สนมเอกไข่แดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สนมเอกไข่แดง's blog to your web]
Links
 

 
[ ช่อง 3 ] 365 วันแห่งรัก ตอนที่ 13



ตอนที่ 13


ณิชนิชากลับไปทันทีที่หมดเวลาทำงานไม่เกินแม้แต่วินาทีเดียว
นวัตเดินมาดูงานแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ เพราะงานยังค้างอยู่มาก
เขานั่งลงทำงานต่อให้


จนถึงกลางคืน คุณณพมาเจอถามว่ายังไม่กลับอีกหรือ พอรู้ว่าพิมพ์เอกสาร เขาถามว่าแล้วณิชนิชาล่ะ ทำไมไม่ให้ช่วยจัดการ


"คุณณิชเขาไม่สบายน่ะครับ แล้วมีบางประโยคที่ผมอยากแก้ผมก็เลยขอดึงมาทำเองน่ะครับ"


คุณณพพยักหน้ารับรู้บอกว่าอย่ากลับดึกนักก็แล้วกันแล้วเดินออกไป


ที่ แท้ณิชนิชากลับมาเห็นนวัตนั่งทำงานแทนตนอยู่ก็ใจไม่ดีนึกว่าโดนแน่แล้ว
แต่พอได้ยินเขาพูดกับคุณณพ เธอโล่งใจแอบดูนวัตด้วยความรู้สึกว่าตัวเองผิด


ครู่ ใหญ่ต่อมาเธอซื้อข้าวกล่องมาฝากเขา นวัตทำท่าจะปฏิเสธ
เธอพูดจริงจังว่าตั้งใจซื้อให้เขาทานแต่ถ้าเขาไม่ทาน...เธอทำท่าจะเททิ้ง
นวัตเลยรีบรับไปพร้อมคำขอบคุณ


พอนวัตลุกไปกินข้าว ณิชนิชาก็นั่งลงทำงานต่อ นวัต


มองอย่างดีใจ เธอรู้ว่าถูกแอบมองอยู่ พูดทั้งที่ตายังอยู่ที่คอมพิวเตอร์


"ทานเร็วๆสิหัวหน้า   ไหนว่าต้องเคลียร์สำนวนฟ้องส่งพรุ่งนี้ไง"


"ครับๆๆ" นวัตรีบก้มหน้าก้มตากิน ณิชนิชายังคงก้มหน้าก้มตาพิมพ์งานแต่แอบยิ้มนิดๆ


ooooooo


ภารตี ตามภาวิชไปนั่งที่ริมน้ำ ภาวิชชนเบียร์ กระป๋องกับภารตีแล้วดื่มอั้กๆ
หมดแล้วจะเปิดอีก ภารตีดึงไว้เอ็ดว่าดื่มขนาดนี้เดี๋ยวก็หัวทิ่มพอดี


ภา
วิชบอกว่าตนยอม...ยอมให้กับวันดีๆของเพื่อนมันต้องฉลอง  ภารตีรู้ดีใจภาวิ
ชคิดอย่างไร  เตือนว่าอย่าทำตัวแบบนี้ ได้ไหม น้ำเน่า ถามเป็นการเป็นงานว่า


"ไอ้วิช ถ้าแกชอบไอ้ลัล แล้วตอนที่เรียนอยู่ด้วยกันทำไมแกไม่จีบมันวะ"


"ตอน นั้น ฉันไม่แน่ใจน่ะสิ ไม่แน่ใจว่า ที่รู้สึกกับลัลมันเป็นความรัก
หรือความใกล้ชิด จนฉันไปเรียนที่อังกฤษ ฉันถึงรู้ว่าฉันคิดถึงลัลแค่ไหน
ของสำคัญในชีวิตของเรา...เราอาจจะรู้ค่าเมื่อมันหายไปจากเรา
บางคนอาจมองข้ามเพราะมันใกล้ตัวจนดูไม่เห็นค่า...บางครั้งเราอาจได้เจอสิ่ง
มีค่าเมื่อช้าไป แต่เมื่อเราได้รู้แล้วว่าของสิ่งนั้นมีค่ามากแค่ไหน
เราก็ต้องชั่งใจว่าจะยอมปล่อยไปหรือจะเอากลับคืนมา..."


"ไอ้วิช ลัลมันแต่งงานแล้วนะแก" ภารตีเตือนสติ


"ฉัน ไม่คิดจะแย่งใคร แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาทำให้ลัลต้องร้องไห้อีก
ฉันจะไม่ปล่อยให้ลัลกลับไปแน่" ภาวิชพูดจริงจัง
จนภารตีฟังแล้วรู้สึกไม่สบายใจ..."


นั่นคือบทสรุปจากความจริงของภาวิช แต่ความจริงในเวลานี้   ไม่ว่ารชาที่ไม่เคยเห็นตุลาในสายตาสมัยเรียนแต่ใน


เวลานี้ที่เขาไปเป็นของคนอื่นแล้ว เธอจึงรู้ค่าได้แต่ดูรูปเขาอย่างเศร้าหมองอยู่อย่างเดียวดาย เจ็บปวด...


และ...ใน นาทีเดียวกันนี้
ที่ห้องทำงานของนวัต...ณิชนิชาพิมพ์งานให้เขาจนดึก
เธอหลับตาลงเพื่อพักสายตาฟุบหน้ากับโต๊ะพักผ่อน
ครู่หนึ่งรู้สึกมีเสื้อมาคลุมให้ที่ตัว
แอบดูเป็นเสื้อแจ็กเกตของนวัตนั่นเอง
เขาคลุมเสื้อให้แล้วกลับไปนั่งอ่านเอกสารต่อ


เวลานั้น...ณิชนิชารู้สึกอุ่นไปถึงหัวใจ...เธอกระชับเสื้อให้แนบร่างอย่างสนิทใจ...


เช่น เดียวกัน ลดาวัลย์อยู่กับหมอกานต์
เมื่อหมอทำงานเสร็จจึงพากันมาขึ้นรถกลับ โดยไม่รู้ว่าชวินทร์มาแอบดูอยู่
เมื่อหมอส่งลดาวัลย์ที่หน้าบ้านแล้วหมอเอ่ยชวน "วันอาทิตย์
ไปดูหนังกันไหม..."


ลดาวัลย์อึ้ง อึกอักก่อนย้ำว่าตนเป็นแม่ม่าย ไม่แน่ใจว่าเราควร...


"ผมไม่สนใจคนอื่นจะมองว่ายังไง ที่ผมสนใจคือคุณดากับผม เราคิดยังไงต่างหาก ให้โอกาสผมได้ไหมครับ..." หมอจับมือลดาวัลย์อย่างอ่อนโยน


ทัน ใดนั้น ชวินทร์ขับรถเข้ามาจอดพรืดสั่งหมอให้ปล่อยมือจากเมียตนเดี๋ยวนี้
หมอย้อนเอาว่าลดาวัลย์บอกแล้วว่าเธอกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว


ชวินทร์ ไม่สนใจพุ่งเข้าชกหมอกานต์ทันที ลดาวัลย์รีบเข้าประคองหมอไว้
ถูกชวินทร์ดึงตัวออกมา พอดีลักษมีวิ่งออกมาตะโกนห้าม
ลดาวัลย์ได้จังหวะผละออกมาตบหน้าชวินทร์ฉาดใหญ่ พูดใส่หน้า


"เลิกบ้า ซะที ดาไม่ใช่สิ่งของ ไม่ได้เป็นของของใคร
ชีวิตของดาต่อไปนี้ดาจะเป็นคนเลือกเอง!" ลักษมีที่วิ่งออกมาตะลึงอึ้ง
ชวินทร์ก็ยืนช็อก ลดาวัลย์หันไปประคองหมอกานต์ ตอบอย่างมั่นใจว่า
"คุณหมอคะเรื่องดูหนัง ดาตกลงค่ะ วันอาทิตย์ เจอกันนะคะ"


"ครับ" หมอกานต์รับคำแล้วขับรถเข้าบ้านตัวเองที่อยู่ติดกัน


ลดาวัลย์ เดินเข้าบ้านอย่างไม่สนใจชวินทร์
เขาไม่ยอมจะตามไปแต่ถูกลักษมีขยับมาขวาง  ชวินทร์เอาเรื่องหาว่าลักษมีสนับ
สนุนให้ลดาวัลย์มีชู้


"ทีแกยังมีเมียน้อยเลย แล้วคุณหมอเขาเป็นเพื่อน แต่ต่อไปอาจจะเป็นตัวจริงก็ได้ เพราะเขาดีกว่าแก! ไอ้ห่วย!"


ลักษมีด่าแล้วเดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้ชวินทร์ยืนอยู่เพียงลำพังกับความสูญเสีย...สูญเสียของมีค่าที่เมื่อก่อนไม่เคยเห็นค่าเลย...


ooooooo


ที่ รีสอร์ต   ลัลนารีกับตุลาฮันนีมูนกันอย่างมีความสุข
โดยเฉพาะลัลนารีมีความสุขมาก...มากจนคิดว่าเป็นความฝัน
แต่มันคือความจริงที่แม้แต่ฝันก็ยังไม่เคยฝันถึง...


แล้วเย็นวันรุ่ง ขึ้น ตุลาก็บอกลัลนารีว่า
ตนขอโทษที่จะอยู่ที่นี่ได้แค่คืนเดียว คำตอบของเธอทำให้เขาสบายใจมาก
เธอบอกเขาว่าแค่นี้ตนก็ดีใจแล้ว ถ้าวันหลังมีโอกาสเราค่อยมากันใหม่
ทั้งสองเกี่ยวก้อยให้สัญญากัน
แล้วลัลนารีก็หลับไปทั้งที่ก้อยยังเกี่ยวกันอยู่...


เมื่อได้เวลาเดินทางกลับ ก็กลับกันมาอย่างมีความสุข จนถึงหน้าบ้านตุลาจอดรถลงไปเปิดประตูรั้ว ลัลนารีกุลีกุจอลงไปช่วย


ระหว่างนั้นตุลารู้สึกมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น แต่พอหันมองไปรอบๆก็ไม่พบอะไร จึงได้แต่รู้สึกไม่สบายใจอยู่เงียบๆ


คืน นี้ ลัลนารีนอนอยู่กับตุลา คอยจนเขาหลับแล้ว เธอลุกขึ้นไปเปิดลิ้นชัก
หยิบสมุดที่หมอดูให้มาดูแล้วก็ใส่ไว้ในลิ้นชักตามเดิม พูดกับสมุดเบาๆว่า
"แกคงไม่จำเป็นแล้วล่ะ"


ooooooo


ที่แท้ขณะที่ทั้งสองเปิด ประตูรั้วเข้าบ้านนั้น
ถูกลูกน้องของภูมิบดินทร์มาแอบถ่ายรูปไว้ รุ่งขึ้นจึงเอาไปให้เจ้านายดู
ภูมิบดินทร์ถามว่าผู้หญิงในรูปเป็นใคร


"เป็นภรรยาของทนายตุลาครับ" ลูกน้องบอก ภูมิบดินทร์ ถามว่าแล้วรชาล่ะ "ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆครับ"


ขณะ นั้นเองทนายความเดินเข้ามายื่นเอกสารให้บอกว่าได้รับเมื่อเช้านี้
ภูมิบดินทร์หยิบไปดูมันเป็นคำฟ้อง เขาถามเหี้ยมว่า
"มันกล้าฟ้องฉัน...นังรชา...มันมีโอกาสชนะหรือเปล่า!"


ทนายบอกว่าตอบยากเพราะเราไม่รู้ว่าทางโน้นมีอะไรแค่ไหน นอกจากจะให้เผยไต๋ออกมา


ต่อมารชา ตุลา และนวัตคุยกันว่าทางภูมิบดินทร์ ต้องการนัดไกลเกลี่ยนอกรอบ เชื่อว่าฝ่ายโน้นคงไม่ยอมตามที่เราต้องการง่ายๆ


"อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าเขาเดือดร้อนกับงานนี้มาก เขาอาจจะไม่ให้ทั้งหมดที่คุณต้องการแต่ก็อาจจะมากจนคุณพอใจก็ได้นะครับ" นวัตเอ่ย


รชา บอกว่าเราจะไม่ไปหาแต่ต้องให้ฝ่ายโน้นมาหาเราเอง
ตุลาจึงให้นวัตโทร.บอกภูมิบดินทร์ว่าถ้าต้องการเจรจาก็ให้นัดวันเวลามา
แต่สถานที่ต้องเป็นที่ออฟฟิศเราเท่านั้น


นัดวันกันแล้ว นวัตสั่งเตรียมห้องประชุมเป็นสถานที่เจรจา
ส่วนเรื่องเอกสารณิชนิชาบอกว่าจัดการเอกสารทั้งสองฝ่ายครบแล้ว รชาย้ำว่า
ไม่ว่าอย่างไรเราจะต้องได้ครึ่งหนึ่งของทั้งหมด
ตุลาตอบรับว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด


พอดีจุรีเข้ามาบอกว่ามากันแล้ว
ทุกคนหันมองเห็นภูมิบดินทร์เข้ามาพร้อมลูกน้องและทนายความท่าทางวางเขื่อง
มาก ภูมิบดินทร์มายืนตรงหน้าตุลา มีรชา นวัต และณิชนิชาอยู่ข้างหลังตุลา


ตุลาแนะนำตัวเองว่าเป็นทนายความของรชา รชาตัดบทว่าอย่าเสียเวลาเลย อยากให้เรื่องนี้มันจบเร็วๆ ภูมิบดินทร์พูดต่ออย่างท้าทายว่า


"แต่มันจะจบแบบไหนเท่านั้นเอง!"


ooooooo


เมื่อเข้าสู่โต๊ะเจรจา ทนายความของภูมิบดินทร์พูดขึ้นก่อนว่า


"ทางคุณภูมิบดินทร์ยื่นข้อเสนอการแบ่งสินสมรส ทันทีที่หย่า คุณรชาจะได้กิจการโรงแรมและเงินสดอีกสิบล้าน"


ทุกคนมองไปที่รชาเป็นตาเดียว เธอทำคอแข็งพูดอย่างมั่นใจไม่มีข้อแม้ว่า


"ทันทีที่หย่า ฉันต้องได้กิจการโรงแรม เงินสดสี่สิบล้าน และหุ้นที่บลูลากูนอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์"


ภูมิ บดินทร์ตบโต๊ะปัง! จ้องรชาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
รชาไม่สะทกสะท้านเพราะมีพวกอยู่หลายคน
ส่วนนวัตและตุลามองภูมิบดินทร์กับรชาอย่างดูเชิงกัน
ทนายบอกว่านั่นเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมดของภูมิบดินทร์


ตุลา ไกล่เกลี่ยให้พบกันครึ่งทาง
แต่รชายืนกรานข้อเสนอเดิมไม่ลดแม้แต่บาทเดียวและไม่มีวันเปลี่ยนใจด้วย
ภูมิบดินทร์ลุกขึ้นทุกคนมองเกร็งเตรียมรับสถานการณ์
ตุลาก้าวเข้าไปยืนข้างรชาอย่างพร้อมจะปกป้องลูกความของตน
ภูมิบดินทร์พูดใส่หน้ารชาว่า "เธอจะไม่ได้...แม้แต่บาทเดียว!"
พูดแล้วจะเดินออกไป


รชากดไอพอดทันที เสียงภูมิบดินทร์ดังขึ้น
"คิดจะเล่นกับฉันใช่ไหม...นับจากวันนี้ถ้าเธอเป็นอะไรไป
รู้ไว้ด้วยว่ามันเพราะความอวดดีของเธอเอง!"


ตุลากับนวัตมองกันอย่างตกใจ ส่วนภูมิบดินทร์ชะงักหันขวับมา รชายิ้มอย่างเป็นต่อบอกว่า


"ตอนนี้ฉันคิดว่าทันทีที่หย่า กิจการโรงแรม เงินสดห้าสิบล้าน หุ้นบลูลากูนห้าสิบเปอร์เซ็นต์"


ภูมิบดินทร์จะเข้าหารชา ถูกตุลาก้าวมาขวางไว้ นวัตก้าวตามมา


"ถ้าคุณไม่ตกลงก็พบกันที่ศาลตามกำหนดเดิม" ตุลาสรุป


ภูมิบดินทร์แทบจะคลั่งจ้องรชาอย่างแค้นใจก่อนเดินออกไป รชามองตามอย่างสะใจ ในขณะที่ตุลากับนวัตมอง


รชาเชิงตำหนิว่าไม่น่าทำแบบนี้


ooooooo


แม้จะเห็นสายตาตำหนิจากตุลากับนวัต แต่


รชา ก็ยังดื้อรั้นเชื่อมั่นตัวเองว่าตนอยากขู่เรื่องจะได้ จบเร็วๆ
ตุลาติงว่าทำแบบนี้เท่ากับเธอเปิดให้เขารู้ เกมฝ่ายเรา
ย้ำว่าหลักฐานที่เราจะใช้สู้กับเขาในศาลคืออาวุธสำคัญ
แต่ที่เธอทำไปนั้นถ้าเขาแก้เรื่องนี้ได้มันก็เป็นแค่อาวุธทื่อๆที่ไร้ค่า


"ถ้าถึงมือตุลย์แล้วเราคิดว่าเราจะต้องชนะเท่านั้น หมดธุระแล้วใช่ไหม" รชาใจเสียแต่ยังตะแบงไปจนได้


"เดี๋ยว ถ้าเชื่อมือผมก็ส่งทุกอย่างมาให้ผม"
รชาส่งไอพอดให้บอกว่าให้ทุกอย่างเขาหมดแล้ว ตุลาบอกเธอว่า
"ผมจะช่วยคุณเต็มที่ แต่ถ้าคุณอยากให้ทุกอย่างพังก็ทำตามใจคุณ ให้เต็มที่
คดีของคุณไม่ง่าย อย่าสร้างปัญหาต่อ ผมจะขอบคุณมาก"


ฝ่ายภูมิบดินทร์เมื่อกลับไปถึงห้องทำงานแล้วพูดอย่างผยองว่า แค่ได้เสียงอัดนั่นจะทำให้ตนแพ้ได้ยังไง ทนายความจึงอธิบายให้ฟังว่า


"เสียง อัดที่เราได้ยิน
ประกอบกับบันทึกแจ้งความของคุณรชาคราวที่แล้วมันมีน้ำหนักที่ทำให้ศาลเชื่อ
ได้ว่าที่ทางคุณรชาฟ้องว่าคุณทำร้ายทรมานร่างกายและจิตใจเป็นจริง
มันเป็นพยานวัตถุที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเสียงคุณ
ตรงจุดนี้ผมว่าเราหักล้างได้ถ้าเราสามารถบิดให้ศาลเชื่อว่ามันเป็นคำพูดที่
ลุแก่โทสะ ไม่ได้มีเจตนาตามที่พูด แต่ผมคิดว่าทางโน้น
ต้องมีหลักฐานที่มีน้ำหนักมากกว่าเสียงอัด เขาถึงได้มั่นใจนักว่าจะชนะ"


"กี่เปอร์เซ็นต์...ที่เรามีโอกาสจะชนะ" ภูมิบดินทร์ถาม เมื่อทนายบอกว่าประเมินได้ยากเขาพูดทันทีว่า "ก็ทำให้มันง่ายขึ้น"


ทนายมองหน้าภูมิบดินทร์อย่างเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร


ooooooo


ภา วิช มีความรักที่เป็นแบบของตัวเอง
เขายังมีความสุขกับการที่จะได้ดูแลลัลนารีให้เธอมีความสุข
เมื่อเลิกงานวันนี้พอรู้ว่าเธอไม่ได้เอารถมาเพราะเมื่อเช้าตุลามาส่ง
ก็อาสาจะไปส่ง แต่พูดไม่ทันขาดคำ รถของตุลาก็ปราดเข้ามาจอด
กระนั้นภาวิชก็ยังอาสาจะถือของไปส่งที่รถให้


ตุลามองภาวิชอย่างจับสังเกต เห็นแววตาเขาวิบวับขณะพูดกับลัลนารี เขาพูดเสียงดังโดยไม่รู้ตัว เร่งลัลนารีให้รีบไปกันเพราะตนหิวแล้ว


ภาวิชเห็นอาการของตุลาก็เริ่มสงสัยว่าเขาหึง แต่ภารตีฟันธงว่าหึงชัวร์


ส่วน
ตุลาพอออกรถไปครู่เดียวก็ถามลัลนารีว่าภาวิชบอกเธอใช่ไหมว่าสอนหนังสือและ
เล่นดนตรี แล้วทำไม มาอยู่ที่ออฟฟิศนี้
ลัลนารีชี้แจงว่าภารตีจ้างให้มาช่วยเป็นพ่อบ้าน
แต่เวลามีจ๊อบเขาก็ช่วยได้มาก ลูกค้ายังชมเลยว่าไอเดียเขาดี
พูดแล้วเห็นตุลาหน้าบึ้ง เลยถามว่า


"อืม...แล้วตุลย์ถามเรื่องวิชทำไมเหรอ ปกติไม่เห็นตุลย์ถามเรื่องเพื่อนลัลเลย หรือว่า...หึง?"


"ผมไม่เคยหึง ผมไม่ใช่ลัลที่หึงไม่เข้าเรื่อง เดี๋ยวผมจะแวะไปออฟฟิศก่อนนะ แล้วค่อยไปกินข้าว"


ooooooo


จุรี หอบของพะรุงพะรังกำลังจะออกจากออฟฟิศ แต่พอเธอเอื้อมมือไปปิดสวิตช์ไฟ
ก็ถูกลูกน้องของภูมิบดินทร์สองคนใส่หมวกปิดบังใบหน้าและใส่ถุงมือหยาบๆ
พุ่งเข้ามาล็อกและลากกลับเข้าไปในออฟฟิศ
จุรีดิ้นสุดชีวิตข้าวของหล่นเกลื่อนตรงประตู
ลูกน้องภูมิบดินทร์สองคนรีบปิดประตูแล้วลากเธอเข้าไปในห้องทำงานของตุลา


ตุลา มาถึงหน้าออฟฟิศพอดี บอกลัลนารีว่ารอแป๊บนึงแล้วเปิดประตูรถออกไป
ลัลนารีมองไปยังที่นั่งคนขับเห็นกุญแจออฟฟิศวางอยู่
ตุลาไปถึงประตูออฟฟิศแล้ว ผลักเข้าไม่ได้


จะเดินย้อนกลับมาเอากุญแจ แต่ลัลนารีเอามาให้แล้ว เขารับกุญแจไปไขบอกเธอว่าข้างในต้องมีอะไรแน่ๆ เพราะมีข้าวของกระจัด กระจายตรงประตู


ลัลนารีกลัวขึ้นมาชวนกลับกันดีกว่า แต่ตุลาจะเข้าไปเช็กดูก่อน ลัลนารีเลยตามเข้าไปด้วย


ที่ ห้องทำงานของตุลา จุรีถูกมัดปากมัดมือแน่นหนา
ส่วนพวกมันสองคนช่วยกันค้นเอกสารบนโต๊ะตามตู้
ตุลาเข้ามาถึงพอดีเขาพุ่งเข้าถีบคนหนึ่งที่กำลังบีบคอจุรีเพราะเธอดิ้นรน
ต่อสู้ไม่หยุด ลัลนารีตกใจหยิบของฟาดพวกมันอีกคนถูกมันตบจนหน้าหงาย
ตุลาตะโกนบอกให้เธอหนีไป ลัลนารีไม่ยอมหนีเข้าช่วยเขาเต็มที่


จุรี เห็นเป็นโอกาสจึงวิ่งหนีออกไปจากห้อง ตรงไปที่สัญญาณเตือนภัย
พยายามจะกดขอความช่วยเหลือแต่เพราะถูกมัดปากมัดมือไว้จึงทำอะไรได้ไม่ถนัด


ลูกน้องคนหนึ่งของภูมิบดินทร์ชักปืนออกมาขู่ตุลา เขาถามว่าต้องการอะไร มันถามว่าหลักฐานทั้งหมดอยู่ไหน


พอตุลาถามว่าหลักฐานอะไร ของใคร มันตะคอกว่า


"ก็ มึงทำคดีของใครอยู่! หลักฐานอยู่ไหน กวนนักนะมึง"
มันเอาด้ามปืนฟาดใส่ตุลาสุดแรง ลัลนารีผวาเข้าไปถูกมันจิกผมไว้
ตุลาจะเข้าไปช่วยเธอ ก็ถูกมันเตะหงายไปกระแทกโต๊ะ
คนที่มีปืนจ่อปืนเข้าไปตะคอก


"เอาหลักฐานทั้งหมดมาให้กู!"


ooooooo


ขณะ ที่ลูกน้องของภูมิบดินทร์เอาปืนจ่อตุลาจะเอาหลักฐานให้ได้นั่นเอง
เสียงสัญญาณเตือนภัยดังลั่นขึ้น พวกมันเลยต้องหนีไป
ลัลนารีเข้าไปหาตุลาที่ยืนมึนอยู่ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่าไม่เป็นไร


จุรียืนเหนื่อยหอบแทบตายหลังจากพยายามใช้ไม้ถูพื้นเปิดฝาครอบและกดสัญญาณเตือนภัยสำเร็จ


ส่วน พวกลูกน้องของภูมิบดินทร์กลับไปรายงานเจ้านายในคืนนั้นเลย
และก็โดนด่าไปตามระเบียบ ที่เสียเที่ยวไปแล้วไม่ได้อะไรมาสักอย่าง
ถามว่าแล้วพวกนั้นเห็นหน้าสองคนหรือเปล่า


ที่ออฟฟิศตุลา ไม่นานนักตำรวจก็มาที่เกิดเหตุ
ลัลนารีเป็นคนเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟัง นวัตเข้ามาสมทบ
ส่วนจุรีเล่ากระท่อนกระแท่นว่าตนไม่เห็นหน้าพวกมัน รู้แต่ว่ามากันสองคน


"มันจับฉันเข้าไปในห้องทำงานของคุณตุลย์
มันพยายามถามฉันว่าเก็บหลักฐานไว้ที่ไหน มันเอามีดมาขู่ด้วยนะคะ
โชคดีที่คุณตุลย์เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน"


"ถามหาหลักฐาน...พี่ตุลย์ ...ผมว่าใช่แน่" นวัตพูดอย่างมั่นใจ ตุลาเห็นด้วย
ส่วนตำรวจหันมาถามตุลาว่าเขามีความขัดแย้งอะไรกับใครบ้างหรือเปล่า


ตุลาสบตากับนวัตอย่างรู้กัน ลัลนารีดูอยู่เธออ่านสายตาของทั้งคู่ออกรู้สึกไม่พอใจมาก


เมื่อกลับถึงบ้าน เธอถามตุลาอย่างคาดคั้นว่า


"เพราะ คดีของรชาใช่ไหม" ตุลาพยักหน้า เธอมองเขาอย่างกังวลขอร้อง "ตุลย์
เลิกทำคดีนี้ได้ไหม ลัลเป็นห่วงตุลย์นะ
วันนี้ยังไม่ทันขึ้นศาลตุลย์ต้องเจ็บตัวขนาดนี้ ลัลไม่สบายใจ
ตุลย์โอนคดีให้คนอื่นเถอะนะ"


"ลัล...มันเป็นงานของผม ผมรู้ว่าควรทำยังไง"
ตุลาตัดบทแต่ลัลนารียังทำท่าจะวอแวอีกเขาเลยขอไปอาบน้ำก่อน
กระนั้นลัลนารีก็ยังถามอีกว่าทำไมรชาถึงต้องหย่ากับสามี มีปัญหาอะไร
คราวนี้ตุลาเลยตัดบทด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้นว่า
"เรื่องของลูกความเป็นความลับ คุณก็รู้"


ตุลาเดินขึ้นข้างบนไปแล้ว แต่ลัลนารียังยืนคิด พานระแวงว่า


"อยากทำคดีนี้เพราะงานหรือเพราะคนกันแน่!"


ooooooo


เช้า วันรุ่งขึ้น จู่ๆชวินทร์ก็ขับรถขนข้าวของของตัวเองมาที่หน้าบ้านลักษมี
ลดาวัลย์กำลังจะไปทำงานลักษมีถามว่าขนข้าวของมาทำไม
เขาบอกว่าจะกลับมาอยู่กับลูกเมียตน ลดาวัลย์แทรกขึ้นว่า


"ไม่ได้ค่ะ ที่นี่เป็นบ้านของดากับคุณแม่ ไม่ใช่ที่ของวินทร์อีกแล้ว"


ลักษมี มองหน้าลูกสาวอย่างคาดไม่ถึง
ในขณะที่ชวินทร์ยังพยายามขอโอกาสให้สัญญาว่าจะไม่ทำตัวแย่ๆเหมือนที่ผ่านมา
ลดาวัลย์ตอบเหมือนไม่แยแสว่า เมื่ออยู่กับตนไม่มีความสุขก็อย่าฝืนเลย


ลักษมี ยุลูกสาวว่าไม่ต้องสนใจ เดี๋ยวเหนื่อยก็ขนเสื้อผ้ากลับไปเองแหละ
แต่ชวินทร์ยังทำปากแข็งเถียงว่าบ้านตนอยู่ที่นี่ ตนจะอยู่ที่นี่


ลดาวัลย์ เห็นหมอกานต์ขับรถออกมาแล้วจึงเดินไปขึ้นรถโดยไม่สนใจชวินทร์
ลักษมีรีบเดินมาล็อกประตูขู่ชวินทร์ว่า
"ถ้าแกก้าวเข้าบ้านโดยที่ฉันไม่อนุญาต ฉันจะแจ้งความจับแกแน่!"


ชวินทร์ หันมองลดาวัลย์อย่างเว้าวอนหวังจะให้ใจอ่อน
แต่เธอไม่สนใจบอกหมอกานต์ว่ารีบไปกันเถอะเดี๋ยวจะทำงานสาย
แต่หมอกานต์ก็ยังแอบเห็นแววตาอาวรณ์ของลดาวัลย์
แต่เธอพยายามทำใจแข็งเท่านั้น


ooooooo


ชวินทร์ยังอยู่ที่หน้า บ้าน
ลัลนารีขับรถมาสบตากันแต่ทำเหมือนไม่รู้จักกันแล้วเธอก็เดินผ่านเข้าไปใน
บ้าน
แต่ยังแอบมองมาที่หน้าบ้านอย่างสงสัยว่าคนอย่างชวินทร์ยอมมาง้อลดาวัลย์ด้วย
หรือ


"หมามันหวงก้างไง ตอนเป็นของตายก็ทิ้งขว้าง
พอคนอื่นเขาอยากได้ก็ไม่ยอมขึ้นมาซะงั้น มันคงคิดว่าไอ้ดาเป็นเสาไฟฟ้ามั้ง
ฉี่รดแล้วก็ต้องเป็นของมันตลอด เจอคู่แข่ง


หนุ่มกว่า หล่อกว่า เฮอะ...จะเสียแล้วถึงสำนึก" ลักษมีเย้ยหยัน


"ถ้า ต้องเสียเราไปเขาถึงเห็นความสำคัญใช่ไหมแม่"
ลัลนารีฉุกคิดขึ้นมาบอกแม่ว่าจะไปทำงานก่อน ว่าแล้วก็วิ่งออกไปเลย
ทำเอาลักษมีบ่นงงๆว่าอะไรของมัน...


พอกลับมาถึงออฟฟิศ ลัลนารีเล่าแผนการของตนให้ภารตีและภาวิชฟังอย่างตื่นเต้น


ลัลนารีวางแผนจะใช้วิธีนี้กับตุลาเพื่อเขาจะได้หันมาหึงตนบ้าง โดยจะให้ภาวิชมาเป็นตัวช่วย บอกภารตีกับภาวิชว่า


"พอฉันทำให้หึงสำเร็จ ฉันก็จะต่อรองให้เลิกทำคดียัยรชา"


ooooooo


วัน ต่อมารชามาที่ออฟฟิศของตุลา ถามว่าหลักฐานของเรายังอยู่ครบไหม
ตุลาดูแล้วบอกว่าอยู่ครบ นวัตอดไม่ได้ถามว่าเป็นยังไง
ผลของการเอาหลักฐานมาขู่ของเธอ รชาทำเชิดใส่ไม่แคร์ ตุลาเลยพูด


"ต่อไปนี้ถ้าคุณคิดจะทำอะไรให้ปรึกษาทนายของคุณก่อนว่าควรทำหรือไม่
หวังว่าเรื่องคราวนี้คงทำให้คุณเข้าใจ" รชานิ่งลดความยโสลงเล็กน้อย
ตุลาบอกว่าตอนนี้เที่ยงแล้ว รชาชวนไปกินข้าวด้วยกันทันทีแต่ตุลาขอตัว
บอกเธออย่างไม่แคร์ความรู้สึกว่า "ผมต้องไปรับภรรยาทานอาหารกลางวันด้วยกัน
มีอะไรค่อยว่ากันอีกทีนะ"


ณิชนิชาขยับจะพูดอะไร ถูกนวัตสั่งงานว่าต้องเคลียร์งานกับตนก่อนพลางดึงเธอไว้แล้วบอกตุลาว่า "ตามสบายครับพี่"


รชาจะตามตุลาไปถูกนวัตเข้าขวางไว้ เธอตวาดให้ถอย นวัตไม่ถอยแต่เตือนสติว่า


"จำได้ไหมครับ คดีของคุณมันไม่ง่าย อย่าสร้างปัญหาจะดีกว่า"


"ไม่ใช่เรื่องของคุณ!" รชามองหยัน


"ฉลาด แต่ดื้อด้าน เขาก็ไม่เรียกฉลาดครับ" พูดแล้วหลีกทางให้ "เอาสิครับ
อยากทำพังก็ตามไปเลย"
รชากลับลังเล  นวัตยิ้มแล้วดึงณิชนิชาออกไปพูดทิ้งไว้  "คุณรชา...ฉลาด
จริงๆ...ขอตัวนะครับ"


รชายืนแค้นหน้าเครียดที่ถูกทิ้งอยู่คนเดียวในห้อง


ooooooo


นวัต ถ่ายทอดและช่วยเหลือผู้ช่วยของตนอย่างเต็มที่ เต็มใจ เมื่อออกมาแล้ว
ณิชนิชาพึมพำว่า "คุณนี่มันร้ายนะ"
นวัตเลยบอกว่าพูดดีๆไม่รู้เรื่องก็ต้องโดนบ้าง
แต่พอเห็นเธอมองอย่างระแวงก็รีบแก้ว่า "แต่กับบางคนถึงร้ายก็รักนะครับ
เอ้า...ผมให้"
พูดพลางยื่นสมุดโน้ตให้ณิชนิชารับไปเปิดดูถามว่าเลกเชอร์อะไรไว้
นวัตชี้แจงว่ามันเป็นขั้นตอนต่างๆในการทำงานกับปัญหาที่ตนเคยเจอ
ให้เธอศึกษาไว้ ครั้นเธอถามว่าแล้วเขาไม่เก็บไว้ดูหรือ


"ตัวจริงผมเก็บไว้ อันนี้ผมลอกแล้วจัดหน้าใหม่มาให้คุณจะได้เข้าใจง่าย"


"ก็ เขียนใหม่ทั้งเล่มน่ะสิ" ณิชนิชามองถามอย่างทึ่ง
นวัตเลยทำเสียงหยอกว่ามองแบบนี้ประทับใจใช่ไหม
แล้วชวนไปหาอะไรกินกันดีกว่าตนหิวแล้ว ณิชนิชาดักคอว่าหมูปิ้งเบสิก
ของเขาน่าเบื่อจะตาย


นวัตเลยให้เธอเป็นคนเลือก ณิชนิชาบอกให้ตามมาเร่งให้เดินเร็วๆ เดี๋ยวโต๊ะเต็มหมด นวัตรีบตามไปด้วยหัวใจเบิกบาน


รชา ออกจากห้องของตุลาเห็นทั้งสองท่าทางกุ๊กกิ๊กกันก็พานโกรธขึ้นมาอีก
เปิดกระเป๋าค้นเจอนามบัตรของร้านลัลนารีเข้า มองนามบัตรพึมพำอย่างแค้นใจ


"ฉันไม่มีความสุข พวกแกก็อย่าหวัง!"


ooooooo


ภารตี ถามภาวิชอย่างอดห่วงไม่ได้ว่าจะช่วยลัลนารีจริงๆหรือ
กลัวถลำเข้าไปใกล้ชิดแล้วจะตัดใจไม่ได้
ภาวิชตอบอย่างมั่นใจว่าพอเขาดีกันตนก็เป็นเพื่อนเหมือนเดิม
แต่ภารตีก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี


พอดีตุลามาถึงแล้ว ทั้งสองรีบเข้าไปบอกลัลนารี แทนที่จะรีบออกไปหาตุลา
เธอกลับบอกให้ภาวิชช่วยตนเดี๋ยวนี้เลย แล้วทั้งคู่ก็นั่งใกล้ชิดกันดูลายผ้า
ติตรงโน้น เติมตรงนี้ แต่งตรงนั้นกันกะหนุงกะหนิง
ตุลามายืนรออยู่ครู่หนึ่งก็ทนไม่ได้ พูดเสียงดังว่า


"ลัล! ผมหิวแล้ว ถ้าคุณยังไม่ไป ผมไปกินเอง" พูดเสร็จเดินออกไปเลย


ทั้งสามพากันอึ้ง ครู่เดียวลัลนารีก็ยิ้มดีใจบอกภารตีว่าเห็นไหม เขาหึงแล้ว


ตุลาเดินออกมาอย่างหงุดหงิด โดยไม่รู้ว่ารชามาจอดรถซุ่มดูอยู่ห่างๆ


พอ ตุลาไปแล้วลัลนารีถามภารตีว่าจะทำยังไงต่อดี
ภารตีแนะนำว่าต้องรีบตามไปง้อ แต่เธอไม่เอา
วางแผนเดินเกมต่อแล้วรีบออกไปเลย
ภารตีกับภาวิชมองตามอย่างหนักใจว่าท่าจะไปกันใหญ่แล้ว


พอตามไปที่รถ เธอทำเสียงอ้อนว่าเป็นอะไรไม่พอใจอะไรหรือเปล่า
ถามหยั่งเชิงแล้วมองลุ้นปรากฏว่าตุลาตอบว่าแค่รำคาญ
ตำหนิว่าทีหลังถ้าจะให้มารอก็บอกก่อนตนมีงานต้องทำไม่ว่างมานั่งรอ


"อ้าว...ไม่ได้โกรธเรื่องอื่นเหรอ" ลัลนารีถามเหวอ ผิดคาด ทั้งยังโดนเขาดุต่ออีกว่า


"ถ้า ลัลจะทำงานผมไม่ว่า แต่ขอให้เห็นคุณค่าเวลาของกันและกัน
วันนี้เราแยกกันกินแล้วกัน แล้วทีหลังอย่าทำอีก" พูดเสร็จเขาขับรถไปเลย
ลัลนารียืนจ๋อยอยู่ตรงนั้น


"เป็นไง...แทนที่จะได้กินข้าว อดไม่พอ ทะเลาะกับผัวอีก ได้ผลไหมล่ะ"
ภารตีเยาะเย้ย ลัลนารีเดินหน้ามุ่ยไปนั่งที่มุมออฟฟิศ
ภารตีกับภาวิชตามมานั่งด้วย โดยไม่รู้ว่ารชาย่องมาแอบฟังอยู่


"ฉันว่าเขาคงไม่หึงฉัน ฉันคงทำให้ตุลย์เลิกทำคดีนี้ไม่สำเร็จแน่ บางทีเขาสองคนอาจจะรักกันมาก"


รชาได้ยินก็ยิ้มอย่างสะใจ


ภา วิชเตือนว่าคิดเองเออเองทุกข์เองนะ
ลัลนารีเถียงว่าทีไดอารี่ของตนตุลาไม่ยอมเขียน ทีกับรชาทำไมยอม
รชาตาโตงงๆว่าลัลนารีรู้เรื่องนี้ได้ยังไง


ภารตีท้วงติงเพื่อนว่าตัว เองไม่เคยเห็นไดอารี่นั่นเลยอย่าเพิ่งเหมา
เอาให้เห็นก่อนเถอะ ลัลนารีก็ยังอดระแวงไม่ได้ว่าถ้าเขาเขียนกันจริงๆ
ตนก็คงหมดหวัง


แต่รชาฟังแล้วมีความหวังขึ้นมา ยิ้มร้ายอย่างมีแผน เมื่อกลับไปถึงที่ทำงานก็พึมพำกับตัวเองว่า


"หลอกเรามาหลายปี ถึงเวลาที่เมียตุลย์ต้องโดนบ้าง"


ooooooo


ตุลา ขับรถกลับมาถึงลานจอดรถที่ออฟฟิศอย่างหัวเสีย
ถูกลูกน้องของภูมิบดินทร์มาดักบังคับพาไปพบภูมิบดินทร์ที่จอดรถรออยู่ที่ถนน
เปลี่ยว ทันทีที่เห็นหน้า
ภูมิบดินทร์ยื่นเช็คสิบล้านให้แลกกับหลักฐานทั้งหมดที่เขามี
ตุลาถามว่าถ้าตนไม่รับ?


ภูมิบดินทร์สวนไปทันทีว่า "คุณคงไม่อยากเดือดร้อน"


"ถ้า หมายถึงที่คุณส่งคนไปที่ออฟฟิศผม" ถามแล้วจ้องหน้า
ภูมิบดินทร์ไม่ตอบแต่ยิ้มๆ "คุณไม่ใช่คนแรกที่ทำแบบนี้
ถ้าผมกลัวผมคงเลิกเป็นทนายไปนานแล้ว"


ภูมิบดินทร์ยังจะข่มขู่อีกแต่
ตุลาตัดบทว่าตนมีงานต้องทำแล้วขอตัวพร้อมกับวางเช็คที่เบาะแล้วลงจากรถไป
ภูมิบดินทร์ มองตามสบถอย่างหัวเสีย


"ไอ้ตุลา! มันกล้าหยามกู" หันไปสั่งลูกน้อง "ไปสืบมา...หาจุดอ่อนมันให้ได้!"


ooooooo


ภา วิชเห็นลัลนารีเหงาเศร้าอยู่หน้าจอคอม- พิวเตอร์แล้วก็เป็นห่วง
บอกให้ภารตีเข้าไปปลอบหน่อย แค่ให้ยิ้มออกมาได้ก็ดีแล้ว
เพราะหงอยขนาดนี้ตนเป็นห่วง ภารตีติงว่าลัลนารีนั้นเศร้าแต่อึด
ไม่บ้าง่ายๆหรอก


ภารตีพูดไม่ทันขาดคำเสียงแก้วกาแฟก็หล่นแตกเพล้งทั้งสองหันไปดูเห็นลัลนารีนั่งช็อกอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ รีบลุกไปหาถามว่าเป็นอะไร


ปรากฏว่าที่หน้าจอมีไดอารี่และมีข้อความว่า


"เธอจะได้ตาสว่างสักทีว่าตุลย์น่ะรักฉันมากแค่ไหน... รชา"


ทั้งสองช่วยกันอ่านไดอารี่ แต่ละวันมีแต่รำพึงรำพันถึงความรัก ความห่วงใย ความคิดถึงกันและกันของรชากับตุลา จนลัลนารีทนไม่ไหวตะโกน


"พอ แล้ว! ฉันไม่อยากฟัง มันเป็นจริงแล้วตี้
ไดอารี่ของรชามันมีจริง...ตุลย์ไม่เคยยอมรับว่ามันมีจริง
ทำไมกับรชาเขียนได้ ทีฉันขอให้เขียนตุลย์ไม่เคยสนใจ...ทำไม...ทำไม!"


ภา วิชเอะใจว่าทำไมอยู่ๆรชาถึงส่งไดอารี่นี่มา
ลัลนารีกลับคิดว่านั่นไม่สำคัญเท่าว่าไดอารี่มันมีจริง
แล้วก็เป็นลายมือของตุลาจริงๆด้วย พูดแล้วร้องไห้เสียใจหนัก


ภารตีบอกว่า อาจไม่ใช่ของจริงก็ได้ ให้ถามตุลาก่อนว่ามันจริงหรือไม่จริง
ภาวิชก็เตือนว่า "เอาให้มันรู้เรื่องจริงๆ
ก่อนไหมแล้วค่อยเสียใจก็ยังไม่สายนะลัล"


คำเตือนสติและปลอบโยนของเพื่อนทำให้ลัลนารีสงบลงแต่ยังมุ่งมั่นต้องเอาคำตอบจากตุลาให้ได้


ooooooo


ตุลากลับ มาถึงออฟฟิศ เขาชะงักเมื่อเห็นคุณณพเข้ามาหาณิชนิชาอย่างหัวเสีย
เพราะเธอส่งเอกสารแจ้งความคืบหน้าของคดีไปให้ปนุทกลายเป็นคดีของรชา


จุรี แอบฟังอย่างสอดรู้พูดแทรกขึ้นหาว่าณิชนิชาสะเพร่าสับสนฟ้องว่า
"นี่คุณปนุทเขาร้อนใจอยากรู้ความคืบหน้าโทร.มาโวยกับพี่ใหญ่เลยนะคะ"


ณิชนิชาถูกคุณณพตำหนิอย่างรุนแรงว่าแสดงถึงความไม่ใส่ใจในงาน ทำให้ณิชนิชาเสียใจ แต่นวัตเข้ามายืนข้างณิชนิชา ชี้แจงว่า


"ผม ว่ามันคงเป็นความสับสนตอนส่งเอกสารให้ลูกความมากกว่านะครับ
เพราะผมเช็กดูแล้วตอนที่คุณณิชจัดเอกสารแล้วมอบให้พี่จุ๊ส่งให้ลูกความ
คุณณิชแจ้งพี่จุ๊แล้วครับ แต่พี่จุ๊


ยุ่งๆอยู่กับการเม้นต์เฟซบุ๊ก"


"คุณวัต ลูกน้องคุณทำผิดพลาดจะมาโบ้ยพี่ไม่ได้นะคะ" จุรีเถียงคอเป็นเอ็น


"จะลองเช็กเวลาการใช้งานในเฟซบุ๊กไหมครับ ว่าตอนที่พี่โหลดรูปเม้นต์เพื่อนน่ะตอนกี่โมง"


เจอ ของจริงเข้าแบบนี้ จุรีหน้าเสีย
คุณณพมองหน้าจุรีแล้วเรียกให้ไปพบที่ห้อง เมื่อจุรีไปแล้ว
นวัตปลอบใจณิชนิชาที่ยังใจไม่ดีว่า "ผมอยู่ทั้งคน ไม่ต้องกลัวนะ"
ตุลาเห็นภาพสองคนก็ยิ้มๆ


แม้ณิชนิชาจะรู้สึกดีกับการ
ปกป้องของนวัตแต่ก็อดทำตะบึงตะบอนไม่ได้ว่าไม่ได้ขอให้ยุ่งสักหน่อย
พอถูกนวัตตัดพ้อ เธอถามว่าต้องการอะไร นวัตหยิบตั๋วขึ้นมาสองใบ พูดอ้อนๆว่า


"ผมได้ตั๋วคอนเสิร์ตมา นักร้องคุณภาพทุกคนเลยนะ คุณน่าจะชอบ...ไปดูกับผมได้ไหม"


ณิช นิชาถามอย่างซึ้งใจว่าทำไมเขาถึงดีกับตนขนาดนี้
นวัตตอบอย่างภูมิใจว่าเพราะอยากปกป้องเธอ...ตลอดไป ทำเอาณิชนิชาอึ้ง
พอนวัตมองลุ้นรอคำตอบเธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมา ตอบเสียงประหม่าว่า
"ฉัน...ไม่ว่าง...อย่าให้มันมากกว่านี้เลย"


นวัตเข้าใจความหมายทันที ตัดพ้อว่าถ้าเป็นตุลาเธอคงไม่ปฏิเสธ
ณิชนิชาพยายามอธิบายแต่นวัตไม่มีแก่ใจจะฟังแล้ว
เอ่ยขอโทษที่รบกวนเธอแล้วเดินออกไปเลย เจอตุลาพอดีเขาพยายามจะบอกว่าใจเย็นๆ
นวัตฝืนยิ้มบอกว่าตนยังโอเคแล้วเดินผ่านไป ตุลามองตามอย่างไม่สบายใจ


จนเมื่อเขาเห็นณิชนิชาเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่ดีรู้สึกตัวเองทำร้ายจิตใจนวัตมากไป ตุลาจึงเดินตามเธอไป


ooooooo


ตุลาตามณิชนิชาไปที่ห้องสมุดขอคุยด้วย ณิชนิชายังตั้งสติไม่ได้   ตุลาจึงเอ่ยขึ้นว่านวัตเป็นคนดีเชื่อว่าเธอก็รู้


"ณิชรู้ค่ะ...แต่ณิชกลัว..."


ที่ข้างนอกลัลนารีมาหาจุรีถามว่าตุลาไปไหนตนไปหาที่ห้องก็ไม่เห็น จุรีถามอย่างอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า ดูเครียดๆ


"ลัล มีเรื่องต้องถามตุลย์น่ะค่ะ...ลัลไปหาตุลย์ก่อนนะคะ"
ลัลนารีตัดบทเมื่อเห็นจุรีทำท่าอยากรู้เรื่องมาก
ลัลนารีเดินไปแล้วจุรีก็ยังมองตามอย่างอยากรู้จริงๆว่ามันเรื่องอะไรกัน
นะ...


ooooooo


Create Date : 04 ธันวาคม 2553
Last Update : 4 ธันวาคม 2553 19:40:16 น. 0 comments
Counter : 215 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.