|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
14 กรกฏาคม 2556 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
++ My Journey in April 2013 : Italy - ti amo | My swiss - so sweet | Moscow - 24 hours. ++
บันทึกการเดินทางร่วม 18 วันในยุโรปโดยเริ่มต้นที่ Rome อิตาลี ขึ้นรถไฟไปเมือง Pisa สัญลักษณ์ของดินแดนมักกะโรนี เที่ยว Lucca เมืองแสนหวานก่อนลัดเลาะเข้าอิตาเลี่ยน ริเวร่า ที่ Cinque Terre เยือนแคว้นงามทัสคานีที่ Florence , Siena และ San Gimignano เที่ยวเมือง Venice นครแห่งสายน้ำ ก่อนจับรถไฟข้ามประเทศเข้าสู่ Switzerland วิ่งตามเก็บภูเขา ทุ่งหญ้า ฟ้าคราม และหิมะ ที่ Jungfrau Region , Zermatt และเมือง Chur สุดคลาสสิค โดยใช้เส้นทางรถไฟบันลือโลกทั้ง Glacier Express และ Bernina Express กลับเข้าสู่อิตาลีอีกครั้งที่เมือง Tirano แล้วลัดเลาะทะเลสาบไปเมือง Varenna และ Menaggio ก่อนจะปิดทริปที่ Milan ยังๆ ยังไม่จบเราแวะ รัสเซีย เที่ยว Moscow ครั้งหนึ่งในชีวิต หลากหลายเรื่องราวรายทาง สนุกมากมาย ประทับใจจริงๆ.
My Journey >>>
Itinerary:
Day 1: Thu >>> BKK-Rome
Day 2: Fri >>>Rome (Vatican)
Day 3: Sat >>>Rome
Day 4: Sun >>>Rome-Pisa-Lucca-Cinque Terre Day 5: Mon >>>Cinque Terre
Day 6: Tue >>>Cinque Terre-Florence Day 7: Wed>>>Florence-Siena-Sangiminano-Florence
Day 8: Thu >>>Florence-Venice Day 9: Fri >>>Venice (Burano-Murano-San Marco)
Day 10: Sat >>>Venice-Milan-Interlaken Ost-Lauterbrunnen Day 11: Sun >>>Lauterbrunnen-Murren-Schilthorn-Murren-Gimmelwald-Stechelberg-Lauterbrunnen.
Day 12:Mon >>> Lauterbrunnen- Grindelwald-Interlaken-Lauterbrunnen
Day 13: Tue >>>-Interlaken Ost -Zermatt (Matterhorn/Furi)
Day 14: Wed >>>Zermatt-Chur by Glacier Express
Day 15: Thu >>>Chur-Tirano by Bernina Express-Varenna
Day 16: Fri>>>Varenna-Menaggio-Varenna-Milan
Day 17: Sat >>> Milan-Moscow
Day 18: Sun >>>Moscow-BKK
************************************************************************************** Italy : Ti amo
| Italy : เอาวิธีการยื่นวีซ่าอิตาลีมาแบ่งปัน เอกสารที่ใช้ขอวีซ่าเชงเก้นอิตาลี
-Passport พร้อม สำเนา 2 ฉบับ
-ใบคำร้องขอวีซ่าอิตาลี 2 ชุด
- รูปถ่าย ขนาด 2x2 นิ้ว พื้นหลังสีขาว
-สำเนาบัตรประชาชน
-ประกันการเดินทาง วงเงินประกัน 30,000 ยูโรและบริษัทประกันตามที่สถานทูตกำหนด
-หนังสือรับรองการเงินจากแบงค์
-หนังสือรับรองการทำงาน
-สำเนาใบจองตั๋วเครื่องบินพร้อมทั้งโปรแกรมเที่ยวระบุที่พักให้เรียบร้อย ต้องแนบใบจองโรงแรมไปด้วยทุกแห่ง(ใบจองต้องระบุชื่อผู้เข้าพักทุกคน)
ยื่นเอกสารได้ที่ VFS ตึกเมอร์คิวรี่ เพลินจิต ชั้น 9 ค่าวีซ่า 2400 บาท บวกค่าดำเนินการ VFS อีก 500 บาท (ณ. เดือนมีนาคม 2556) ใช้เวลาประมาณ 15 วันทำการ. ช่วงเวลาพีคอย่างเมษาปีนี้ 15 วันทำการเอาไม่อยู่ ของเราปาเข้าไปร่วม 5 อาทิตย์!!! จนปีนี้มีคนตั้งกระทู้ "สมาคมคนรอยคอยวีซ่าอิตาลีแห่งประเทศไทย" ยื่นตั้งแต่วันที่ 12 กพ โทรไปตามที่สถานทูต วันที่ 14 มีค ยังไม่ได้ เลยส่งเมล์เป็นทางการเข้าไปอ้อนวอนสถานทูตวันที่ 18 มีค รอ รอ รอ พอวันที่ 20 มีค จึงได้รับแจ้งให้ไปรับเล่ม เฮ้อ (ปีนี้แทบไม่รับ walk in ยื่น ต้องจองวันยื่นทางเนทซึ่งเปิดคิวน้อยมาก สาหัสจริงๆ) วีซ่าอิตาลีไม่ยาก แต่ใช้เวลานานมากค่ะ
เราใช้สายการบินรัสเซีย Aeroflot เนื่องจากสายการบินนี้มักปล่อยโปรฯ ไปยุโรปถูกๆ มาบ่อยครั้ง ทำให้เราสามารถไปยุโรปในราคาที่ประหยัดได้ แม้จะเป็นช่วงไฮซีซั่นอย่างสงการนต์ก็ตาม สามารถหาราคา 24-25K ได้สบาย แต่ในเมื่อราคาโปรฯก็มีข้อเสียคือต้องรีบตัดสินใจจองเลย จองล่วงหน้าร่วม 4 เดือน จองก่อนจะได้วีซ่าเสียอีก การจองก็เข้าไปจองกับ web สายการบินโดยตรงเลย//www.aeroflot.ru/cms/en/booking สามารถเลือกแบบ Multiple Destinations ได้ อย่างเราเข้าทาง Rome กลับทาง Milan เป็นต้น. วันกลับจาก Moscow-Bangkok นั้นเราเลือกวันกลับช้าไปหนึ่งวันจะได้ไม่ต้องลุ้นเรื่องเวลาและมีเวลาเที่ยวในมอสโควอีกด้วย ไหนๆคนไทยก็ไม่ต้องขอวีซ่ารัสเซียแล้ว สามารถโหลดเอกสารยืนยันการไม่ต้องใช้วีซ่าเข้ารัสเซียได้ที่ //th.thaiembassymoscow.com พนักงานเช็คอินของสายการบินมักสงสัยว่าไม่ต้องใช้วีซ่าจริงหรือ ยื่นให้ดูเลยค่ะจะได้เช็คอินให้อย่างรวดเร็ว สายการบินนี้มีข้อเสียคือเดินทางกลางวันและถึงค่ำมืด จากกรุงเทพไปมอสโควใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง มีเวลาต่อเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง จากมอสโควไปโรมใช้เวลาร่วม 6 ชั่วโมง นั่งกันยาวเลย....แต่เป็นตัวเลือกที่ดีใน budget ที่จำกัดนะคะ สายการบินนี้นั่งสบายใช้ได้ เดี๋ยวนี้คนหันมาใช้สายการบินนี้ต่อเครื่องไปยุโรปเยอะแยะ มีจอทีวีส่วนตัว แถมสามารถชาร์ต Iphone, Ipod ได้ด้วย. สนามบินรัสเซียนี่ใช้ได้เลยค่ะสำหรับ Terminal D. แอบหรูเลยนะ! แม้จะเดินต่อเครื่องไกลไปนิด แต่ป้ายบอกทางชัดเจน รับรองเดินตามป้ายไปไม่มีหลง แถมมี free wifi ด้วย. ไฟลท์จากมอสโควไปโรมนี่เครื่องแอบเก่า ไม่มีทีวี แต่พื้นห้องน้ำนี่สิเป็นไม้ คลาสสิคซะ
การเดินทางระหว่างเมืองในอิตาลี ถึงแม้แพลนเราจะแน่นเดินทางเมืองต่อเมืองเป็นว่าเล่นแต่รับลองไม่ล่มจมแน่ค่ะ เพราะพี่การรถไฟอิตาลีเขามีโปรฯตลอดๆ 9 ยูโร เพียงแต่ต้องจองล่วงหน้า 1-2 เดือน เข้าไปเช็คได้ที่ //www.trenitalia.com/ จองออนไลน์ตัดบัตรเครดิตกันไป พรินต์ใบคอนเฟริ์มออกมาใช้ขึ้นรถไฟได้เลย สะดวกดีค่ะ อันนี้จะเป็นโปรฯของพวกรถไฟความเร็วสูงนะคะ ส่วนรถไฟท้องถิ่นของอิตาลีนั้นสามารถจองออนไลน์ล่วงหน้าได้แค่ 7 วันค่ะแถมไม่มีโปรอีกด้วย แต่ค่ารถไฟท้องถิ่นไม่แพงค่ะ นั่งชั่วโมงเดียวไม่ถึง 10 ยูโร ยกตัวอย่างเช่น จาก Varenna มา Milan ค่าตั๋วแค่ 6.45 ยูโรเท่านั้น ตั๋วรถไฟต้อง validate กับ machine เครื่องเขียวๆตามสถานีรถไฟก่อนทุกครั้งนะคะ เหมือนตอกบัตร วัน เวลา ให้มันหน่ะค่ะ เพราะตั๋วจะไม่ระบุวันและมีอายุ 2 เดือน อย่าลืมนะ เดี๋ยวโดนปรับ ไม่รู้ด้วย
ว่าด้วยเรื่องของ swiss pass vs swiss half fare card : เรามีเวลาในสวิส 6 วัน เพาระฉะนั้นต้องใช้ตั๋ว swiss pass 8 วันถึงจะครอบคลุมทั้งทริป swiss pass ที่ราคาออกมา ปีนี้ฉายเดี่ยว 8 วันอยู่ที่ 328 ยูโร แพงมาก...... (ซึ่งราคาที่ว่าตีเป็นเงินไทยราวๆ หมื่่นสามกว่าๆไม่รวมค่าออกตั๋วกับเอเยนต์ไทยอีกประมาณเกือบพัน) ราคาสยอง แต่มีดีที่ใช้ง่ายเพราะครอบคลุมการเดินทางฟรีทั้งหมดยกเว้นพวกรถไฟขึ้นเขาที่ต้องจ่ายเพิ่มเองโดยลด 25% บ้าง 50% บ้าง เห็นราคานี้แล้ว เราไม่ซื้อค่ะ ไม่ซื้อ เกลือในกระแสเลือดยังคงไหลเวียนอย่างเข้มข้น เช็คดูแล้วมีตั๋วอีกชนิด half fare card ซึ่งเหมาะกับการเดินทางของเรามากกว่า (เอ่อ ต้องเรียกว่าเหมาะกับเงินในกระเป๋าถึงจะถูก )
-Half fare card อันนี้ชื่อมันก็บอก ทั้งหมดลดครึ่งราคา สอยออนไลน์มาค่าเสียหายรวมค่าจัดส่งจากสวิสถึงไทยก็ 100 ยูโร เห็นไหมมันดูลงทุนน้อยกว่า swiss pass อีก แต่ทำไมพี่ไทยไม่ใช้กันเลย เดี๋ยวมาดูกันจากประสบการณ์จริง
1.คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ก็เอเยนต์ในไทยไม่เอามาขาย จะซื้อทีต้องสั่งออนไลน์ ให้ส่งตรงมาไทย ซื้อ on line ได้ที่ web //www.swisstravelsystem.com 2.ต้องประมาณให้ดี ถ้าเดินทางระหว่างเมืองเยอะ swiss pass คุ้มกว่าแน่นอนเพราะจ่ายค่า swiss pass ครั้งเดียวและขึ้นฟรี แต่เพลนเราขึ้นเขาเป็นส่วนใหญ่ half fare card จึงคุ้มกว่าเพราะลงทุนน้อยกว่าแต่ลดพวกกระเช้ากับรถไฟขึ้นเขาที่ 50% เหมือนๆกัน นี่เราเช็คราคาแต่ละ route เทียบเลยนะ แพลนเราใช้ half fare card จะประหยัดร่วมห้าพันบาท ยิ๊ปปี้ (budget น้อยก็งี้แหละ ต้องเลือกเยอะหน่อยประมาณสวยเลือกได้ แต่มันไม่เป็นเยี่ยงนั้นเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังถึงการผจญภัยเรื่องตั๋วๆ ...) 3. สั่ง Half fare card ต้องสั่งล่วงหน้าใช้เวลาจัดการ 5 วันทำการ แต่เงื่อนไขบอกว่าเลวร้ายสุดอย่างช้าก็ 2-3 อาทิตย์ก่อนออกเดินทาง web มันให้ระบุวันเดินทางเลยเพราะ card มีอายุหนึ่งเดือนนับจากวันเดินทางที่ระบุ จากประสบการณ์ เอาเข้าจริงสั่งแล้วรอนานมากกกก พอส่งอีเมล์ตาม ดันบอกให้ดูเงื่อนไขที่เลวร้ายสุดนี่เลย 2-3 อาทิตย์ก่อนออกเดินทาง อุ๊แม่เจ้า นี่ดีนะที่เราเผื่อเวลาล่วงหน้าโดยระบุเดินทางวันที่ 4 ทั้งๆที่ (จริงๆ ถึงสวิสวันที่ 13 ) นี่ถ้าไม่เผื่อ ไม่ตาม ตั๋วถึงเมืองไทย ตัวอาจอยู่อิตาลีแล้ว เฮ้อ.... 4. การซื้อตั๋วรถไฟในสวิส check ราคาและตารางการเดินรถได้ที่ //www.sbb.ch/en/home.html แต่อย่างที่บอก การซื้อตั๋วรถไฟออนไลน์จะต้องใช้ เครดิตการ์ด ซึ่ง เครดิตการ์ด จะคิดอัตราแลกเปลี่ยนเรทเกินจริง ประมาณ 2 บาทต่อฟรังค์สวิส จ่ายหลายฟรังค์ก็เพิ่มเยอะอยู่ ทีนี้เรามันงกไม่เข้าเรื่อง ตัดสินใจไปซื้อตั๋วรถไฟปลายทางดีกว่า จะได้ไม่โดนชาร์ตเลยต้องผจญภัยกับการซื้อตั๋วโดยเริ่มตั้งแต่ Milan เลย.... |
Create Date : 14 กรกฎาคม 2556 |
|
1 comments |
Last Update : 22 กรกฎาคม 2556 15:17:16 น. |
Counter : 2217 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: schnuggy 18 มิถุนายน 2557 1:06:29 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
ตรง L'Isle-sur-la-Sorgue ที่เราไปมา กว่าจะถึงสิ้นเดือน คิดว่ามันคงโรยไปหมดแล้วค่ะ
ดูเอาจากแถวบ้านเราอ่ะ มันแห้งเหี่ยวโรยไปเยอะแล้วค่ะ
เป็นพันธุ์ที่ช่อสั้นๆ ออกดอกเร็วกว่าเค้า เลยโรยก่อน
เท่าที่สังเกตุจากแถวบ้าน เราอยู่แฟรงค์เฟริต เยอรมันค่า
ที่เห็นมีลาเวนเดอร์3พันธุ์นะคะ พันธุ์แรกที่ช่อดอกสั้นๆ บานแล้ว
พันธุ์ที่สอง ช่อดอกยาวสวย ตอนเราไปยังตูมอยู่ คิดว่าคงบานสิ้นเดือนนี้ ต้นเดือนหน้าค่า
อีกพันธุ์นึงเห็นยังตูมๆเขียวๆอยู่ค่ะ คิดว่าคงอีกเป็นเดือนแน่เลย
ไม่มีพิกัดให้ค่ะ ขอโทษจริงๆ คืออาศัยขับรถไปเรื่อยๆ
แนะนำให้ขับถนนสีเหลืองในแผนที่นะคะ เป็นถนนเล็กๆ แค่สองเลนส์
จอดรถก็แอบๆเอา เดินเอานิดหน่อย เห็นหลายทุ่งค่ะ ได้สมใจแน่
แถว carpentras แถว Sault เห็นเยอะอยู่ค่ะ
เที่ยวให้สนุกนะคะ ช่วยมาเคาะบ้านเรียกเราด้วยได้ป่าว อิอิ
อยากเห็นค่ะ ขอบคุณที่แวะไปหานะคะ