พฤษภาคม 2555
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 พฤษภาคม 2555
 
 

ซุกซุค บุกแดนแขกมัวร์-Morocco-Spain ทริปรีวิว.


      เราเริ่มทริปนี้กันที่โมรอคโคโดยตั้งต้นที่ คาซาบลังก้าเดินทางโดยรถไฟไปมาราเคช หลังจากนั้นเราจะใช้เวลา 3 วัน 2 คืนกับการรอนแรมผ่านเส้นทางสวยๆ ภูมิประเทศหลากหลายจากมาราเคชถึงเฟส เส้นทางสาย  The Thousands Kasbahs ตั้งแต่ อิทเบนฮัดดู-ควอซาแซท ผ่านหมู่เทือกเขา ไฮท์แอทลาส หุบเขาดาเดส หุบเขาโทรด้า เข้าสู่เมืองแห่งทะเลทราย ริสสินี เราไปใช้ประสบการณ์อาบลมห่มทราย นับดาวกันในทะเลทรายซาฮาร่า 1 คืน ที่ เอริก ชิบบี้ ก่อนที่จะออกมารอนแรมต่อผ่านหมู่เทือกเขามิดเดิล แอทลาส สู่เมืองอิฟราน และเดินทางสู่เมืองเฟส ออกจากเฟส เราจะเข้าสู่เขต ริฟ เมาท์เทน ไปเมืองเชฟชวน หมู่บ้านสเมริฟของเรา ก่อนจะจบทริปโมรอคโคที่เมืองคลาสิคอย่างเทนเจียร์ จากนั้นเราจะข้ามช่องแคบยิปรอลต้าเข้าสู่สเปนที่เมือง ทารีฟาก่อนที่จะตั้งต้นขึ้นรถไฟที่เมืองอัลเจอร์ซีลาส เข้าสู่แคว้นอันดาลูเซีย เมืองกรานาดา เซบีย่า และโครโดบ้า จบทริปการเดินทางครั้งนี้ที่เมดริดก่อนขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน เราใช้เวลาทริปนี้ทั้งหมด 15 วัน กับการเดินทางหลากหลายและเรื่องราวมากมาย ใน 2 ทวีป 2 ประเทศ 

    การรีวิวทริปนี้ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ลงรายละเอียดประวัติของแต่ละสถานที่ ไม่ถนัดค่ะ คิดว่าข้อมูลพวกนั้นหาได้จากอากู๋ได้ไม่ยาก อยากให้เพื่อนๆเห็นรูปตลอดเส้นทางว่าเป็นยังไงเนื่องจากเส้นทางนี้มีข้อมูลไม่มากนัก เลยตั้งใจว่าจะทำรีวิว how to get there หลังจากกลับมาแล้ว เผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆที่จะเดินทาง เส้นทางนี้สวย หลากหลาย ผู้คนน่ารัก รับรองไม่ผิดหวังค่ะ 

Plaza de Espana: Seville Spain



Marakesh: เมืองมาราเคช หนึ่งในเมืองหลวงเก่าของโมรอคโคในศตวรรษที่ 10 เส้นทางเก่าแก่ของคาราวานค้าน้ำตาล เมืองสีชมพู ซุ้มประตูเก่า สีสันหลากหลายในซุค(ตลาด) ลายแกะสลักบนผนังเมเดรซา (โรงเรียนสอนศาสนา) ลายเซลิก สวยๆ(ZELLIJ งานกระเบื้อง ตัดเรียงต่อกันหลากสี แบบฉบับของแขกมัวร์) อีกทั้งสีสันฉูดฉาด ตัดโช๊ะเชะ ของสวน Jardin Majorelle (Yves Saint Laurent)



Djemaa el Fna: จตุรัส เจมา เอล ฟน่า จตุรัสหลักของเมืองมาราเคช เขาว่ากันว่า ละครชีวิตหลากหลายหาดูได้ที่นี่ เริ่มตั้งแต่รุ่งเช้าจนดึกดื่น ทั้งการทำเฮนน่า ขายของพร้อมนำเสนอชวนเชื่อสารพัด ร้านสารพัดถั่ว อินทผาลัมและผลไม้แห้ง น้ำส้มสีสดรสชาติเปรี้ยวปรี๊ด คนเล่านิทาน โชว์งู คนขายน้ำพร้อมภาชนะทองเหลืองเงาวับกับเสื้อสีแดงสดและหมวกทรงแหลม เกมการละเล่นต่างๆ พอตกเย็นก็จะเริ่มมีแผงอาหารนานาชนิด พร้อมใจกันเปิดขาย ปิ้ง ทอด ย่าง ควันขโมงไปหมด ของเขาเยอะ เยอะ จนยูเนสโกต้องยกให้เป็น “Masterpiece of World Heritage” ในปี 2001 เลยทีเดียว


เราติดต่อทัวร์ให้จัด private tour 3 วัน 2 คืนให้ เริ่มต้นที่มาราเคชและสิ้นสุดที่เฟส


วันแรกกับ เส้นทางสาย  The Thousands Kasbahs ตั้งแต่ อิทเบนฮัดดู-ควอซาแซท ผ่านหมู่เทือกเขา ไฮท์แอทลาส คืนนี้เราจะนอนค้างกันที่หุบเขาดาเดสค่ะ

>>>MARRAKESH-AIT BENHADDOU-QUARZAZATE (the Hollywood of Africa)-DADES VALLEY



วันที่สองของทัวร์ Sahara เราออกจากหุบเขาดาเดสแต่เช้าตรู่ รอนแรมต่อไป หุบเขาโทรด้า เข้าสู่เมืองแห่งทะเลทราย ริสสินี เราไปใช้ประสบการณ์อาบลมห่มทราย นับดาวกันในทะเลทรายซาฮาร่า 1 คืน ที่ เอริก ชิบบี้ นะคะคืนนี้

>>>DADES GORGES- TENEGHIR-TODRA GORGES-ERFOUD-RISSANI-MERZOUGA-CAMEL AND CAMPING AT ERG CHEBBI



ERG CHEBBI- อาบลม ห่มทราย นับดาว 



วันที่สามของทัวร์ Sahara วันนี้เราจะผ่านผ่านหมู่เทือกเขามิดเดิล แอทลาส สู่เมืองอิฟราน และเดินทางสู่เมืองเฟสกันค่ะ ได้ข่าวว่าเมื่อคืนหิมะตกหนักเส้นทางนี้ ทำให้เราตัดใจไม่เข้าเมืองเมกเนสด้วยเหตุผลของเวลา
MERZOUGA-ZIZ GORGES-MIDELT-AZROU-IFRANE-FES >>>Through Middle Atlas



Fez / Fes: เมืองเฟส อีกหนึ่งเมืองหลวงเก่ามากกว่าพันสองร้อยปี เพียงก้าวเข้าประตู บับ บู เจลูด (Bab Bou Jeloud) เข้าสู่ซุคก็ต้องตะลึงกับเมืองหมื่นตรอก ตลาดเก่า วิถีผู้คนดั้งเดิม เมืองนี้มีเสน่ห์ค่ะ หลากหลายซุ้มประตูเมืองสวยๆ งานเซลิกงามๆตามอ่างน้าพุสาธารณะ เมเดรซ่าเกลื่อนเมือง เวลาละหมาดทีเสียงดังขรมไปหมด เราเดินหลง(แบบสมัครใจ)ในเมืองหมื่นตรอกร่วมค่อนวัน เสน่ห์เขาเหลือร้ายจริงๆค่ะ




เส้นทางสายดอกไม้ค่ะ ช่วงเวลาดีจริงๆ วันนี้เราออกจากเฟสแต่เช้าตรู่ เพื่อการเดินทางอันยาวนานเข้าสู่เขต ริฟ เมาท์เทน ไปเมืองเชฟชวน และจบทริปที่เมืองเทนเจียร์ เราเหมารถพร้อมคนขับไปค่ะ แพงกว่าไปรถประจำทางแต่คุ้มสำหรับวิวสองข้างทางค่ะ เพราะทุ่งดอกไม้หลากสีบานขนาบตลอดสองข้างทางเลยค่ะ คนขับใจดีแวะจอดให้ลงไปถ่ายรูปดอกไม้ด้วย 




Chefchouen: เมืองเชฟชวน เมืองสีฟ้าใต้เงาเทือกเขา Rif อีกหนึ่งเมืองเจ้าเสน่ห์ สีฟ้าหกใส่ที่นี่ ฟ้าพรืดไปหมด ทั้งทางเดิน กำแพง บันได โค้งประตู หน้าต่าง จนกระทั่งประตูบ้าน  ทำให้นึกถึงเหล่าชาวสเมริฟ ขอเรียกที่นี่ว่าหมู่บ้านสเมริฟละกัน ^^ ที่นี่เราจะเห็นคนพูดภาษาสเปนมากขึ้น พี่คนขายกระเป๋าเล่าให้ฟังว่าผู้คนที่นี่อพยพหนีตายมาจากอันดาลูเซียตอนเกิดสงคราม ทั้งแขกทั้งยิว อาหารที่นี่ก็รสชาติเป็นยุโรปมากขึ้น


Tangier: เทนเจียร์ อีกหนึ่งเมืองท่า คลาสสิค เกิดไม่ทันหนังเรื่อง คาซาบลังกา แต่เขาเล่ากันว่าหลายฉากต้องที่นี่ เทนเจียร์เลย เราข้ามเข้าสเปนกันที่ท่าเรือเมืองนี้ ท่าเรืออยู่ในตัวเมืองเลยชื่อ Port Ville ซึ่งเรือจะข้ามเข้าสเปนที่ Tarifa Port เท่านั้น แล้วเขาจะมีรถบัสฟรีต่อไปที่ Algeciras (อีกท่าชื่อ Port Med อยู่ไกลค่ะต้องนั่ง taxi ไป 1 ชั่วโมงแต่ข้ามเข้าสเปนได้ทั้งเมือง Tarifa และ Algeciras)

 ถ้าไม่เล่าประสบการณ์ข้ามแดนของพวกเราคงไม่ได้ 555 วันที่ 19 เมษายน 2555 วันนี้จะเป็นวันที่พวกเราใช้เวลาเดินทางทั้งวันจากเทนเจียร์ ข้ามเรือเข้าทารีฟา ต่อรถบัสเพื่อไปจับรถไฟที่ อัลเจอร์ซิลาส เข้าเมืองสุดท้ายปลายทางของวันนี้ ที่ กรานาดา เวลาจะผิดพลาดไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เพราะรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่เข้ากรานาดาคือรอบออกจากอัลเจอร์ซิลาส 15.55 ถึงกรานาดา 20.10

9.00 เรือรอบแรกจาก Tangier ไป Tarifa เรือเดินทาง ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง (เวลาที่สเปนเร็วกว่าโมร็อคโค 2 ชั่วโมง)

12.00 ถึง Tarifa ต่อรถไป Algeciras อีกครึ่งชั่วโมงบวกกับรอรถออกอีกร่วมครึ่งชั่วโมง

13.00 ถึง Algeciras รถจะมาส่งที่ port ที่ Algeciras เดินไปสถานีรถไฟแค่สิบนาที ถามทางเขาได้ค่ะ บอกว่า estacion de tren (สถานีรถไฟกับสถานีรถบัส อยู่ตรงข้ามกันถ้าตกรถไฟจริงๆก็ลองเช็ครถบัสดูค่ะ)

15.55 นั่งรถไฟไป Granada ประมาณ 4 ชั่วโมงถึง Granada 20.10 ฟ้ายังไม่มืดค่ะ 555

เราเริ่มออกเดินทางจากริยาดตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าโดยนั่ง grand taxi เข้าไปใน port (ค่า taxi 50 ดีรฮัม) passport พร้อม visaพร้อม ตั๋วเรือก็พร้อม (ซื้อมาพร้อมแล้วตั้งแต่เมื่อวานที่หน้า port) เราเดินขึ้นไปชั้นสองเพื่อผ่านต.ม.ขาออกโมรอคโค ผ่านการ scan กระเป๋า แล้วมุ่งหน้าสู่การตรวจคนเข้า-ออก เมือง ต่อคิวเข้าแถวเรียงหนึ่งเลยค่ะ มีปัญหาอะไรจะได้รู้ว่ามาด้วยกัน แล้วปัญหาที่ไม่น่าเกิดก็เกิดขึ้นจริงๆ ต.ม. คืน passport มาค่ะ ไม่รับ ไม่ตรวจ บอกแต่ว่าให้ไปหาตำรวจข้างล่างอย่างเดียว    la policia la policia เฮ้อ ต้องลากกระเป๋ากันออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ กว่าจะถามทางไปหาตำรวจ กว่าจะรอคุณตำรวจเข้างาน พอเจอคุณตำรวจแล้วคุณตำรวจก็ตรวจหารายชื่อประเทศไทยกับเอกสารของเขา (เข้าใจว่าตรวจว่าอยู่ใน black list รึเปล่า) พอเห็นว่าไม่มีอะไร ก็ให้เดินตามเขาขึ้นไปเคลียร์ต.ม. ให้ค่ะ (ระหว่างนั้นเพื่อนต้องรีบวิ่งเอาตั๋วที่ซื้อไว้ไปเปลี่ยนเป็นตั๋วตัวจริง พึ่งรู้กันค่ะว่าตั๋วต้องเปลี่ยนเป็นตัวจริงที่บู๊ทขายตั๋วใน port อีกครั้งก่อน) พอตำรวจขึ้นไปเคลียร์กับ ต.ม. ให้ก็หมดปัญหาหายห่วงค่ะเดินทางไปขึ้นเรือได้เลย ส่วน ต.ม. ขาเข้าสเปนนั้นเมื่อลงเรือก็ผ่านการตรวจเรียงหนึ่งค่ะ ไม่มีอะไรมาก ถามแค่อยู่กี่วัน พักที่ไหน (ต.ม. ฝั่งสเปนหล่อม๊ากค๊า 555)



Granada เมืองกรานาดา ประโยคเก๋ๆ จากหนังสือ>>> You can’t help falling in love with Granada เมืองนี้อยู่ใต้เทือกเขา หิมะ Sierra Nevada  เห็นได้ในหลายๆมุมของเมืองแม้กระทั่งสถานีรถไฟ ยิ่งมองจากจุดชมวิว Mirador de San Nicolas ย่าน Albayzin ยิ่งสวยเพราะจะเห็นวิว Alhambra เคียงคู่กับ Sierra Nevada เลยทีเดียว ที่จุดชมวิวที่ Mirador San Nicolas นั้นเราปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มมาแล้ว พวกเรานั่ง taxi จากพระราชวังอัลฮัมบลาไปจุดชมวิว ด้วยความงก เราจึงคิดว่าจากจุดชมวิวนี้เราน่าจะนั่ง taxi คันเดิมไปต่อย่านยิว Albayzin เพื่อจะได้ไม่ต้องกดมิเตอร์ใหม่ คิดตั้งนานภาษาสเปนให้รอ 5 นาทีจะบอกว่าอย่างไร งัดเอาภาษาสเปนแบบงูๆปลาๆมาใช้ (ยังแอบผัน verb ให้ถูกประธานตามหลักไวยกรณ์ )  พี่คนขับหันมามองแบบงงตาแตกเลย ไม่ได้งงภาษาสเปนหรอกนะ แต่พี่เขางงที่ว่า  ที่พวกแกเหยียบกันอยู่นี่แหละเขาเรียกว่า  Albayzin  ไม่ต้องถามว่าไปทางไหน มันทั้งภูเขาเลยน้องเอ้ย อ้าวสองที่นี้อยู่ย่านเดียวกันก็ไม่บอก   จากจุดชมวิวเราสามารถเดินชมย่านยิวมาได้เรื่อยๆ เป็นการเดินลงเขา โผล่อีกทีก็กลางใจเมือง

Alhambra: พระราชวัง อัลฮัมบลา ดูรูปที่ไหนก็ไม่สู้ดูของจริง ที่นี่ตอบโจทย์ทั้งหมดของทริปนี้เลยทีเดียว งานเซลิก งานแกะสวยๆ ที่ดูมาในโมรอคโคทั้งหมด พอมันมารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว ยิ่งใหญ่ อลังการ งามหยดเลยทีเดียว 

ข้อมูลการจองตั๋วดูพระราชวังอัลฮัมบรา: ลองดูที่ www.servicaixa.com

จากการที่พระราชวังกำหนดผู้เยี่ยมชมแค่วันละ 6,000 คน และตั๋วก็มักเต็มเร็วด้วย โดยเฉพาะไฮไลท์ส่วนของ Nasrid Palaces ที่ระบุเวลาเริ่มเข้าชมเป็นรอบๆ (การเข้าห้ามเลท แต่เข้าไปแล้วแต่อยู่นานแค่ไหนก็ได้) ขนาดเราจองตั๋วผ่านเวปไซต์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เวลาในหลายๆรอบยังถูกจองเต็มเลย เราจองผ่าน serviCaixa ค่ะที่ราคา 14.ยูโร เข้าชมทั้ง Alhambra และ Generalife  จองโดยตัดบัตรเครดิตได้ใบจองมาซึ่งจะระบุเวลาการเข้าชม Nasrid Palaces ไว้ แนะนำให้เลือกเวลาช่วงเช้านะคะ แดดสวย ไม่ร้อนมากค่ะ ที่นี่ใช้เวลาดูนานค่ะถ้าเตรียมอาหารง่ายๆ เช่น แซนด์วิช เข้าไปไว้ทานตอนเที่ยงด้วยก็ดี

เวลาไปถึง Alhambra ในส่วนที่ขายตั๋วเข้า Alhambra ให้หาตู้ serviCaixa สีเหลืองสด สอดบัตรเครดิตใบที่ใช้จองเข้าไปทำตามขั้นตอนที่เครื่องบอกแล้วปริ้นต์ตั๋วออกมาได้เลยนะคะ


Seville เมืองเซบีย่า an impossibly sexy and intoxicating city เยือนถิ่นนี้ต้องไม่พลาด การสู้วัวและฟลามิงโก้ เรามาเมืองนี้เมื่อใกล้เทศกาล Feria de Abril (April’ fairs) เข้ามาทุกที ผู้คนต่างออกมาจับจ่ายใช้สอยข้าวของเครื่องแต่งตัวกันแน่นขนัด ผู้หญิงเมืองนี้แต่งตัวที จัดหนักและไม่แคร์สื่อเลยจริงๆค่ะ ตามถนนนี้ยังเห็น กระโปรงซ้อนกลีบหลายชั้น ดอกไม้ติดผมใหญ่บิ๊กบึ้มเกลื่อนเมืองเลย



Cordoba: เมืองโครโดบ้า เมืองเล็กน่ารัก โดยเฉพาะย่านยิวที่ประดับดอกไม้สีสดเต็มไปหมด ยิ่ง Calleja de las floras หรือตรอกดอกไม้ด้วยนั้นยิ่งไปกันใหญ่ เข้าซอกเล็กออกซอกน้อย เราหลงในเมืองเล็กๆนี้ถึงบ่ายคล้อยก่อนจะตัดใจอำลามุ่งหน้าสู่เมดริด (Cordoba สามารถเที่ยวเป็น one day trip ได้นะคะ ที่สถานีรถไฟมีที่ฝากกระเป๋า ราคาตามขนาด locker --- รู้สึกเราจะจ่ายไปที่ 6 ยูโรสำหรับตู้ใส่กระเป๋าล้อลากขนาด 18 นิ้ว 2 ใบ )




Madrid: เมืองเมดริด เมืองหลวงของสเปน เมืองนี้ต้อนรับเราด้วยการหลงอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินจนเหนื่อยทีเดียว( บ้านนอกเข้ากรุงก็อย่างนี้แหละค่ะ คนเยอะ ตื่นตาตื่นใจ แล้วทำมึน ) แต่คนสเปนใจดีค่ะ หนทางอยู่ที่ปาก หลงแล้วให้ถาม สนุกดี 





 

Create Date : 17 พฤษภาคม 2555
4 comments
Last Update : 17 พฤษภาคม 2555 22:31:04 น.
Counter : 3199 Pageviews.

 

มาเที่ยวด้วยคนค่ะ

ดีจังเลย เที่ยวตอนอากาศดีๆ ดอกไม้สวยๆ มีความสุขจริงๆค่ะ ^^

รูปสวย น่าเที่ยวมากๆค่ะ

 

โดย: Panino 18 พฤษภาคม 2555 4:28:37 น.  

 

ถูกใจ Review นี้มากๆ ค่ะ อยากรบกวน ขอ ถาม เรื่อง Private Tour ติดต่อ ที่ไหน อย่างไร ราคาเท่าไร คิดว่า จะไปตามเส้นทางนี้เลยค่ะ จะไป เมษ57 นี้ละค่ะ เดินทางแค่ 2 คน รบกวนด้วยนะคะ

dr_asireearts@yahoo.com


 

โดย: ARTS IP: 110.171.64.227 25 มกราคม 2557 11:19:11 น.  

 

-ค่าทัวร์ Sahara Excursion 3 วัน 2 คืน 210 ยูโร(ประมาณ 8,600 บาทต่อคน)รวมค่ารถ ค่าอาหารเช้าและเย็น โรงแรม 1 คืนในหุบเขาดาเดส และค่าขี่อูฐพร้อมแคมป์ปิ้ง 1 คืน อาหารกลางวันจ่ายเองนะคะ (ทิป>>>ขึ้นกับความพอใจนะคะ พลขับคนนี้นิสัยดีค่ะ เราเลยทิปไป 50 ยูโร) จองผ่าน Riad Layla Rouge


-เมืองมาราเคช เราเลือกพักกับ Riad Layla Rouge ริยาดกลางซุคในเมืองมาราเคช ห้องคู่คืนละ 35 ยูโรรวมอาหารเช้า จองผ่าน //www.hostelworld.com (ถ้าจองตรงกับโรงแรมจะเสียค่าใช้จ่ายแพงกว่า ห้องละ 40 ยูโร แต่ไม่ต้องวางมัดจำ) โรงแรมโลเคชั่นดีมากเดินจาก จตุรัส Djemaa el Fna แค่ 5 นาที ห้องพักน่ารัก แต่เตือนไว้ว่าดีไซน์โมรอคโคกิ๊บเก๋ที่ริยาดนี้ทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำไร้ประตูค่ะ แบบว่าเปิดเผยมากกก ที่นี่บริการดีมากค่ะ ชา มินท์ อร่อยทีเดียว เราฝากเขาจอง private tourสำหรับเราสี่คน คนละ 210 ยูโร หลังจากที่หลายเจ้าโขกราคามาที่ 400-500 ยูโร ต่อคน

Riad Layla Rouge

Address: Rue el Ksour Derb Rokni, 23Marrakech Morocco

www.laylarouge.com email: contact@laylarouge.com

 

โดย: athorizon 26 มกราคม 2557 5:46:54 น.  

 

อยากไปมากๆเลยครับ พอจะมีแพลนทำไว้บ้างมั้ยครับ
รบกวนขอมาดูเป็น ไอเดีย ได้มั้ยครับ smaulf_jazz_and_more@hotmai.com
ขอบคุณมากๆครับ รบกวน จริงๆครับ

 

โดย: jazz IP: 171.100.103.71 14 พฤษภาคม 2558 0:08:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

athorizon
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




เสี้ยวหนึ่งของ "คนล่าฝัน"

" ชีวิตมีอะไรตั้งเยอะแยะ
มีเกิดแก่เจ็บตายคล้ายๆ กัน
แต่สิ่งที่มีไม่เหมือนคือความฝัน
อยู่ที่ใครจะล่ามันให้อยู่มือ..........

.....แผ่นฟ้ากว้าง เขาสูงใหญ่ยังเคยข้าม
ฝันงดงามถามหน่อยเคยข้ามไหม
ไปยังฝั่งที่ตั้งฝันอันแสนไกล
แต่สุดท้ายก็ได้ฝันนั้นมาครอง"
New Comments
[Add athorizon's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com