<<
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
15 มิถุนายน 2558

อิสลาม กับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่น่าทึ่ง


วันนี้จะขอพูดเพียง 3 เรื่อง

1
น้ำจืด-เค็ม และทะเล
2 คลื่นใต้ทะเล
3 ภูเขาที่เป็นเหมือนหมุด


1. น้ำจืด-เค็ม และทะเล ในกุรอาน :



จับประเด็น | " ...และพระองค์คือผู้ทรงทำให้น้ำทั้งสองบรรจบกัน อันหนึ่งจืดสนิท และอันหนึ่งเค็มจัด และทรงทำที่คั่นระหว่างมันทั้งสองกั้นขวางอย่างแน่นหนา " (อัล-ฟุรกอน 53) / โองการเมื่อฟังดูเผินๆอาจจะเป็นประโยคธรรมดาๆ เพราะใครๆก็พอจะมีสามัญสำนึกได้ ว่าน้ำจืดและเค็มมันต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว มันต้องแยกกันอยู่แล้วสิ , แต่ถ้าจะคุยแบบวิทยาศาสตร์ เราต้องสังเกตุคำว่า "ทรงทำที่คั่นระหว่างมันทั้งสองกั้นขวางอย่างแน่นหนา" แปลว่ามันต้องมี Zone บางอย่างที่กั้นน้ำทั้ง 2 ชนิดอยู่


(อัล-ฟุรกอน 53 ภาษาอาราบิก)
وَهُوَ الَّذِي مَرَجَ الْبَحْرَيْنِ هَٰذَا عَذْبٌ فُرَاتٌ وَهَٰذَا مِلْحٌ أُجَاجٌ وَجَعَلَ بَيْنَهُمَا بَرْزَخًا وَحِجْرًا مَّحْجُورًا




++


และในยุคสมัยใหม่นั้น มนุษย์ก็ได้รู้จักโซนที่ว่านี้ , คือมันไม่ใช่น้ำที่จืดสนิท แต่มันเป็นน้ำที่เค็มน้อยลงๆๆๆ และพอถึงจุดหนึ่งมันก็หยุดเค็มในแบบทันที และกลายเป็นจืดสนิทไปเรื่อยๆ ... และยังไม่พอ ยังมีอีกโองการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกัน
"พระองค์ทำให้น่านน้ำทั้งสองบรรจบกัน ระหว่างมันทั้งสองถูกกีดขวางและมันจะไม่ล้ำเขต(transgress)ต่อกัน ดังนั้นด้วยบุญคุณอันใดเล่าแห่งพระเจ้าของเจ้าทั้งสอง(ญินและมนุษย์) ที่เจ้าทั้งสองปฏิเสธ? (อัร-เราะห์มาน 19-21)
- รายละเอียดทางวิทยาศาสตร์//kanat.jsc.vsc.edu/student/spatafora/setup.htm

(อัร-เราะห์มาน 19-20)
مَرَجَ الْبَحْرَيْنِ يَلْتَقِيَانِ
بَيْنَهُمَا بَرْزَخٌ لَّا يَبْغِيَانِ





.....


ผมเองก็เพิ่งศึกษาเรื่องนี้ครั้งแรก ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน , เท่าที่เข้าใจคือ น้ำทะเลแต่ละมหาสมุทร(น่านน้ำ)มันจะไม่ผสมกันเป็นเนื้อเดียว แม้ว่ามันจะอยู่ติดกันก็ตามที ด้วยกับความหนาแน่นที่ต่างกัน ดังนั้นมันจึงมีเขตของมันซ้อนอยู่ โดยที่เรามองไม่เห็น แม้จะเจอพายุ เจอคลื่น เจอปลาที่ว่ายวนมานานนับพันล้านปี มันก็ไม่ผสมกัน , และสังเกตุว่าคราวนี้กรุอานไม่ได้พูดถึงโซนกั้น แต่พูดแค่ว่ามันจะไม่ล้ำเขตกัน , ต่างกับโองการข้างบนที่พูดถึงน้ำจืด-น้ำเค็ม ว่ามันต้องมีโซนกัน น่าทึ่งจริงๆ - รายละเอียดhttps://www.pinterest.com/mgds1998/marine-science/


++
เท่าที่ผมรู้มา นบีมูฮัมหมัดไม่เคยออกเรือนะ (เออ ถึงจะเคยออก ก็จะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง) ผมนี้เรียนทั้งวิทย์ เคยนั่งเรืออะไรต่ออะไร ก็ยังไม่รู้เลย ... และเรื่องแบบนี้ไม่ได้โผล่มาแค่ 2-3 โองการ แต่โผล่มาเพี้ยบ และเป็นการโผล่มา"แบบมีจุดประสงค์" , คือต้องเข้าใจก่อนว่ากรุอานไม่ใช้หนังสือวิชาการที่จะมาสอนวิทยศาสตร์ให้สาวก แต่เป็นคัมภีร์ของการตักเตือนและประกาศถึงคำสั่งของพระเจ้า

.....


อย่างไรก็ตาม กุรอานมีหลายบทบาท ได้แก่ 1) สำหรับผู้ศรัทธา กุรอานจะมีโองการที่เป็นคำสั่ง-ใช้ให้ทำนู้น ห้ามทำนี้ 2) สำหรับมนุษย์ชาติทั้งหลาย กุรอ่านจะมีโองการที่ให้แง่คิด ที่ทำให้เกิดการใคร่ครวญพิจารณา ... และ 3) สำหรับผู้ปฏิเสธ กุรอ่านจะ"ท้าทาย" ด้วยความรู้อนาคตบ้าง วิทยาศาสตร์บ้าง ที่จะถูกพิสูจน์เรื่อยๆจนถึงวันสิ้นโลก

**
กรุอานจะกล่าวเปิดประโยคแตกต่างกันไป 
โดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของโองการนั้นๆได้แก่
1 โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย [ ยา อัยยุฮัลละซีนะอามะนู ]
2 โอ้ มนุษย์ชาติทั้งหลาย [ยา อัยยูฮันนาซ]
3 โอ้ บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเอ๋ย [ยา อัยยุฮัลกาฟิรูน]

....

แต่ก็อาจจะมีคำโต้แย้งอีก เช่น เออ นายมูฮัมหมัดมันรู้จริงๆ แต่ก็อาจจะเป็นซาตาน หรืออำนาจมืดสักอย่างที่เป็นคนมาบอกเขา เพราะซาตานก็ต้องมีความรู้เยอะ ... แล้วที่นี้จะว่ายังไง -- อย่างที่ผมย้ำครับ มนุษย์เกิดมาก็เพื่อแสวงหา-พิสูจน์-ค้นพบความจริง , อาจจะมีใครบางคน หรือคนบางกลุ่ม ที่บอกให้ท่านใช้ชีวิตด้วยกับความฝัน มันอาจมีบางคนสอนท่านให้อยู่กับความสุขในทุกๆเวลา และบางคนในหมู่พวกท่านก็อาจจะมีชีวิตเช่นนั้นได้ จนกระทั่งตายจากโลกนี้ไป ... แต่ผมขอบอกท่านว่า แน่นอน มันมีบางสิ่งกำลังมา , บางสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราทุกคน บางสิ่งที่เราไม่อาจรู้ได้ ด้วยกับภาพตรงหน้า ไม่อาจลิ้มรสหรือได้รับสัมผัส และเมื่อมันมาถึง พวกท่านจะตระหนักว่าความเสี่ยงนั้นเป็นอันตรายแค่ไหน ,


-----------------------------------


" ... และโดยแน่นอน เราได้ชี้แจงมัน(อัลกุรอาน) ระหว่างพวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้พิจารณา แต่ส่วนมากของมนุษย์ไม่ยอมรับนอกจากการดื้อดึงและปฏิเสธ และหากเราประสงค์ แน่นอนเราก็จะส่งผู้ตักเตือนไปยังทุก ๆ เมือง ดังนั้นเจ้าอย่าเชื่อฟังพวกปฏิเสธศรัทธา และจงต่อสู้ดิ้นรนกับพวกเขาด้วยอัลกุรอานนี้ ด้วยการต่อสู้ดิ้นรนอันยิ่งใหญ่ (อัล-ฟุรกอน 50-52)

------------------------------------


-----------------------------------------------------------------------------

2 คลื่นซ้อนคลื่น & ความมืดในทะล :

" หรือเปรียบเสมือนความมืดทั้งหลายในท้องทะเลลึก
มีคลื่นซ้อนคลื่นท่วมมิดตัวเขา
และเบื้องบนของมันก็มีเมฆหนาทึบซ้อนกันชั้นแล้วชั้นเล่า
เมื่อเขาเอามือของเขาออกมาเขาแทบจะมองไม่เห็นมัน
และผู้ใดที่อัลลอฮ์ไม่ทรงทำให้เขาได้รับแสงสว่าง
 เขาก็จะไม่ได้รับแสงสว่างเลย "
[ อัน นูร 40 ]




... อายะห์นี้ฟังเผินๆก็เหมือนจะไม่มีอไร แต่ทว่าต้องใคร่ครวญ , ประเด็นแรกคือ "คลื่นซ้อนคลื่น" , เรื่องนี้ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน(ผมไม่มีความรู้ทางธรณีวิทยา) ปรากฎว่าใต้ทะเลนั้นมันมีคลื่นที่อยู่ใต้คลื่นจริงๆ และอยู่ลึกลงไป

-----------------------

ภาพเคลื่อนไหวของคลื่นซ้อนคลื่น //www.es.flinders.edu.au/~mattom/IntroOc/notes/figures/animations/fig10a7c.html

++
ประเด็นที่ 2 "ความมืดในทะเล" 
เมื่อแสงอาทิตย์ส่องไปในทะเลนั้น มันจะเกิดการสะท้อน หักเห และถูกดูดซับไป จนกระทั้งความลึกที่ระดับ 200 เมตร จะเหลือแต่แสงสีฟ้า ... ที่ 1 กิโลเมตรจะมืดจนมองรอบๆตัวไม่เห็น (ลองเสริจดู เรื่องเรือดำน้ำของเจมส์ คาเมรอน) ,




 อย่างไรก็ตาม กุรอานพูดถึงคนที่จมน้ำลึกอยู่ใต้คลื่นซ้อนคลื่น และเอื้อมมือออกไปก็ไม่เห็นมือตัวเอง(แสดงว่าลึกมาก) สิ่งนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่ปกติ เพราะเมื่อปี 2010 มนุษย์เพิ่งทำลายสถิติการดำน้ำที่ 100 เมตรเอง , จะคิดว่านบีมูฮัมหมัดเป็นนักดำน้ำกระนั้นหรือ ? ---  อะ ยังให้โอกาสแก่ผู้ปฏิเสธ บางคนบอกผีห่า-ซาตาน ได้พามูฮัมหมัดลงไป มันถึงได้รู้อะไรแบบนี้ , งั้นคงต้องมาว่ากันด้วยบททางสังคมศาสตร์ ศีลธรรม กันอีกที

 - คนปกติไม่มีเครื่องมือช่วย ดำน้ำได้ตื้นเพียง 100 เมตร 
Free Diving World Record Broken: 100 Meters Under the Sea

-แสงในทะเล



------------------------------------------------------------------------------

3 [ เพิ่งรู้ ] ธรณีศึกษาในกุรอาน :


เรามิได้ทำให้แผ่นดินเป็นพื้นราบหรอกหรือ ?
และมิได้ให้เทือกเขาเป็นหมุดปักตรึงไว้หรอกหรือ ?

( อัน นะบะอ์ 7-8 )


أَلَمْ نَجْعَلِ الْأَرْضَ مِهَادًا
وَالْجِبَالَ أَوْتَادًا




++
ความรู้เรื่องสัญฐานของภูเขานั้น ค้นพบในรอบ 100 ปีนี่เอง , แต่กรุอานพูดว่าภูเขาเป็นการปักหมุดไว้ 1.4 พันปีแล้ว , อย่าว่าถึงนั้นเลย มีพวกนักศึกษาที่เคยโจมตีอิสลาม เอาโองการนี้ไปตั้งกระทู้ในเว็บวิชาการ.คอม เมื่อหลายปีแล้ว โดยเขาคงเพิ่งเรียนธรณีวิทยามาใหม่ๆ เลยอ้างว่า "ภูเขาเกิดจากการยกตัว" ดังนั้น พระเจ้าบอกว่าภูเขาเป็นการปักหมุดนั้นมั่ว , แต่ปรากฎว่าพอเจอหลักฐานเข้าไปก็เงียบเลย


**
ปล. ผมก็เพิ่งรู้วันนี้แหละ ที่ว่าภูเขามีรากเป็นหมุด
นี่อุตส่าห์แปลภาษาอาหรับจากกูเกิ้ลเลย เดี๋ยวจะหาว่าเป็นการแปลความของอิสลามฝ่ายเดียว (กูเกิ้ลเป็นของยิว ศัตรูอิสลาม) และเพิ่มเติมอีกอย่าง คือ การที่ภูเขามีสัญฐานแบบนี้เอง จึงเป็นการลดแรงสั่นของแผ่นดินไหวไม่ให้กระจายไปทั้งพื้นทวีป , เพราะถ้าแผ่นเปลือกโลกเรียบเท่ากันหมดเลย แผ่นดินไหวจากเนปาล ก็จะสะเทือนไปทั้งแผ่นดินจีน


-------------


จริงๆมีอีกหลายเรื่องที่น่าทึ่ง เช่นขั้นตอนในครรภ์มารดา , จักรวาลแรกๆเป็นกลุ่มหมอก , เรื่องน้ำจืด-น้ำเค็ม , กลางวันกับกลางคืนม้วนรอบโลกเหมือนผ้าสาราบัน , เหล็กไม่ได้เกิดในโลกแต่ถูกส่งมาทีหลัง ฯลฯ ...แต่ผมต้องวิจัยให้ชัดก่อน ถึงค่อยเอามาเสนอ *** แต่ประเด็นสำคัญที่สุดคือ ถ้ากรุอานสามารถพูดเรื่องนี้ได้ถูกต้องหมดแบบ 100% ก็แปลว่าเรื่องชีวิตหลังความตาย เรื่องการทดสอบ-การพิพากษาของพระองค์ ก็มีโอกาสสูงมากที่น่าจะถูกต้องด้วย / เพลาๆเรื่องทำบาปต่างๆ เรื่องกราบไหว้บูชาอะไรมั่วซั่วหน่อยก็ดีนะครับ


บทความอื่นๆ
อิสลามอธิบายว่านุษย์ถูกสร้างมาจากอะไร (บ้าง) ? :
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=apirat&month=15-06-2015&group=1&gblog=103

อธิบายพระเจ้า ด้วยตรรกะอย่างง่าย 
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=apirat&month=15-06-2015&group=1&gblog=104




Create Date : 15 มิถุนายน 2558
Last Update : 15 มิถุนายน 2558 20:46:28 น. 0 comments
Counter : 2364 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1085247
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 1085247's blog to your web]