ดีแทค ยิ้มรับผลประกอบการ โวปัจจัยลบ-การแข่งขันในตลาดโทรคมฯ รุนแรง แต่รายได้ไตรมาส 3 ยังขยับ เผยบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายเป็นแรงผลักดันให้รายได้เติบโต...

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 โดยระบุว่า ผลประกอบการยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจและการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นประกอบกับการปรับลดอัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (Interconnection หรือ IC) ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา รายได้จากการให้บริการ (ไม่รวม IC) เพิ่มขึ้น 10.2% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายที่เติบโตมากกว่า 80% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน คิดเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่รายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์เคลอื่นที่ก็ปรับตัวสูงขึ้นราว 32.6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน แต่ปรับลดลงจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิฐและการรอคอยการเปิดตัวไอโฟน 5เอส ในไตรมาสที่ 4 นี้ ส่งผลให้ดีแทคมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 21,400 ล้านบาท ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการปรับลดอัตราค่าเชื่อมโยงโครงข่ายทั้งระบบ 2จี และ 3จี ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556

โดยจุดเด่นในไตรมาสที่ 3 ของดีแทค ยังคงเป็นรายได้จากบริการเสริมที่เติบโตต่อเนื่อง 10.3% จากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 5,900 ล้านบาท โดยแรงขับเคลื่อนหลักของรายได้จากบริการเสริมยังคงเป็นการใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายที่เติบโตราว 14.1% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากความนิยมในสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นสังคมออนไลน์ รวมถึงการขยายพื้นที่ให้บริการ 3จี บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั่วประเทศ

ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนต่อผู้ใช้บริการทั้งหมดของดีแทคเพิ่มขึ้น 29.1% ในไตรมาส 3 ของปี 2556 จากการทำตลาดดีแทค ไตรเน็ต โฟนและราคาสมาร์ทโฟนที่ลดลงในตลาด การเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟนส่งผลดีให้ดีแทคในการเติบโตของรายได้ บริการอินเทอร์เน็ตและความต้องการของลูกค้าปัจจุบันที่มีความประสงค์โอนย้ายสู่ระบบ 3จี 2.1 กิกะเฮิรตซ์ โดยดีแทค ไตรเน็ต ได้โอนย้ายลูกค้าเป็นจำนวนกว่า 3.7 ล้านราย โดยยังมีลูกค้าที่แจ้งความต้องการย้ายมาใช้บริการดีแทค ไตรเน็ตอีกราว 8.2 ล้านราย ซึ่งดีแทคตั้งเป้าจะทำให้บรรลุเป้าหมายที่มีลูกค้าเข้ามาใช้ดีแทค ไตรเน็ต ครบ 10 ล้านราย ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันดีแทค และดีแทค ไตรเน็ต มีสถานีฐานรวมกันประมาณ 20,000 สถานี ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมจำนวนประชากรกว่า 55% ได้ภายในสิ้นปี

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า รายได้การให้บริการที่เติบโตต่อเนื่องเป็นผลจากการใช้งานโมบายล์อินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมมากขึ้น รวมถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและการทำตลาด ที่บริษัทจัดแคมเปญต่อเนื่องเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเครือข่ายอื่นย้ายเข้ามาใช้ดีแทค ไตรเน็ต อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงปลายปีนี้ภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะความรุนแรงมากขึ้น จากความพร้อมด้านเครือข่าย 3จี ของทุกค่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้แต่ละค่ายออกแคมเปญมาช่วงชิงลูกค้ากันอย่างร้อนแรง สำหรับจุดยืนของดีแทค เรายังคงมุ่งเน้นในการขยายและพัฒนาคุณภาพเครือข่ายดีแทค ไตรเน็ต ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งและเปิดให้บริการครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทำให้การเชื่อมต่อสัญญาณเพื่อการใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น

นอกจากนี้ ดีแทค ยังประกาศว่า นายจอน เฟรดริค บัคซอส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป ยังได้รับเลือกเป็นประธานคนใหม่ของ GSMA สมาคมที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สายจากทั่วโลก โดยนายจอน เฟรดริค บัคซอส เข้ารับตำแหน่งต่อจากนายฟรังโก้ แบคนาเบ้ โดยจะดำรงตำแหน่งไปจนสิ้นสุดวาระของคณะกรรมการชุดปัจจุบันในเดือนธันวาคมปี 2557

อย่างไรก็ตาม ในฐานะประธาน GSMA นายจอน เฟรดริค บัคซอส จะรับผิดชอบด้านทิศทางกลยุทธ์ของสมาคม ซึ่งนอกจากจะมีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สายจากทั่วโลกเกือบ 800 ราย ยังรวมถึงอีก 250 บริษัทที่อยู่ในแวดวงที่เกี่ยวข้อง เช่นบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริษัทผู้ผลิตซอฟท์แวร์ ผู้ให้บริการโครงข่าย บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และองค์กรในอุตสาหกรรมอื่น เช่น สถาบันการเงิน เฮลธ์แคร์ ธุรกิจสื่อ การคมนาคม นอกจากนี้ GSMA ยังเป็นผู้จัดงานอีเวนต์สำคัญ ๆ ของอุตสาหกรรม เช่น โมบายล์ เวิลด์ คองเกรส และโมบายล์ เอเชีย เอ็กซ์โป อีกด้วย.