เว็บเพื่อการเลี้ยงลูก,เว็บท่องเที่ยววังน้ำเขียว,สื่อสุขภาพ,ครอบครัวการเลี้ยงลูก,ทิปคอมพิวเตอร์
Group Blog
 
 
มีนาคม 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
23 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
สมาร์ทโฟน และบีบี ตัวการบั่นทองกล้ามเนื้อ


หลายคน มีความสุขกับการจิ้มแป้นพิมพ์เล็กๆ ส่งข้อความไปหาเพื่อน หรือคนที่ห่วงใย

บางคนมองว่ามันคือกระแส เทรนด์ใหม่ แฟชั่นฮิต แต่นั่นกับเป็นท่วงท่าหมกมุ่นส่งข้อความผ่านมือถือ โดยมีผลเสียต่อสุขภาพ

"ท่าทางของร่างกายเวลาใช้เวลาโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ คือ มือสองข้างจับเครื่องสายตาจ้องมองไปที่หน้าจอและแป้นพิมพ์ขนาดเล็กหากทำไป นานๆ อาจสร้างปัญหาให้กับกล้ามเนื้อได้" แพทย์อายุรเวทวิภาพร สายศรี คลินิกดอกเตอร์แคร์กล่าว

เธอพบว่า คนที่เข้ามาใช้บริการคลิกเพื่อรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดศรีษะ หรือไมเกรน ส่วนมากเป็นกลุ่มนักศึกษา และคนวัยทำงานที่อายุระหว่าง 23-35 ปี จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการใช้มือถือเล่นเกม แชทแม้จะยังไม่มีใครพูดชัดเจนว่า อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผลมาจากการใช้งานมือถือโดยตรงแต่ลักษณะการใช้งานดังกล่าวก็น่าเป็นห่วง

อายุรแพทย์มองว่า การใช้เครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กกลุ่มสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น บีบี มือถือ หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊ค เพิ่มความเสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัวเนื่องจากจำนวนผู้ใช้ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนมากขึ้น และส่วนมากนิยมการแชทคุยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่มีเวลาและมีเพื่อนที่จะแชทคุยกันได้มาก

สายตาที่ต้องจ้องหน้าจอโทรศัพท์เล็ก จะทำให้กล้ามเนื้อข้างกระบอกตาเกร็ง ส่งผลให้ปวดล้าดวงตา ภาพที่เห็นจะเบลอ ศักยภาพในการมองเห็นผิดเพี้ยน การก้มก็ส่งผลต่อกล้ามเนื้อคอและบ่า ทำให้ปวดเมื่อย ในขณะที่การจับเครื่องและกดแป้นพิมพ์เป็นเวลานานก็อาจปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้ออักเสบซึ่งหากอักเสบนานก็อาจเกิดภาวะนิ้วล็อก

การแชทเป็นการใช้งานอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งไม่ควรจะทำติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกินไป อายุรแพทย์ กล่าวว่า หากรู้สึกเกร็ง หรือปวดเมื่อย ควรรู้จักบริหารอวัยวะส่วนนั้นไม่ว่าจะเป็นสายตา มือ คอ และบ่า ให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย

เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่า เน็ตบุ๊ค ซึ่งมีจอขนาดเล็กเพียง 10 นิ้ว และมีแป้นพิมพ์ขนาดย่อกว่ามาตรฐาน การใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อไหล่ และมือได้

สำหรับกล้ามเนื้อบริเวณมือ ทำได้ง่ายโดยการกำมือแล้วเหยียดฝ่ามือให้กางสุดช่วยให้กล้ามเนื้อที่นิ้ว ต่างๆ ได้ขยับ ยืดหยุ่นไม่เกร็งตลอดเวลา

การบริหารดวงตายิ่งง่ายใหญ่ เพียงแค่หลับตา 5 วินาที แล้วลืมตา หรืออาจจะหาอะไรเย็นๆ มาประคบดวงตา ช่วยให้ดวงตาไม่ล้าจนเกินไป ส่วนคอและบ่า ก็บริหารได้ง่ายด้วยการก้ม-เงย, หมุนคอ หรือเอียงซ้ายขวา

"หากทำได้ 30-60 นาทีต่อวัน ก็จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อให้ยืดหยุ่น แข็งแรง ดีกว่าการแก้ที่ปลายเหตุด้วยการใช้ยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อที่อาจมีผล ข้างเคียงหากกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน"

การบริหารอวัยวะเหล่านี้เป็นการป้องกันและรักษาในเบื้องต้น แต่ในกรณีของผู้ที่เป็นมาก กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังรักษาด้วยการกินยาไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้การทำกายภาพบำบัด หรือการกดสลายมัดกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็ง

"เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ดีต่อการพัฒนาของโลก สังคม และสิ่งรอบตัว แต่ผลเสียจะเกิดกับผู้ที่ใช้งานไม่เหมาะสม ไม่มีความพอดี เหมือนเช่นการใช้งานสมาร์ทโฟนทั้งหลายที่หากใช้มากเกินไป ท่าทางการใช้ไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลต่อสุขภาพได้"
ที่มา stscity.com


Create Date : 23 มีนาคม 2554
Last Update : 23 มีนาคม 2554 12:47:09 น. 0 comments
Counter : 649 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

fnhero125
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add fnhero125's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.