Shinkansen.. รถไฟด่วนในดวงใจของคนตัวเล็ก
ตามบล็อกที่แล้วมาติดๆ(รึ?) อย่างที่เกริ่นคราวที่แล้วไว้ว่ากิจกรรมยามปิดเทอมภาคฤดูร้อนของเจ้าตัวเล็กเขาวางโครงการไว้สองเรื่องใหญ่ๆ คือเป็นเจ้าของเกม Nintendo 3DS และไปนั่งชินคันเซ็น ซึ่งอันแรกก็เล่าไปในบล็อกที่แล้ว
ตอนเรียนชั้นประถมทางร.ร.จะให้เด็กๆฝึกคิดและตั้งความหวัง..ความฝัน ในอนาคตของตนไว้ว่าโตขึ้นหนูอยากจะเป็นอะไร อยากจะทำอะไร และคำตอบที่เจ้าตัวเล็กตอบเสมอมาโดยยังไม่เปลี่ยนแปลงแม้กระทั่งปัจจุบันนี้ก็ืคือ.. คนขับรถไฟชินคันเซ็น..
หะแรกแม่มันกุมขมับ ลูกเอ๋ย.. จะหวังให้เริ่ดกว่านี้ซักหน่อยก็ไม่ได้ แต่พ่อมันสวนกลับว่า เงินเดือนคนขับชินคันเซ็นน่ะไม่ใช่ขี้ๆนะจ๊ะเธอว์.. งั้นฝันต่อไปเถอะค่ะลูกกก..
ด้วยความที่คลั่งไคล้ในชินคันเซ็นมาแต่เล็ก จำได้เกือบหมดละมั้งว่าขบวนไหนชื่ออะไรแล่นจากไหนไปไหนด้วยความเร็วเท่าไหร่(ตอนสอบที่ร.ร.ขอให้มันจำบทเรียนได้แม่นอย่างนี้ทีเทิ้ดดด เจ้าประคู้ณณณ) ก็เป็นธรรมดาที่อยากจะไปนั่งให้เป็นขวัญก้น
ตอนป้าโซมาเยือนญี่ปุ่นครั้งแรกได้นั่งชินคันเซ็นจากโอซาก้ามาลงฟุกุโอกะ แล้วก็ได้นั่งในการเยือนครั้งต่อๆมาอีกสองสามครั้ง แต่เป็นการนั่งที่ไม่ได้รู้สึกว่ามันวิเศษวิโสอะไรด้วยความโง่เง่าเต่าตุ่น.. ไม่เคยศึกษาอะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่น เลยไม่รู้ว่าอย่างไหนที่ควรอื้อหืออื้อหา อย่างไหนที่เค้ามีเด่นๆในระดับโลกบ้าง ก็นั่งไปงั้นเหมือนนั่งรถไฟธรรมดา รู้แต่ว่ามันนิ่มดี แถมระหว่างทางก็เร็วจัด ลอดอุโมงค์ซะก็เยอะแล้วช่วงที่ลอดอุโมงค์เนี่ยนะ สองข้างทางมันก็จะมืดเห็นแต่ผนังอุโมงค์ ลุงก็อธิบายอยู่หรอกว่าช่วงนี้กำลังลอดผ่านใต้ทะเลนะ หือม์ .. จริงอ้ะ ภาวนาสิ อย่าให้่ท่ออุโมงค์มันแตกตอนนี้เลยนะคะพระคุณเจ้า แต่พอนั่งไปเพลินๆแล้วมันก็ง่วงงับหลับไป เพราะงั้นประสบการณ์นั่งชินคันเซ็นสำหรับป้าโซคือ อืมม์..หลับสบายดี นิ่มตรูด อ้อๆๆ จำได้หน่อยว่าดูตื่นตาตื่นใจก็คือตู้เสบียงเค้าที่จัดเป็นคอฟฟี่ช็อพเล็กๆ ที่ไม่เคยเห็นมีในรถไฟบ้านเรา
นั่นมันก็สิบกว่าปีมาแล้ว .. ทีนี้คนตัวเล็กเขาก็ถามว่าแล้วเขาได้เคยนั่งหรือเปล่าล่ะ? ไม่เคยจ้ะ เพราะสูเจ้ายังเป็นวุ้นอยู่เลย เจ้าพี่ชายต่างหากเคยอุ้มกระเตงไปนั่งกันมาแล้ว รวมทั้งคุณยายด้วยตอนมาเยือนญี่ปุ่นตามกำหนดพักร้อนของลุงสมัยที่ยังทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ
เป็นเรื่องสิ.. บ่นมันอยู่นั่นแล้วว่าเค้าเสียเปรียบ เพราะทุกคนในครอบครัวได้นั่งชินคันเซ็นกันหมดแล้ว เหลือเค้าคนเดียว ไม่ได้ ไม่ยอม บลาๆๆ.. เออ บ่นได้บ่นไป "เอาไว้เท็ตซึโตทำงานแล้วก็ได้นั่งเองแหละลูก" แม่มันปลอบ .. "โฮ้ยยย แม่.. ใจคอจะให้รอจนโตทำงานเลยรึไง?" ลูกมันสวน
ว่าแล้วเจ้าตัวก็ทำความฝันให้เป็นจริง และก็บังเอิญมีโอกาสให้เค้าทำได้ด้วยเนื่องจากชินคันเซ็นที่แต่เดิมแล่นมาสุดทางที่สถานีฮะกะตะ ตัวจังหวัดฟุกุโอกะเท่านั้น บัดนี้ได้ขยายเส้นทางมาจนถึงคะโกะชิม่าซึ่งเป็นจังหวัดใต้สุดบนเกาะคิวชู คิวชูชินคันเซ็นมีกำหนดการทำพิธีเปิดใ้ช้งานในวันที่ 12 มีนาคม 2011 แต่ต้องระงับพิธีเฉลิมฉลองใดๆทั้งหมดเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและซึนะมิครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ก่อนวันกำหนดการเพียงวันเดียว ..
เมื่อคิวชูชินคันเซ็นแล่นใหม่ๆนั้น พ่อมันก็พาไปดักดูตามที่ต่างๆ ที่เจ๋งสุดก็คือไปที่สถานีฟุนะโกยะ ขึ้นไปยืนที่ชานชาลาเกาะขอบกั้น รู้สึกได้เลยทีเดียวถึงลมที่ผ่านชิ้ววววเวลาที่ชินคันเซ็นแล่นผ่าน นั่นยิ่งก่อให้เกิดประกายความอยากนั่งของเจ้าตัวเล็กขึ้นไปอีก
จนในที่สุดเมื่อวันหยุดช่วงฤดูร้อนมาถึง เ้จ้าตัวก็วางโครงการว่าจะไปนั่งชินคันเซ็นในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม จัดการเช็คราคาโดยเปิดเว็บไซท์หลายๆที่ เพื่อเช็คราคาการเดินทางทั้งหมดของทริปนี้ ซึ่งเจ้าตัวมีโครงการจะนั่งรถไฟธรรมดาไปขึ้นชินคันเซ็นที่ฮะกะตะ แล้วนั่งชินคันเซ็นยาวไปถึงคะโกะชิม่า แต่จากการเช็คราคาทั้งหมดทั้งค่ารถไฟธรรมดาบวกค่ารถไฟชินคันเซ็น สำหรับผู้โดยสารสองคนแล้วสนนราคาตกโดยประมาณห้าหมื่นเยน.. เกือบสองหมื่นบาท ซึ่งสนนราคานี้เจ้าตัวเล็กเต็มใจควักกระเป๋าตัวเองอย่าง..อ้ะ .. เสียดายนิดๆ แต่เพื่อความฝันของตัวก็ยอมทุ่ม แต่.. พ่อมันไม่ให้ทุ่ม
ก็มีอย่างที่ไหน แค่การนั่งรถไฟชม.กว่าๆ ตดไม่ทันหายเหม็น(ตดไอ้ตัวเล็กนะ เพราะกลิ่นรุนแรงที่สุดในบ้าน) ราคาทั้งหมดก็ซื้อตั๋็วไปกลับเมืองไทยได้ที่นึงแล้ว เจ้าตัวเล็กคิดว่าพ่อมันว่าแพงไม่สมควรจ่ายเองขนาดนั้นก็เลยไปปะเหลาะคุณยายว่าให้ช่วยจ่ายใ้ห้ครึ่งนึง คุณยายพร้อมจ่ายเพื่อหลานเลิฟแต่พ่อมันไม่ให้จ่ายเพราะยังไงก็เงินออกจากกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นเงินของใครก็ตาม สวรรค์ดับวูบ..ง้องแง้งว่าเงินก็ของเค้า จะมาบังคับกันได้ยังไง เค้าจะทำยังไงก็เป็นสิทธิ์ของเค้า พ่อมันก็ว่าถึงจะเป็นเงินลูกแต่ยังอยู่ในความดูแลของพ่อแม่อยู่เว้ย จนกว่าสูเจ้าจะเข้าสู่ม.ปลายน่ะแหละ..
และแล้วพ่อมันก็ต้องออกโรงช่วยลูกเช่นเคย ใช่ว่าจะไม่ให้นั่งเลยซะที่ไหน นั่งได้..แต่ปรับเปลี่ยนแผนนิดหน่อยจากระยะทางไกลๆก็ย่นมาให้ใกล้เข้า ค่าเดินทางก็ถูกลง หะแรกไอ้ตัวเล็กเค้าก็รู้แหละว่าถ้าย่นระยะทางซะก็จะถูกราคา แต่ด้วยความงก .. ประมาณอยากนั่งไกลๆให้ชุ่มตรูด จนพ่อมันยันว่าจะนั่งใกล้ๆหรือไม่ได้นั่งเลย จะเอาอย่างไหนขอรับท่่าน? เลยจำยอมตกลง..
พ่อมันเข้าเน็ตมั่ง ได้ข้อมูลมาเจ๋งกว่าลูกว่า ถ้าจองตั๋วชินคันเซ็นทางเน็ตจะราคาถูกกว่า สรุปแล้วเลยนั่งจาก Hakata ถึง Kumamoto ซึ่งสนนราคาที่จองทางเน็ตอยู่ที่่คนละ 3,000 เยนเท่านั้น ราคาเป็นที่ยอมรับได้ เบ็ดเสร็จทริปนี้ค่าเดินทางทั้งหมดรวมค่ารถไฟธรรมดาที่ต้องนั่งไปกลับด้วยอยู่ที่ไม่เกิน 11,000 เยนสำหรับสองคน จากที่เจ้าตัวเล็กเคยคำนวณไว้ที่ 50,000 เยน
ตารางการเดินทางที่จัดทำโดยพ่อมัน ระบุเวลา สถานที่ ราคา เสร็จสรรพ อ้อ..ตกลงว่าต้องเดินทางกันในวันเสาร์ที่ 13 เพราะวันศุกร์ตามหมายกำหนดการแรกของเจ้าตัวเล็ก ตั๋วชินคันเซ็นเต็มค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวเืพื่อไหว้บรรพบุรุษของญี่ปุ่น(คล้ายๆกับเช็งเม้งบ้านเรา) มีคนเดินทางกลับบ้านตจว.กันเยอะ
ตามตารางจะต้องออกจากบ้านไปขึ้นรถไฟที่สถานีหลังบ้าน...ไดเซ็นจิ ที่เวลา 12:16 เพื่อย้อนขึ้นไปที่ฟุกุโอกะ แล้วนั่งรถไฟใต้ดินต่อไปที่สถานีฮะกะตะเพื่อขึ้นชินคันเซ็น ตรงราคา 3,000 เยนนั่นคือช่วงเวลาที่นั่งชินคันเซ็น ตามกำหนดการจะกลับมาถึงบ้านเวลา 17:44 หรือ 18:14 ขึ้นกับว่านั่งรถไฟเที่ยวเวลาไหนกลับ ราคารวมเบ็ดเสร็จในทริปนี้ 5,260 เยน/ 1 คน
เมล์ยืนยันตอบรับจาก JR.. Japan Railway Company ที่เป็นบริษัทชินคันเซ็น พิมพ์เอาติดตัวไปแลกเปลี่ยนตั๋วขึ้นรถไฟที่สถานี ซึ่งการจ่ายเงินได้จ่ายผ่านเน็ตไปเรียบร้อยแล้ว
การเดินทาง หะแรกคนตัวเล็กกะจะลากคุณยายไป แต่คุณยายบอกว่าเอายายไปก็ไม่รู้เรื่องเพราะยายไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น ให้เอานี่จัง(พี่ชาย) หรือแม่ไปด้วยดีกว่า แต่เจ้าพี่ชายเขาต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเลยไปด้วยไม่ได้ ก็เลยหันมาลากแม่มันไป แต่พ่อมันเห็นว่าถึงเอาแม่มันไปก็คงหูหนาตาเล่อ ไม่รู้จักอะไรกับเขาเลยไปซะเอง สรุปทริปนี้เลยหลั่นล้ากันสองคนพ่อลูกโดยมีกล้องของแม่ฝากไปเก็บภาพมาให้แม่อัพบล็อกด้วย
พล่ามมานานแล้ว เริ่มดูรูปกันเลยค่ะ เยอะหน่อยนะคะ ประสาคนไม่เคยนั่งก็ขนถ่ายมาซ้าาา..
เริ่มต้นที่สถานีฮะกะตะ ที่ต้องไปขึ้นชินคันเซ็นที่นี่
ขบวนนี้ืชื่อ Sakura แล่นจาก Shin Osaka มาที่ Kagoshima Chuo
ขบวนนี้ชื่อ Nozomi แล่นจาก Tokyo ถึง Hakata
ขบวนนี้ืคือขบวนที่จะนั่งไปในวันนี้ มีชื่อว่า "Tsubame 351" .. ซึบะเมะ อันแปลว่านกนางแอ่น ประมาณโผผินไปดั่งนกนางแอ่น คำแปลยี่ห้อนกนี่ถูกต้อง เพราะเจ้าตัวเล็กบอกว่าเป็นนกที่อยู่ข้างขวดรังนกที่คุณยายส่งมาไงแม่ เคยสอนไว้ครั้งนึงว่าภาษาไทยเรียกนกนางแอ่นเค้าก็จำได้ ผิดกับแม่มันที่สับอยู่เรื่อยว่านกนางแอ่นหรือนกนางนวล
รูปนี้แม่ขอมา.. แม่กระผมจิตนิดๆ ไปที่ไหนขอให้ได้ถ่ายส้วม นัยว่าจะสามารถบ่งบอกถึงวัฒนธรรมประจำถิ่นนั้นๆได้กระมังครับ กระผมจัดให้..
หน้าส้วม
ในส้วม.. มันไม่ได้กว้างประมาณสนามฟุตบอลจะได้กลับตัวถ่ายรูปได้ถนัดๆ ลำพังแอบเ้ข้าไปถ่ายส้วมนี่ ก็ระดมกำลังใจอยู่นาน เพราะฉะนั้นภาพไหวบ้างก็ขออภัยนะคร้าบบบ
เค้าทำแสงนวลๆไว้ ไม่สว่างมากมายพอจะพินิจสีสันของที่ปล่อยออกไปได้จะแ้จ้งหรอกครับ ห้องน้ำก็คล้ายๆในเครื่องบินแหละครับพี่น้อง
วะ วะ ว้าววว .. ภายในขบวน ที่นั่งทำด้วยไม้ทั้งหมด คลาสสิคซะไม่มีอ้ะ
มีตู้กดน้ำอัตโนมัติด้วย ไอ้ตู้มหัศจรรย์นี่มันตามเราไปในทุกที่ีที่ญี่ปุ่นนี่ ไม่ว่าจะกันดารยังไงแค่ไหน ประมาณถ้าคนญี่ปุ่นไม่ได้กดดื่มนี่จะต้องขาดใจด่าวดิ้น
เราสองคนพ่อลูกได้ที่นั่งตรงนี้ครับ
ความฝันที่เป็นจริง.. นุ่มตรูดมั้ยล่ะลูกกกก?
ม่านกันแดด ทำคล้ายมู่ลี่
ตรงที่วางแขน จะทำเป็นช่องเก็บที่สำหรับวางของเล็กๆซึ่งพับเก็บได้ เหมือนเครื่องบินอีกแหละ
กางออกมาก็เป็นงี้ .. คุ้นๆหน้านายแบบสีฟ้าของเท็ตซึมั้ยคร้าบบบ.. ขี้ใหม่หมาหอม ที่โต๊ะเล็กๆนี่สองคนพ่อลูกใช้หม่ำโอเบนโตที่ซื้อกันมาจากสถานีต้นทาง "ฮะกะตะ" เป็นที่ปลื้มของคนตัวเล็กมากว่าอร่อยแสนอร่อย คงอร่อยเพราะได้นั่งกินในชินคันเซ็นที่แล่นด้วยความเร็ว 260 km/hr
ป้ายบอกชื่อสถานีหน้าที่จะจอด ในป้ายนี่คือที่ ชินโอมุตะ
และแล้ว ห้าสิบนาทีก็ผ่านไปเหมือนฝัน .. ถึงเวลาต้องลาชินคันเซ็นแสนรัก
สักวันเราจะได้เจอกันใหม่นะ.. ซึบะเมะ ..
ลงจากชินคันเซ็นที่สถานีคุมะโมะโตะ
รถรางที่คุมะโมะโตะ ได้แต่ถ่ายรูปมาไม่มีเวลาขึ้นไปนั่งเที่ยว เพราะต้องนั่งรถไฟวกกลับบ้านแล้ว
รถไฟที่นั่งกลัับบ้านเป็นรถไฟธรรมดา แต่ได้ไปนั่งเสนอหน้าในตู้แรก เลยเห็นทิวทัศน์ประมาณเป็นคนขับรถไฟซะเอง เอาน่ะ..ฝันที่จะัขับชินคันเซ็นในอนาคตมันยังอยู่ไกลนัก ขอขับปลอมๆทางความรู้สึกกับรถไฟธรรมดานี่ก่อนละกัน
บล็อกนี้รูปเยอะมาก ทดแทนบล็อกอื่นๆที่ไม่ีมีรูป ขอบคุณที่ติดตามจนจบค่ะ
Create Date : 24 กันยายน 2554 |
|
43 comments |
Last Update : 24 กันยายน 2554 14:53:35 น. |
Counter : 2816 Pageviews. |
|
|
|