|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สมาร์ทโฟน และบีบี ตัวการบั่นทองกล้ามเนื้อ
หลายคน มีความสุขกับการจิ้มแป้นพิมพ์เล็กๆ ส่งข้อความไปหาเพื่อน หรือคนที่ห่วงใย
บางคนมองว่ามันคือกระแส เทรนด์ใหม่ แฟชั่นฮิต แต่นั่นกับเป็นท่วงท่าหมกมุ่นส่งข้อความผ่านมือถือ โดยมีผลเสียต่อสุขภาพ
"ท่าทางของร่างกายเวลาใช้เวลาโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ คือ มือสองข้างจับเครื่องสายตาจ้องมองไปที่หน้าจอและแป้นพิมพ์ขนาดเล็กหากทำไป นานๆ อาจสร้างปัญหาให้กับกล้ามเนื้อได้" แพทย์อายุรเวทวิภาพร สายศรี คลินิกดอกเตอร์แคร์กล่าว
เธอพบว่า คนที่เข้ามาใช้บริการคลิกเพื่อรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดศรีษะ หรือไมเกรน ส่วนมากเป็นกลุ่มนักศึกษา และคนวัยทำงานที่อายุระหว่าง 23-35 ปี จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการใช้มือถือเล่นเกม แชทแม้จะยังไม่มีใครพูดชัดเจนว่า อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีผลมาจากการใช้งานมือถือโดยตรงแต่ลักษณะการใช้งานดังกล่าวก็น่าเป็นห่วง
อายุรแพทย์มองว่า การใช้เครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กกลุ่มสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น บีบี มือถือ หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊ค เพิ่มความเสี่ยงต่อการปวดกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัวเนื่องจากจำนวนผู้ใช้ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนมากขึ้น และส่วนมากนิยมการแชทคุยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่มีเวลาและมีเพื่อนที่จะแชทคุยกันได้มาก
สายตาที่ต้องจ้องหน้าจอโทรศัพท์เล็ก จะทำให้กล้ามเนื้อข้างกระบอกตาเกร็ง ส่งผลให้ปวดล้าดวงตา ภาพที่เห็นจะเบลอ ศักยภาพในการมองเห็นผิดเพี้ยน การก้มก็ส่งผลต่อกล้ามเนื้อคอและบ่า ทำให้ปวดเมื่อย ในขณะที่การจับเครื่องและกดแป้นพิมพ์เป็นเวลานานก็อาจปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือกล้ามเนื้ออักเสบซึ่งหากอักเสบนานก็อาจเกิดภาวะนิ้วล็อก
การแชทเป็นการใช้งานอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งไม่ควรจะทำติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกินไป อายุรแพทย์ กล่าวว่า หากรู้สึกเกร็ง หรือปวดเมื่อย ควรรู้จักบริหารอวัยวะส่วนนั้นไม่ว่าจะเป็นสายตา มือ คอ และบ่า ให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เรียกว่า เน็ตบุ๊ค ซึ่งมีจอขนาดเล็กเพียง 10 นิ้ว และมีแป้นพิมพ์ขนาดย่อกว่ามาตรฐาน การใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อไหล่ และมือได้
สำหรับกล้ามเนื้อบริเวณมือ ทำได้ง่ายโดยการกำมือแล้วเหยียดฝ่ามือให้กางสุดช่วยให้กล้ามเนื้อที่นิ้ว ต่างๆ ได้ขยับ ยืดหยุ่นไม่เกร็งตลอดเวลา
การบริหารดวงตายิ่งง่ายใหญ่ เพียงแค่หลับตา 5 วินาที แล้วลืมตา หรืออาจจะหาอะไรเย็นๆ มาประคบดวงตา ช่วยให้ดวงตาไม่ล้าจนเกินไป ส่วนคอและบ่า ก็บริหารได้ง่ายด้วยการก้ม-เงย, หมุนคอ หรือเอียงซ้ายขวา
"หากทำได้ 30-60 นาทีต่อวัน ก็จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อให้ยืดหยุ่น แข็งแรง ดีกว่าการแก้ที่ปลายเหตุด้วยการใช้ยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อที่อาจมีผล ข้างเคียงหากกินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน"
การบริหารอวัยวะเหล่านี้เป็นการป้องกันและรักษาในเบื้องต้น แต่ในกรณีของผู้ที่เป็นมาก กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรังรักษาด้วยการกินยาไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้การทำกายภาพบำบัด หรือการกดสลายมัดกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็ง
"เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ดีต่อการพัฒนาของโลก สังคม และสิ่งรอบตัว แต่ผลเสียจะเกิดกับผู้ที่ใช้งานไม่เหมาะสม ไม่มีความพอดี เหมือนเช่นการใช้งานสมาร์ทโฟนทั้งหลายที่หากใช้มากเกินไป ท่าทางการใช้ไม่เหมาะสมก็อาจส่งผลต่อสุขภาพได้" ที่มา stscity.com
Create Date : 23 มีนาคม 2554 |
Last Update : 23 มีนาคม 2554 12:47:09 น. |
|
0 comments
|
Counter : 649 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|