สนมเอกไข่แดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สนมเอกไข่แดง's blog to your web]
Links
 

 
[ ช่อง 3 ] 365 วันแห่งรัก ตอนที่ 2



ตอนที่ 2


วันนี้ ลดาวัลย์ใส่แว่นสายตารุ่นคุณป้าขับรถเก่าบุโรทั่ง
พาแม่คือลักษมีที่เอาบาหลีหลานตัวเล็กนั่งตักมาด้วย  ลดาวัลย์ขับช้าๆกระ
ฉึกกระฉัก  จนลักษมีบ่นว่าขับแบบนี้เมื่อไหร่จะถึง  ตนกับบาหลีหิวจนจะเป็น
ลมอยู่แล้ว  ลดาวัลย์บอกว่าตนยังไม่คุ้น  ลักษมีบ่นกระปอดกระแปดว่า


"ไอ้ชวินทร์นี่ก็จริงๆ ซื้อรถใหม่แล้วแทนที่จะให้เมียขับ
กลับเอาคันเก่ามาให้ แอร์ก็ไม่เย็น โอ๊ย...ฉันจะเป็นลม
มีอะไรมาพัดบ้างไหมเนี่ย"


ลักษมีค้นหาอะไรมาพัด หาไปหามาเจอลิปสติกเข้า ถามว่าของใคร
ลดาวัลย์บอกว่าของตนเอง
ลักษมีพูดอย่างชอบใจว่าได้เชื้อแม่แรงดีถึงขนาดทิ้งสัมภาระไว้แสดงความเป็น
เจ้าของแผนสูงเหมือนกัน


ลดาวัลย์บอกว่าตนไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น ลักษมีไม่เชื่อ  ดูไปดูมาเจอสายเสื้อชั้นในเข้าอีก คราวนี้ลดาวัลย์ตกใจ เลยถูกแม่ดักคอว่า


"อาการ แบบนี้ไม่ใช่ของแกละสิท่า เวรกรรม
ฉันบอกพวกแกแล้วว่าผู้ชายไทยมันเจ้าชู้ทุกคน แกก็ไม่เชื่อฉัน
อยากจะแต่งกันทั้งพี่ทั้งน้อง เป็นไงล่ะ"


ลดาวัลย์มองสายเสื้อชั้นในปริศนาเส้นนั้นด้วยความรู้สึกสับสน


กิน ข้าวเสร็จกลับถึงบ้าน ลักษมีโทร.ไปหาลัลนารีทันที
พูดเรื่องสายเสื้อชั้นในจนลัลนารีบอกแม่ว่ามันไม่เกี่ยวกับตนเลยอย่าเอาตนไป
เกี่ยวด้วย


"ถึงนายตุลย์จะไม่วิ่งออกนอกลู่แต่ผู้หญิงอาจจะไหลมาเข้า ทาง
ผู้หญิงสมัยนี้ออกหน้าด้านเจ้ามารยา ซื่อๆอย่างนายตุลย์ไม่ทันเขาหรอก"
ลักษมีจะต้อนตุลย์ให้เป็นแบบที่ตัวเองคิดให้ได้


"ไม่ต้องห่วงเลยแม่ คนอย่างตุลย์ไม่มีปัญหาเรื่องผู้หญิงแน่นอน
แค่นี้นะแม่"
ลัลนารีตัดบทวางสายจากแม่แล้วก็เอารูปแต่งงานที่ปริ๊นต์ออกมามากมายโดยเฉพาะ
รูปตนกับตุลาในชุดบ่าวสาวมาแขวนไว้กับไหมพรมที่โยงไว้รอบห้อง
ดูแล้วชมอย่างปลื้มใจว่า "น่ารักที่สุด"


พอดีมีช่องว่างอยู่เธอคิดจะ หารูปมาเติมให้เต็ม ไปดูที่คอมพิวเตอร์เลือกรูป
เลือกไปเลือกมาเจอเอารูปของรชาเข้าเอะใจว่าคนนี้เป็นใคร
แล้วกดซูมเข้าไปดูหน้าให้ชัดๆ


ooooooo


ที่คฤหาสน์ภูมิบดินทร์ รชาผลักประตูเข้าไปในห้องนอน
เห็นภูมิบดินทร์สามีตัวเองกำลังคลุกอยู่กับหญิงสาวถึง 4 คนในคราวเดียวกัน
รชาแผดเสียงกรี๊ด ไล่ผู้หญิงพวกนั้นออกไปให้หมด


"ฉันต้องถามว่าเธอมี สิทธิ์อะไรเสนอหน้าเข้ามาในบ้านนี้"
ภูมิบดินทร์ผงกหัวขึ้นตวาด
เมื่อเธออ้างสิทธิ์ของภรรยาและเจ้าของบ้านหลังนี้ครึ่งหนึ่ง
ก็ถูกภูมิบดินทร์ตวาดว่า


"หุบปาก! ตอนมาก็ล่อนจ้อนมาตัวเปล่า
แล้วยังจะมีหน้าสะเออะมาเรียกร้องจากฉัน!!"
แล้วหันไปกกพวกสาวๆ"มานี่หนูๆไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น
ใครที่ไม่เกี่ยวเดี๋ยวมันก็คลานกลับออกไปเอง"


"อย่างรชา ไม่เคยแพ้ และไม่เคยต้องคลานหนีใคร ถ้าพวกหล่อนยังไม่ออกไป
ฉันไม่เอาไว้แน่...ออกไป!!"
รชาตวาดไล่  คว้าสิ่งของใกล้มือปาใส่ทั้งสี่สาวจนหลบกันแทบไม่ทัน


ภูมิบดินทร์ เหลืออดลุกขึ้นมาตบหน้ารชาต่อหน้าผู้หญิงพวกนั้น
รชากุมแก้มที่โดนตบโวยลั่นว่ากล้าตบหน้าตนหรือ
ภูมิบดินทร์ตอบอย่างท้าทายว่ายิ่งกว่านี้ก็ทำได้
รชาปาของชิ้นสุดท้ายลงพื้นพูดอาฆาตก่อนเดินออกจากห้อง
"แล้วแกจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต!"


เธอกลับเข้าไปในห้องนอนอีกห้อง
โยนข้าวของส่วนตัวใส่กระเป๋าเดินทางอย่างเจ็บใจ
เปิดลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งเห็นไดอารี่สีชมพู เธอหยิบขึ้นมาราวกับของล้ำค่า
เปิดออกอ่านข้อความที่บันทึกไว้
ความรู้สึกนึกคิดหวนกลับไปสู่อดีตอย่างมีชีวิตชีวา...


เป็นอดีตครั้ง ที่เธอและตุลาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน
เวลานั้นเธอซ้อมเชียร์ลีดเดอร์หลังเลิกเรียน
เธอเป็นดาวมหาวิทยาลัยที่ทุกคนชื่นชมในความสวย เก่ง แน่นอน
ไม่เว้นตุลาในวัยหนุ่มด้วย เขาเฝ้าดูการซ้อมของเธออย่างชื่นชม
เธอยิ้มให้เมื่อหันมาเห็น


เวลานั้นตุลาใกล้ชิดเธอกว่าคนอื่น
เพราะความสุภาพและเรียนเก่งของเขาจึงช่วยเธอในด้านการเรียน
อ่านเลกเชอร์ให้เธอฟังหลังเลิกเรียน
แต่ความสวยความเด่นทำให้รชาไม่ได้สนใจการเรียนนัก
เธอขี้เล่นและชอบปั่นหัวยั่วประสาทตุลาเวลาที่เขาอ่านเลกเชอร์ให้ฟัง


เวลา นั้น
ติ้งพี่สาวคนเดียวของตุลาก็รู้จักรชาเป็นอย่างดีเพราะตุลาพาเธอไปติวให้ที่
บ้าน โดยตุลาติวไปเธอก็ป้อนผลไม้ให้เขาไป
ต่างมีความรู้สึกพิเศษที่น่ารักต่อกัน


รชาปิดไดอารี่สีชมพู นึกถึงคืนวันแต่งงานที่ได้ยินลัลนารีพูดถึงตุลาอย่างชื่นชมภูมิใจแล้วเธอก็จิกตาพูดอย่างริษยาว่า


"ผู้หญิง ที่จะต้องพูดประโยคนี้คือฉันไม่ใช่เธอ
คนที่จะต้องมีความสุขคือฉัน...ชีวิตต้องไม่เป็นแบบนี้
มันต้องไม่เป็นแบบนี้...ต้องไม่เป็นแบบนี้!!"
รชาแทบจะกรี๊ดออกมาด้วยความกดดัน สุดท้ายเธอบอกกับตัวเองอย่างหนักแน่น
จริงจัง มุ่งมั่นว่า


"ฉันจะต้องเอาตุลย์กลับมาเป็นของฉันให้ได้...ฉันคือคนที่ต้องได้ทุกอย่างที่ดีที่สุด!!"


ooooooo


จากนั้นรชาไปหาตุลาที่สำนักทนายความ เธอไม่เข้าไปหาเขาแต่ส่งข้อความนัดให้ออกมาพบกันที่ร้านกาแฟข้างๆสำนักงาน


พอ เจอกันต่างก็มองกันเขินๆ จนรชาเป็นฝ่ายบอกให้เขานั่ง
ตุลาจึงถามว่าได้เบอร์ของตนจากไหน รชาบอกว่าถามจากติ้ง
ส่วนเรื่องที่เขาแต่งงานนั้นเธอรู้จากเพื่อนๆ
เลยแวะมาดูให้แน่ใจว่าเขาแต่งงานจริงหรือเปล่า


"แล้วที่อยากเจอผม วันนี้ มีธุระอะไรด่วนรึเปล่า" ตุลาถาม
รชาตั้งใจถอดแว่นอันโตที่ใส่ปกปิดรอยช้ำที่โดนตบไว้ ให้ตุลาเห็น
เขาถามอย่างตกใจว่าหน้าไปโดนอะไรมา เธอก็เริ่มบีบน้ำตาเล่นบทโศกทันที
บอกว่าที่อยากเจอเขาก็เพราะเรื่องนี้แหละ จ้องหน้าเขาก่อนจะพูดออกมาว่า


"รชา จะฟ้องหย่าจากสามี รชาไม่อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาอีกแล้ว
รชาตกนรกมานานแล้ว รชาอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตุลย์ช่วยรชานะคะ...นะคะ..."
พูดแล้วน้ำตาร่วงเป็นสาย


"คุณจะให้ผมช่วยยังไง"


"เป็นทนายให้รชาฟ้องหย่าจากสามี รชาไม่ไว้ใจคนอื่นนอกจากตุลย์" เธอมองมือของตุลาที่วางอยู่บนโต๊ะ เรียกเขาพลางจะเอื้อมไปจับ


เจ้า กรรม! โทรศัพท์มือถือเขาดังขึ้น ตุลาเลยดึงมือนั้นไปหยิบโทรศัพท์
รชานึกฉิวคนที่โทร.เข้ามา พอฟังตุลาทักทายรู้ว่าเป็นสายจากลัลนารีเธอเลยฉุน
ยิ่งเมื่อได้ยินตุลาบอกลัลนารีว่าเขากำลังคุยอยู่กับลูกความคราวนี้เลยกลาย
เป็นโกรธ นั่งหน้าบอกบุญไม่รับฟังตุลาคุยโทรศัพท์


"ตอนนี้คุณอยู่ที่ หน้าออฟฟิศผมเหรอ...โอเคได้
งั้นลัลรอแป๊บนะแล้วผมจะรีบไปหา"
วางสายจากลัลนารีแล้วตุลาหันมาคุยกับรชาต่อ ถามว่าเธอต้องการหย่าใช่ไหม
ไม่ต้องกังวลใจ ว่าแล้วส่งนามบัตรของตัวเองให้บอกว่า 
 "โทร.ไปนัดกับพี่จุรีเลขาผมได้เลย ให้เขานัดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวอีกที"


รชารับนามบัตรไปเซ็งๆ ตุลาบอกว่าถ้าไม่มีอะไรแล้วตนขอตัวไปออฟฟิศ เพราะว่า "ภรรยาผมรออยู่ ไม่อยากให้เขารอนาน...ไปก่อนนะ"


รชาแทบจะกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ เธอลุกพรวดควักเงินวางไว้ 500 บาทแล้วก้าวฉับๆไปอย่างเร็ว


ooooooo


เพราะ
เช้านี้ลัลนารีไปที่ทำงานซึ่งเป็นบริษัทออกแบบและตกแต่งม่านที่ทำร่วมกับ
ภารตี เพื่อนคอยสังเกตอย่างจับพิรุธว่าเมื่อคืนหนักแค่ไหน
แต่พอรู้ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเพราะลัลนารีหลับไปเสียก่อน
ภารตีกลั้นขำครืดในคอพูดสมน้ำหน้าว่าอยากแต่งนักเจอของจริงเข้าก็บ้อท่า
เธอเลยพูดแก้หน้าท้าๆว่า


"นี่แค่คืนแรกย่ะ ฉันปล่อยไปก่อน แต่คืนนี้ ไม่รอดแน่..."


ดังนั้น ก่อนพักเที่ยงเธอจึงเอาอาหารไปฝากตุลา
ขณะยืนรอเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเองว่า "โด๊ปขนาดนี้
ถ้าวันนี้ไม่รีบกลับบ้านก็ให้มันรู้ไป"


พอดีตุลาเดินมาถึงถามอย่างเป็นห่วงว่ารอนานไหม เธอส่งถุงอาหารให้บอกว่าเอาข้าวกลางวันมาส่ง เขาถามงงๆว่า แล้วไม่กินด้วยกันหรือ


"ไม่ด้ายยยย...ของพวกนี้เป็นของตุลย์โดยเฉพาะ" พลางมองอาหารในถุง
ตุลามองแล้วพึมพำ "หอยนางรม..."
เธอรีบบอกเขาว่ากินแล้วจะได้รีบกลับไปทำโอทีที่บ้านคืนนี้


ตุลาหันซ้ายหันขวาอย่างกลัวคนได้ยินก่อนจะพูดว่า "เล่นโด๊ปผมไว้ขนาดนี้ แล้วตอนบ่ายจะประชุมไหวได้ไง"


ตุลาหารู้ไม่ว่ารชามาแอบฟังอยู่ เธอมองอย่างไม่พอใจ
ยิ่งเมื่อได้ยินลัลนารีเร่งตุลาให้รีบกลับ เจ้านายคงไม่ว่าอะไร
เพราะอวยพรให้มีลูกหัวปีท้ายปีในคืนแต่งงานอยู่แล้วก็ยิ่งชิงชัง


สุดท้ายตกลงกันว่าลัลนารีจะกลับไปรอผลการโด๊ปหอยนางรมที่บ้าน
เธอย้ำก่อนไปว่าทานให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตัวเดียว
ตุลารับคำขำๆส่ายหน้าอย่างมีความสุขกับความเอาการเอางานของลัลนารี


รชามองจิกตามลัลนารีแล้วเดินเลี่ยงตามไปอีกทาง...


ooooooo


รชาใส่แว่นกันแดดอันใหญ่ตามลัลนารีเข้าลิฟต์ ลัลนารีจำรชาไม่ได้
ฝ่ายนั้นจึงถอดแว่นโชว์หน้าหางตาใส่แล้วทักขึ้นก่อน
แสดงความยินดีที่ได้สามีน่ารักอย่างตุลย์
ทำให้ลัลนารีหันมองจำได้ว่าเธอคือผู้หญิงที่รับช่อดอกไม้แต่งงานได้แล้วโยน
ทิ้ง ถามอย่างแปลกใจว่าเธอทำงานที่นี่เหมือนกันหรือ


"เปล่า...ฉันมาหาตุลย์ เขาไม่ได้บอกเธอเหรอ" รชาทำหน้าตาย
ลัลนารีไม่สนใจบอกว่าเขากับตนไม่ยุ่งเรื่องงานกัน รชาก็แย้งว่า
"แต่ที่ฉันมามันเป็นเรื่องส่วนตัวนะ แย่จัง
ทำไมแม้แต่เรื่องส่วนตัวเขาก็ไม่บอกให้เธอรู้"


ลัลนารีเริ่มเอะใจกับท่าทีแปลกๆของรชาแต่ยังพูดให้ดูดีว่าบางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆเขาก็ไม่ค่อยใส่ใจ รชาทะลวงเข้าแผนทันทีว่า


"มิน่า เขาถึงได้ปล่อยให้เธอเข้าใจอะไรผิดๆอยู่ได้
อย่างเรื่องที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองเป็นรักแรกของตุลย์
เธอไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกของตุลย์..."


ลัลนารีรู้สึกเหมือนถูกหมัดซัดใส่หน้าจังๆ พอดีสัญญาณ ลิฟต์ดังขึ้น  รชายิ้มเย็นแล้วเดินเชิดออกจากลิฟต์ไปทันที  


ลัลนารีตามออกมาอย่างเร็วเช่นกัน  ตามมาถามว่าตกลงเธอเป็นใครกันแน่


"ฉันชื่อรชา ส่วนจะเป็นอะไรกับตุลย์ เธอก็ไปถามเขาเอง
ฉันไม่อยากได้ชื่อว่าทำให้ครอบครัวคนอื่นมีปัญหา"
ทิ้งระเบิดแล้วรชาทำท่าจะเดินหนี
ลัลนารีไม่ยอมให้ไปถามว่าเธอต้องการอะไรกันแน่


รชาย้ำว่าไม่อยากให้ลัลนารีหน้าแตกเข้าใจผิดๆอยู่คนเดียว ย้ำอีกครั้งว่า
"ทั้งๆที่เพื่อนตุลย์ที่มหา'ลัยเขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าฉันกับตุลย์เป็นอะไร
กัน" พอลัลนารีเถียงว่าไม่จริง รชาก็เยาะว่า
"ไม่เชื่อก็ดีจะได้ไม่ต้องเสียใจ
ตุลย์เองเขาก็คงกลัวเธอเสียใจถึงได้ปล่อยให้เธอโง่อยู่อย่างนี้"


ไม่เพียงเท่านั้น พอถูกลัลนารีถามอย่างไม่แล้วใจว่าเธอมาหาตุลาทำไม
ฝ่ายนั้นยั่วโทสะต่อว่า
"ถ้าฉันบอกว่าฉันมาเขี่ยถ่านไฟเก่าให้คุเธอจะว่ายังไง"


ลัลนารีมั่นใจว่าตุลาไม่มีวันนอกใจตน
รชาก็เยาะว่าผู้หญิงอย่างเธอเขาไม่ทนอยู่ด้วยได้นานหรอกตนรู้จักเขาก่อนเธอ
หลายปี ตอกย้ำอีกว่า "คนที่รู้จักเขาดีที่สุดคือฉัน และฉันจะทวงตำแหน่ง
"คนรู้ใจ" คืน มันจะผิดตรงไหน"


เมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดไม่เข้าหูกันขนาดนี้
สุดท้ายทั้งคู่ก็ตบตีกันจนพนักงานที่กำลังจะออกไปทานข้าวเที่ยงพากันมอง
ทั้งคู่ตบตีกันไปด่าทอกันไป จนกระทั่งตุลากับนวัตลงจากลิฟต์มาเจอ
ทั้งสองหนุ่มช็อก พอตั้งหลักได้ก็เข้าไปแยกสองสาวออกจากกัน


พอเห็นตุลา รชาก็ฟ้องทันทีว่าตนแค่อยากจะอวยพรให้
เขากับเธอมีความสุขไม่นึกเลยว่าภรรยาของเขาจะเป็นแบบนี้
ลัลนารีทนฟังไม่ได้กับความโกหกตอแหลกันต่อหน้าจะพุ่งเข้าไปตบอีก
ตุลาสั่งเฉียบขาด


"พอได้แล้วลัล!! สงบสติอารมณ์ได้แล้ว" พลางเขาลากตัวเธอออกไป ส่วนรชาทำเป็นขวัญเสียเกาะแขนนวัตไว้ แน่นไม่ปล่อย


ooooooo


ตุลาลากลัลนารีไปที่อีกด้านหนึ่งของตึกถามว่ารู้หรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป
เธอสวนไปทันทีว่ารู้ตัวตลอดเวลา แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นอยู่ที่ว่า  "ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นแฟนคนแรกของคุณตุลย์รึเปล่า"


ตุลาเงียบ ลัลนารีเหมาว่าเป็นการยอมรับ
เลยใส่ไม่ยั้งหาว่าเขาปิดบังตนให้หลงเชื่อว่า
ตนเป็นรักแรกรักเดียวของเขาจริงๆ ตุลามองหน้าเธอนิ่งถามว่า


"ถ้าทะเบียนสมรส แหวน
หรือแม้แต่พิธีที่จ่ายเงินไปตั้งไม่รู้เท่าไหร่มันทำให้ลัลมั่นใจในตัวผมไม่
ได้ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง วันนี้พอแค่นี้...คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง
ลัลกลับไประงับสติอารมณ์ที่บ้านก่อน เย็นนี้ค่อยคุยกัน"
พูดแล้วเขาเดินกลับไปที่ทำงาน


"อ้าว...ตกลงนี่ฉันผิดเหรอเนี่ย?" ลัลนารียืนเหวอ


ooooooo


พอตุลากลับไปถึงสำนักงาน
นวัตเดินมาบอกว่าผู้หญิงเมื่อกี้  คุณรชารออยู่ในห้องประชุมบอกว่ามีเรื่อง
ต้องเคลียร์กับเขา ตุลาหน้าเครียดทันที


รชาในสภาพสะบักสะบอมทั้งจากฝีมือของสามีเก่าและตบตีกับลัลนารีเมื่อครู่นี้ ทำหน้าเศร้าสำนึกผิดว่า


"รชาขอโทษ  รชาไม่ได้อยากสร้างปัญหาให้ตุลย์แบบนี้
ภรรยาตุลย์เขาคงจำรชาได้จากงานเมื่อคืน เขาก็เลยมาถามว่า รชาเป็นใคร
รชาก็ตอบไปตามตรงแล้วก็อวยพรให้ตุลย์กับเขา มีความสุข
อย่าทำผิดพลาดเหมือนกับรชา"


ตุลาตัดบทว่าช่างเถอะเรื่องมันผ่านไปแล้ว พูดอย่างมั่นใจว่า
"ลัลเขาก็เป็นของเขาแบบนี้ แต่เดี๋ยวก็หาย เขาโกรธง่ายหายเร็ว
เพราะยังงี้ผมถึงรักเขา"


รชาทำเป็นโล่งใจ ตนจะได้ไม่รู้สึกผิดที่เป็นต้นตอความร้าวฉาน ตุลาตัดบทว่า
เรื่องคดีความของเธอเจ้านายตนโอเคแล้ว ให้เธอมาเจอตามนัดก็แล้วกัน


รชาเจ็บใจมากกับท่าทีเย็นชาของตุลา แต่ตอบรับด้วยดี
พอตุลาลุกไปเธอก็กัดฟันจ้องจิกตามเขาไปอย่างมุ่งมั่น
เมื่อตุลาบอกว่าลัลนารีเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว
เธอจึงวางแผนจะเอาชนะเขาให้ได้ พึมพำ "ถ้าฉันทำให้เขาโกรธไม่หาย
ดูสิว่าจะยังรักกันดีไหม!"


ooooooo


ลัลนารีกลับไปพบภารตีที่ออฟฟิศโวยวายกับเพื่อนว่าผู้หญิงเมื่อคืนบอกว่าเป็น
แฟนเก่าของตุลา อยู่ๆ เขาจะมีแฟนเก่าโผล่มาได้ยังไง ภารตีตกใจถามว่า
เขาไปคบกันตอนไหน แล้วตุลาเองว่ายังไง


"ฉันไม่รู้...เขาบอกแต่ว่าไม่ใช่ ไม่มีอะไร ไม่ให้ฉันคิดมาก"
ลัลนารีปรารภว่าแบบนี้จะจ้างนักสืบไปสืบเลยดีไหม
ภารตีไม่เห็นด้วยเพราะตุลาอยู่ในวงการนี้ยังไงเขาก็ต้องรู้เดี๋ยวจะจุดไต้ตำ
ตอเสียเปล่าๆ ตนมีวิธีจัดการได้


วิธีของภารตีคือ พาลัลนารีไปหาหมอดู พูดให้มั่นใจว่า วิธีนี้ดีที่สุดแล้ว
และหมอดูนี่ก็ใช่ว่าใครจะพบได้ง่ายๆ ต้องมาเอง
ถ้าเจอก็เจอถ้าไม่เจอก็ไม่เจอ


"แล้วไง ฉันไม่เอาด้วยหรอก เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้
อยู่ๆก็ให้มาพูดแล้วก็เชื่อเขาเนี่ยนะ ไม่เอา...เสียเวลา"
พูดแล้วหันหลังกลับ ถูกภารตีดึงไว้
กล่อมว่าไหนๆก็มาแล้วถ้าเธอไม่ดูตนจะดูของตัวเอง


ไม่รอให้ลัลนารีตอบ ภารตีลากเธอไปกดออดหน้าประตูทันที


ooooooo


พอย่างก้าวเข้าในบริเวณบ้าน
ลัลนารีเห็นมีเทียนจุดตลอดทางมีกลิ่นกำยานลอยมาจางๆ
ภายในบ้านมีข้าวของสะสมแบบแปลกๆทั้งวางทั้งแขวนอยู่มากมาย
ทันใดก็มีเสียงหญิงแก่ตะโกนมา


"เข้ามาสิ มัวช้าอะไรอยู่"


พอเดินเข้าไปเห็นหญิงที่เป็นหมอดูในวัยหกสิบกว่าๆท่าทางสง่านั่งจิบน้ำชา
อยู่กลางห้อง พอเห็นสองสาวก็ถาม "มีอะไรว่ามา"
พอภารตีบอกว่ามีเรื่องสงสัยจะมาปรึกษา หมอดูดักคอทันทีว่า
"ปัญหาเรื่องผู้ชายล่ะสิ อยากรู้เรื่องชีวิตคู่ใช่ไหม"


ภารตีอึกอัก ลัลนารีตีแขนเพื่อนเบาๆแบบไม่อยากให้หมอดูเรื่องของตัวเอง ภารตีเลยบอกว่าดูเรื่องของตนก็ได้ หมอดูพูดต่อทันทีว่า


"ชีวิตคู่ต้องอดทนมีเหตุผลให้มาก ถ้ามัวเอาแต่ใจ
เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ รักก็จะล่มท่าเดียว"
สองสาวมองหน้ากันงงๆว่าหมอดูกำลังพูดถึงใครกันแน่ แต่หมอดูมองหน้าลัลนารี
พูดอีก "ที่มาเพราะอยากขุดคุ้ยเรื่องของสามีใช่ไหม"


"ป้ารู้ได้ยังไง" ลัลนารีแปลกใจ


"จะรู้ทำไมเรื่องอดีต ถ้าจะดูก็ดูเรื่องอนาคตดีกว่า จะได้รู้ว่าทำยังไงถึงจะไม่ต้องเลิกกับสามี"


ลัลนารีสะดุ้งที่จู่ๆหมอดูก็พูดแทงใจดำแต่ยังไม่ไว้ใจนัก
แต่แล้วก็อึ้งเมื่อหมอดูทายราวกับตาเห็นว่า
"กะอีแค่ผู้หญิงมาบอกว่าเป็นแฟนเก่าก็ตบกันเสียแล้ว
อารมณ์ร้อนแบบนี้ระวังไฟจะไหม้ตัวเอง"


ภารตีกระซิบว่าดูแม่นขนาดนี้ให้ลัลนารีเปิดไพ่เลยดีกว่า หมอดูพูดแทรกขึ้นอีกว่า


"ดวงเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่จะกำหนดชะตาชีวิต
แต่เราก็สามารถกำหนดอนาคตตัวเราได้ว่าจะให้เป็นไปอย่างที่ชะตาขีดไว้หรือไม่
คนอย่างเธอควรจะรู้อนาคตไว้จะได้ไม่ทำผิดซ้ำซาก"


หมอดูวางสำรับไพ่ตรงหน้าลัลนารีแล้วกรีดออกเป็นครึ่งวงกลมให้เลือก


"ก็ได้ ฉันจะลองเปิดไพ่ดู จะได้รู้กันว่าใครกันแน่ที่มั่ว" ลัลนารีตั้งใจจิกเสียงจิกตาไปทางหมอดู ซึ่งหมอดูก็แค่นหัวเราะอย่างรู้ทัน


ooooooo


ค่ำแล้ว ตุลากลับถึงบ้านไม่เจอลัลนารี
เขามองหาก็ไม่พบเห็นแต่รูปแต่งงานที่เธอหนีบระโยงระยางไว้เต็มบ้านไปหมด
เขาดูรูปแล้วก็อดยิ้มไม่ได้กับความสุขที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง...


เมื่อรอจนกลางคืนลัลนารีก็ยังไม่กลับ ตุลาร้อนใจโทร.ไปหาลดาวัลย์


"ลัลไม่ได้มาที่นี่นะ ตุลย์ติดต่อเขาไม่ได้เหรอ?"
ลดาวัลย์รับสายขณะนั่งกินข้าวอยู่กับแม่ ลักษมีหูผึ่งลุกไปเอาหูแนบฟังบ้าง
ลดาวัลย์เห็นท่าไม่ดีเลยรวบรัดตัดสายบอกว่าถ้าน้องติดต่อมาจะให้รีบโทร.หา
เขาทันที


ลักษมีตีลดาวัลย์เพียะถามว่าจะรีบวางไปทำไมยังไม่ทันรู้เรื่องเลย
แล้วก็เดาไปตามประสาว่าแบบนี้ทะเลาะกันชัวร์
ลดาวัลย์ขอแม่ว่าอย่าไปยุ่งกับพวกเขาดีกว่า


"ไม่ยุ่ง แล้วเกิดเป็นอย่างคู่เราขึ้นมาจะว่ายังไง เชื่อหัวแม่ซี่
แม่อาบน้ำร้อนมาก่อน ลองหนีผัวแบบนี้
อีกไม่นานมันต้องหอบผ้าหอบผ่อนเผ่นกลับมาแน่" ลักษมีฟันธงหน้าเครียด


ooooooo


หมอดูพลิกไพ่ใบที่ลัลนารีหยิบขึ้นมาดูเห็นเป็น "เดอะเดด" บอกทันทีว่าแบบนี้รับรองไม่รอด ภารตีถามว่าเป็นเพราะมือที่สามหรือเปล่า


"อะไรที่เลวร้าย ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน มันเพราะเพื่อนเธอทำตัวเอง"
ลัลนารีเถียงว่าไม่จริงตนกับตุลารักกันจะตาย หมอมองขวับถามว่า
"เขาเคยบอกเธอเหรอ ขนาดขอแต่งงานเขายังให้เธอออกปากเองเลย"


ภารตีอึ้ง ส่วนลัลนารีโวยใส่เพื่อนว่า "แกบอกเขาเหรอ"
ภารตีถามว่าตนจะไปบอกตอนไหน ลัลนารีพึมพำอย่างเคืองใจ ว่า
"ก็แล้วเขาจะมาสอดรู้ได้ยังไง"


"แบบนี้เขาเรียกว่าหยั่งรู้ไม่ใช่สอดรู้เว้ย" ภารตีเถียงแทนหมอดู พลันก็ได้ยินเสียงหมอดูจงใจเปรยๆเสียงดังว่า


"มัวแต่ระแวงคนอื่นแต่ไอ้ที่แย่ก็คือนิสัยตัวเธอเองทั้งนั้น"
หมอดูล้างไพ่เก็บเข้าสำรับแล้วรวบรัดอย่างเร็วว่า "ไม่เกิน 1 ปีข้างหน้า
เธอกับสามีจะต้องหย่ากัน"
ลัลนารีเถียงว่าพูดบ้าอะไรตนเพิ่งจะแต่งงานกันเมื่อวานนี้เอง "ก็รอดูไปอีก
365 วันก็แล้วกัน" หมอดูตัดบท


ลัลนารีโกรธมากหาว่าหมอดูชอบยุให้คนเขาร้าวฉานกัน ตนจะแจ้งตำรวจจับโทษฐานหลอกลวง ภารตีหน้าเสีย พยายามเบรกเพื่อนให้อารมณ์เย็นลง


"เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันหลอก
ในเมื่อเธอยังไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ฉันทำนายมันจะเกิดขึ้นจริงไหม
ไม่รอดูให้ถึงวันนั้นก่อน ถ้าฉันทำนายผิดค่อยพาคนมาจับก็ไม่สาย
แต่ถ้ารอถึงปีหน้าไม่ไหวฉันมีของที่จะช่วยพิสูจน์ให้โดยไม่ต้องเสียเวลา"


สิ่งที่หมอดูเอาออกจากห่อผ้าคือ สมุดบันทึกเก่าๆ
หน้าตาประหลาดเพราะมีปฏิทินจักรวาลแปะไว้อยู่ที่ปกด้านหน้า
หมอดูชี้แจงว่าสมุดบันทึกเล่มนี้จะช่วยพิสูจน์คำทำนายของตนด้วยการทำให้เธอ
ได้เห็นอนาคตของตัวเอง ภารตีตื่นเต้นมากถามว่ามีของแบบนี้ด้วยหรือ
แต่ลัลนารีสบถ "เพ้อเจ้อ!"


สมุดบันทึกเก่าๆที่หมอดูเอามาให้นั้น มีลายนูนเป็นวงเกลียวซ้อนกันสามวง
วงในสุดเป็นรูปดวงอาทิตย์ วงถัดออกมา เป็นรูปโลกเล็ก
ส่วนวงนอกสุดเป็นรูปพระจันทร์ หมอดูลูบหน้าปกหนังสือพลางอธิบายช้าๆ


"ดวงจันทร์โคจรรอบโลกหนึ่งรอบนับเป็นเวลาหนึ่งเดือน
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบนับเป็นเวลาหนึ่งปี...รหัสบนสมุดบันทึกเล่มนี้
ก็ทำงานแบบเดียวกัน ถ้าเธออยากเห็นอนาคตหนึ่งปีข้างหน้า เธอก็ต้องหมุน"


ลัลนารีทำหน้าไม่เชื่อหาว่าเห็นตนเป็นคนปัญญาอ่อนหรืออย่างไรถึงได้เอาของเด็กเล่นมาล่อ


"ถ้ายังดื้อไม่ฟังใคร แล้วยังงี้ใครเขาจะทน เผลอๆกลับ
ไปเนี่ยผัวเธอก็ไม่สน...เอาเป็นว่าฉันจะตั้งเอาไว้ให้
ก่อนนอนเมื่อเปิดสมุดนี้ไว้ จากนั้นอธิษฐานแล้ววางกางไว้ใต้หมอน
เธอก็จะได้เห็นอนาคตของตัวเอง...ในอีก 365 วันนับจากนี้
แล้วเธอก็จะรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำนายมันจริงหรือเปล่า"


หมอดูส่งสมุดบันทึกให้ลัลนารี ทันใดนั้นลมพัดมาอย่างแรงวูบหนึ่ง เหมือนเป็นลางอะไรสักอย่าง...


ooooooo


ออกจากบ้านหมอดูมานั่งกินอาหารกันที่ร้าน
ลัลนารีวางสมุดเล่มนั้นไว้บนโต๊ะอย่างไม่สนใจผิดกับภารตีที่จ้องสมุดตาไม่
กะพริบ
พอลัลนารีพูดหยันๆว่าสมุดบันทึกนี่น่ะหรือจะทำให้ตนเห็นอนาคตตัวเองได้
ภารตีทักท้วงว่าก็ขนาดยังไม่ทันเปิดไพ่หมอดูก็ทายถูกราวกับตาเห็น
บอกเพื่อนรักว่า


"ฉันว่าสมุดเล่มนี้ต้องไม่ใช่เล่นๆแล้วล่ะแก"  ถูกลัลนารีหาว่าเชื่อหมอดู
ที่แช่งตนหรือ
"เปล๊า...แต่ฉันว่าแกอย่าลบหลู่จะดีกว่า  ถ้าไม่เชื่อแกไม่ต้องไปใช้หรอกไอ้
สมุดนี่น่ะ เดี๋ยวจะจิตตกเปล่าๆถ้าเกิดไปพบไปเห็นอะไรเข้า"


ลัลนารีบอกว่าไม่เชื่ออยู่แล้วแต่เอาสมุดไปชดเชยค่าเสียเวลามานั่งปัญญาอ่อนอยู่ตั้งเกือบชั่วโมงเท่านั้น


เพราะตุลาโทร.ไปที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ว่าลัลนารีไปไหน เลยเปิดสมุดโทร.หาภารตี
ภารตีบอกว่านี่ไงเขาโทร.มาตามแล้ว ทีแรกลัลนารีไม่ยอมรับสาย
ภารตีจึงรับแทนแล้วส่งต่อให้เพื่อนคุยกันเอง


ลัลนารีพูดเสียงกระด้างถามว่าโทร.มามีอะไรไม่ทราบ ตุลาถามว่าเธออยู่ไหนกินข้าวอยู่หรือเปล่าถ้าไม่กลับมากินตนจะได้เก็บโต๊ะ


"จะทำอะไรก็ตามสบาย ลัลจะเป็นจะตายยังไงไม่ต้องใส่ใจ..."
ลัลนารีกระแทกเสียงใส่โมโหที่ตุลาไม่โทร.เข้ามือถือตน แต่กลับโทร.หาภารตี
แต่พอเอะใจหยิบโทรศัพท์มาดูปรากฏว่า แบตฯหมด
ภารตีเปิดดูของตัวเองบ้างพบว่าตุลาโทร.มาตั้ง 5 มิสคอล


พอรู้เข้าลัลนารีหน้าเสียถามว่าจะทำยังไงดี
ภารตีเย้ยว่าถ้ากลัวเขาไม่ง้อวันหลังก็ไม่ต้องงอน
สุดท้ายลัลนารีทนไม่ไหวปล่อยให้ภารตีกินข้าวคนเดียวแล้วตัวเองก็รีบกลับไป


"อารายของมันเนี่ย...วุ่นวายที่สุด เพราะอย่างนี้ฉันถึง ไม่อยากมีผัว..." ภารตีบ่นเบื่อๆ


ooooooo


ขับรถกลับถึงบ้าน
ลัลนารีจอดรถทิ้งไว้หน้าบ้านมองเข้าไปเห็นไฟในบ้านเปิดอยู่ เธอเริ่มลำบากใจ
ถามตัวเองว่าจะเอายังไงดี จะทำไม่รู้ไม่ชี้ หรือจะงอนต่อดี
สุดท้ายตัดสินใจงอนต่อแล้วเดินเข้าบ้าน


ตุลาได้ยินเสียงถอดรองเท้าถามว่ากลับมาแล้วหรือ เธอทำเชิดไม่ตอบ
ตุลาเห็นเงียบไปก็ถามต่อว่ารถติดมากไหม กลายเป็นเรื่องขึ้นมาอีก
เธอย้อนถามเสียงขุ่นว่า


"จะสนใจทำไมการจราจร เมียยืนอยู่ทั้งคนใจคอจะไม่ถามสารทุกข์สุกดิบเลยรึไง"
ตุลาเลยถามเอาใจว่าเป็นไงวันนี้เหนื่อยไหม ลัลนารีทำท่าอยากจะบ้าตาย
สะบัดเสียง "เหนื่อย...เหนื่อยน่ะเข้าใจไหม วุ้ย!!" ตอบแล้วทำเสียงหงุดหงิด
ถือกระเป๋าเดินกระแทกเท้าปึงปังเข้าบ้านขึ้นบันได
ทำให้รู้ว่าฉันโกรธแล้วนะ
แต่ตุลาก็แค่หันมองแล้วถอนหายใจกับความไม่มีเหตุผลของเธอ


พอเข้าห้องนอน ลัลนารียังไม่หายหงุดหงิด กระแทกตัวนั่งลงบนเตียงบ่นกระปอดกระแปด


"ผู้ชายอะไร งอนแล้วทำไมไม่มาง้อ...ฮึ...เอ๊ะ หรือว่า เราจะงอนน้อยเกินไป?"


ลัลนารีเริ่มสับสนตัวเองขึ้นมา


ooooooo


คิดแล้วโมโหเดินลงมาใหม่ในชุดนอนแล้วเดินไปที่ตู้เย็นทำเป็นเปิดน้ำมาดื่ม
เขาก็ยังไม่สนใจ เลยกระแทกแก้วลงบนเคาน์เตอร์ปัง! จะให้เขาหันมาให้ได้
แต่เขาก็ยังเฉย คราวนี้เลยกระแทกเหยือกให้เสียงดังกว่าเก่าอีก
ตุลานั่งทำงานอยู่รู้ว่าถูกประชดถูกก่อกวนเรียกร้องความสนใจ
เขาเลยยิ่งแกล้งทำเฉย ลัลนารีเลยยิ่งโกรธหนักขึ้นไปอีก
หันไปคว้ากรรไกรตัดไหมพรมที่แขวนรูปแต่งงานลงมาเกลื่อนพื้น


ตัดเชือกจนหมดแล้วก็ยังไม่ได้ผลอะไร เลยแกล้งงับกรรไกรกลางอากาศ
ก็ยังไม่สะดุ้งสะเทือนอีก คราวนี้ทนไม่ไหวแล้ว ขว้างกรรไกรทิ้ง คำรามเรียก


"ตุลย์" ตุลาค่อยๆเงยหน้าจากหนังสือหันมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ลัลนารีอ้าปากจะด่าก็ด่าไม่ออกเลยเฉไฉถามว่า "กาแฟไหมจะชงให้"


"ไม่ล่ะขอบใจ" ตุลาตอบเสียงเรียบๆ เย็นชาแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ


ในที่สุดลัลนารีก็เป็นฝ่ายต้องล่าถอยไปเอง เดินกระแทกเท้าขึ้นข้างบนไป ตุลาหันมองอย่างดูออกว่าเธอกำลังน้อยใจ


ooooooo


ดึกแล้วลักษมีไม่อาจนิ่งนอนใจได้เร่งลดาวัลย์
ให้โทร.เช็กดูว่าน้องกลับถึงบ้านหรือยัง
ลดาวัลย์บอกแม่ว่าเรื่องยังไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอก
ลักษมีไม่ยอมจะต้องรู้ให้ได้เพื่อจะได้ยับยั้งได้ทัน


ขณะนั้นเองมีเสียงรถแล่นเข้ามาในบ้าน ลักษมีเชื่อว่าต้องเป็นลัลนารีแน่ๆ


ที่แท้เป็นรถของชวินทร์
เขาจอดรถหน้าบ้านรีบเปลี่ยนเสื้อใหม่ลบรอยต่างๆตามหน้าตามคอและฉีดสเปรย์ดับ
กลิ่นแอลกอฮอล์ลูบผมที่ยีจนตั้งให้ราบเรียบ ฉีดน้ำหอมจนฟุ้งไปทั้งตัว
แล้วจึงลงจากรถตรงไปที่ประตูบ้าน


ลักษมีกับลดาวัลย์เชื่อว่าต้องเป็นลัลนารีมาแน่ๆ ลักษมีเปิดประตูกางแขนวิ่งพุ่งออกไปจะกอดรับขวัญลูก


ชวินทร์ตาเหลือกกับภาพสยองนั้นหลบแว้บแทบไม่ทัน
ลักษมีเลยพุ่งเลยไปจนหัวเกือบคะมำ ดีแต่ลดาวัลย์ประคองไว้ทัน
ลักษมีตวาดถามชวินทร์ว่าจะฆ่าตนหรือ


"ผมต่างหากที่ต้องถาม คุณแม่เล่นพุ่งมาอย่างนี้ผมหัวใจจะวาย"


ลักษมี เปลี่ยนประเด็นทำจมูกฟุดฟิดได้กลิ่นน้ำหอมถามว่าตกลงไปรดน้ำศพหมอนวด
ที่อ่างไหนมาตัวถึงได้หอมฟุ้งขนาดนี้ ชวินทร์บอกว่าตนไปงานศพมาจริงๆ
ก็ถูกด่า "ตอแหล!!"


"อีกหน่อยผมคงต้องฉีดฟอร์มาลินมาเลยใช่ไหมคุณแม่
ถึงจะเชื่อว่าผมไปงานศพมาจริงๆ" ชวินทร์ถามประชด ลักษมีบอกว่าถ้าได้ก็ดี
ชวินทร์ประชดต่ออีกว่าถ้างั้นมัดตราสังตน ไว้ที่บ้านเลยดีไหม
เข้าทางลักษมีทันที ร้องบอกให้ลดาวัลย์
ไปเอาสายเสื้อในกิ๊กที่ทิ้งไว้ในรถมาจะเอาเป็นหลักฐานมัดให้ตายอยู่ตรงนี้
เลย


"สายเสื้อในอะไร คุณแม่อย่ามาใส่ร้าย
อ๋อ...หรือเดี๋ยวนี้คุณแม่มีเขยใหม่แล้ว เขยอย่างผมก็เลยหมดความหมาย
เห่อกันเข้าไป ผมจะหัวเราะให้ตอนที่ไอ้ตุลย์มันออกลายจนตกม้าตายตอนจบ!"


ลักษมีตวาดว่าอย่าเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง ลดาวัลย์ดึงแม่ ไว้ขอให้พอเถอะเดี๋ยวบาหลีได้ยินเลยถูกด่า


"แม่ขอเตือนแกไว้เลยว่าอย่าโง่ วันนี้ยังดีที่มีหลักฐานคาตา
วันหน้าเกิดมันโนบราขึ้นมาแม้แต่สายเสื้อในก็ไม่มีให้แกเห็น ขอล่ะ
ถ้าสะกดคำว่าโง่ไม่เป็นก็ให้นึกหน้าแม่ตอนที่พ่อแกยังมีชีวิตอยู่เข้าไว้
นั่นแหละ...ความหมายของคำว่า "โง่" ของจริง!!!"


ลดาวัลย์ได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของตัวเองต่อไป


ooooooo


ที่บ้านตุลากับลัลนารี ตุลายังนั่งทำงานอยู่ หยุดพักสายตาบิดตัวแก้เมื่อย
หันมองไปที่กองรูปถ่ายที่ลัลนารีตัดทิ้งไว้ที่พื้นอย่างหนักใจ
แล้วมองขึ้นชั้นบนไม่รู้ว่าป่านนี้เธอสิ้นฤทธิ์ไปแล้วหรือยัง


ยัง! เพราะเธอยังเดินงุ่นง่านอยู่ในห้อง คำรามอย่าง
หงุดหงิดว่าผู้ร้ายปากแข็ง โกหกแล้วยังมาทำหน้าตายอยู่อีก
ก็พอดีลักษมีโทร.มา เธอถามว่าโทร.มาทำไมดึกๆ ตนกำลังจะเข้านอน


ลักษมีถามว่าหายไปไหนมา เธอปดว่าไปธุระกับภารตี


"ระวังเทอะ ติดเพื่อนจนลืมผัว ระวังเขาจะไปติดผู้หญิงไม่รู้ตัว
ผัวแกถึงจะไม่เจ้าชู้อย่างไอ้วิน แต่อย่าลืมว่านายตุลย์ มันเสน่ห์มาก
หน้าตาก็ดี การงานก็เลิศ แถมยังเป็นสุภาพบุรุษมีน้ำใจไปทั่ว
ผู้หญิงที่ไหนๆก็อยากจะได้ครอบครองทั้งนั้น"


ฟังแม่พูดแล้วลัลนารีคิดถึงที่รชาพูดว่า "ฉันจะทวงตำแหน่งคนรู้ใจคืน"
คิดแล้วใจไม่ดี พอดีมีเสียงเปิดประตูเข้ามา
เธอรีบขอตัดสายกับแม่แล้วล้มตัวลงนอนขวางกลางเตียง
ไม่ลืมโยนมือถือทิ้งแล้วทำเป็นหลับ
แต่แอบหรี่ตาดูการเคลื่อนไหวของตุลาตลอดเวลา


ตุลาเข้ามาแล้วเดินไปห้องน้ำเปิดไฟแปรงฟัน
ทำให้ลัลนารียิ่งฉุนว่าทำกันจนขนาดนี้อย่าคิดว่าจะได้หลับลง
ว่าแล้วแกล้งขดตัวนอนหลับเมื่อตุลาหายเข้าไปในห้องน้ำ


พลันคำพูดของหมอดูก็มารบกวนว่า "มัวแต่ดื้อไม่ฟังใคร ใครเขาจะทน
เผลอๆกลับไปผัวก็ไม่สน" คิดแล้วตุลาทำเหมือนอย่างที่หมอดูทายไว้เลย
ชะเง้อไปดูเห็นเขายังแปรงฟันสบายใจอยู่
พึมพำอย่างรับไม่ได้ว่าใจคอจะไม่สนกันจริงๆหรือนี่


นอนคอยอยู่จนตุลาออกมาสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจก เตรียมไปง้อเมีย
มองไปเห็นเธอนอนขวางเตียงอยู่ เขามานั่งบนเตียงแกล้งสะกิดเบาๆ
ถามว่าหลับแล้วหรือ พริบตานั้นตุลาต้องหลบตกใจกับขาของลัลนารีที่เหวี่ยงมา
เขาบ่น "ทำไมขี้เซายังงี้" แล้วเข้าไปกระซิบข้างหู


"อุตส่าห์โด๊ปผมไว้ แล้วมาหลับยังงี้ได้ไง" พลางก้มลงจะจูบ
ทันใดนั้นมือลัลนารีที่กำผ้าปูที่นอนไว้ก็เหวี่ยงโครมมาที่หน้าเขาแม่นเป๊ะ!
ตุลาร้องโอ๊ย คลำป้อย เลยไม่เห็นเจ้าหล่อนที่แอบยิ้มอย่างสะใจ


เมื่อเห็นลัลนารีนอนแผ่แบบไม่เหลือที่ให้ตนเลย
ก็ตัดสินใจหยิบหมอนแล้วก้มหอมหน้าผากเธอทีหนึ่งบอกเบาๆ
"วันนี้ผมลงไปนอนข้างล่างแล้วกัน" เอื้อมมือดับไฟหัวเตียงแล้วออกจากห้องไป


ลัลนารีลุกพรวดเปิดไฟ หยิบสมุดบันทึกที่หมอดูให้มาคิดทบทวนคำที่หมอดูทักไว้
แล้วก็เกิดกลัวขึ้นมา ถามตัวเองว่า "หรือจะเป็นอย่างคำทำนายจริงๆ..."


ooooooo




Free TextEditor


Create Date : 04 ธันวาคม 2553
Last Update : 4 ธันวาคม 2553 19:29:50 น. 0 comments
Counter : 196 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.