New C-Class / New GLA / New Civic Minor Change 2014 / New Mazda 3 / JUKE / New MINI F56 / New Porsche Macan / New Porsche 911GT3 / Rolls Royce Ghost Majestic Horse Collection และอื่นๆ อีกเพียบในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 เริ่มแล้ววันนี้ ถึง 6 เมษายน ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี...

ยอดขายรถยนต์ทั่วประเทศที่ร่วงหล่นลงมาถึง 45% จากสถานการณ์ความไม่สงบ และปัญหาคาราคาซังในแวดวงการเมืองฉุดรั้งยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยให้หล่นลงมาถึงเกือบจะ 50% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา งานบางกอกมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35 นับเป็นงานโชว์รถที่ทุกฝ่ายให้ความหวังสำหรับตัวเลขยอดขาย ยอดจองที่อาจกระเตื้องขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย ปี 2557 กับการระดมเปิดผ้าคลุมรถใหม่ของเหล่าบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ต่างระดมตัวเจ็บตัวโชว์และตัวขายส่งเข้างานกันอย่างคึกคัก สวนกระแสความเงียบงันของเศรษฐกิจในประเทศ แนวคิด Beauty in The Drive หรือยานยนต์สะกิจใจภายในงาน ซึ่งทางบริษัทกรังด์ปรีซ์อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะผู้จัดงานได้คิดค้นขึ้น มั่นใจว่าจะสามารถทำให้งานโชว์รถครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทยพัฒนามากขึ้นกว่าทุกปี งานบางกอกมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35 ซึ่งจัดขึ้นที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี จะเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญของการขับเคลื่อนกลไกทางธุรกิจยานยนต์ในไทย เป็นการผลักดันอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยมาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

Mercedes Benz New C-Class W205 C180 Executive

Mercedes Benz CLA45 AMG

Mercedes Benz CLS Shooting brake

Mercedes Benz GLA 2014

Mercedes Benz E-Coupe Convertible
ค่ายตราดาว Mercedes Benz Thailand จัดบูธขนาดยักษ์ พร้อมรูปแบบที่ทันสมัยสำหรับการตั้งแสดงรถยนต์ภายในค่าย สดๆ ร้อนๆ จากเยอรมัน ด้วยการกระชากผ้าคลุมยนตรกรรมซีดานสุดหรูรุ่นใหม่ล่าสุด The new C-Class (Baby S-Class) ครั้งแรกในอาเซียน ยนตรกรรมหรูที่ถูกปรับรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายในให้ดูหรูหราและไฮเทคด้วยอุปกรณ์ช่วยขับนับร้อยรายการ น้ำหนักตัวถังที่เบาลงกว่าเดิมถึง 100 กิโลกรัม จากการนำเอาวัสดุอัลลอยเข้ามาใช้ในบางตำแหน่งเพื่อลดน้ำหนัก นอกจากนี้ภายในงานยังได้มีการเปิดตัว The new GLA-Class คอมแพ็คคาร์ SUV พรีเมียม ดีไซน์สปอร์ตออฟโรด ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการลุยแบบเล็กๆ ของเศรษฐี ตามด้วย CLS Shooting brake / CLA 45 AMG / The New S-Class S300 / E-Coupe Convertible / The New SLK พร้อมจุดรับประทานของว่างหรือกาแฟสำหรับลูกค้า รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งอีกเพียบ

BMW Group Thailand ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับพรีเมียมในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดใน BMW i8 และ BMW Series- 2 พร้อมโมเดลใหม่ที่หลากหลายในตระกูล Series-1, Series-3, Series-4 และ New Series-5 Minor Change 2014 รวมทั้งเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ BMW รุ่นล่าสุด และเผยโฉม The new MINI ใหม่เป็นครั้งแรก

BMW i8
เทคโนโลยี BMW eDrive ในระบบ Plug-in hybrid BMW i8 สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม. ได้ภายในเวลาเพียง 4.4 วินาที ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 49 กรัมต่อ กม. อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ย 47.6 กม.ต่อลิตร ตามมาตรฐาน EU test cycle BMW eDrive ยังมอบสมรรถนะการขับขี่สไตล์สปอร์ตแห่งอนาคต กำลัง 170 กิโลวัตต์ หรือ 231 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร จากเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ในโหมดการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า สร้างกำลังได้ถึง 96 กิโลวัตต์/131 แรงม้า โดยมีแรงบิดที่ 250 นิวตันเมตร เมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า BMW i8 ให้ความเร็วสูงสุด 120 กม.ต่อ ชม. และสามารถขับเคลื่อนได้เป็นระยะทางถึง 37 กม. โดยปราศจากการปล่อยไอเสีย ในโหมดสปอร์ตสามารถเร่งความเร็วจาก 80 ถึง 120 กม.ต่อ ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 2.6 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กม.ต่อ ชม. ประหยัดเชื้อเพลิงสุดๆ ขณะขับขี่ประจำวัน โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน เมื่อขับขี่ในเมืองเพียง 20 กม.ต่อลิตร และประมาณ 14.28 กม.ต่อลิตร เมื่อขับขี่บนมอเตอร์เวย์ หากขับขี่ในระยะทางไกลด้วยความเร็วสูง มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ประมาณ 12.5 กม.ต่อลิตร เทคโนโลยีวัสดุคุณภาพสูงและมีน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์เสริมแรง Carbon-fibre-reinforced plastic (CFRP) ได้ถูกนำมาใช้สำหรับตัวห้องโดยสาร น้ำหนักที่เบากว่าเหล็กกล้าถึงร้อยละ 50 และเบากว่าอะลูมิเนียมกว่าร้อยละ 30 แต่ยังคงประสิทธิภาพด้านความแข็งแกร่ง เทียบเท่าหรือเหนือกว่าวัสดุแบบเดิม แบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน แรงดันไฟฟ้าระดับสูง สามารถชาร์จไฟได้ทั้งจากเต้าเสียบที่บ้าน หรือแท่นชาร์จ BMW i Wallbox โดยใช้เวลาตั้งแต่ต่ำกว่า 2 ชม. ถึง 3 ชม.

BMW Series-2 Coupe Sport
BMW 220i Coupe M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,949,000 บาท)
รถยนต์สองประตูของ BMW ถือเป็นต้นแบบของคูเป้รุ่นแรกๆ และได้ถูกสะท้อนออกมาในการออกแบบ BMW Series-2 Coupe มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจากกลุ่มรถยนต์ประเภทเดียวกัน ตัวรถสไตล์ซีดาน ด้วยดีไซน์ที่ปราดเปรียว พร้อมสัดส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบของ BMW 220i Coupe พลัง 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ซึ่งนำมาใช้ในรถยนต์ขนาดคอมแพ็คของ BMW เป็นครั้งแรก สัดส่วนของตัวรถ ความยาว 4,432 มิลลิเมตร กว้าง 1,774 มิลลิเมตร ฐานล้อที่ยาวกว่าเดิม 30 มิลลิเมตร พร้อมกับความกว้างช่วงล้อที่มากขึ้น พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขึ้น รวมถึงพื้นที่บรรจุสัมภาระที่เพิ่มมากขึ้นถึง 20 ลิตร รวมเป็น 390 ลิตร ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.29

 

The new MINI
ยนตรกรรมระดับหรูขนาดเล็กรุ่นใหม่ล่าสุด The new MINI 2014 ถือเป็นนวัตกรรมแห่งความสำเร็จอีกขั้นของการดีไซน์ มิติของตัวถังและภายในที่เพิ่มขึ้น ความยาวฐานล้อและความกว้างช่วงล้อด้านหน้าและด้านหลังเพิ่มขึ้น โดยที่นั่งด้านหน้าได้รับการออกแบบใหม่ให้ปรับตำแหน่งได้มากขึ้น เพิ่มพื้นที่เบาะโดยสารด้านหลังมากกว่าเดิม เบาะหลังยังสามารถพับแยกได้แบบ 60:40 สำหรับช่องเก็บสัมภาระที่กระโปรงหลังเพิ่มความจุมากขึ้น 51 ลิตร รวมเป็น 211 ลิตร และสามารถปรับพื้นที่เก็บสัมภาระกระโปรงหลังได้หลายระดับ The new MINI มีสมรรถนะการขับขี่แบบสปอร์ต ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo Technology ในทั้งสามรุ่น ได้แก่ MINI Cooper มอบพลังขับเคลื่อน 100 กิโลวัตต์ หรือ 136 แรงม้า ด้วยเครื่องยนต์สามสูบ MINI Cooper S มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พลัง 141 กิโลวัตต์ หรือ 192 แรงม้า และ MINI Cooper D เครื่องยนต์ดีเซล 3 สูบ กำลัง 85 กิโลวัตต์ หรือ 116 แรงม้า สำหรับ MINI Cooper S โหมดการขับขี่ของ The new MINI มอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ผู้ขับสามารถเลือกรูปแบบการขับขี่ทั้งโหมดมาตรฐาน MID, โหมด SPORT หรือโหมด GREEN นอกจากนี้ยังนำฟังก์ชั่นการควบคุมรถ Dynamic Damper Control มาใช้เป็นครั้งแรก เพื่อช่วยในการตอบสนองต่อสถานการณ์การขับขี่แบบต่างๆ ทั้งแบบนิ่มนวลและการตอบสนองแบบสปอร์ต

New MINI 2014
ในรุ่น MINI Cooper เร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อ ชม. ใน 7.8 วินาที สำหรับ MINI Cooper D มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานและการปล่อยก๊าซ CO2 ต่ำที่สุด เพียง 26.3 กม.ต่อลิตร และปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 98-99 กรัมต่อ กม. (จากผลการทดสอบ EU test cycle ผลอาจแตกต่างกันขึ้นกับประเภทของยางรถยนต์ที่ใช้) ไฟหน้าออกแบบใหม่ใน Cooper S ประกอบด้วยไฟหน้าและไฟเลี้ยวแบบ LED
ไฟ daytime แบบวงแหวน พร้อมไฟหน้าปรับตามการเลี้ยวอัตโนมัติ และไฟตัดหมอกแบบ LED โดยเทคโนโลยี LED ยังนำมาใช้กับไฟท้าย หน้าจอแสดงผลและระบบปฏิบัติการแบบใหม่ ลูกเล่นของจอแสดงผล โดยแสดงความเร็วที่ขับและความเร็วรอบเครื่องยนต์ พร้อมหน้าจอสีบอกสถานะของรถและปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับหน้าปัดแสดงผลส่วนกลางใช้เทคโนโลยี LED ใหม่ล่าสุด ที่ให้แสงไฟสีสันต่างๆ รอบวงแหวน ซึ่งสามารถเปลี่ยนตามฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ใช้ขณะขับขี่ เทคโนโลยีสำหรับช่วยเหลือผู้ขับขี่ในทุกเส้นทาง MINI Navigation ครั้งแรกในประเทศไทยใน The New MINI Cooper S สำหรับ New MINI ทุกรุ่น มอบความสบายใจให้แก่ลูกค้านานกว่าที่เคยด้วยโปรแกรมบำรุงรักษา MINI Services Inclusive หรือ MSI 5 ปี หรือ 50,000 กม.

BMW116i (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 1,749,000 บาท)
BMW116i M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 1,999,000 บาท)
เทคโนโลยี BMW EfficientDynamics ใน BMW Series-1 ยนตรกรรมที่มีการนำระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบ Automatic Start/Stop มาใช้เป็นครั้งแรก รวมถึงโหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECO PRO) ซึ่งเปิดใช้งานได้จากสวิตช์ Driving Experience Control ซึ่งจะรวมอยู่ในระบบมาตรฐาน ตัวถังแบบทนแรงบิดสูง ตอบสนองขณะขับขี่และให้ความปลอดภัย อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่น ถุงลมนิรภัยด้านหน้า ด้านข้าง และบนศีรษะ BMW116i มีจำหน่ายทั้งรุ่นปกติและรุ่นตกแต่งด้วยอุปกรณ์จาก M-Sport

BMW 325d M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,299,000 บาท)
ประสิทธิภาพ การประหยัดพลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระดับต่ำ รถรุ่น 325d M Sport วางขุมกำลังขนาด 160 กิโลวัตต์ หรือ 218 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที เร่งจาก 0-100 กม. ต่อชม. ใน 6.6 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 21.7 กม. ต่อลิตร หน้าจอแสดงผลการควบคุมขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการมาตรฐาน iDrive Touch Controller ชุดแต่ง M Sport สไตล์สปอร์ต พร้อมชุดแต่ง M แอโรไดนามิค แพ็กเกจ ล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้ว

BMW520i (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,349,000 บาท)
BMW520d (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,499,000 บาท) เบาะนั่งปรับด้วยไฟฟ้าและระบบควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชั่นลดความเร็ว ฟังก์ชั่นเพื่อความบันเทิงหลากหลาย มาพร้อมกับระบบ Comfort access หน้าจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว ระบบ iDrive Controller และระบบเสียงสเตอริโอ ระบบเครื่องยนต์อัจฉริยะ BMW TwinPower Turbo 4-cylinder เพิ่มสมรรถภาพการขับขี่และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 16.7 กม.ต่อลิตร สำหรับ BMW 520i และ 22.2 กม. ต่อลิตร สำหรับ BMW 520d พวงมาลัยหนังสไตล์สปอร์ตและล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยียาง Run-flat

BMW528i Luxury (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,699,000 บาท)
BMW528i M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,799,000 บาท) เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าแบบรองรับบั้นเอว ระบบความบันเทิงและการสื่อสารทั้งหน้าจอแสดงผลขนาด 10.2 นิ้ว ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่น พร้อมระบบสัมผัส iDrive ระบบเสียงไฮไฟ ฟังก์ชั่นผู้ช่วยอัจฉริยะระบบแผนที่นำทางสามมิติ ไฟหน้าแบบ LED ปรับตามทิศทางการเลี้ยวของพวงมาลัย ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝน และเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กล้องมองหลังแสดงระยะถอยจอด ระบบปิดประตูแบบผ่อนแรงกระแทก จอภาพขนาด 9.2 นิ้ว 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (เฉพาะรุ่น Luxury) BMW525d Luxury (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,899,000 บาท)

BMW525d M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,999,000 บาท)
ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 16 วาล์ว เทคโนโลยี BMWTwinPower Turbo กำลังสูงสุด 218 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กม. ต่อชม. ได้ในเวลา 6.9 วินาที อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 21.3 กม. ต่อลิตร โดยคงขุมพลังเครื่องยนต์ไว้ครบถ้วน ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 123 กรัม ต่อ กม. เทคโนโลยี BMW EfficientDynamics กับระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติ (BrakeEnergy Regeneration) ระบบ AutomaticStart/Stop (พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบสปอร์ต) Optimum Shift Indicator และโหมดการขับขี่ประหยัดพลังงาน ระบบปิดประตูแบบผ่อนแรงกระแทก จอภาพขนาด 9.2 นิ้ว 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง (เฉพาะรุ่น Luxury)

BMW 420i Coupe Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,499,000 บาท)
BMW 420i Coupe M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 3,699,000 บาท)
พลังการขับขี่สไตล์สปอร์ตคือหัวใจหลักของ BMW 4 Series Coupe จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้แม่นยำและตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดีขึ้น เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 5,000-6,250 ใช้เวลา 7.3 วินาทีในการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อ ชม. ชุดตกแต่ง Sport line โทนสีแดงสลับดำ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หรือเลือกตกแต่งด้วย M Sport package ที่มาพร้อมระบบควบคุมช่วงล่างแบบ Adaptive M ชุดแต่ง M แอโรไดนามิค และล้ออัลลอย 19 นิ้ว

BMW 420d Convertible Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 4,299,000 บาท)
BMW 420d Convertible M Sport (ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 4,499,000 บาท)
BMW 4 Series Convertible เป็นรถยนต์ BMW สไตล์ convertible ขนาดกลาง เจนเนอเรชั่นที่ห้า ผสานความงามและพลังการขับขี่สไตล์รถเปิดประทุน หลังคาแบบแยกพับ 3 ส่วน สามารถลดระดับเดซิเบล และเพิ่มความเงียบภายในห้องโดยสาร เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที ประหยัดเชื้อเพลิง 20.8 กม. ต่อลิตร ชุดตกแต่ง Sport line โทนสีแดงสลับดำ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หรือชุด M Sport package พร้อมระบบควบคุมช่วงล่างแบบ Adaptive M ชุดแต่ง M แอโรไดนามิคและล้ออัลลอย 19 นิ้ว ระบบช่วยเก็บสัมภาระขณะหลังคาเปิด (Loading assistance) เพียงแค่กดสวิตช์ระบบช่วยเก็บสัมภาระจะยกและจัดระเบียบหลังคาที่พับอยู่ในกระโปรงท้ายเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรจุสัมภาระให้มากยิ่งขึ้น

BMW R1200 GS Adventure
ยึดหลักการใช้งานอเนกประสงค์เช่นเดียวกับ BMW R 1200GS มอเตอร์ไซค์รุ่น Adventure มาพร้อมกับเครื่องยนต์สองสูบและแชสซีที่ปราดเปรียว เพิ่มจิตวิญญาณแห่งการเดินทางและความสามารถแบบออฟโรด BMW R1200 GSAdventure รุ่นใหม่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบ Boxer ที่มีระบบหล่อเย็นด้วยอากาศและน้ำเช่นเดียวกับ BMW R 1200 GS โดยมีเครื่องยนต์ขนาด 1,170 ซีซี แรงม้าสูงสุด 92 กิโลวัตต์ หรือ 125 แรงม้าที่ 7,750 รอบต่อนาที

 

Toyota Motor Thailand
วิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท Toyota Motor Thailand เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดบูธ Toyota ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ล้ำสมัยแห่งอนาคตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมยานยนต์ต้นแบบ รถยนต์รุ่นล่าสุด และรถยนต์รุ่นพิเศษหลากหลายรุ่น ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติ อิมแพค เมืองทองธานี

บริษัท Toyota Motor Thailand เข้าร่วมจัดแสดงรถยนต์อย่างยิ่งใหญ่บนพื้นที่เกือบ 2,000 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด “Vibrant of Happiness” ซึ่งจัดแสดงนวัตกรรมอันล้ำสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สื่อให้เห็นถึงแนวคิดของยานยนต์แห่งอนาคต ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในการขับขี่ให้สนุกสนานและตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น สะท้อนแนวทาง “ขับเคลื่อนความสุข”ของ Toyota ที่ตั้งใจให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสถึงความสุข พร้อมนำรถยนต์รุ่นล่าสุดและรุ่นพิเศษหลากหลายรุ่นมาจัดแสดงภายในงาน 1,119,000

 

Toyota FV2
ยานยนต์อนาคต ที่สะท้อนหลักการของ Fun to drive” หรือ “สนุกในการขับขี่” ของ Toyota ได้เป็นอย่างดี โดย FV2 จะทำการเชื่อมโยงกับผู้ขับขี่ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ ทำให้ยิ่งขับมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสนุกมากเท่านั้น ในส่วนของการเชื่อมโยงทางร่างกาย คือ ผู้ขับขี่เพียงแค่ขยับเขยื้อนร่างกาย แทนการใช้พวงมาลัยในการขับเคลื่อน และการเชื่อมโยงด้านจิตใจ ซึ่ง Toyota มองเห็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องระหว่างคนขับกับรถยนต์ ดังนั้นรถยนต์ต้นแบบรุ่นนี้ จึงสามารถจดจำภาพและเสียงเพื่อประเมินอารมณ์ของผู้ขับขี่ได้ และรวบรวมข้อมูลประวัติการขับขี่เพื่อแนะนำจุดหมายและข้อมูลทักษะการขับขี่ เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่

Toyota Innova 2.0V
ตอบสนองชีวิตครอบครัวในทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยห้องโดยสารกว้างขวาง อุปกรณ์ล้ำสมัย เต็มอิ่มกับความบันเทิงในทุกการเดินทางและที่เก็บสัมภาระด้านหลังขนาดใหญ่ มาพร้อมดีไซน์ที่ลงตัวและสมบูรณ์แบบ ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน สเกิร์ตหน้าพร้อม Daytime Running Lights สเกิร์ตหลัง สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์หลัง สติกเกอร์ ข้างประตูลายเคฟลาร์ ราคา รุ่น 2.0V Aeropart 1,119,000 บาท

Toyota New Vios TRD Sportivo
รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่กำลังอยู่ในความสนใจ อัพอุปกรณ์ตกแต่งสปอร์ตรอบคันทั้งภายนอกและภาย ในมี 2 สี สีเทาและสีขาว ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน สเกิร์ตกันชนหน้า-หลัง สเกิร์ตข้าง สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 และท่อไอเสียแบบสปอร์ต ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว สติกเกอร์ข้างดีไซน์ใหม่ ไฟตัดหมอกหน้า เบาะหนังสีดำ พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบบลูทูธ ระบบนำทางที่รองรับ SmartG-Book ช่องเสียบ AUX และ ลำโพง 4 ตัวรอบคัน v พรมปูพื้น แผงคอนโซลกลาง แผงประตูที่วางแขน และฐานควบคุมสวิตช์สีเมทัลลิก ราคา 669,000 บาท

Toyota Hilux VIGO TRD Sportivo
รถกระบะยอดนิยมที่มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน สเกิร์ตหน้าและกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ TRD ด้านหน้า ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/65/R16C* และขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/65/R17 ไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Lights (DRL) สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง ไฟตัดหมอก บันไดข้างสีดำ สปอร์ตบาร์และพื้นปูกระบะ กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ สติกเกอร์ TRD Sportivo ด้านข้างท้ายกระบะ กันชนหลัง ภายในสีดำ ลายคาร์บอนเคฟลาร์ ตกแต่งด้วยสีแดง เบาะหนังสีดำ ลายคาร์บอนเคฟลาร์ เดินด้ายสีแดง พร้อมโลโก้ TRD กล่องเก็บของคอนโซลกลางพร้อมเดินด้ายสีแดง แผงประตูและกระจกไฟฟ้าลาย คาร์บอน เคฟลาร์ เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว พร้อมระบบบลูทูธ และระบบนำทางที่รองรับ SmartG-Book กล้องมองหลัง แผงคอนโซลหน้า ลาย Carbon Kevlar พร้อมแถบสีแดง พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำหัวเกียร์ยูรีเทนสีดำ และหัวเกียร์หนังสีดำเดินด้ายสีแดง พร้อมฐานเกียร์ลายคาร์บอน เคฟลาร์

ราคา รุ่นสมาร์ทแค็ป
2.5E พรีรันเนอร์ A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 829,000 บาท
2.5E พรีรันเนอร์ A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II 822,000 บาท
2.5E พรีรันเนอร์ M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 784,000 บาท
2.5E พรีรันเนอร์ M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II 777,000 บาท
2.5E M/T ทีอาร์ดีสปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 719,000บาท
2.5E M/T ทีอาร์ดีสปอร์ติโว II 712,000บาท
รุ่นดับเบิ้ลแค็บ
2.5E พรีรันเนอร์ A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 944,000 บาท
2.5E พรีรันเนอร์ A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II 937,000 บาท
2.5E พรีรันเนอร์ M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II สีเมทัลลิก 899,000 บาท
2.5E พรีรันเนอร์ M/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว II 892,000 บาท

Toyota Fortuner TRD Sportivo 5
รถยนต์อเนกประสงค์ ที่ตกแต่งในสไตล์สปอร์ต อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิงครบ ชุดแต่งรอบคันสเกิร์ตหน้า-หลัง สปอยเลอร์หลัง กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต และปลายท่อ ไอเสียสเตนเลส พร้อมสัญลักษณ์ TRD กระจกมองมุม โลโก้ TRD Sportivo ที่ประตูท้ายและด้านข้าง บันไดข้าง พร้อมโลโก้ TRD Sportivo ภายในสีดำ ตกแต่งด้วยสีแดงพร้อมลายคาร์บอน เคฟลาร์ พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังเดินด้ายสีแดง พร้อมฐานเกียร์ลายคาร์บอน เคฟลาร์ แผงคอนโซลกลาง แผงควบคุมกระจกไฟฟ้า แผงประตูหุ้มหนังลายคาร์บอนเคฟลาร์ เบาะนั่งหนัง ลายคาร์บอนเคฟลาร์ ตกแต่งด้วยการเดินด้ายสีแดงพร้อมโลโก้ TRD ที่เท้าแขนคอนโซลกลางหุ้มหนังพร้อมเดินด้ายสีแดง เครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ AUX, USB และระบบนำทางที่รองรับ Smart G-Book จอ LED ขนาด 10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสาร และรีโมทควบคุมเครื่องเสียง
สมรรถนะในการขับขี่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60/R18 ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังแบบ TRD Sportivo

ราคา
รุ่น 3.0V Navi A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว V (สีขาวมุก) 1,561,000 บาท
รุ่น 3.0V Navi A/T ทีอาร์ดี สปอร์ติโว V 1,549,000 บาท

Honda Automobile Thailand
ค่าย Honda Automobile Thailand co. ltd นำเสนอบูธภายใต้แนวคิด “Driveto The Next Enjoyment” สะท้อนความสนุกแห่งการขับขี่จาก Honda ผ่านยนตรกรรมอันหลากหลายทั้ง 13 รุ่น ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 35 พร้อมพบกับโปรโมชั่นและกิจกรรมมากมายได้ที่บูธ Honda ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2557 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคเมืองทองธานี

 

พิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท Honda Automobile Thailand co. ltd เปิดเผยว่า “ปีนี้จะเป็นปีที่กลุ่มบริษัท Honda ในประเทศไทยได้ดำเนินธุรกิจมาครบ 50 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมา Honda ได้มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ใน 3 สายผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกระดับ เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่ลูกค้า สอดคล้องกับแนวคิดในการออกแบบบูธของ Honda ครั้งนี้ คือ “Drive to The Next Enjoyment” นวัตกรรมความสนุกใหม่แห่งการขับขี่จาก Honda ที่นำเสนอผ่านยนตรกรรมอันหลากหลาย” สำหรับไฮไลต์ที่นำมาจัดแสดงในงานนี้คือ

New Honda City 2014
สะท้อนแนวคิดของการพัฒนา เพื่อให้เป็นยนตรกรรมที่สามารถตอบสนองได้อย่างเกินความคาดหวังของลูกค้า ตั้งแต่ดีไซน์รอบคันภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ขุมพลังเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร ระบบเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม ให้การตอบสนองได้ดี ช่วยให้การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการเติม E85 พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย โดยมีจำหน่าย 6 รุ่น ได้แก่
รุ่น SMT ราคา 550,000 บาท
รุ่น S AT ราคา 589,000 บาท
รุ่น V ราคา 649,000บาท
รุ่น V+ ราคา 689,000 บาท
รุ่น SV ราคา 734,000 บาท
รุ่น SV+ (เพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยระดับพรีเมียม อาทิ ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ และม่านถุงลมด้านข้าง) ราคา 749,000

New Honda City 2014 มีให้เลือก 7 สี ได้แก่
สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)
สีแดงคาร์เนเลียน (มุก)
สีดำคริสตัล (มุก)
สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก)
สีขาวทาฟเฟต้า
สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก)
สีน้ำตาลโกลเด้น (เมทัลลิก) สำหรับสีเมทัลลิก เพิ่ม 2,000 บาท สีมุกเพิ่ม 8,000 บาท
ภายในห้องโดยสาร รุ่น S, V และ V+ เป็นเบาะผ้าสีเบจ และรุ่น SVและ SV+ เป็นเบาะผ้าสีดำ

Honda New Civic Minor Change 2014
ส่วนอีกหนึ่งไฮไลต์ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นสไตล์สปอร์ต คือ Honda New Civic Minor Change ล้ำสมัยด้วยสเกิร์ตดีไซน์สปอร์ตรอบคันและสัญลักษณ์ Sport บนฝากระโปรงท้าย Civic Minor Change มาพร้อมกับ 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ 2.0 ES AT Navi และ 1.8 ES AT ภายในห้องโดยสารเพิ่มความหรูด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ AdvancedTouch รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน พร้อมช่องเชื่อมต่อ HDMI และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ New Civic มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ i-VTEC 2.0 ลิตร และ i-VTEC 1.8 ลิตร รองรับการเติม E85 โดยมีทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่

รุ่น 2.0 ES ATNavi 1,145,000 บาท
รุ่น 1.8 E AT Navi 990,000 บาท
รุ่น 1.8 ES AT 950,000 บาท
รุ่น 1.8 E AT 895,000 บาท
รุ่น 1.8 S AT 835,000 บาท
รุ่น 1.8 S MT 780,000 บาท

New Civic มี 4 สีให้เลือก ได้แก่
สีขาวทาฟเฟต้า
สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก)
สีดำคริสตัล(มุก)
สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สำหรับสีเมทัลลิกเพิ่มเงิน 2,000 บาท ส่วนสีมุกเพิ่มเงิน 8,000 บาท

นอกจาก นี้ยังมียนตรกรรมที่นำมาจัดแสดงอีกหลายรุ่น รวมทั้งสิ้น 13 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ในงานนี้ยังให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของ Honda ได้สะดวกขึ้นด้วยข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่จองรถยนต์ Honda ทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้จนถึง 6 เมษายน และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน ด้วยสิทธิที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น สำหรับผู้ที่จองรถยนต์ Honda ทุกรุ่น (ยกเว้น New City และ New Civic) ด้วยการมอบโปรแกรม “ฮอนด้า อัลติเมท แคร์” เพิ่มเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์เป็น 5 ปี เพื่อให้ความอุ่นใจในการใช้งาน

พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อตอบแทนความเชื่อมั่นและไว้วางใจของลูกค้าชาวไทยที่มีให้ Honda มาตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ผมขอให้คำมั่นว่า Honda จะมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อร่วมสร้างมิติใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยพร้อมทั้งจะดูแลและให้บริการลูกค้า โดยโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีอยู่ 191 แห่งทั่วประเทศ และจะขยายเพิ่มเติมเพื่อดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น ตลอดจนเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ร่วมเติบโตและอยู่เคียงข้างสังคมไทยตลอดไป”

Ford Motor Thailand
Ford พลิกโฉมตลาดอาเซียนด้วยผลิตภัณฑ์ยานยนต์รุ่นใหม่ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35” สะท้อนถึงการเป็นผู้ผลิตที่ใช้ความพยายามในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกเซกเมนต์ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ภายในงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งนี้ Ford เปิดตัวรถยนต์ใหม่ล่าสุดของภูมิภาคอาเซียน 2 รุ่น อย่างเป็นทางการ ได้แก่ Ford Fiesta 2014 ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Ti-VCT และ Ford Ecosport Crossover สำหรับคนเมืองที่มีจุดเด่นในด้านการประหยัดน้ำมัน ทั้งนี้ Fiesta และ Ecosport จะเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์จำนวน 18 รุ่นที่จะมีการจัดแสดงภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เป็นโอกาสของ Ford ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำรถยนต์ระดับโลกหลากหลายรุ่นเข้ามา สู่ตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องของภูมิภาคนี้” นายแมท แบรดลีย์ ประธาน Ford อาเซียน กล่าว “การนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ของเครื่องยนต์ใน New Fiesta และ Crossover สำหรับคนเมืองอย่าง Ecosport ทำให้มั่นใจว่าปีนี้ Ford จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง” การเปิดตัว New Fiesta และ Ecosport ทำให้ Ford มีศักยภาพที่แข็งแกร่งในการทำตลาดรถยนต์ขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูง

Ford Everest Concept
Ford มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ยานยนต์ทั้งสองรุ่น จะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันเพิ่มยอดขายของ Ford ในตลาดโลกโดยรวมได้อย่างแน่นอน Ford มีเป้าหมายสร้างยอดขายทั่วโลก 8 ล้านคัน ภายในกลางทศวรรษ โดยคาดว่ายอดขาย 60-70 เปอร์เซ็นต์ จะมาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และมีตลาดอาเซียนเป็นตลาดที่มีบทบาทสำคัญ Ford เปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสกับยานยนต์แห่งอนาคตรุ่นล่าสุด ด้วยการเปิดตัว Ford Everest Concept ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ของ Ford ในการพัฒนารถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เพื่อตลาดภูมิภาคอาเซียนและทั่วโลก Ford Everest Concept เป็น SUV รุ่นล่าสุดที่กำลังจะถูกปล่อยออกสู่ตลาด

Ford Fiesta

Ford Ecosport
เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า Ford เพิ่มเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังให้กับ New Fiesta ด้วยการเปิดตัวเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Ti-VCT พร้อมระบบเกียร์ Power Shift 6 Speed ที่ประหยัดน้ำมัน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกียร์ Power Shift สามารถใช้งานได้สะดวกแบบเกียร์อัตโนมัติ มีการใช้งานได้เร็วแบบเกียร์ธรรมดา New Fiesta วางเทคโนโลยี เช่น Ford Sync ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารด้วยคำสั่งเสียง ให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เสียงควบคุมโทรศัพท์และเครื่องเสียงได้โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัยหรือละสายตาจากถนน New Fiesta ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 569,000 บาท สำหรับรุ่น 4 ประตู แอมเบียนท์ เกียร์ธรรมดา ไปจนถึงราคา 719,000 บาท สำหรับรุ่น 4 ประตูไทเทเนี่ยม และ 5 ประตู สปอร์ต เกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือ Ecosport Crossover สำหรับคนเมือง ออกแบบโดยทีมงานของ Ford ในทวีปอเมริกาใต้ Ecosport ผลิตขึ้นที่โรงงาน Ford Thailand Manufacturing co. ltd (FMT) จังหวัดระยอง เพื่อการจำหน่ายในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคอาเซียน

 

Rolls Royce Motor Car
Rolls Royce จัดแสดงรถยนต์บนพื้นที่จัดแสดงที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ Rolls Royce เคยมีมา ณ งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 โดยทางผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ บริษัท มิล เลียนแนร์ ออโต้ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในเครือบริษัทมาสเตอร์ กรุ๊ป เอเซีย (คอร์ปอเรชั่น) จำกัด ได้จัดแสดงรถยนต์โรลส์-รอยซ์ 4 คัน พร้อมห้องรับรองลูกค้า เผยโฉมครั้งแรกในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของยนตรกรรมหรูสุดขั้ว Rolls Royce Ghost Majestic Horse Collection ความเกี่ยวกับม้าที่แสดงออกผ่านงานศิลป์ของจีน ด้วยเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบขนาด 6.6 ลิตร ส่งผ่านประสบการณ์การขับขี่ที่กำลังสูงสุด 563 แรงม้า /420 กิโลวัตต์ ที่แรงบิดสูงสุด 780 นิวตันเมตร รถยนต์ในคอลเลกชั่นนี้นำเสนอการตีความแบบร่วมสมัยของงานศิลป์ของจีนเกี่ยวกับม้า ที่พบเห็นบนชิ้นไม้แกะสลักสวยงามบริเวณแผงหน้าปัด และงานปักบนพนักพิงศีรษะ และเบาะนั่ง ส่วนตัวรถภายนอกตกแต่งด้วยลายเส้นคู่อันประณีตและภาพม้าซึ่งบรรจงวาดด้วยมือ บนข้างตัวรถ คอลเลกชั่นนี้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการเฉลิมฉลองปีนักษัตรมะเมียในพ.ศ.2557 อีกทั้ง ปีมงคลนี้ยังเป็นการผสมผสานกันระหว่าง ‘ธาตุไม้’ และ ‘ม้า’ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในกว่ากึ่งศตวรรษที่ทั้งสองสิ่งมาบรรจบในปีเดียวกัน

Rolls Royce Ghost Majestic Horse Collection
ลูกค้าเอเชียได้ให้การตอบรับมากขึ้นในเรื่องของบริการสั่งทำพิเศษที่ไม่เป็นสองรองใครของ Rolls Royce มร.พอล แฮริส ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัท Rolls Royce Motor Car กล่าว “รถยนต์รุ่นลิมิเต็ดนี้เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างขนบทางศิลป์ของจีน กับสุดยอดการออกแบบยนตรกรรมร่วมสมัยของอังกฤษ งานบริการสั่งทำรถรุ่นพิเศษในประเทศไทย ทำให้ Rolls Royce เข้าร่วมจัดแสดงรถยนต์ในครั้งนี้ Rolls Royce Motor Car Bangkok ผู้จัดจำหน่ายสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2556 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16 นับว่าเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยไม่รวมประเทศจีนในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยอดบริการสั่งทำพิเศษในประเทศไทยเติบโตสูงที่สุดในภูมิภาคถึงร้อยละ 178 Rolls Royce Motor Car Bangkok ยังคงนำเสนอรถยนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยสุด ยอดงานฝีมืออันประณีต และมาตรฐานงานคุณภาพที่ไม่เป็นสองรองใครที่ตอกย้ำโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ในฐานะผู้สร้างสรรค์สุดยอดสินค้าหรูระดับโลก

Rolls Royce Wraith
รถยนต์ 2 ประตูที่ส่วนท้ายลาดลงพร้อมห้องโดยสารสำหรับ 4 ท่าน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ 12 วาล์ว ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 624 แรงม้า / 465 กิโลวัตต์แรงบิดสูงสุดที่ 800 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 4.6 วินาที ที่ส่งพลังผ่านจากระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด โดยหัวใจสำคัญของรถยนต์รุ่นนี้รวมไว้ซึ่งความหรูหราประณีต และงานหัตถศิลป์ แต่ยังคงไว้ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะที่บ่งบอกถึงความทรงพลัง สไตล์และความเหนือชั้นที่แฝงด้วยความลึกลับเมื่อก้าวเข้าไปภายในตัวรถ จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศการตกแต่งภายในที่ร่วมสมัยด้วยวัสดุอันงดงามห้อมล้อม ด้วยสัมผัสผืนหนังอันนุ่มนวลระดับเดียวกับที่ใช้ในยนตรกรรมตระกูลแฟนธอม ทั้งนี้ เรธ ยังคงเป็นรถยนต์รุ่นที่เจาะตลาด และช่วยในการขยายแบรนด์ไปสู่กลุ่มลูกค้าที่อายุน้อยลงอย่างต่อเนื่อง

Rolls Royce Phantom Series 2
แนวคิด จงยอมรับแต่สิ่งที่เป็นเลิศและพัฒนาสิ่งนั้นให้ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น ถูกนำมาปรับใช้ใน Rolls Royce Phantom Series 2 รถยนต์รุ่นนี้ได้สร้างมาตรฐานความหรูหราแห่งยนตรกรรมด้วยดีไซน์ร่วมสมัยแต่ ไร้กาลเวลา ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยกับการพัฒนาครั้งสำคัญด้านระบบขับเคลื่อนความสะดวก ในการใช้งาน และการเชื่อมต่อ โดยขุมพลังของ Phantom Series 2 อยู่ที่เครื่องยนต์ขนาด 6.75 ลิตร 12 วาล์ว ให้กำลังสูงสุดที่ 453 แรงม้า / 338 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุดที่ 720 นิวตันเมตร ที่ถูกส่งผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

การรับประกันมาตรฐานเดียวกันในภูมิภาคสำหรับรถยนต์ Rolls Royce ในประเทศไทย
เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่ารถยนต์โรลส์-รอยซ์ที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทยนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและข้อบังคับบริษัทฯ ขอนำเสนอโปรแกรมการรับประกันมาตรฐานเดียวกันในภูมิภาค (Regional Warranty) สำหรับรถยนต์ Rolls Royce ทุกรุ่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การครอบครองรถยนต์ Rolls Royce ของลูกค้าในประเทศไทยเป็นไปอย่างง่ายดายไม่ซับซ้อนยุ่งยาก และไม่ต้องเผชิญกับปัญหา (อันเนื่องจากปัญหาทางเทคนิคและข้อกฎหมาย) ดังที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ จะมีการเปิดเผยถึงรายละเอียดเพิ่มเติมของการรับประกันมาตรฐานเดียวกันในภูมิภาคนี้ ในเวลาอันใกล้

Rolls Royce Motor Car มีแผนขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความสำเร็จของธุรกิจ Rolls Royce ในประเทศไทยมีส่วนช่วยในการวางแผนขยายธุรกิจสู่ตลาดใหม่ในอนาคต ได้แก่ กัมพูชา และอาจขยายต่อสู่ตลาดพม่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้แต่งตั้งผู้จำหน่ายในฮานอย ประเทศเวียดนาม และมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ตลอดจนการเปิดตัวโชว์รูมในประเทศออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น Rolls Royce ได้ศึกษาและจับตามองตลาดกัมพูชามาระยะหนึ่งแล้วและคาดว่าจะสามารถประกาศการแต่งตั้งผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้ยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาการขยายธุรกิจสู่ตลาดพม่า และตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีสำหรับ Rolls Royce ที่ได้เห็นการตอบรับของแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นในตลาดใหม่เหล่านี้ ซึ่งเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมาการแต่งตั้งผู้จำหน่ายในตลาดใหม่เหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไกลเกินฝัน เนื่องด้วยจำนวนประชากรในอาเซียนที่มากถึง 600 ล้านคน ผนวกกับการเพิ่มขึ้นของโครงสร้างพื้นฐานและจำนวนบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์สุดยอดยนตรกรรมหรู และนั่นก็คือ Rolls Royce

งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 จะมีไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2557 เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.