พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
เคยสงสัยไหม! ใช้ 'แป้งเด็ก' อย่างไรห่างไกล 'ภูมิแพ้'...?

เคยสงสัยไหม! ใช้ 'แป้งเด็ก' อย่างไรห่างไกล 'ภูมิแพ้'...?

นั่นน่ะสิ! สำหรับคนที่มีลูกน้อย ใช้แป้งเด็กอย่างไรให้ไกลจากภูมิแพ้ วันนี้เรามีข้อมูลที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง

จากข้อมูลการสัมมนาประจำปี เรื่องโรคภูมิแพ้ โรคหืดและวิทยาภูมิคุ้มกันแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 29 โดย ศ.นพ. เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ระบุว่า โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ [allergic rhinitis (AR)] เป็นโรคที่พบบ่อย จากการใช้แบบสอบถาม International Study of Asthma and Allergies in Childhood (ISAAC) questionnaire พบว่าในประเทศไทย อุบัติการณ์ของโรค AR ในเด็กอยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 ส่วนอุบัติการณ์ในผู้ใหญ่สมัยก่อนอยู่ที่ร้อยละ 20 และเมื่อไม่นานมานี้มีการสำรวจ พบว่าบางแห่งมีอุบัติการณ์สูงถึงร้อยละ 40-50 เลยทีเดียว จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เด็กไทยกำลังเผชิญปัญหาการเป็นโรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจสูงขึ้น

แพทย์หญิง เกศินี โอวาสิทธิ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช ศรีนครินทร์ให้ข้อมูลด้วยว่า หนึ่งในปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ คือการเลือกใช้แป้งเด็กที่ไม่เหมาะสมและการ
ทาแป้งอย่างไม่ถูกวิธี เนื่องจากแป้งส่วนใหญ่ทำมาจากแร่หินทัลค์ หรือแป้งทัลคัม เมื่อสูดเข้าไปทีละน้อยๆ เป็นเวลานาน แร่หินทัลค์จะไปสะสมอยู่ในปอด ทำให้มีปัญหาด้านการหายใจ มีอาการไอ ระบบทางเดินหายใจติดขัดรุนแรง สำหรับเด็กทารก ก็อาจจะทำให้ปอดอักเสบ เกิดเนื้องอกในปอด และเสียชีวิตได้


ด้วยสาเหตุดังกล่าวทำให้กุมารแพทย์ส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ใช้แป้ง แต่เนื่องด้วยสภาพอากาศในเมืองไทยที่เป็นแบบร้อนชื้น การใช้แป้งจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากเพราะลูกน้อยเกิดผดผื่น ฉะนั้นคำถามคือ ควรเลือกแป้งอย่างไร และมีวิธีการทาแป้งอย่างไรให้ปลอดภัย ทำให้ลูกน้อยห่างไกลโรคภูมิแพ้!!!

แพทย์หญิงเกศินี ยังได้ให้คำแนะนำในการเลือกและการทาแป้งเด็กที่ถูกวิธี เพื่อให้ห่างไกลจากโรคทางเดินหายใจไว้ว่า “ในต่างประเทศตื่นตัวมานานแล้ว และผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกใช้แป้งที่มาจากวัตถุดิบทดแทน ที่นิยมมากก็จะเป็น แป้งข้าวโพด เนื่องจากเป็นสารอินทรีย์ย่อยสลายได้ด้วยธรรมชาติ ลักษณะของแป้งมีความกระด้างและติดผิวหนังได้มากกว่า ที่สำคัญปราศจากแร่ทัลค์ที่เป็นอันตราย!! ในส่วนของเมืองไทยช่วงหลัง เหล่าคุณพ่อคุณแม่มีทางเลือกในการใช้สินค้ามากขึ้น เพราะมีสินค้าเด็กประเภทกรีนโปรดักส์มากขึ้น ในส่วนของแป้งก็เช่นกัน มีผู้ผลิตคิดค้นแป้งที่ทำมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ อาทิ แป้งข้าวเจ้าสตาร์ช (Rice Starch) ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยต่อเด็กทุกวัย เพราะเป็นสารอินทรีย์ ทำให้สามารถย่อยสลายได้โดยจุลินทรีย์ในธรรมชาติ ไม่เกิดการสะสมในปอดอันเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคภูมิแพ้ โดยคาดการณ์กันว่าต่อไปแป้งทาตัวจากแป้งข้าวเจ้าจะเป็นเทรนด์สำหรับคุณแม่ยุคใหม่ โดยนอกจากแป้งข้าวเจ้าจะเป็นแป้งทาตัวเด็กที่ปลอดภัยแล้ว ในกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใหญ่วัยทำงาน หรือกระทั่งผู้สูงอายุ ยังสามารถใช้ทาใบหน้า ทาตัวได้ ช่วยลดเหงื่อและการอับชื้นที่เกิดระหว่างวันได้ดีมาก และไม่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ อีกทั้งในวงการแพทย์มีการเริ่มใช้แป้งข้าวเจ้าสำหรับลดการอับชื้นของแผล ฝี หนอง แผลอักเสบต่างๆ เพราะสามารถดูดซึมได้ดีและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง”

นอกจากนี้ การทาแป้งให้ถูกวิธี ก็ต้องให้ความสำคัญ คือไม่ควรใช้ในปริมาณมากเกินไป และหลีกเลี่ยงการทำให้แป้งฟุ้งกระจาย จนสูดดมเข้าไป

เมื่อลองสอบถามเคล็ดลับเลี้ยงดูลูกจากเซเลบคุณแม่มือใหม่ถึงการเลี้ยงดูลูกให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ อัยย์ชิตา ปรีชาว่องไวกุล ที่เป็นทั้งคุณแม่คนเก่งและกรรมการผู้จัดการบริษัท ไร้ท์บิยอนด์ จำกัด กล่าวว่า “ลูกๆ ทั้ง 3 คน เป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่เล็กๆ เราก็เลยต้องหาของใช้ที่เหมาะสำหรับเด็กที่เป็นภูมิแพ้ อย่างแป้งก็มีเพื่อนที่เป็นคุณแม่ด้วยกันแนะนำว่า ให้ลองใช้แป้งไร้ซแคร์ดู เพราะไม่มีทัลคัมที่ทำให้เกิดการสะสมในร่างกาย ก็เลยลองใช้มาตลอด ใช้แล้วก็ชอบมากค่ะ เพราะสามารถป้องกันความอับชื้นให้ลูก ทำให้ลูกสบายตัว อาการภูมิแพ้ที่เคยเป็นก็บรรเทาลงด้วย เลยบอกต่อให้เพื่อนๆ คุณแม่ด้วยกันใช้ด้วย

กรณิการ์ งามวงศ์มาศ คุณแม่ผู้คล่องแคล่วและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ 
บริษัท สินกิจไพบูลย์โลหะการ จำกัด เล่าถึงลูกสาวน้องนามิ อายุ 7 เดือนว่า “น้องนามิเป็นเด็กแข็งแรง แต่มีปัญหาเรื่องผิวแพ้ง่าย เลยต้องพิถีพิถันมากในการเลือกสรรของที่ใช้กับน้อง ส่วนใหญ่หลังจากอาบน้ำแล้วจะทาโลชั่นบำรุงผิวสำหรับเด็กทารกที่มีผิวแพ้ง่าย และไม่ค่อยได้ทาแป้งเพราะทราบว่าแป้งที่ขายทั่วไปในท้องตลาดมีทัลคัมผสมอยู่ แต่คุณย่ายังคงชอบที่จะให้ทาแป้งให้น้องนามิตามข้อพับและซอกคอเพื่อให้น้องสบายตัว ไม่เหนอะหนะ โชคดีได้รู้จากกลุ่มแม่ๆ ว่ามีแป้งยี่ห้อไร้ซแคร์ซึ่งไม่ผสมทัลคัม และผลิตจากข้าวเจ้าที่มีความบริสุทธิ์จึงซื้อมาติดบ้านไว้ นอกจากนี้ แม้ว่าเมืองไทยจะอากาศร้อนแต่ก็ไม่อยากให้ลูกอยู่แต่ในห้องแอร์ทั้งวันทั้งคืน ดังนั้นช่วงที่อากาศสบายๆ ก็จะอุ้มน้องเดินเล่นในสวนหลังบ้าน นั่งดูต้นไม้ ดูสุนัขวิ่งเล่นกัน บางวันก็พาน้องไปเรียนเสริมพัฒนาการทางร่างกายและสมองข้างนอกบ้าน ดังนั้นเพื่อให้น้องสบายตัวช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ห้องแอร์ คุณแม่ก็จะทาแป้งให้น้องตามซอกคอ ข้อพับ รักแร้ ใช้ปริมาณนิดเดียวก็ผิวลื่นสบายแล้ว

โอ๋ อัญญา ยูถะสุนทร ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ Haier Electrical Appliance (Thailand) Limited ซึ่งเป็นคุณแม่หมาดๆ ของน้องแอลลี่วัย 3 เดือนกล่าวว่า “บ้านอยู่กลางเมืองค่ะ ใครๆ ก็บอกว่าลูกอาจเป็นภูมิแพ้ได้ เราเลยเริ่มศึกษาหาความรู้เรื่องการดูแลลูกให้ห่างไกลจากภูมิแพ้กันตั้งแต่ก่อนคลอด เราพยายามให้ภูมิคุ้มกันธรรมชาติกับลูก เพราะเชื่อว่าเป็นภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพสูงสุด เริ่มจากตัวเราก็ออกกำลังกายตั้งแต่ก่อนคลอด ดูแลเรื่องอาหารของใช้ให้สะอาดและเป็นธรรมชาติ ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์อื่นๆ ก็จะคอยระวัง ไม่เลือกซื้อสิ่งที่อาจมีสารก่อภูมิแพ้ เช่น แป้งเด็ก ต้องระวังมากหน่อยเพราะละอองแป้งอาจทำให้เกิดการสะสมในปอดของลูก เป็นอันตรายเหมือนกันค่ะ ช่วงแรกน้องแอลลี่เกิดมาจึงไม่ได้ใช้แป้งเลยค่ะ แต่สุดท้ายจะไม่ใช้ก็ไม่ได้เพราะอากาศบ้านเราร้อนชื้น ลูกจะหงุดหงิดเพราะผิวเหนอะหนะ และมีผดขึ้น จึงมีความคิดอยากจะใช้แป้งทาตามข้อพับเพื่อช่วยลดความชื้นให้เขา จนกระทั่งมีเพื่อนซึ่งเป็นคุณแม่เหมือนกันแนะนำให้ใช้แป้งที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ย่อยสลายได้เอง ไม่ตกค้างในร่างกายลูกเพราะเป็นแป้งเด็กที่ทำจากข้าวเจ้า ตอนนี้ใช้มา 3 เดือนแล้ว ถูกใจเลยค่ะ ตั้งแต่ผิวสัมผัสที่ติดเนื้อน้องได้ดี ไปจนถึงการป้องกันความเปียกชื้น มีประสิทธิภาพที่เห็นได้ชัดจริงๆ กลิ่นก็หอมแบบธรรมชาติ ไม่ผ่านการปรุงแต่งเหมือนแป้งเด็กทั่วๆ ไปค่ะ”

และแล้ว “แป้งข้าวเจ้า” ของไทยก็กลายเป็น “ฮีโร่” ช่วยเด็กและทุกๆ คน คอนเฟิร์มว่าที่สุดแล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาตินี่แหละ ของดีที่สุด!!!




Create Date : 29 กรกฎาคม 2556
Last Update : 29 กรกฎาคม 2556 2:55:30 น. 0 comments
Counter : 1004 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.