รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ ระดมสมองแก้ปัญหา เซ็กซ์ปลอดภัย..วัยว้าวุ่น โดยมี กรรณิการ์ ธรรมเกษร, นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล, นพ.ณัทธร พิทยรัตน์เสถียร และทรงยศ สุขมากอนันต์ ร่วมพูดคุยด้วย.
ปัญหาของวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงวัยว้าวุ่น โดยเฉพาะเรื่องเพศสัมพันธ์ ที่ตั้งท้องก่อนวัยอันควร กลายเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในสังคมไทย จากข้อมูลสถิติอัตราการคลอดในกลุ่มวัยรุ่นของไทยสูงเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และเป็นอันดับ 2 ของโลก รวมทั้งกระแสจากการตีแผ่ปัญหาวัยรุ่นของละครซีรีส์ยอดฮิต ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น จึงทำให้ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ช่วยระดมสมองเพื่อหาทางป้องกันในเรื่อง เซ็กซ์ปลอดภัย...วัยว้าวุ่น ขึ้นที่ตึก อปร. รพ.จุฬาฯ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา
การเสวนาเริ่มด้วย รศ.นพ.สุรสิทธิ์ ชัยทองวงศ์วัฒนา ได้บรรยายถึง ทำไมต้องเซ็กซ์ปลอดภัยในวัยว้าวุ่น เพราะเราเป็นแชมป์ที่มีอัตราวัยรุ่นไทยตั้งครรภ์จำนวนมากมาหลายสมัยแล้ว เด็กผู้หญิงที่คลอดลูกอายุต่ำสุด 8 ปี เด็กผู้ชายที่เป็นพ่ออายุต่ำสุด 10 ปี และล่าสุด 1 ใน 7 ของผู้หญิงคลอดบุตร คือ เด็กวัยรุ่น ไม่นับที่ทำแท้ง ซึ่งเด็กวัยรุ่นในประเทศอายุ 15-19 ปี มีประมาณ 5 ล้านคน ซึ่ง 1 ใน 4 เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ดังนั้นการห้ามเด็กไม่ให้มีเพศสัมพันธ์นั้น ห้ามได้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่สามารถยับยั้งได้ เราจะป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้อย่างไร แล้วผู้ใหญ่จะเปิดใจกว้างให้เด็กได้พกถุงยางหรือไม่ เหล่านี้เราคงต้องมาพูดคุยกัน
จากนั้นได้มีการระดมสมองเสวนาในเรื่อง ฮอร์โมน...ทำอย่างไรจึงไม่ว้าวุ่น ซึ่ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับละครซีรีส์เรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น กล่าวว่า ตอนแรก ไม่ได้คิดจะทำละครให้เป็นการสะท้อนสังคม แต่อยากทำละครที่ครอบคลุมชีวิตวัยรุ่นเท่านั้น ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มา สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมมันไปไกลกว่าที่ละครนำเสนอเยอะเลย ส่วน กรรณิ- การ์ ธรรมเกษร นักพูดชื่อดัง กล่าวว่า ตนมองว่าการสอนให้รักนวลสงวนตัวยังคงใช้ได้และต้องสอนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยวิธีการสอนต้องปรับเปลี่ยนไปตามยุค ต้องสอนวิธีคิดให้เขาคิดเป็น ให้รู้จักวิธีคิดให้รอบคอบ ขณะที่ นพ.สุกมล วิภาวีพลกุล กล่าวว่า ปัญหาที่ต้องป้องกันในเรื่องนี้มี 5 ระดับ ขั้นแรกพ่อแม่ทุกคนสอนเสมอว่า ให้ลูกๆตั้งใจเรียน รอเรียนให้จบก่อนแล้วค่อยมีความรัก จากนั้นถ้าลูกมีแฟน ก็ต้องบอกว่า มีแฟนได้แต่อย่าเพิ่งมีเซ็กซ์ ช่วงนี้จะเกิดขึ้นในช่วงมัธยม ในระดับอุดมศึกษาจะเป็นอีกขั้น คือ มีเซ็กซ์แล้วทำอย่างไรไม่เกิดการตั้งครรภ์ ตามมาด้วยการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ให้ไปทำแท้ง และทำแท้งอย่างไรไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ตนมองว่า การรณรงค์เรื่องสวมถุงยางนั้นเทียบเท่ากับการเมาแล้วไม่ขับ เพราะเด็กตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ส่วนใหญ่เป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ประสีประสา
สุดท้าย ผศ.นพ.ณัทธร พิทยรัตน์เสถียร กล่าวว่า พ่อแม่ควรมีการพูดคุยกับลูกเรื่องเพศ สอนเขาตั้งแต่เล็กๆ ไม่ใช่สอนเรื่องเพศสัมพันธ์ แต่ให้สอนเรื่องบทบาททางเพศ ปฏิกิริยาของร่างกาย การสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ สอนลูกๆให้คิด เซ็กซ์คืออะไร ความสัมพันธ์เป็นอย่างไร ถ้าช่วงวัยรุ่นยังคิดไม่ออก เราก็ต้องควบคุมดูแลไม่ให้ลูกๆเกิดความเสี่ยง การแก้ปัญหาต่างๆต้องเริ่มต้นด้วยการยอมรับว่า เรามีปัญหาอยู่จริง ถ้าไม่ยอมรับเราก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้.