีชื่อตรงกับชื่อเมืองในประเทศอินเดียหลายเมือง เช่น เมืองเพชรบุรี , ราชบุรี , กาญจนบุรี , และอโยธยา เป็นต้น จึงเป็นเหตุให้เข้าใจว่าพวกอินเดียคงจะนำชื่อเมืองในประเทศของตนมาแนะให้เจ้าผู้ครองนครตั้งขึ้นในบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาก็ได้
Create Date : 22 พฤศจิกายน 2548 |
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2548 15:30:58 น. |
|
29 comments
|
Counter : 2932 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ต่อๆๆ (bird2001 ) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:50:03 น. |
|
|
|
โดย: x= IP: 203.154.77.9 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:44:39 น. |
|
|
|
โดย: test IP: 202.28.62.245 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2548 เวลา:0:50:21 น. |
|
|
|
โดย: ม.1/3 IP: 124.121.46.218 วันที่: 11 กันยายน 2549 เวลา:18:19:54 น. |
|
|
|
โดย: *-* IP: 124.121.45.141 วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:17:47:24 น. |
|
|
|
โดย: Rose IP: 203.113.67.134 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:19:51 น. |
|
|
|
โดย: กุ๋ย IP: 125.25.132.250 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:06:31 น. |
|
|
|
โดย: 1 IP: 203.114.112.197 วันที่: 11 ธันวาคม 2549 เวลา:9:40:40 น. |
|
|
|
โดย: นางฟ้า IP: 203.113.57.104 วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:20:48:20 น. |
|
|
|
โดย: นางฟ้าคนสวย IP: 203.113.57.104 วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:21:05:11 น. |
|
|
|
โดย: ยุทธการ IP: 61.19.55.124 วันที่: 18 ธันวาคม 2549 เวลา:19:31:08 น. |
|
|
|
โดย: มิ้น IP: 58.8.108.204 วันที่: 7 มกราคม 2550 เวลา:17:38:03 น. |
|
|
|
โดย: ปอ IP: 124.120.233.21 วันที่: 26 มกราคม 2550 เวลา:18:33:24 น. |
|
|
|
โดย: pantep IP: 202.5.87.5 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:20:55 น. |
|
|
|
โดย: เบบี้ IP: 125.24.147.53 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:27:48 น. |
|
|
|
โดย: พีช IP: 203.113.0.192 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:56:18 น. |
|
|
|
โดย: เก้า IP: 125.27.106.237 วันที่: 15 พฤษภาคม 2550 เวลา:19:12:19 น. |
|
|
|
โดย: 555+ IP: 58.8.157.62 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:17:49:39 น. |
|
|
|
โดย: 555+ IP: 58.8.157.62 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:17:54:47 น. |
|
|
|
โดย: 555+ IP: 58.8.157.62 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:17:56:16 น. |
|
|
|
โดย: นายจัยดี IP: 61.90.238.102 วันที่: 20 มิถุนายน 2550 เวลา:17:35:43 น. |
|
|
|
โดย: นายจัยดี IP: 61.90.238.102 วันที่: 20 มิถุนายน 2550 เวลา:17:38:10 น. |
|
|
|
โดย: มี IP: 58.147.112.72 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:12:26:57 น. |
|
|
|
โดย: ด่ด่ดะ IP: 203.113.57.102 วันที่: 3 สิงหาคม 2550 เวลา:17:42:42 น. |
|
|
|
โดย: ผักกระเพรา IP: 203.113.57.102 วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:16:08:21 น. |
|
|
|
โดย: ควาย IP: 222.123.224.238 วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:17:18:08 น. |
|
|
|
โดย: 1/3ก้อ IP: 124.121.201.22 วันที่: 3 กันยายน 2550 เวลา:21:32:51 น. |
|
|
|
โดย: จิตใต้สำนึก IP: 202.133.158.207 วันที่: 2 ธันวาคม 2550 เวลา:15:26:07 น. |
|
|
|
โดย: หัวใจหมานตั๋ว IP: 117.47.14.239 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:10:16:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่ละคร ที่ฉันมองเห็นอยู่นี้ ที่แท้มันคือความจริง คือคนสองคน ที่บอกรักกัน และคนในนั้น หนึ่งคนคือคนที่ฉัน รักหมดหัวใจ
สิ่งที่เธอแสดง ทุกทุกถ้อยคำ เหมือนเธอนั้นพูดกับฉัน แต่ผู้ชายคนนั้น มันไม่ใช่ฉัน
ฉันเหมือนคนไม่มีกำลัง และหมดแรงจะยืนจะลุกจะเดินไป ฉันเหมือนคนกำลังจะตาย ที่ขาดอากาศจะหายใจ ฉันเหมือนคนที่โดนเธอแทงข้างหลัง แล้วมันทะลุถึงหัวใจ เธอจะให้ฉันมีชีวิตต่อไปอย่างไร ไม่มีอีกแล้ว กับเธอ ไม่มีเหลือสักอย่าง .... อยากตาย
บทบาทของเธอ สิ่งที่เขาทำ ทุกตอนมันเหมือนตอกย้ำ ให้ฉันต้องเสียน้ำตา ภาพที่คุ้นเคย ที่ที่คุ้นตา น้ำเสียงที่เธอ พูดจาท่าทีเหล่านั้น ฉันไม่เคยลืม
สิ่งที่เธอแสดง ทุกทุกถ้อยคำ เหมือนเธอนั้นพูดกับฉัน แต่ผู้ชายคนนั้น มันไม่ใช่ฉัน
ฉันเหมือนคนไม่มีกำลัง และหมดแรงจะยืนจะลุกจะเดินไป ฉันเหมือนคนกำลังจะตาย ที่ขาดอากาศจะหายใจ ฉันเหมือนคนที่โดนเธอแทงข้างหลัง แล้วมันทะลุถึงหัวใจ เธอจะให้ฉันมีชีวิตต่อไปอย่างไร ไม่มีอีกแล้ว กับเธอ ไม่มีเหลือสักอย่าง .... อยากตาย
เสียใจ แค่ไหน ถ้าอยากรู้ บอกเธอได้คำเดียว .... อยากตาย.
|
|
|
|
|
|
|
เช่น อาณาจักรพัน พัน อาณาจักร ลังกาสุกะ หรือ ลังยาสุย และอาณาจักรชีตู หรือเช็กโท้ โดยเฉพาะอาณาจักร พัน พัน นั้น จะตรงกับสุวรรณภูมิหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่จะต้องศึกษาและค้นคว้าต่อไป อาณาจักรลังกาสุกะ หรือ ลังยาสุย อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่ง ศาสตราจารย์ลูซ ผู้เชี่ยวชาญโบราณคดีพม่าชี้ว่าคงจะมีราชธานีอยู่ตรงคอคอดกระ แถวอำเภอ หลังสวน อาณาจักรชีตูหรือเช็กโท้ (ซึ่งแปรว่าดินแดง) นั้นอยู่ทางตอนใต้ของอาณาจักรพัน พัน อยู่ห่างจากอาณาจักรนั้นโดยระยะทางเรือ 6 วัน 6 คืน (เรือใบในสมัยนั้น) ราชธานีของอาณาจักรนี้อาจจะอยู่ที่เมืองสทิงปุระในอำเภอสทิงพระ หรืออยู่ริมทะเลสาบสงขลาก็ได้ เพราะที่เมืองนี้ได้พบของโบราณมากมายและปรากฏว่าดินในสมัยนี้มี สีแดงเข้ม ราษฏรได้ขุดขึ้นมาใช้เป็นสีทาบ้านกันอยู่จนกระทั่งเวลาปัจจุบัน
ในสมัยต่อมา ปรากฏตามรายงานการเดินทางของนักพรตจีน คือ พระภิกษุเอี้ยงจังหรือพระถังสัมจัง ซึ่งไปสืบเรื่องพระพุทธศาสนายังประเทศอินเดีย เมื่อ พ.ศ.1150 กล่าวว่า ในแหลมระหว่างเมืองศรีเกษตรซึ่งในปัจจุบันอยู่ในประเทศสหภาพพม่อกับเมืองอิศานปุระ ซึ่งอยู่ในประเทศกัมพูชา มีอาณาจักรหนึ่งชื่อ โตโลปอตี้ อาณาจักรนี้นักปราชญ์ทางโปราณคดีสันนิษฐานกันว่า คงจะตรงกับคำว่า ทวารวดี
เพราะปรากฏว่าในสมัยต่อมาพระเจ้าอู่ทองได้ทรงนำชื่อทวารวดีนี้มาใช้เป็นนามราชธานีที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อ พ.ศ.1893 โดยใช้ชื่อราชธานีนั้นว่า กรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา และเนื่องจากได้พบโบราณวัตถุซึ่งสร้างในพุทธศาสนาลัทธิเถรวาท อันมีลักษณะและฝีมือช่างละม้ายคล้ายคลึงกับพระพุทธรูปอินเดียครั้งสมัยราชวงศ์คุปตะและหลังคุปตะในเมืองต่าง ๆ ทางลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำแม่กลองเป็นอันมาก โบราณวัตถุเหล่านี้อาจจัดอายุได้ว่าอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 11- 14 นักปราชญ์ในทางโบราณคดีจึงให้ชื่อศิลปที่ทำขึ้นในสมัยนั้นว่า ศิลปสมัยทวารวดี
แม้จะปรากฏว่า ชาวทวารวดีนิยมนับถือพุทธศาสนาลัทธิเถรวาทอยู่เป็นจำนวนมากก็ตาม แต่ ก็ยังมีผู้ที่ถือลัทธิมหายานอยู่บ้าง เนื่องจากได้พบสถูปแบบมหายานกับรูปพระโพธิสัตว์ปะปนกันหลายชิ้น