อีริคสันและเฟซบุ๊กร่วมจัดตั้งศูนย์วิจัยเชิงนวัตกรรมเพื่อโครงการ Internet.org ขยายโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในตลาดเกิดใหม่ รองรับผู้ใช้งานกว่า 5 พันล้านคนในอนาคต รวมทั้งสร้างประสบการณ์การใช้แอพ บริการ และอุปกรณ์ต่างๆ ให้ดีขึ้น...

อีริคสัน ประกาศร่วมกันกับ เฟซบุ๊ก (Facebook) ถึงการจัดตั้งศูนย์วิจัยเชิงนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนโครงการ Internet.org โดยที่ทางศูนย์วิจัยแห่งนี้เป็นการประสานความร่วมมือกันระหว่างอีริคสันและเฟซบุ๊ก เพื่อที่จะเตรียมการด้านสภาพแวดล้อมและทักษะความชำนาญในการสร้างความเหมาะสมให้กับแอพพลิเคชั่น เครือข่าย อุปกรณ์และการบริการที่จะมารองรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอีกจำนวนกว่า 5 พันล้านคน ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า ศูนย์วิจัยจะเปิดตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีพ.ศ. 2557 ที่แคมปัสเฟซบุ๊กในเมนโล พาร์ค รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยการจัดตั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อสอดรับกับเป้าหมายหลักของโครงการ Internet.org ในการที่จะขยายโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตให้กับทุกคน

ด้วยพื้นฐานตามอุปกรณ์ของอีริคสัน และความสามารถด้านการบริการตรวจสอบแอพพลิเคชั่น (Application Verification) อีริคสันจะมีการเตรียมการสำหรับเฟซบุ๊กและนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นในการจำลองสภาวะแวดล้อมทางเครือข่ายที่มีความแตกต่างกันจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งนี้เพื่อให้พวกเขาได้มีการพัฒนาและทดสอบถึงแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือและการบริการ

นับแต่การประกาศการจัดตั้งโครงการ Internet.org เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2556 ที่ผ่านมา ด้วยวัตถุประสงค์ที่จัดตั้งโครงการขึ้นเพื่อให้ผู้กว่า 2 ใน 3 ของโลกที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้กว่า 100 ปีแล้วที่อีริคสันได้ดำเนินภารกิจในการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี (Digital Divide) และ Technology for Good ในแอฟริกา และประสบการณ์อันยาวนานของอีริคสัน จะเป็นการสนับสนุนให้เป้าหมายของโครงการ Internet.org บรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้จะทำให้ การเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตนั้นมีราคาที่ถูกลง ใช้งานดาต้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการขับเคลื่อนทางธุรกิจ

นายเจย์ พาลิงค์ รองประธานฝ่ายวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานของเฟซบุ๊ก กล่าวว่า ศูนย์วิจัยแห่งนี้ จะช่วยให้นักพัฒนาต่างสามารถที่จะจำลองสภาพของการใช้งานในเครือข่ายสถานการณ์ต่างๆ ที่เหมือนจริง ซึ่งก็จะช่วยให้พวกเขาได้ทดสอบและปรับปรุงความเหมาะสมให้กับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ภายใต้สถานการณ์ที่แตกต่างกันอีกด้วย และนี่ถือเป็นความเชี่ยวชาญอันเฉพาะตัวของอีริคสัน และเราเองก็มีความยินดีที่ได้อีริคสันมาทำงานร่วมกันกับเราในครั้งนี้

รองประธานฝ่ายวิศวกรรมโครงสร้างพื้นฐานของเฟซบุ๊ก กล่าวต่อว่า ศูนย์วิจัยแห่งนี้จะช่วยขจัดอุปสรรคที่ปิดกั้นไม่ให้ผู้คนต่างสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึงให้หมดไป ในทุกวันนี้นักพัฒนาต่างก็สามารถเข้าถึงเครือข่ายเพื่อทดสอบและพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้จากที่ทำงานหรือออฟฟิศของพวกเขาอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริง ความหลากหลายในเทคโนโลยีของเครือข่ายที่แตกต่างกัน เช่น 2G, 3G, 4G และ WiFi ในสถานที่ๆ แตกต่างกันนั้นเอง จึงทำให้ผู้บริโภคนั้นมีการเข้าถึงและใช้เครือข่ายที่แตกต่างกันด้วย รวมทั้งความหลากหลายและระบบของโทรศัพท์รวมทั้งอุปกรณ์ที่หลากหลายของผู้บริโภคอีกด้วย ดังนั้นศูนย์วิจัยเชิงนวัตกรรมแห่งนี้เองที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆ สามารถจำลองสภาพแวดล้อมทางเครือข่ายที่อย่างหลากหลายจากทุกๆ แห่งในโลกได้เลย

ด้าน นายโจฮานน์ วีเบรกค์ รองประธานระดับสูงและหัวหน้าฝ่าย Business Unit Networks ของอีริคสัน กล่าวถึง เป้าหมายของโครงการ Internet.org นั้นสอดคล้องกับหลักการที่กล่าวว่า การสื่อสารเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์” ดังนั้นการสร้างสรรค์ศูนย์วิจัยแห่งนี้ขึ้นมาจึงเป็นช่วยให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างสามารถจำลอง และทดสอบเพื่อปรับปรุงแอพพลิเคชั่นให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งานจริงในสภาวะของเครื่อข่ายต่างๆ โดยพิจารณาตามเครือข่าย อุปกรณ์ หรือระบบดำเนินการ ทั้งนี้การทำงานร่วมกันกับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น ก็จะช่วยให้ทางอีริคสันมีความเข้าใจ ในความต้องการของพวกเขาต่อเครือข่ายอีกด้วย สิ่งนี้เองทำให้เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการพัฒนาของเครือข่ายที่กำลังดำเนินอยู่ในทั่วทุกมุมโลกอีกด้วย

บริการการตรวจสอบแอพพลิเคชั่น (Application Verification Service) เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของอีริคสันในเรื่องของการสร้างสังคมเครือข่าย (Networked Society) ที่อุปกรณ์ต่างๆ จะสามารถเชื่อมต่อสื่อสารกันมากยิ่งขึ้นโดยจะเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจอีกมากมาย ดังนั้น นักพัฒนาแอพพลิเคชั่น ผู้ผลิตเครือข่าย และผู้ให้บริการ ต่างจำต้องมีการวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและนำเสนอนวัตกรรมและบริการที่ดี รวมถึงสร้างประสบการณ์ทางเครือข่ายในเชิงบวกอีกด้วย.