สื่อสหรัฐฯแฉ สำนักงานความมั่นคงสหรัฐฯ ร่วมกับหน่วยข่าวกรองอังกฤษ เจาะศูนย์ข้อมูลผู้ใช้ของยาฮูและกูเกิลทั้วโลก และสอดแนมข้อมูลไปแล้วไม่น้อยกว่า 181 ล้านรายการ...

สำนักข่าววอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ว่า จากข้อมูลในเอกสารลับmujได้รับมาจาก เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ชี้ว่า สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ เจาะเข้าไปในเครือข่ายใยแก้วนำแสง ซึ่งเชื่อมต่อกับศูนย์ของมูลทั่วโลกของ 'ยาฮู' และ 'กูเกิล'

เอ็นเอสเอ ใช้ปฏิบัติการที่เรียกว่าโครงการ 'มัสคูลาร์' (MUSCULAR) ร่วมกับ สำนักงานใหญ่การสื่อสารกลาง (จีซีเอชคิว) หน่วยงานข่าวกรองของอังกฤษ ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลจากบัญชีผู้ใช้เว็บไซต์ยักษ์ใหญ่ทั้งสอง จำนวนหลายร้อยล้านบัญชี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันได้ตามต้องการ ต่างจากโปรแกรมปริซึม ที่สโนว์เดนแฉก่อนหน้านี้ ตรงที่เอ็นเอสเอจะเข้าถึงข้อมูลที่ ปริซึม ดักจับมาได้นั้นต้องได้รับการอนุมัติจากศาลเสียก่อน แต่ดูเหมือนมัสคูลาร์ไม่ต้องมีขั้นตอนเช่นนั้น

จากเอกสารลับสุดยอดดังกล่าวซึ่งลงวันที่ 9 ม.ค. 2013 ระบุว่าทุกๆวัน เอ็นเอสเอ จะส่งข้อมูลที่บันทึกได้จากเครือข่ายข้อมูลของยาฮู และกูเกิล ไปยังฐานเก็บข้อมูลที่สำนักงานใหญ่ของเอ็นเอสเอในเมือง ฟอร์ท มีด ในรัฐแมรีแลนด์ เอกสารยังระบุด้วยว่า ในช่วง 30 วันก่อนหน้านั้น มีการบันทึกและส่งต่อข้อมูลถึง 181,280,466 รายการ รวมถึง 'เมตาเดตา' (metadata) ซึ่งเป็นตัวบอกว่า ใครส่งหรือรับอีเมล์ในเวลาใด รวมถึงข้อความ, ข้อความเสียงและ วิดีโอด้วย

หลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ทั้งกูเกิลและยาฮูก็ออกมาแสดงความไม่พอใจทั้นที โดย เดวิด ดรัมมอนด์ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายของกูเกิล กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า บริษัทเป็นกังวลมาตลอดถึงความเป็นไปๆด้ที่จะถูกเจาะข้อมูลเช่นนี้ และไม่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลในการเข้าถึงระบบของบริษัท "เราไม่พอใจอย่างมากที่รัฐบาลดักจับข้อมูลจากเครือข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงของบริษัทเราไปมากขนาดนี้ และขอแน้นย้ำว่า ถึกเวลาต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วนแล้ว"

ขณะเดียวกัน ยาฮูก็ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า พวกเขามีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด เพื่อปกป้องความปลอดภัยของศูนย์ข้อมูลของบริษัท และไม่ได้เป็นผู้อนุญาติให้เอ็นเอสเอหรือหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลอื่น เข้าถึงฐานข้อมูลของบริษัทอย่างแน่นอน

ในเวลาต่อมา หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเกินเลยในปฏิบัติการหาข่าวกรองของเอ็นเอสเอ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อการสอดแนมด้วยเทคโนโลยีขึ้นสูงและอุปกรณ์ดิจิตอล เอ็นเอสเอก็ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า พวกเขามุ่งเน้นที่การค้นหาและพัฒนาการข่าวกรอง โดยสอดแนมเป้าหมายต่างชาติอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น "เอ็นเอสเอดำเนินการต่างๆโดยได้รับอนุมัติจากกระทรวงยุติธรรม เพื่อปกป้องสิทธิส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน โดยจำกัดความเป็นไปได้ที่ชาวอเมริกันจะตกเป็นเป้าหมายสอดแนมให้เหลือน้อยที่สุด" แถลงการณ์ระบุ

ด้าน พลเอก คีธ อเล็กซานเดอร์ ผู้อำนวยการใหญ่ของเอ็นเอสเอ ก็กล่าวถึงประเด็นนี้ผ่าน 'บลูมเบิร์ก ทีวี' ว่า พวกเขาไม่มีอำนาจในการเจาะฐานข้อมูลของบริษัทของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ปฏิเสธรายงานของวอชิงตันโพสต์โดยตรง