แสนสิริเชื่อกำลังซื้อฟื้น เดินหน้าเปิดขายคอนโด 8 โครงการ ค่ากว่า 1.7 หมื่นล้าน

แสนสิริเชื่อกำลังซื้อฟื้น เดินหน้าเปิดขายคอนโด 8 โครงการ ค่ากว่า 1.7 หมื่นล้าน

//www.manager.co.th/asp-bin/mgrview.aspx?NewsID=9570000080488

“แสนสิริ” มั่นใจตลาดคอนโดฯ ฟื้น หลังกำลังซื้ออั้นมากว่า 8 เดือน ลุยเปิด 8 โครงการ มูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปี พร้อมเร่งระบายสต๊อกเก่า 8,000 ล้านบาท ล่าสุด ขน “เดอะเบส” เกือบ 500 ยูนิต จัดงาน “THE BASE Move in now collection” อัดโปรโมชันพิเศษตลอดเดือน ส.ค.57 ยังมั่นใจรายได้คอนโดฯ ตามเป้า 18,000 ล้านบาท แม้ 6 เดือนทำได้แค่ 4,500 ล้านบาท ฟุ้ง Backlog ในครึ่งปีหลังกว่า 10,000 ล้านบาท

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ตลาดคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ชะลอตัวลงทั้งดีมานด์ และซัปพลายใหม่ โดยพบว่า มีคอนโดฯ เปิดขายใหม่ในครึ่งปีแรกจำนวน 30,939 ยูนิต ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24% จาก 40,082 ยูนิต

       ขณะที่ดีมานด์ (ยอดซื้อ) ในช่วง 6 เดือนแรกปี 57 พบว่า มีจำนวน 27,327 ยูนิต จากจำนวนซัปพลาย 70,941 ยูนิต หรือมีอัตราการขายที่ 39% ซึ่งปรับตัวลดลง 30% เทียบกับ 6 เดือนแรกปี 56 ที่มีดีมานด์ จำนวน 39,308 ยูนิต จากจำนวนซัปพลาย 75,161 ยูนิต หรือมีอัตราการขาย 52% ขณะที่ครึ่งปีหลัง 56 มีดีมานด์ 37,967 ยูนิต จากจำนวนซัปพลาย 79,829 ยูนิต หรือมีอัตราการขาย 48%

       จากตัวเลขดังกล่าวประเมินว่า มีสต๊อกคอนโดฯ คงเหลือในตลาดประมาณ 42,000 ยูนิต ซึ่งถือว่าไม่น่ากังวลเกี่ยวกับภาวะคอนโดฯ ล้นตลาด เพราะผู้ประกอบการต่างปรับตัวเองได้ทันท่วงที ด้วยการชะลอการเปิดโครงการใหม่ จึงมีผลทำให้ความต้องการซื้อกับความต้องการขายอยู่ใกล้เคียงกัน หรือมีช่องว่างเพียง 10,000 กว่ายูนิตเท่านั้น

       จำนวนซัปพลาย 70,941 ยูนิตในครึ่งปีแรก พบว่า ราคาต่ำกว่า 50,000 บาท/ตร.ม. มีจำนวนซัปพลาย 19,251 ยูนิต มีอัตราการขาย 46%, ระดับราคา 50,000-69,999 บาท/ตร.ม. จำนวน 20,822 ยูนิต อัตราการขาย 43%, 70,000-99,999 บาท/ตร.ม. จำนวน 20,242 ยูนิต อัตราการขาย 33%, ระดับราคา 100,000-199,999 บาท/ตร.ม. มีจำนวน 9,641 ยูนิต อัตราการขาย 29% และมากกว่า 199,999 บาท/ตร.ม. สะท้อนให้เห็นว่าคอนโดฯ ราคาไม่เกิน 100,000 บาท/ตร.ม. มีความต้องการมากที่สุด

       ส่วนราคาคอนโดฯ พบว่า ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 55 ราคาคอนโดฯ ปรับ 5% เมื่อเทียบกับปี 54 และปรับขึ้นอีก 10% ในปี 56 เนื่องจากการปรับขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท และต้นทุนวัสดุก่อสร้าง ขณะที่ปี 57 ปรับขึ้น 5% จากปี 56 โดยคอนโดฯ ในตลาดมีราคาเฉลี่ย 90,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งในอนาคตผู้บริโภคจะหันมาซื้อคอนโดฯ ตามแนวรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากต้นทุนค่าก่อสร้าง และที่ดินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะทำให้บ้านแนวราบใกล้เมืองจะยิ่งแพงขึ้น หรือหากซื้อในราคาถูกก็จะต้องอยู่ห่างไกลออกไป ซึ่งก็ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่มมากขึ้น กดดันให้คนหันมาซื้อคอนโดฯ ในเมืองอยู่อาศัยแทน

       สำหรับตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง เชื่อว่าผู้ประกอบการเริ่มมีความเชื่อมั่นในการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น หลังจากที่มีการชะลอตัวในครึ่งปีแรก ส่งผลให้ดีมานด์ในตลาดคอนโดฯ เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการในแนวรถไฟฟ้า ขณะที่อุปสงค์ของคอนโดฯ ก็สูงขึ้นเช่นกัน เพราะผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในสถานการณ์การเมือง และเศรษฐกิจ และมีการตัดสินใจในการซื้อที่อยู่อาศัยได้เร็วขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความต้องการซื้อคงค้างจากช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556-มิถุนายน 2557

       ส่วนแผนการดำเนินงานของบริษัทช่วงครึ่งปีหลังนี้จะพัฒนาคอนโดฯ 8 โครงการ รวมมูลค่า 17,735 ล้านบาท จากแผนทั้งปีเปิด 9 โครงการ หลังจากครึ่งปีแรกเปิดไปได้เพียง 1 โครงการ มูลค่า 3,000 ล้านบาท แต่จากนี้ไปมองว่า สถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้น ทั้งการเมือง และเศรษฐกิจ ที่จะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น

       สำหรับ 8 โครงการที่จะเปิดในครึ่งปีหลัง แบ่งเป็นโครงการเดอะเบส 3 โครงการ ราคาเฉลี่ย ตร.ม.ละ 80,000 บาท, ดีคอนโด 4 โครงการ ราคา ตร.ม.ละ 60,000-70,000 บาท ที่เหลือเป็นแบรนด์ใหม่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบีบวกขึ้นไป หรือราคาเฉลี่ย ตร.ม.ละ 80,000-120,000 บาท โดยทุกโครงการจะต้องผ่านการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ก่อนจึงจะเปิดขาย และก่อสร้าง ขณะนี้ผ่าน EIA แล้ว 2 โครงการ

       ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมียอดขายคอนโดฯ กว่า 4,000 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 16,000 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 4,500 ล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปี 18,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีมี Backlog รอโอนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้

       ปัจจุบัน บริษัทมีสต๊อกคอนโดฯ รอขายอยู่ประมาณ 2,000 ยูนิต มูลค่า 8,000 ล้านบาท จาก 30 โครงการที่เปิดขาย ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะนำมาจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้นำ 4 โครงการคอนโดฯ จัดแคมเปญ “THE BASE move in now collection” รวม 500 ยูนิต มูลค่าประมาณ เกือบ 1,000 ล้านบาท รับวงเงินกู้สูงสุดพร้อมดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน และเฟอร์นิเจอร์ แพกเกจ คอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท ซึ่งจะจัดขึ้นในคอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ เบส ทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต ได้แก่ เดอะ เบส พระราม 9-รามคำแหง, เดอะ เบส แจ้งวัฒนะ, เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์-ภูเก็ต และเดอะ เบส อัพทาวน์-ภูเก็ต ในช่วงระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2557 นี้

Create Date : 02 ธันวาคม 2557

0 comments

Last Update : 2 ธันวาคม 2557 17:45:44 น.

Counter : 774 Pageviews.

ชื่อ :

Comment :

*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก