ขับขี่ทดสอบทางไกลด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงแค่ถังเดียว จากกรุงเทพฯ ไปกระบี่ กับ New Mercedes Benz E-Class E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic ตอนที่ 2 กับการรีวิวผลการขับขี่ทดสอบบนระยะทาง 850 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงแค่ถังเดียวเท่านั้น...

มันคือคืนแห่งความกังวลว่าจะนอนหลับแล้วไม่ตื่นตามนาฬิกาปลุก เมื่อ Mercedes Benz Thailand เชิญสื่อมวลชนทดสอบ New E-Class W212 facelift ลากยาวจากกรุงเทพฯ รวดเดียวลงไปจบที่ จ.กระบี่ กับรถทดสอบ New E-Class ที่มากันครบทุกรุ่นสำหรับรุ่นที่มีขายในไทย เช้าวันจันทร์ที่ 4 พ.ย. 2556 จึงเป็นเช้าที่ค่อนข้างหฤโหดสำหรับสื่อมวลชนบางคนที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นกับการทดสอบรถ New Nissan Teana และได้นอนบ้านเพียงแค่ 2 คืน ก็ต้องระเห็ดลงมายัง จ.กระบี่ ในเช้าวันจันทร์ ทั้งๆ ที่เพิ่งจะบินขึ้นจาก จ.ตรัง ไปเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์

มหกรรมการเชิญทดสอบรถยนต์ของเหล่าบรรดาค่ายรถยังไม่จบเพียงแค่นี้ ช่วงสัปดาห์นรกของจริงรออยู่อาทิตย์หน้า เริ่มจากวันที่ 11 ควบ Fiesta Eco-Boost ที่เชียงใหม่ วันอังคาร ลองของสดกับ New Yaris ซึ่งต้องบินรวดเดียวจากเชียงใหม่ลงไปขับที่ภูเก็ตในเช้าวันอังคารที่ 12 ถึงวันพุธที่ 13 พ.ย. หลังจากนั้นวันที่ 14-15 ต้องกระโดดขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่อีกครั้ง กับการทดสอบครอสโอเวอร์รุ่นล่าสุด หลังจากขับทดสอบครั้งแรกที่นิวซีแลนด์กับ Mazda CX-5 SkyActiv แล้วกลับมาเก็บเสื้อผ้าบินไปญี่ปุ่น เพื่อให้ทันกับวันเปิดงานโตเกียวมอเตอร์ โชว์ รอบสื่อมวลชน เหนียวไม่เหนียวตามดูกันต่อไป สำหรับการเดินทางที่ไม่มีวันจบสิ้นแบบนี้

ผมกับ Kingsley Wijayasinha คอลัมนิสต์รถยนต์ของหนังสือพิมพ์ The Nation ภาษาอังกฤษ กำลังอยู่ในรถ Mercedes Benz New E-Class W212 facelift รุ่น E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic ยนตรกรรมซาลูนหรูหรา 4 ประตู ราคา 4 ล้านบาทซึ่งตกแต่งด้วยอุปกรณ์ของสำนัก AMG พาหนะทดสอบที่จะต้องขับไปจนถึง จ.กระบี่ โดยมีระยะทางในการวิ่งทดสอบ เกือบๆ 900 กิโลเมตร จากถนนสาทรไปยังชายหาดทับแขก ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของการทดสอบ New E-Class ในกลุ่มแรก สิ่งที่หายไปจาก E-Class W212 รุ่นที่แล้วคือ ไฟหน้าแบบแยกชิ้น

สำหรับโมเดล facelift ในรุ่น AMG คุณจะได้ New E-Class ที่มีมุมมองสปอร์ตและดูดีขึ้นมากกว่ารุ่นปกติจากสปอยเลอร์หน้า - หลัง ล้อขอบ 18 นิ้ว รวมกับของแต่งภายในที่แตกต่างจากรุ่นปกติอยู่พอสมควร ไฟหน้าแบบใหม่ LED Hight Performance มีไฟหรี่กลางวัน หรือ LED Daytime Runing ที่งดงามลงตัว ห้องโดยสารของค่ายตราดาวบนงานซาลูนขนาดกลาง ส่งถ่ายระดับของความหรูหราทุกตำแหน่งของการใช้งาน ลายไม้สีดำกับการกับเบาะหนังแท้ รุ่น E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic จะมีหน้าปัดมาตรวัดที่แตกต่างจากรุ่นปกติอยู่พอสมควร มาตรวัดแสดงผลการใช้พลังงานทั้งสองรูปแบบ (เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า) รวมถึงการชาร์จกระแสไฟฟ้าประจุกลับไปยังแบตเตอรี่ สำหรับ BlueTEC Hybrid คอมเพรสเซอร์แอร์ไฟฟ้า ยังช่วยให้ความเย็นคงที่เนื่องจากคอมแอร์ยังคงทำงาน หากรถเข้าสู่โหมด Auto Start/Stop เมื่อจอดติดสัญญาณไฟจราจร

BlueTEC Hybrid ของ Mercedes Benz วางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีลักษณะของการทำงานดังต่อไปนี้คือ

การสตาร์ท Silent Start Mode

ในกรณีที่แบตเตอรี่แบบ High Voltage ในระบบ Hybrid มีกำลังไฟเพียงพอ ระบบ BlueTEC Hybrid จะเลือกการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (ที่ย่านความเร็วต่ำขณะเคลื่อนตัว) โดยที่ระบบปรับอากาศยังคงทำงานปกติ รถจะมีความพร้อมทันที สำหรับการเคลื่อนตัวด้วยกำลังไฟจากแบตเตอรี่ที่ป้อนไปยังชุดมอเตอร์ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

การแล่น Electric Drive Mode

เมื่อวิ่งที่ย่านความเร็วต่ำไม่เกิน 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในกรณีที่แบตเตอรี่แบบ High Voltage ในระบบ Hybrid มีกำลังไฟเพียงพอที่จะทำการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแต่เพียงอย่างเดียว โดยยังไม่ทำการติดเครื่องยนต์ การออกแบบในลักษณะดังกล่าวคล้ายคลึงกับการทำงานของระบบ Hybrid ทั่วๆ ไป ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานภายในเมืองที่ต้องเคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่งอยู่ตลอด เวลา เมื่อผู้ขับใช้ความเร็วมากกว่า 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์จะเข้ามารับหน้าที่ในการขับเคลื่อนต่อจากมอเตอร์ไฟฟ้า โดยการเชื่อมต่อเปลี่ยนถ่ายกำลังของทั้งสองระบบเป็นไปแบบอัตโนมัติ ขณะที่เครื่องยนต์เข้ามารับหน้าที่ต่อจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ย่านความเร็วสูงกว่า 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบ Hybrid ของ E300 BlueTEC จะเหนี่ยวนำแรงหมุนของเครื่องยนต์ไปหมุนมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อทำหน้าที่เป็น Generator ผลิตกระแสไฟแล้วประจุกลับไปที่แบตเตอรี่เพื่อสำรองพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้งานต่อไป

การเร่งความเร็ว Boost Mode

เมื่อผู้ขับขี่ต้องการกำลัง หรือเร่งแซงอย่างรวดเร็ว มอเตอร์ไฟฟ้าจะส่งกำลังขับเคลื่อนเสริมเพื่อเพิ่มแรงบิดในกรณีที่ต้องการ เร่งความเร็วเพื่อแซง ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานประสานกัน ทำให้สามารถผลิตแรงบิดได้มากถึง 590 นิวตันเมตร

การคงความเร็ว Sailing Mode

เมื่อวิ่งที่ย่านความเร็วสูง แต่ไม่เกิน 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทุกๆ ครั้งที่ถอนคันเร่ง หรือแตะเบรกเบาๆ เครื่องยนต์จะหยุดทำงานเพื่อประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยของเสีย รถจะแล่นต่อไปด้วยแรงเฉี่อยเพลาขับยังคงหมุนอยู่ ระบบจะใช้แรงหมุนดังกล่าวไปปั่นมอเตอร์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า จากนั้นเมื่อความเร็วลดลง จนถึงระดับที่กำลังขับของมอเตอร์ไฟฟ้า สามารถรักษาความเร็วนั้นต่อไปได้อีก มอเตอร์ไฟฟ้าจะส่งแรงหมุนเสริมเพื่อทำให้รถยังคงวิ่งต่อไปได้อีกสักระยะ หนึ่งโดยที่เครื่องยนต์ยังคงดับตัวเองอยู่ ขณะที่เครื่องยนต์ดับ ระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก หรือระบบที่ต้องการกำลังไฟยังคงทำงานเป็นปกติทุกอย่าง จนกระทั่งกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่แบบ High Voltage ในระบบ Hybrid เหลือน้อยลง ระบบจะสั่งให้เครื่องยนต์เข้ามาทำงานอีกครั้ง หมุนเวียนต่อเนื่องสลับกันไปแบบนี้ตลอดการขับขี่ใช้งาน

การเบรก Recuperation Mode

เมื่อผู้ขับขี่ลดความเร็วด้วยการเหยียบเบรก เครื่องยนต์จะหยุดการทำงานทันทีแบบอัตโนมัติ ส่วนระบบเบรกและระบบปรับอากาศยังคงทำงานปกติ เนื่องจากคอมเพรสเซอร์แอร์ของ E300 BlueTEC เป็นคอมแอร์แบบไฟฟ้า ส่วนแรงเฉี่อยที่เกิดจากการหมุนของเพลาขับยังคงถูกนำไปปั่นกระแสไฟฟ้า เพื่อกักเก็บไว้ในแบตฯ เหมือนเดิม

การหยุดรอสัญญาณไฟจราจร Silent Standstill Mode

ในกรณีที่ High Voltage Battery มีปริมาณกระแสไฟฟ้าเพียงพอ เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดการทำงานเมื่อรถหยุดนิ่งแต่ระบบปรับอากาศ ยังคงทำงานตามปกติ

Generator Mode

เมื่อ High Voltage Battery มีปริมาณกระแสไฟฟ้าต่ำ เครื่องยนต์จะติดตัวเองขึ้นทันทีแบบอัตโนมัติ พร้อมๆ ไปกับการหมุนมอเตอร์เพื่อปั่นกระแสไฟฟ้าไปเก็บในแบตเตอรี (โหมดการชาร์จไฟ) ส่วนระบบปรับอากาศยังคงทำงานปกติ

ผมรับหน้าที่ขับทดสอบเจ้า E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic เป็นไม้แรก โดยขับจากสำนักงานใหญ่ของ Mercedes Benz ในถนนสาธรไปจนถึงจุดแวะพักทานข้าวเที่ยงที่ อ.ทับสะแก ใน จ.ประจวบศีรีขันธ์ รวมระยะทางในการทดสอบภาคเช้าประมาณ 400 กิโลเมตร ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งที่ย่านความเร็วต่ำด้วยมอเตอร์ การเร่งความเร็วที่ผสานกันทั้งสองระบบ (เครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้า) การจอดอยู่กับที่ระบบ BlueTEC Hybrid ของ Mercedes Benz มีการทำงานเชื่อมต่อกันของทุกๆ ระบบค่อนข้างนิ่มนวนและลื่นไหล การตัดต่อของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า หากไม่สังเกตการทำงานของระบบบนจอแสดงผลแบบ MID แล้ว ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าขณะนี้ระบบใดกำลังทำหน้าที่ขับเคลื่อน โดยเฉพาะขณะที่คลานด้วยความเร็วไม่เกิน 35-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร กับโหมด Auto Start/Stop ช่วยทำให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ New E-Class ต่ำมากแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน คอมเพรสเซอร์แอร์แบบไฟฟ้ายังเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในเขตร้อนชื้นของประเทศไทย ส่วนเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งในรอบเดินเบา หรือขณะที่เร่งความเร็ว รวมกับการสั่นสะเทือนนั้น ลดลงไปมากเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นเก่าของค่ายตราดาว ห้องโดยสารที่ผลึกปิดกั้นเสียงแปลกปลอมจากภายนอก ทำให้เจ้า E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic มีความเงียบงันอยู่ในอันดับต้นๆ ของกลุ่มรถซาลูนหรูหราราคาแพง

หลักกิโลเมตรที่ 360.800 บนถนนเพชรเกษม เป็นทางตรงยาวมีขึ้น-ลงเนินเตี้ยสลับกับโค้งกว้างๆ แต่ผมไม่สามารถทำความเร็วได้มากนัก เนื่องจากรถบรรทุกล้อเยอะวิ่งกันอยู่เกือบจะเต็มช่องทางจราจร ขบวนรถทดสอบ New E-Class วิ่งผ่าน จ.ประจวบฯ ใน อ.ทับสะแก กันแบบตัวใครตัวมัน เนื่องจากระยะทางสำหรับการทดสอบในครั้งนี้ มีความยาวมากกว่าปกติ ผมกับ Kingsley Wijayasinha ไม่อยากจะขับกันจนถึงช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำ เพราะมีเวลาไม่มากสำหรับการพักผ่อน ซึ่งพอเช้าวันรุ่งขึ้นก็ต้องบินกลับขึ้นมางานเปิดตัว Mazda CX-5 การทำความเร็วอย่างต่อเนื่องจึงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ใน E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic การวิ่งที่ความเร็วเดินทางในย่าน 120-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบรองรับของมันทำหน้าที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ขณะใช้ความเร็วสูง ได้เป็นอย่างดี ช่วงล่างส่งถ่ายอาการหนึบแน่นมากกว่าปกติจากน้ำหนักของระบบ Hybrid ทำให้ E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic มีการทรงตัวที่เสถียร ไม่แตกต่างจากคู่แข่งราคาแพงอย่าง BMW ActiveHybrid-5 เพียงแต่เจ้า 5-Hybrid มีราคาแพงกว่าเกือบ 1.5 ล้านบาท แม้ย่านกำลังในรูปของแรงบิดจาก E300 BlueTEC Hybrid จะเป็นรองคู่แข่งตัวแสบอยู่พอสมควร ทั้งอัตราเร่งและความเร็วสูงสุด แต่ราคาที่แตกต่างกันถึงขนาดเปลี่ยนเป็นรถ New Accord 2.4 ได้อีกคัน ทำให้ต้องคิดหนักอยู่เหมือนกันสำหรับเศรษฐีที่ต้องการทั้งความประหยัดและความแรง

แรงบิด 590 นิวตันเมตรในย่าน 1,600-2,000 รอบต่อนาที แม้จะไม่ดึงจนหน้าหงายเหมือน ActiveHybrid-5 แต่ก็ต่อเนื่องและลื่นไหล ทำให้รสชาติของการขับขี่บน E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic ออกมาในแบบสบายๆ ที่ความเร็ว 130-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเร่งความเร็วให้มากยิ่งขึ้น ทำให้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าของมันต้องรับภารกรรมอย่างหนักหน่วงสำหรับการวิ่งทางยาวๆ เกือบ 1,000 กิโลเมตรรวดเดียวแบบนี้ รุ่น AMG Dynamic มียาง Bridgestone Potenza RE 050 Run flat ขนาดไซส์ล้อหน้า 255/40R18 กับยางล้อหลัง ซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อน ที่มีขนาดโตกว่าเล็กน้อยที่ 265/35R18 เป็นยาง Run flat ที่มีแก้มยางค่อนข้างจะแข็งมากกว่ายางแบบปกติ เสียงการทำงานเมื่อมันถูกบดไปกับผิวถนนลาดยางมะตอย ส่งเสียงหึ่งๆ ดังเข้ามา ให้พอได้ยินที่ความเร็วเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงดังของยาง Run flat แลกกลับคืนด้วยการที่มันไม่ต้องพกพายางอะไหล่ให้น้ำหนักส่วนเกินเพิ่มโดยไม่จำเป็น แถมยังวิ่งได้แม้ลมจะรั่วออกมาจนหมดที่ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปได้อีกกว่า 100 กิโลเมตร เพื่อหาร้านปะยางเป็นสิ่งที่ดี เมื่อคุณต้องเดินทางไกลแบบนี้ เมื่อเหลือระยะทางที่จะถึงยัง จ.สุราษฎร์ธานี อีก 100 กิโลเมตร Kingsley Wijayasinha เพื่อนร่วมทริปทดสอบของผมก็เข้ามารับหน้าที่ขับต่อ หลังจากนั่งวางมาดเป็นเสี่ยร้านทองแถบเยาวราชมาตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทจากกรุงเทพฯ

Kingsley และผมยังเหลือระยะทางอีกกว่า 300 กิโลเมตร ก่อนจะถึงยังโรงแรมโซฟิเทล โภคีธารา หาดทับแขก ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดการทดสอบ New E-Class ในครั้งนี้ บนทางหลวงจังหวัดหมายเลข 44 ระยะทาง 96 กิโลเมตร จาก จ.สุราษฎร์ธานี ตรงเข้าไปยัง จ.กระบี่ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 44 สายกาญจนดิษฐ์-กระบี่ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ถนนแลนด์บริดจ์ หรือถนนสะพานเศรษฐกิจ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสะพานเศรษฐกิจ (Land Bridge) เชื่อมโยงระหว่างทะเลอันดามันกับอ่าวไทย ซึ่งเกิดขึ้นจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2536 มอบหมายให้กรมทางหลวงก่อสร้างทางหลวงสายกระบี่-ขนอม

โดยกำหนดให้ก่อสร้างเป็น 4 ช่องจราจร และให้กำหนดเขตทางหลวงรวม 200 เมตร เพื่อกันพื้นที่วางท่อส่งน้ำมัน และทางรถไฟในอนาคตอีก 100 เมตร ทางหลวงสายนี้มีจุดเริ่มต้นแยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 บริเวณกิโลเมตรที่ 940+881 ต.คลองหับ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ตัดขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่าน อ.ปลายพระยา เข้าสู่เขต จ.สุราษฎร์ธานี ผ่าน อ.พระแสง อ.เคียนซา อ.บ้านนาเดิม อ.พุนพิน อ.เมือง สิ้นสุดที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 บริเวณ ต.พลายวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 132.630 กิโลเมตร ถนนสี่เลนยาวสุดลูกหูลูกตา ที่สามารถทำความเร็วได้แต่ไม่ต่อเนื่อง จากหลุมบ่อที่มีอยู่ประปรายบนผิวทางลาดยางมะตอย เนินเขากับโค้งยาวๆ ในแถบนี้ กลายเป็นของว่างให้เจ้า E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic ทำการขบเคี้ยวอย่างเพลิดเพลินในช่วงบ่ายแก่ๆ ของวันจันทร์ที่ 4 พ.ย.

เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบของ E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic กับระบบส่งกำลัง 7G Tronic Plus และระบบ BlueTEC Hybrid อาจเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของรถคันนี้ ที่รอบเดินเบามันยังคงบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเครื่องยนต์ดีเซลให้ได้รับรู้ นอกจากนั้นแล้ว คุณไม่มีทางทราบได้เลยว่ามันคือ ยนตรกรรมไฮบริดประสิทธิภาพสูงที่จับคู่กับ เกียร์ 7 สปีดอย่างลงตัว การเปลี่ยนเกียร์ทั้งในโหมดออโต้และแมนนวล ทำได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว ให้อารมณ์สปอร์ตอย่างชัดเจน มันเร่งจากจุดหยุดนิ่งไปถึง 100 กิโลเมตรได้ในเวลา 7.4 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (นอกเมือง) ที่ 18.2 กิโลเมตรต่อลิตร ประหยัดกว่ารถ New E-Class ทุกรุ่นที่มีขายในโลกใบนี้ ช่วงล่างที่แข็งขึ้นเหมาะเจาะกับการทำความเร็วต่อเนื่อง แต่พวกที่รักความสบายและชอบสัมผัสที่นิ่มนวลของ E-Class ก็ยังพึงพอใจ แม้ระบบรองรับในรุ่นใหม่จะแข็งขึ้นกว่าเดิมจนสัมผัสได้อย่างชัดเจน

แม้จะมีเรือนร่างที่ค่อนข้างใหญ่โต แต่มันเกาะจิกทางโค้งทุกๆ โค้งได้อย่างมั่นคง การถ่ายเทน้ำหนักอยู่ในระดับที่ดีจากการกระจายน้ำหนักของชุดเพลาขับ มอเตอร์ และอุปกรณ์ ในระบบ Hybrid ที่เหนือชั้นพวงมาลัยไฟฟ้าให้ความรู้สึกที่แปลกแยกแบบสังเคราะห์ น้ำหนักที่แปรผันไปตามความเร็วรับรู้ได้ทันทีที่คุณหวดมันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ พวงมาลัยไฟฟ้าของ E300 BlueTEC Hybrid ได้คะแนนในส่วนของความชัดเจน มันคม และตอบสนองได้ดีด้วยน้ำหนักที่ผกผันไปตามความเร็วแท้จริง พวงมาลัยยังเชื่อมต่อกับระบบรักษาเส้นทาง Lane Keeping Assist โดยจะสั่นเตือนทันที 2-3 ครั้ง เมื่อผู้ขับขี่เบนทิศทางโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม (สามารถปิดทิ้งได้หากรำคาญ)

17.45 น. หลังจากที่นั่งควบเจ้า E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic มานานกว่า 8 ชั่วโมง ผมและ Kingsley เดินทางมาถึงยังจุดสิ้นสุดการทดสอบในโรงแรมโซฟิเทล โภคีธารา หาดทับแขก เป็นการตีรวดเดียวจากกรุงเทพมหานคร ด้วยรถทดสอบที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้ดี จนน่าแปลกใจ เชื้อเพลิงดีเซลในถังของมันยังคงเหลือให้วิ่งอีกถึงเกือบ 80 กิโลเมตร หลังจากหวดกันยาวกว่า 850 กิโลเมตร ทำให้มันชนะ E-Class ทุกคันในกลุ่มรถทดสอบด้านอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่เหนือชั้น จากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบบวกมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบ BlueTEC Hybrid ซึ่งเป็นระบบไฮบริดดีเซลที่โดดเด่นด้านประสิทธิภาพจากค่ายตราดาว ความคิดเห็นส่วนตัว เมื่อคุณต้องจ่ายเงินกว่า 4 ล้านบาท สิ่งที่จะได้รับกลับมาคือรถยนต์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จจากการทำงาน

รถ E300 BlueTEC Hybrid AMG Dynamic คืองานจักรกลทางวิศวกรรมที่มีความเป็นไดนามิกสูงคันหนึ่งของวงการ มันมีทุกอย่างที่จะช่วยทำให้การบริหารเชื้อเพลิงดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา มันคือ E-Class ที่ใช้น้ำมันเพียงแค่ถังเดียวจากกรุงเทพฯ มาจนถึงกระบี่ด้วยความเร็วต่อเนื่อง ซึ่งบางช่วงบางตอนกดกันถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเวลาที่ค่อนข้างกระชัั้นชิดและบีบคั้น อุปกรณ์ภายนอกและภายในสวยงามน่าขับขี่จากงานตกแต่งของแผนกมอเตอร์สปอร์ต อย่าง AMG มันใช้งานได้จริงและมีระดับของราคาค่าตัวที่ไม่แรงมากจนเกินไป อาเจ็ก อาม่า ที่ชอบรถยนต์จากแบรนด์ตราดาว จะพึงพอใจเมื่อได้นั่งไปกับรถรุ่นนี้ ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยขับมีมาก จนใช้งานไม่หมด ซึ่งบางระบบช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยสูงมาก เมื่อต้องควักกันถึงขนาดนี้ ย่อมต้องได้ของดีเป็นธรรมดา หรือคุณว่าไม่จริง.