สนมเอกไข่แดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สนมเอกไข่แดง's blog to your web]
Links
 

 
[ ช่อง 3 ] 365 วันแห่งรัก ตอนที่ 7



ตอนที่ 7


แม้จะปากแข็งบอกภารตีว่าตุลาไปกับพยาน แต่ อารมณ์พล่านสับสน สุดท้ายก็ทนไม่ได้โพล่งออกมาว่า


"ฉัน ไม่เข้าใจ ทำไมตุลย์ต้องปิดบัง ทำไมไม่บอกความจริง มันต้องมีอะไรแน่ๆ
สองคนนั้นต้องแอบไปทำอะไรกันแน่ๆ ถ้าไม่ทำก็บอกมาตรงๆสิว่าไปด้วยกัน
เห็นฉันเป็นอะไร ทำไม่ต้องโกหกกันด้วย"


ภารตีกับภาวิชมองลัลนารีที่ พูดเสียยาวยืด
ภารตีบอกภาวิชว่าลัลนารีสติแตกแล้วบ่นภาวิชที่ไปยุให้เธอโทร.ไปหาตุลา
แล้วภารตีก็ยกผ้ามาวางปึงตรงหน้าลัลนารีถามว่าจะฟูมฟายอีกนานไหม
งานต้องเสร็จวันนี้ไม่ใช่ปีหน้า


ลัลนารีว้าวุ่นจนบอกเพื่อนว่าไม่มี กะจิตกะใจจะทำแล้ว
ภารตีฉุนกึกเลยขู่ว่าถ้างั้นก็ยกเลิกงานเดี๋ยวนี้แล้วทำท่าจะไปจริงๆ
แทนที่ลัลนารีจะได้สติกลับบอกให้ไปยกเลิกเลย พลางก็คว้าโทรศัพท์จะโทร.อีก
ภาวิชเข้าไปคว้าโทรศัพท์หมับ พูดเสียงเข้ม


"หยุดโทร.ได้แล้ว เราบอกแล้วไง ถ้าโทร.ไปก็แค่เช็ก อย่าให้เขารู้ตัว
ถ้าลัลโทร.ไปโวยวายแบบนี้ สำหรับผู้ชายบอกตรงๆว่ามันน่ารำคาญ
ถ้าจะเอาคำตอบให้ได้ ไม่มีทางได้หรอก มีแต่เขาจะมองเราเป็นนางมาร!"


คำว่า "นางมาร" กระแทกใจลัลนารี เธอแว้งเอาว่าแล้วตัวเองมาให้ตนโทร.ทำไม


"ให้ โทร.ไปให้เขารู้ว่าเรารู้ แค่นี้พอแล้ว รู้แล้วนิ่งมันแม่พระชัดๆ
เราว่าลัลควรอยู่นิ่งๆ รอเขาติดต่อกลับมาแล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถ้าเขาดีจริงเขาจะสารภาพกับเราเอง"


ลัลนารีนิ่งฟังแล้วจู่ๆก็หันกลับ ไปทำงานไม่พูดไม่จาจนภารตีอึ้ง
อุทานเหมือนพบสิ่งมหัศจรรย์ว่า ไม่น่าเชื่อว่าลัลนารีจะเชื่อภาวิช
ภาวิชไม่ตอบแต่แอบดีใจที่ตนทำได้อย่างที่ภารตีพูดจริงๆ


ooooooo


พอ ตกเย็น
ณิชนิชาก็กระวนกระวายใจคอยชำเลืองไปทางประตูออฟฟิศตลอดเวลายิ่งดูนาฬิกาก็
ยิ่งหงุดหงิดร้อนรน จนทนไม่ได้ถามจุรีว่าตุลาจะกลับมาหรือเปล่า


จุรี คาดว่าป่านนี้คงไม่เข้ามาแล้ว
ณิชนิชาถามอีกว่าแล้วตุลาโทร.เข้ามาบ้างไหมว่าจะกลับหรือเปล่า
จุรีมองอย่างสงสัยถามว่าเธอมีอะไรหรือเปล่า
ณิชนิชาอึกอักอ้างว่ามีปัญหาเรื่องงานนิดหน่อย


"ถามเรื่องงาน ถามผมก็ได้มั้ง ถึงอายุงานจะน้อยกว่าพี่ตุลย์
แต่ประสบการณ์แน่นเอี้ยด" นวัตพูดแทรกขึ้น ทำเอา
ณิชนิชาตวัดมองค้อนชักสีหน้าบอกว่าไม่เป็นไรตนรอตุลาได้
พูดให้เจ็บใจว่าเขาดูไม่น่าเชื่อถือ


ถูกปรามาสเอาซึ่งหน้า แทนที่นวัตจะโกรธ กลับรู้สึกว่าณิชนิชาแรงได้โดนใจจริงๆ!


พอ ณิชนิชาไปแล้ว จุรีตั้งข้อสังเกตกับนวัตว่า
ดูๆเขาจะใส่ใจน้องเขาเหลือเกิน
นวัตกลับยิ้มบอกจุรีว่าตนใส่ใจพี่จุ๊เหมือนกันเพราะรู้สึกจะสนิทสนมกันมาก
ทำงานกันยังไม่ถึงเดือนแต่แอบจุ๊กจิ๊กกันตลอดเวลาถามว่ามีอะไรหรือ
เปล่า...เกี่ยวกับตุลาไหม นวัตถามแล้วมองอย่างจับพิรุธ
ทำเอาจุรีตกใจปฏิเสธเสียงหลง


"ไม่มี้...พี่แค่กระชับสัมพันธ์ น้องเขาจะได้รู้สึกมีเพื่อน
ไม่มีอะไรค่ะ..." พูดแล้วเห็นนวัตยังมองอย่างจับพิรุธ
เลยทำเป็นหิวขอไปทานข้าวก่อน ถามนวัตว่าจะเอาอะไรไหมแล้วคว้ากระเป๋าไปเลย


นวัตเห็นพิรุธของจุรี เขามองตามอย่างครุ่นคิด


ooooooo


รชา นั่งบอกทางตุลาไปหาบ้านพยานสำคัญที่เธอบอกไว้
ตุลาขับรถวนไปวนมาหลายรอบก็ยังหาไม่เจอ
เขาเสนอว่าถ้าจำไม่ได้เรากลับกันดีกว่า
รชาถ่วงเต็มที่ขอเวลาคิดอีกแป๊บเดียวรับรองคราวนี้ไม่พลาดแน่
แล้วเธอก็จำได้จริงๆ ชี้ไปที่บ้านหนึ่ง บอกว่านี่คือบ้านนายสิน สามบุรี
ชวนกันลงไปถาม


ตุลาบอกว่าให้เธอนั่งที่รถตนจะไปถามเอง
แต่พอเขาลงไปโดยไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วย
รชาก็หยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาปิดเครื่องแล้ววางไว้ที่เดิม


เมื่อ ตุลากลับมาบอกว่าบ้านนั้นบอกว่าไม่มีคนชื่อนายสิน สามบุรี
รชาก็ทำเสียงสูงว่าเขาบอกมาอย่างนี้ ถ้างั้นเราวนอีกสักรอบดีไหม
ตุลาเลยเสนอว่าเดี๋ยวตนให้นักสืบไปสืบชื่อกับนามสกุลนี้ดีกว่า
วันนี้เรากลับไปกันก่อนได้ความอย่างไรค่อยมาใหม่


แต่พอเขาขับรถออกมา เท่านั้น รชาก็ปวดท้องรุนแรงบอกว่าไม่ไหวแล้ว
ตุลาจึงบ่ายหน้าพาเธอไปโรงพยาบาล
พอถึงโรงพยาบาลเขาอุ้มรชาที่ไม่มีแรงเดินเข้าไปวางบนเตียง พยาบาล
รีบเข็นเธอเข้าห้องฉุกเฉิน บอกเขาว่า "คุณสามีจะตามเข้าไปข้างในก็ได้นะคะ"


รชายิ้มออกทั้งที่ปวดท้องรุนแรง กุมมือเขาไว้ราวกับเป็นภรรยาจริงๆ ตุลารีบบอกพยาบาลว่า


"ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นเพื่อนร่วมงาน ผมรอข้างนอกดีกว่า"


รชาหน้าเสียค่อยๆปล่อยมือตุลาขณะพยาบาลเข็นเตียงเข้าห้องฉุกเฉิน


เมื่อ มีเวลาขณะรอ ตุลาดูนาฬิกาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ปรากฏว่าเครื่องถูกปิดตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
เขาเปิดเครื่องก็พอดีลัลนารีโทร.เข้ามา  ทันทีที่ตุลารับสาย
เสียงปลายสายต่อว่ามาอย่างฉุนเฉียวทันทีว่าทำไมต้องปิดเครื่องด้วย


"ผมไม่ได้ปิดเครื่อง มันดับเอง ลัลเป็นอะไรรึเปล่าทำไมต้องโวยวายขนาดนี้ด้วย"


เธอ ไม่ตอบคำถาม แต่กลับถามเป็นชุดว่า ตอนนี้เขาอยู่ไหน
พอเขาบอกว่าอยู่หัวหิน เธอถาม "หัวหิน...ไปกับใคร" พอตุลาบอกว่ามากับพยาน
เธอถามอีกว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย จนตุลาเหนื่อยใจตัดบทว่า


"ผมกำลังจะกลับ ค่อยคุยกันต่อที่บ้านแล้วกัน" ว่าแล้ววางสายเลย


ลัลนารียิ่งตีโพยตีพายเพราะยังพูดกันไม่รู้เรื่อง ภารตีเข้ามาปลอบว่าค่อยไปคุยที่บ้านก็ได้


"ไม่ ได้ฉันต้องเคลียร์เดี๋ยวนี้" ว่าแล้วกดไปหาตุลาอีก
พอเขาบอกว่ากำลังจะกลับยังไม่อยากคุยตอนนี้ถามว่าโอเคไหม
เสียงตอบตวัดกลับทันทีว่า "ลัลไม่โอเค!"


"ถ้าลัลไม่โอเค ผมจะปิดเครื่องเองแล้วนะ แล้วก็ไปทบทวนดีๆว่าทำไมไม่โอเค
พอคุณโอเคเมื่อไหร่ค่อยคุยกัน" ว่าแล้ววางสายเลย คราวนี้ลัลนารีอึ้งสนิท!


ภารตีเข้ามาถามว่าตุลาว่าอย่างไรบ้าง เธอตอบเสียงอ่อยๆว่า "ตุลย์ให้ฉันมาทบทวนตัวเอง...."


ภารตีขำกิ๊กแต่เห็นเพื่อนยังนั่งเหวออยู่ ภาวิชเดินมาดึงโทรศัพท์จากมือลัลนารี เตือนสติว่า


"สามีลัลพูดถูก ลัลควรทำตามคำแนะนำของเขา มันเป็นวิธีที่ดีที่สุด" พูดแล้วเดินไปเลย


ooooooo


หลัง จากหมอตรวจรชาแล้ว บอกว่าอาการของเธอคือโรคกระเพาะ
ต้องปรับเรื่องการทานอาหารให้ตรงเวลา วันนี้รับยาแล้วกลับบ้านได้
รชาสวนไปทันทีว่า "ไม่ค่ะ"


ทันทีที่ปฏิเสธหมอ รชาหันมองไปนอกหน้าต่างเห็นท้องฟ้ามืดแล้วก็สะใจว่า "แกต้องดิ้นตายที่สามีแกอยู่กับฉัน นังลัล"


แต่ หารู้ไม่ว่าตุลาเตรียมจะกลับแล้ว เขาบอกเธอว่าอยู่กับหมอก็ดีแล้ว
ทั้งยังพูดคล้ายจะรู้ทันว่าถ้าเมื่อกลางวันที่แวะไปร้านอาหารนั้นเธอทานเสีย
ก็ไม่ต้องปวดท้องแบบนี้ รชาอึ้งนึกไม่ถึงว่าเขาจะรู้ทัน พยายามชี้แจง
แต่ตุลาตัดบทว่า


"คุณพักเถอะอย่าคิดมาก" รชาถามทันทีว่าเขาอยู่เป็นเพื่อนตนไหม
ตุลาตอบทันทีอย่างคิดไว้ก่อนแล้วว่า "ผมจะกลับกรุงเทพฯ
ถ้าพรุ่งนี้ผมได้ข้อมูลพยานเพิ่มผมจะขับรถมาหาคุณอีกที
แต่ถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าผมก็คงไม่มาแล้ว"


รชาถามอย่างตัดพ้อแกมอ้อน ว่าจะให้ตนขับรถกลับเองหรือ ตนไม่ไหวจริงๆ
ตุลาบอกว่าถ้าไม่ไหวจริงๆให้โทร.บอกตนจะส่งคนมาช่วยขับรถพากลับกรุงเทพฯ


"แต่เราเป็นพยานของตุลย์นะ" รชาพยายามอ้างงาน


"ผม จะดูแลคุณอย่างดี ค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมจะให้ทางบริษัทจัดการให้
และถ้าคืนนี้คุณไม่ไหวต้องการคนดูแล ผมจะจ้างพยาบาลเพิ่ม พักผ่อนตามสบายนะ"
พูดแล้วเขาเดินออกไปจากห้อง รชาแทบจะกรี๊ดออกมาอย่างผิดหวัง


ตุลา เดินทางมาถึงท่ารถทัวร์เพื่อนั่งรถกลับกรุงเทพฯ
เขาพยายามโทร.หาลัลนารี สายติดแต่ไม่มีคนรับ เขาเดาได้ว่าเธอกำลังงอน
เลยเอาโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋า เอนตัวพิงเบาะหลับตาลงอย่างเหน็ดเหนื่อย...


เสียงโทรศัพท์จากตุลา ดังจนเงียบไปเอง ภารตีชำเลืองเพื่อน 
 เห็นเหลือบดูโทรศัพท์เป็นสายจากตุลาก็ทำปั้นปึ่ง ไม่รับสาย
ภารตีกับภาวิชดูออกว่ากำลังงอน เล่นตัว


"เยอะแยะจริงๆไอ้ลัลเอ๊ย ง้อก็เล่นตัว ไม่ง้อก็น้อยใจ เฮ้อ..."


ooooooo


ที่ บ้านตุลา ติ้งกับธูมสองพ่อลูกนั่งรอตุลาอยู่ที่บ้านเขา
ติ้งทำอาหารมาเต็มโต๊ะ บ่นกับพ่อว่า ป่านนี้ตุลายังไม่กลับ
เมียก็หายหัวไปบ้านช่องไม่กลับ ตนทำกับข้าวไว้เต็มโต๊ะจะมีคนมากินไหมเนี่ย


"เอาน่า เดี๋ยวมันก็มา" ธูมปลอบใจติ้ง แต่ตัวเองกลับเดินวนจนน่าเวียนหัว


เสียง กริ่งดังขึ้นธูมบอกว่ามาแล้ว
ติ้งพุ่งไปเปิดประตูแต่แล้วก็ชะงักแปลกใจเมื่อเห็นรถแท็กซี่ที่เพิ่งขับออก
ไป และตุลามาแต่ตัวยืนกดกริ่งอยู่หน้าบ้าน


ติ้งต่อว่าน้องตำหนิลัล นารีว่าไม่รู้หายไปไหนกันหมด
ใครมาหาก็ต้องวิ่งโร่ไปนั่งรอที่บ้านตน
พอถามถึงรู้ว่าชวินทร์มารอพบเขาอยู่ที่บ้าน


พอเจอหน้ากันชวินทร์ก็ทำเป็นเข้ามาตีซี้ตุลา ตบไหล่เขาบอกว่าตนคุยไม่นาน แล้วเริ่มเรื่องว่า


"ที่มาก็แค่อยากจะบอกว่าคุณหัดสั่งสอนเมียตัวเองบ้างนะ ถ้าสั่งสอนไม่ได้ก็เอาโซ่ล่ามไว้เสียจะได้ไม่เที่ยวอาละวาดเป็นหมาบ้า"


ตุลา ฟังแล้วไม่พอใจที่มาว่าเมียตัวเองเป็นหมาบ้า ชวินทร์ยังไม่หยุด
บอกเขาว่าเมียเขาเป็นจอมแส่
แล้วฟ้องว่า"มันเจอผมที่โรงแรมทั้งด่าทั้งตีผมต่อหน้าคนเป็นร้อย"


ตุลา ไม่เชื่อบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ชวินทร์จึงเอาหลักฐานมาให้ดู
นั่นคือรองเท้าส้นสูงข้างหนึ่งกับกุญแจรถ
ตุลามองอึ้งถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่


"สองวันก่อน บอกเมียคุณด้วยว่าผมไม่เคยยุ่งเรื่องครอบครัวคุณ
พวกคุณก็ไม่ต้องมายุ่งกับครอบครัวผม" พูดแล้วชวินทร์เดินออกไป
ตุลานิ่งอึ้งคิดหนัก แต่ที่อีกมุมหนึ่ง


ติ้งแอบฟังอยู่จิกตาอย่างสะใจ


กลับไปเล่าให้พ่อฟัง ธูมปรารภว่าแบบนี้ตุลาก็น่าเป็นห่วง


"ฉันบอกพ่อแล้ว เมียตุลย์มันร้าย วันนี้มันทำร้ายญาติมันได้ วันหน้ามันก็ต้องทำตุลย์ได้เหมือนกัน"


ธูม บอกว่าไม่ใช่เรื่องนั้น
ตนเป็นห่วงเรื่องที่ผัวเมียมีเรื่องปิดบังกันต่างหาก
แบบนี้ก็คงต้องอยู่กันด้วยความระแวง ติ้งพูดทันทีว่าดี
น้องจะได้พ้นนรกเสียที


"ถ้าเริ่มต้นแบบนี้แล้ว ท่าจะอีกไม่นาน..." ธูมมองไปทางบ้านของตุลาอย่างเป็นห่วง


ooooooo


ตุลา
นั่งครุ่นคิดทบทวนถึงเรื่องรองเท้าและกุญแจรถในวันที่เขาถามลัลนารีว่าหายไป
ไหน วันนั้นเธอปดว่ารองเท้าส้นหักเลยทิ้งไป
ส่วนรถให้เขาลากเข้าอู่เพราะรถเสีย
คิดทบทวนแล้วเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีปัญหา นั่งรออยู่จนลัลนารีกลับมา


พอ เข้าบ้าน
ลัลนารีก็ตั้งท่าหาเรื่องทันทีจะคาดคั้นเคลียร์เรื่องที่เขาไปหัวหินกับรชา
ให้ได้
แต่ยังไม่ทันอาละวาดก็ถูกตุลาถามขรึมๆขึ้นมาก่อนว่า"ลัลมีอะไรปิดบังผมหรือ
เปล่า"


"ลัลเนี่ยนะมีเรื่องต้องปิดบัง ใครกันแน่..."


"มีไหม" เสียงตุลาเข้ม แต่ลัลนารีเข้มกว่าสวนมาว่า
ตนไม่เคยทำผิดกับเขาไม่เคยโกหก เขาต่างหากโกหกว่าไปทำงานไปกับพยาน
ลัลนารีทำท่าจะร่ายยาว ตุลาขัดขึ้นว่า "ผมไปทำงาน"


"ถ้าทำงานจริง ทำไมตุลย์ไม่บอกว่าไปหัวหินกับยัยรชา"


"ผมไม่ได้โกหก แต่มันไม่จำเป็นต้องบอกทุกอย่าง"


ลัล นารีเถียงคอเป็นเอ็นว่าตนไม่ได้ทำผิดอะไร
จนกระทั่งตุลาเอารองเท้ากับกุญแจรถมาวางให้ดูบอกว่า "พี่ชวินทร์เอามาคืน"
ลัลนารีถึงกับหน้าเจื่อนแต่ยังปากไวถามไปว่า แล้วยังไง ครั้นนึกได้จึงเงียบ
ตุลามองหน้าเธอพูดอย่างเคร่งขรึมว่า


"เขาบอกให้ผมสั่งสอนเมียตัวเองด้วย แต่ผมคงทำไม่ได้ เพราะเรื่องแบบนี้เขาไม่สอนกัน แต่ต้องรู้ได้ด้วยตัวเองว่าอะไรควรไม่ควร"


"นี่ ตุลย์อย่านอกเรื่องนะวันนี้ตุลย์โกหกลัล..." เธอตะแบงไปจนได้
ครั้นเขาย้ำว่าวันก่อนเธอรับปากว่ามีอะไรจะไม่ปิดบังจะบอกตนทุกเรื่อง
คราวนี้เลยอึกอักเสียงอ่อยว่า "ลัลไม่ได้ตั้งใจนี่"


"ผมก็ไม่ได้โกหก" ตุลาสวนไปทันทีแล้วเดินขึ้นข้างบนไปเลย


"สรุป...นี่ฉันผิดอีกแล้วเหรอเนี่ย..." ลัลนารีนั่งเหวอที่ตั้งท่ามาอย่างกับนางสิงห์แต่สุดท้ายกลายเป็นแมวไปไม่ทันตั้งตัว...


ooooooo


ที่ ห้องนอน บรรยากาศคืนนี้เงียบๆ เป็นความเงียบที่น่าอึดอัด
เพราะต่างมีอะไรในใจกันอยู่ ลัลนารีนั่งรอตุลาเข้าห้องน้ำจนเขาออกมา
เธอก็เริ่มทำกระแทกกระทั้นใส่
แต่เขาทำไม่รู้ไม่ชี้เอาหนังสือไปนอนอ่านบนเตียง


เห็นแล้วขัดตาขัดใจ นัก เลยเดินไปนอนอีกด้านหนึ่งของเตียงหันหลังให้
ขนาดนั้นตุลาก็ยังนิ่ง อึดใจเดียวเธอก็หันกลับมา เอาตามาแยงไฟแท้ๆ
แต่กลับทำท่าหงุดหงิดว่าแสงไฟแยงตา


ตุลาก็แสนดี ถึงแม้จะทำไม่รู้ไม่ชี้แต่ก็เอื้อมมือปิดไฟหัวเตียง
ลัลนารีนอนตัวเกร็งภาวนาในใจ "กอดสิ...กอด..." แต่แล้วก็เซ็ง เฉา
เพราะเขากลับเลื่อนตัวลงนอนนิ่ง เหมือนท่อนไม้!


จนเช้าวันรุ่งขึ้น ลัลนารีไปถึงที่ออฟฟิศเล่าให้เพื่อนรักฟัง
ภารตีขำกลิ้งที่เพื่อนเตรียมไปเล่นงานตุลาแต่กลับถูกเขาศอกกลับเสียหน้าหงาย
ลัลนารีโทษว่าเพราะชวินทร์คนเดียว ที่แส่ไม่เข้าเรื่อง


พอภารตีรู้
ว่ากระทั่งเช้านี้ทั้งสองก็ยังไม่ได้พูดกันเพราะตุลาไปทำงานตั้งแต่เช้า
บ่นกับภารตีว่า "ผิดแล้วยังไม่ขอโทษมาโกรธใส่กันอีก"
ภารตีถามว่าแล้วเธอขอโทษเขาหรือยัง ลัลนารีก็ทำเชิดถามว่า "เรื่องอะไร"


"ไอ้ ลัล...ที่ฉันฟังแกมาทั้งหมด ตุลย์น่ะเขาบอกแกทุกอย่างนะ
รชามาช่วยเป็นพยาน เขาก็เป็นพยานจริงๆ
ถ้าแกไม่รู้เรื่องจากบ่าง...ไอ้ผู้หวังดีของแกน่ะ แกก็คงไม่รู้สึกอะไร
ไม่ต้องทะเลาะกัน แต่แกเนี่ย...โกหกร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งรองเท้าทั้งรถ
แกจะไม่ขอโทษเขารึไง"


ภารตีเอานิ้วจิ้มหน้าผากเพื่อนอย่างหมั่นไส้ด่าว่า "สำนึกน่ะมีไหม เพื่อนโง่"


"ถึงฉันผิดก็ผิดน้อยกว่า ฉันตีพี่เขย แต่เขาไปกับแฟนเก่า แกเข้าใจนะ"


"เข้าใจ...แล้วตอนนี้ก็ยิ่งเข้าใจแล้วว่าที่แม่หมอบอกว่าแกจะเลิกกับตุลย์ก็คงจะจริง"


"ไอ้ตี้!!" ลัลนารีร้องเหมือนถูกไฟจี้


"ไม่ ต้องมาเสียงสูง...ถ้าแกยังงี่เง่าเอาแต่ใจไปเรื่อยๆ แบบนี้
แกได้เลิกตามคำทำนายแน่!!" ภารตีฟันธง ทำเอาลัลนารีอึ้ง ร้อนใจจนนั่งไม่ติด


ooooooo


รุ่ง ขึ้น ตุลาโทร.ไปบอกรชาว่าตนเช็กแล้วไม่มีลูกน้องของภูมิบดินทร์ที่ชื่อ
สิน สามบุรี แต่เมื่อรชายังยืนยัน
เขาตัดบทว่าเป็นอันว่าตนไม่จำเป็นต้องไปหัวหิน  ยังมีแก่ใจถามว่า
เธอขับรถไหวไหมถ้าไม่ไหวจะส่งคนช่วยขับให้


รชาตอบอย่างเจ็บใจว่าไม่ เป็นไร ตนไม่รบกวนเขาถึงขนาดนั้น
ตุลาจึงขอวางสายเพื่อทำงานต่อ
รชาไม่ตอบจนปลายสายวางไปแล้วเธอกำโทรศัพท์แน่นอย่างเจ็บใจ


วางสายจากรชาแล้ว ตุลานั่งทำงานง่วนกับการเช็กประวัติลูกน้องของบดินทร์ต่อ


จน ใกล้เที่ยง ที่แพนทรี่ออฟฟิศตุลา
จุรีเข้าไปชงกาแฟเห็นณิชนิชาถือกล่องอาหารญี่ปุ่นดูดีมา  2  กล่อง  จุรีถาม
ว่าวันนี้พกปิ่นโตมาเลยหรือ


"ณิชสั่งข้าวหน้าปลาไหลร้านประจำ มาน่ะค่ะ ก็เลยสั่งมาเผื่อ..."
ณิชนิชาพูดไม่ทันจบ จุรีคิดว่าณิชนิชาสั่งมาเผื่อตน กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบ
ณิชนิชาก็ดึงกล่องไปก่อนพูดต่อจากเมื่อครู่ว่า "...พี่ตุลย์น่ะค่ะ
จะเที่ยงแล้วณิชจัดไปให้พี่ตุลย์ก่อนนะคะ" ณิชนิชาจัดอาหารแล้วยกออกไป
จุรีมองอย่างเสียดายนึกว่าเป็นลาภปากของตัวเองเสียอีก


แต่พอณิชนิชาถือกล่องอาหารเดินไปถึงหน้าห้องตุลา ได้ยินเสียงแว่วจากข้างในว่า


"เซอร์ไพรส์...ลัล เจอร้านอาหารญี่ปุ่นร้านใหม่
วันนี้ข้าวหน้าปลาไหลอร่อยมากเลยค่ะ ลัลไปรอตั้งนาน
นี่ตุลย์ยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหม  งั้นน้ำส้มหน่อยน่ะ  วิตามินซีสูง  จะได้
มีแรงทำงานนะ...อ่ะ"


ลัลนารีเปิดฝาขวดใส่หลอดยื่นให้


ณิชนิชายืนอึ้งอยู่หน้าห้อง ครู่เดียวก็เดินกลับไปพร้อมกล่องอาหารและหัวใจที่บอบช้ำ...


ลัล นารียื่นขวดน้ำส้มให้ตุลา เขาถามว่านี่กำลังจะง้อใช่ไหม
ทำเอาเธอมองลุ้นกลัวเขาจะทำเย็นชาใส่อีกพูดเหมือนจะงอนว่า
"ก็ลัล...ถ้าตุลย์ไม่ชอบ งั้นลัล..." ทำท่าจะเก็บขวดน้ำส้ม
ตุลาคว้าหมับจับทั้งมือทั้งขวดเอาไปดูดน้ำส้มอย่างชื่นใจ
ดื่มแล้วมองหน้าเธอพูดอย่างอบอุ่นอ่อนโยนว่า


"ที่จริงลัลไม่ต้องทำ ขนาดนี้ก็ได้หรอกแค่บอกขอโทษก็พอแล้ว"
เธอจึงขอโทษที่โกหก ตุลาเองก็ขอโทษที่ทำให้เธอไม่สบายใจ แต่ก็ขอเธอว่า
"ลัลอย่าทำแบบนี้อีกนะ"


"จ้ะ...ตุลย์ ก็ต้องบอกลัลทุกเรื่องนะ"
พอตุลาบอกว่าถ้าเป็นเรื่องที่ตนบอกได้ ลัลนารีก็ทำท่าจะเซ้าซี้
ตุลารีบเปลี่ยนเรื่องชวนกินข้าวหน้าปลาไหลที่ตนไม่ชอบกันดีกว่า
ลัลนารีจึงนึกได้บ่นตัวเองว่า "เออ...จริงด้วย...ลัลลืม..."


ทั้งสอง กินข้าวหน้าปลาไหลกันอย่างกะหนุงกะหนิง
จนลัลนารีคีบปลาไหลชิ้นสุดท้ายป้อนเขาถามว่าอร่อยไหม ตุลาตอบยิ้มแย้มว่า
ปลาไหลไม่อร่อยแต่เธอป้อนเลยอร่อย


ลัลนารีทำค้อนเขินๆ
ตุลามองอย่างเอ็นดูบอกว่าแบบนี้ดีกว่าไม่พูดกันแบบเมื่อคืนเยอะเลย  เธอพยัก
หน้าเห็นด้วยแล้วเก็บกล่องขอกลับไปทำงานก่อน นัดเย็นนี้เจอกันใหม่
เธอขยับเข้าไปหอมแก้มเขา พูดทำหน้าอ้อนๆ "รักนะ" แล้วจะออกไป


"ลัล...ลืม อะไรหรือเปล่า"
ตุลาเรียกไว้พอเธอชะงักเขาเดินเข้าไปหอมแก้มเธอบอก "ขับรถดีๆนะ"
แค่นั้นก็ทำให้ ลัลนารียิ้มแก้มแทบปริ เขย่งหอมเขาอีกทีก่อนกลับไป


ooooooo


ส่วนข้าวหน้าปลาไหลที่ณิชนิชาซื้อมาเธอยกกลับไปที่ห้องแพนทรี่ เป็นลาภปากของนวัตไปโดยปริยาย


จุรีแม้จะไม่ได้กินข้าวหน้าปลาไหลของณิชนิชา แต่ ก็ได้ขนมจากลัลนารีพร้อมคำขอบคุณที่ทำเอาจุรีงงว่า


"ขอบคุณพี่จุ๊มากนะคะ ที่อยู่เคียงข้างลัล...ถ้ามีอะไรก็อย่าลืม...นะคะ" ลัลนารีทำท่ากดมือถือเหมือนว่ารู้กัน


นวัตกินข้าวหน้าปลาไหลเสร็จออกมาเห็นเข้า ถามจุรีอย่างจับผิดว่าลัลนารีขอบคุณอะไรหรือ


"เอาจริงๆมะ...พี่ก็ยังงงอยู่เนี่ย" จุรีพูดแล้วทำหน้างงไม่หาย


เมื่อลัลนารีกลับถึงออฟฟิศตัวเอง เดินหน้าบานเข้าไปจนภารตีทักว่าดีกับผัวแล้วใช่ไหม ลัลนารีลอยหน้าอวดว่า ก่อนกลับยังจุ๊บๆกันเลย


"จะดีกันนานแค่ไหนเชียว เดี๋ยวพี่เขย พี่ผัว พ่อผัว กิ๊กเก่าเขี่ยหน่อยก็หูตั้งหางตกน้ำลายฟูมปากอีก" ภารตีตราหน้าเพื่อนรัก


พอ ถูกสะกิดเข้าหน่อยเดียว ลัลนารีก็คิดเจ็บใจชวินทร์
อีกที่มาทำตนอย่างเจ็บแสบ อาฆาตว่าจะเอาคืนอยากจะให้
ลดาวัลย์ฟาดหัวให้แบะเสียจริงๆ
ภารตีแทบจะหัวเราะออกมาบอกเพื่อนว่าไม่มีทางเลยเพราะลดาวัลย์เชื่อผัวถึง
ขนาดนั้นจะไปทำอะไรได้ ภาวิชฟังอยู่ตลอดเวลา แทรกขึ้นว่า


"แต่พี่ของลัลก็หนักแน่นดีนะ ไม่หูเบา แบบนี้ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา คาเตียง ไม่งั้นไม่ยอมรับหรอก นี่เป็นคำตอบจากประสบการณ์..."


"ชั่วๆของแกน่ะเหรอ" ภารตีพูดต่อให้ แต่ลัลนารีไม่ได้สนใจฟังเพราะมัวแต่คิดแค้นชวินทร์


ooooooo


เพื่อ จะจับให้มั่นคั้นให้ตายชวินทร์ให้ได้
ลัล-นารีไปขอความร่วมมือจากลักษมีผู้เป็นแม่ที่ไม่ชอบชวินทร์พอๆกับตน
ช่วยกันคิดว่าชวินทร์จะไปเที่ยวที่ไหน วันไหนบ้าง
จับให้ได้คาหนังคาเขาคาเตียงกันเลยทีเดียว


วิเคราะห์แล้วเชื่อว่าคนอย่างชวินทร์ไม่มีเงินสดจ่ายแน่ ฉะนั้น
ต้องหาสลิปบัตรเครดิต
ช่วยกันคุ้ยในกองขยะเจอสลิปที่ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เอามาช่วยกันต่อจนสำเร็จปรากฏว่า เป็นสลิปค่าผ่อนรถยนต์ ผ่อนนาฬิกา รองเท้า
กระทั่งค่ากินข้าว แต่ไม่มีค่าเที่ยว


เป็นไปไม่ได้ที่คนอย่าง ชวินทร์จะไม่เที่ยว ไปเอาถังขยะในบ้านมาเทหาอีก
คราวนี้เจอใบปลิว ลัลนารีตาลุกหยิบขึ้นมาอ่าน
"บลูลากูน...ทุกคืนวันพฤหัสฯลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์...เฮ้ย!"
ลัลนารีดีใจสุดๆคุ้ยหาจากถังใหญ่อีก
คราวนี้เป็นโบรชัวร์กับบัตรส่วนลดที่หมดอายุแล้วหลายใบ เธอตะโกนบอกแม่


"แม่ๆรีบไปตามพี่ดามาเร็ว ลัลรู้แล้วว่าไอ้วินทร์มันชอบไปที่ไหน"


ooooooo


สอง แม่ลูกคู่หูเอาใบปลิวไปยื่นให้ลดาวัลย์ดูเป็นหลักฐาน
แต่ลดาวัลย์กลับบอกว่าทุกคืนพฤหัสฯชวินทร์ต้องไปสนามไดรฟ์กอล์ฟกับเจ้านาย
ถูกแม่กับน้องหาว่าเชื่องแบบนี้ถึงได้ถูกชวินทร์จูงจมูกมาตลอด


"ถ้า มันจะทำให้ครอบครัวมีความสุข ดาจะเชื่อวินทร์"
ลดาวัลย์พูดอย่างข่มความเจ็บปวด  พอลัลนารีถามว่าเขาทำแบบนี้พี่มีความสุข
หรือ ลดาวัลย์ก็ยังปากแข็งแต่เสียงสั่นว่า "วินทร์รักพี่ พี่เชื่อเขา"


ทั้ง แม่และน้องช่วยกันสาวไส้ชวินทร์ให้ลดาวัลย์ฟัง
น้องยุว่าพี่ต้องจับให้มั่นคั้นให้ตายเพื่อศักดิ์ศรีของเมียอย่างเราพี่ต้อง
ไป ลักษมีก็ย้ำว่า "แกต้องไป!"
สองแม่ลูกพูดย้ำพร้อมกันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าแกต้องไป, พี่ต้องไป
ในที่สุดลดาวัลย์ยอมไป แต่มีข้อแม้ว่า


"ถ้าไม่เจอเราจะหยุดพูดเรื่อง นี้กันตกลงไหมลัล"
ลัลนารียอมรับปากว่าถ้าชวินทร์ไม่ได้โกหกตนก็จะเลิกด่า
ลักษมีก็จะไม่ด่าเหมือนกันถามว่ากล้าไปไหมล่ะ


"แล้วเราจะไปเมื่อไร"
ลดาวัลย์ตัดสินใจไปทั้งที่ใจกลัวว่าจะจริงอย่างที่แม่กับน้องว่าเหมือนกัน
แต่เพราะทนการรบเร้าเคี่ยวเข็ญของแม่กับน้องไม่ไหวเลยจะไปให้จบๆเสีย


ooooooo


เป็น เวลาเดียวกับที่ตุลากับนวัตกำลังดูใบปลิวของบลูลากูน
ที่มีข่าวว่าภูมิบดินทร์มีเรื่องทำร้ายเด็กในสังกัดบ่อยๆ
นวัตเสนอว่าเราน่าจะได้พยานที่นั่นสักคน 
 ตุลาเห็นด้วยว่าอาจช่วยให้ศาลเชื่อในเรื่องแรงจูงใจที่ภูมิบดินทร์ฆ่าคนได้
ดูใบปลิวแล้วบอกนวัตว่าเราต้องเข้าไป


นวัตไม่เห็นด้วยที่ตุลาจะเข้า ไปเพราะเพิ่งมีคดีมา ตนขอไปคนเดียวดีกว่า
ตุลาไม่ตอบแต่บอกให้ไปเช็กดูว่าวันไหนที่ภูมิบดินทร์จะไม่เข้าไปที่นั่น


วัน ต่อมานวัตเช็กได้ว่าคืนนี้ภูมิบดินทร์จะไม่เข้าไปที่บลูลากูน
ตุลาจึงนัดให้เขาไปรับตนที่บ้าน นวัตรู้ว่าลัลนารีต้องคุมเข้มตุลาอยู่แล้ว
ถามว่าแล้วเขาจะบอกเธออย่างไร
ตุลาคิดหลายทางแต่ในที่สุดจะบอกลัลนารีว่าจะไปค้างเป็นเพื่อนพ่อเพราะมีธุระ
คุยกันนิดหน่อย มั่นใจว่าข้ออ้างนี้ลัลนารีต้องไม่สงสัยแน่


ปรากฏว่า ลัลนารีคิดโกหกเหมือนกัน
พอเธอเป็นฝ่ายโกหกเขาก่อนว่าวันนี้จะไปค้างบ้านตี้
ตุลาดีใจที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องโกหกเผลอพูดไปว่า "ดีเลย"


"อะไรนะ" ลัลนารีสะดุดใจ ตุลาเฉไฉไป
ว่าดีแล้วเธอจะได้มีเวลาไปคุยกับเพื่อนบ้างจะได้ไม่เหงา
เธอถามอย่างห่วงใยว่า "ลัลไม่อยู่ ตุลย์นอนได้นะ"


ตุลาทำเนียนว่านอน ได้แต่คงยากหน่อย
แต่พอเห็นเธอลังเลก็รีบบอกว่าไม่ต้องห่วงเดี๋ยวตนก็นอนแล้ว
แต่พอลัลนารีหิ้วกระเป๋าค้างคืนออกไปเท่านั้น
ตุลาก็โทร.บอกให้นวัตมารับที่บ้านทันที


หมายจะลุยชวินทร์ให้แหลกใน คืนนี้ ลัลนารีชวนภารตีไปด้วย
ภารตีถามว่าเธอไม่บอกตุลาหรือว่าไปไหนไปทำอะไร ลัลนารีหัวเราะสบายๆ
บอกว่าขืนบอกว่ายุ่งเรื่องลดาวัลย์มีหวังถูกบ่นตาย
แต่ไม่มีอะไรหรอกแค่ไปจับผิดชวินทร์เท่านั้นเอง
แล้วสองสาวก็ผลัดกันดูว่าแต่งตัวได้เจ๋งกันแค่ไหน
แล้วหันมองลดาวัลย์ว่าแต่งตัวเสร็จหรือยัง
ปรากฏว่าลดาวัลย์แต่งตัวล่อตะเข้อู้ฟู่เสียจนทั้งสองร้อง "โห..."
อย่างคาดไม่ถึง


ลดาวัลย์ถามว่าเราจะไปกันแค่สามคนหรือ ลัลนารีบอกว่าสวยๆอย่างเราต้องมีบอดี้การ์ดไปด้วย นั่นคือภาวิชนั่นเอง


สามสาวออกเดินทางไปบลูลากูนอาบอบนวดกันอย่างหมายมั่นปั้นมือเต็มที่ ส่วนภาวิชตามไปภายหลัง


ooooooo


ทั้งสามไปสมัครเป็นเด็กนั่งตู้รับค่าตัวเป็นรายวัน ลัลนารีได้เบอร์ 696 ลดาวัลย์ได้ตอง 2 คือ 222 และภารตีได้เบอร์ 123


ภา วิชมาถึงตอนที่สามสาวเข้าไปนั่งในตู้พอดี แต่หารู้
ไม่ว่ารถคันหลังที่ขับตามเข้ามาคือตุลากับนวัต
เมื่อเข้าไปแล้วนวัตถามตุลาว่าเราจะเลือกคนไหนดี  ตุลาย้ำต้องเลือกคนที่ให้
ผลประโยชน์ได้ นวัตแนะว่าถ้าอย่างนั้นต้องเลือกระดับดาวพวกนี้จะเป็นเลขตอง


เมื่อ พนักงานมาถามนวัตเขาบอกว่าให้จัดตองมาให้ก็แล้วกัน ขอดาวคืนนี้เลย
แต่ปรากฏว่ามีเสี่ยมาเรียกตองสองไปก่อนแล้ว
ลัลนารีกับภารตีเป็นห่วงลดาวัลย์
แต่บอกกันว่าเดี๋ยวเราต้องตามไปช่วย  ไม่ทันไรทั้งสองก็ถูกเรียกออกไปเหมือน
กัน คนที่เรียกคือภาวิชนั่นเอง


ออก มาเจอภาวิชพอดี
บอกภาวิชว่าลดาวัลย์ถูกเรียกออกมาแล้วต้องช่วยกันตามหาให้เจอ
แล้วลัลนารีก็เที่ยวเดินไปตามโต๊ะจับเด็กสาวพลิกหน้ามาดูทีละคนจนเกือบถูกยำ
จนพนักงานมาถามว่าหาอะไร ภาวิชบอกให้จัดโต๊ะให้หน่อย
เลยได้โต๊ะนั่งใกล้ๆกับตุลาและนวัตที่ได้เจี๊ยบเด็กสาวที่คาดว่าจะให้ข้อมูล
ได้มานั่งด้วย


ตุลากับนวัตมุ่งจะหาข้อมูลแต่เจี๊ยบตั้งหน้าตั้งตาแต่ จะขายสินค้า
สุดท้ายตุลาเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
เป็นจังหวะที่ลัลนารีทนอึดอัดไม่ได้ลุกพรวดขึ้นจะไปเดินตามหาลดาวัลย์อีก
ด้านหนึ่ง


แทนที่จะเจอลดาวัลย์ ลัลนารีกลับเห็นชวินทร์กำลังโอบเด็กสาวจะพาเข้าห้อง
แต่ดั๊น...โอบเด็กเดินผ่านโต๊ะที่ลดาวัลย์นั่งอยู่กับเสี่ย
ลดาวัลย์ลุกพรวดตามไปทันทีจนเสี่ยนั่งเหวอ


ลัลนารีเห็นชวินทร์รีบเดินตามแต่ถูกแขกที่มาเที่ยวเดินตัดหน้าจนชวินทร์หลุดหายไปจากสายตาสุดท้ายลัลนารีก็กลับมานั่งเซ็งๆที่โต๊ะ


แต่ ลดาวัลย์ลมเพชรหึงแรง
ตามไปจนทันชวินทร์กับเด็กสาวคนนั้นที่เพิ่งเข้าห้องไป
เธอผลักประตูลุยเข้าไปทันที ชวินทร์ตกใจถามว่ามาได้ยังไง
ลดาวัลย์ต่อว่าตำหนิด่าทอเขาที่โกหกทรยศต่อตนและลูกตรงเข้าไปทุบตีจนชวินทร์
ปัดป้องแทบไม่ทัน


ชวินทร์ตวาดไล่ลดาวัลย์ด่าว่าน่ารำคาญมีเมียอย่าง นี้อยู่ไปก็ไม่มีความสุข
"บ้านเฮงซวยกับเมียเฉาๆ ใครจะอยากอยู่วะ"
ทำให้ลดาวัลย์สะเทือนใจจนทนอยู่ไม่ได้วิ่งร้องไห้ออกจากห้องไป


ooooooo


ลัล นารีกับภารตีนั่งกวาดตามองสำรวจอยู่ เห็นลดาวัลย์วิ่งมาและวิ่งผ่านไป
ทั้งสองรีบลุกตามพลางร้องเรียก
ปรากฏว่าตุลานั่งอยู่โต๊ะติดกันเพียงแต่พนักเก้าอี้สูงเลยมองไม่เห็น
ได้ยินเสียงลัลนารีร้องเรียกลดาวัลย์จึงชะเง้อดู ตกใจเมื่อเห็นลัลนารี
อุทาน "ลัล!"


ลัลนารีหันขวับตกใจที่เห็นตุลา ถึงกับหยุดชะงัก
ภารตียังไม่เห็นตุลาหันกลับมาดึงลัลนารีให้รีบตามลดาวัลย์ไป
ภาวิชวิ่งตามไปด้วย ตุลาเห็นดังนั้นลุกวิ่งตามไปอีกคน บอกนวัตว่าเดี๋ยวมา


นวัตสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ลุกตามไปเป็นคนสุดท้าย


ภาร ตีลากลัลนารีวิ่งตามมาถึงริมถนนใหญ่ ปรากฏว่า
ลดาวัลย์เรียกแท็กซี่ไปแล้ว จึงยืนมึนกันอยู่ตรงนั้น อึดใจเดียว
ภาวิชก็ตามมาถึง เห็นลัลนารียังยืนเบลอๆอยู่ถามว่าเป็นอะไร
ไม่ทันที่ลัลนารีจะพูดอะไร ตุลาก็มาถึง พอนวัตเห็นตุลายืน
อยู่กับลัลนารีก็อึ้ง มึนนึกรู้ทันทีว่างานเข้าแล้ว


พอตุลามาถึงลัลนารีพุ่งเข้าไปหาเขา ทันทีถามว่ามาทำอะไรที่นี่
ตุลาบอกว่ามาทำงานย้อนถามว่าแล้วเธอมาทำอะไร
ลัลนารีตอบผ่านๆว่าตนมาเป็นเพื่อนลดาวัลย์แล้วย้อนถามเขาอีกว่ามาทำงานจริง
หรือ ทำไมต้องโกหก ตุลาตอบอย่างใจเย็นตามเคยว่า
"ไม่ได้บอก...แต่ไม่ได้โกหก"


ลัลนารีระงับอารมณ์ไม่อยู่โวยวายใส่เขา ภาวิชห้ามก็ไม่ฟัง จนตุลาฉุนขึ้นมาบอกว่ามีอะไรให้กลับไปคุยกันที่บ้าน พูดตัดบทว่า


"ผมจะไปกับนวัตส่วนลัลมากับใครก็กลับไปกับคนนั้น ก็แล้วกัน" พูดพลางตวัดหางตาไปทางภาวิชแล้วเดินนำนวัตไป


ลัล นารีไม่ยอมจบจะตามตุลาไปปากก็เอะอะโวยวาย
จนภารตีต้องเข้ามาล็อกตัวไว้บอกให้พอแล้ว ลัลนารีจึงหยุด
มองตามตุลาไปด้วยสายตาเจ็บปวด...


ooooooo


นั่งรถกลับถึงบ้าน นวัตจอดรถแล้วเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นว่า


"พี่ใจเย็นๆนะครับ ผมว่าค่อยๆคุยกันดีกว่านะครับพี่"


ตุลานิ่งมาก นิ่งจนนวัตหวั่นใจ


ส่วน รถของภาวิชจอดจ่อท้ายรถของนวัต
ภารตีจะเตือนเพื่อนแต่ไม่ทันอ้าปากก็ถูกลัลนารีตัดบทว่าจะให้ตนใจเย็นทั้ง
ที่จับได้ว่าตุลาโกหกหรือ ตนไม่เย็นเด็ดขาด
แม้ภารตีจะพูดดีๆซึ่งไม่ค่อยจะมีบ่อยนัก
แต่ลัลนารีหูอื้อตาลายฟังอะไรไม่ได้แล้ว ภาวิชเลยยุส่งเสียเลยว่า


"โอ เค ลัลร้อนให้สุดเลยนะอาละวาดให้เต็มที่
ถ้าตื่นมาพรุ่งนี้มันจะทำให้ลัลมีความสุข" พอถูกภารตีด่าว่าไปยุทำไม
ภาวิชแย้งว่า "อย่างลัลห้ามไปก็เท่านั้น เขาต้องเรียนรู้เองเชื่อฉัน"


แล้ว ทั้งคู่ก็นั่งมองสองผัวเมียที่ลงไปยืนเผชิญหน้ากันอยู่หน้าบ้าน
จนตุลาตัดสินใจเข้าบ้านไป และลัลนารีก็พุ่งตามไปราวกับพายุ นวัต ภารตี
และภาวิช มองหน้ากันแล้วกลับไป ด้วยความไม่สบายใจ


ลัลนารีถามว่าเขา โกหกตนทำไมแล้วไปเที่ยวแบบนั้นทำไม
ตุลาโต้ว่าตนไม่ได้โกหก ตนไปทำงาน ทั้งสองโต้เถียงกัน
เสียงดังจนธูมกับติ้งวิ่งมาแอบดูแอบฟัง


เมื่อลัล นารีจะยัดเยียดให้ตุลาเป็นฝ่ายผิดให้ได้
และเมื่อตุลารู้ว่าลัลนารีไปยุ่งกับเรื่องครอบครัวลดาวัลย์อีก
เขาถามว่าบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ไปยุ่งกับเขา ลัลนารีทำไม่ได้
เพราะเป็นคนในครอบครัวตน ใครก็ห้ามไม่ได้


"ตกลง ต่อไปนี้ผมจะไม่ยุ่งเรื่องของครอบครัวลัล ลัลจะปลอมตัว
จะไปทะเลาะตบตี ผมก็จะไม่ห้าม ไม่ถาม ส่วนงาน ของผมคุณก็ห้ามยุ่งเหมือนกัน"


"ตุลย์!"


"เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ" ตุลาตัดบทแล้วเดินลิ่วเข้าบ้านไปเป็นการปิดฉากการสนทนา


"ตุลย์!!" ลัลนารีร้องเรียกแล้ววิ่งตามไปอย่างจะเอาเรื่องให้ได้





Create Date : 04 ธันวาคม 2553
Last Update : 4 ธันวาคม 2553 19:35:15 น. 0 comments
Counter : 190 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.