สนมเอกไข่แดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สนมเอกไข่แดง's blog to your web]
Links
 

 
[ ช่อง 3 ] 365 วันแห่งรัก ตอนที่ 5




ตอนที่ 5


ตั้งแต่นั่งรถออกจากบ้านแม่มาจนถึงติดไฟแดง
ลัลนารีนั่งเงียบหน้านิ่วมาตลอดทางจนตุลาสงสัยถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่าทำไม
ไม่พูดไม่จา เธอตอบสั้นๆว่า "เหนื่อย"
เขาพูดอย่างเอาใจว่าอีกแป๊บเดียวก็ถึงบ้านแล้ว ทนอีกหน่อยนะ


เห็นเขาไม่ถามอะไรอีก เธอเหล่ๆ
ตัดสินใจถามว่าเมื่อกี้มาเก็บของทำไมนานจังมีอะไรหรือเปล่า
พอเขาบอกว่าเปล่าไม่มีอะไร
เธอถามอีกว่าเห็นยืนคุยโทรศัพท์อยู่ตั้งนานนึกว่ามีงานด่วนวันหยุด


เขาตอบแค่ว่าไม่ใช่เรื่องงานหรอก แล้วเงียบไปอีก ถามคำตอบคำแบบนี้ชักฉุน เลยตัดสินใจถามอีกว่า ไม่ใช่เรื่องงานแล้วเรื่องอะไร


"ก็เรื่องทั่วๆไป" ตุลาตอบแล้วเงียบไปอีก
คราวนี้เธอทนไม่ไหวถามว่าแล้วใครโทร.มา
ตุลาก็ทนไม่ไหวเหมือนกันหันมองตอบเสียงขุ่นขึ้นนิดๆว่า "ลัล
ผมไม่ใช่พี่เขยคุณนะ ถึงจะได้มาซักฟอก ถ้าอยากรู้ก็จะบอกให้
เด็กที่ออฟฟิศโทร. มาเรื่องวันเกิดเขา จะชวนไปฉลอง
แต่ผมบอกว่าอยู่กับภรรยาไปไม่ได้ เขาก็คงโทร.ไปชวนพี่จุ๊
ชวนนวัต...พอใจรึยัง?"


แล้วเธอก็ถามอีกจนได้ว่า "บอกว่าอยู่กับภรรยาจริงเหรอ" เลยถูกเรียกปราม "ลัล!!" แค่นั้นเธอก็ยิ้มออก รีบบอก "โอเค...ไม่ถามแล้วก็ได้"


พอเธอยอมหยุด ตุลาแอบยิ้มนิดๆ คิดในใจว่าดีแล้วที่เธอไม่ถามอะไรต่อ


ooooooo


เช้าวันรุ่งขึ้น ที่ออฟฟิศทนายความ ณิชนิชาถือเค้กวันเกิด
พวกพนักงานสาวๆพากันมารุมล้อมร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้
พอร้องเพลงจบก็พากันเฮ จากนั้นณิชนิชาตัดเค้กแจก


นวัตเดินเข้ามาถามว่าฉลองอะไรกันแต่เช้า จุรีบอกว่าวันเกิดของน้องณิชเขา
อวดว่ามีเค้กด้วยเจ้าอร่อยแพงมากแล้วก็อร่อยมากด้วย นวัตซี้ดปากว่า
"ยังงี้ก็ลาภปากซิครับ"


ณิชนิชาถือเค้กมาให้จุรี นวัตยืนยิ้มรอรับอีกชิ้นในมือเธอ แต่พอเอ่ยขอบคุณแล้วจะยื่นมือไปรับเธอกลับดึงจานไว้ พูดอย่างไม่ไว้หน้าว่า


"ขอโทษนะคะ พอดีว่าชิ้นสุดท้าย ณิชตั้งใจจะเก็บไปให้พี่ตุลย์
เสียใจด้วยที่ไม่มีเค้กสำหรับคุณ..."
ว่าแล้วถือเค้กชิ้นสุดท้ายเดินไปที่ห้องของตุลา  นวัตมองตามอมยิ้มอย่างรู้
ทัน


พอณิชนิชาเอาเค้กเข้าไปให้ตุลา เขากลับบอกว่าตนไม่ชอบของหวาน
เธออ้อนว่านี่เป็นเค้กวันเกิดชิมสักคำก็ยังดี ตุลาเงยหน้ามองบอกเรียบๆว่า


"เอาเป็นว่าให้วัตเขาแล้วกัน เขาชอบเค้ก วัตกินก็เหมือนผมกิน...ขอบคุณครับ"


"เอ่อ...ค่ะ..." ณิชนิชาจำต้องเอาเค้กกลับไป
มองไปที่หน้าห้องเห็นนวัตยืนหัวเราะคิกคักเอามือลูบปากแบบน้ำลายสอ
เธอมองอย่างแค้นใจที่ถูกตามมาเย้ย


ooooooo


วันนี้รชาหัวเสียมากเมื่อมีบัตรสมนาคุณเข้าพักโรงแรมปึกใหญ่
เธอถือบัตรเหล่านั้นไปโยนลงตรงหน้าชัชผู้จัดการโรงแรมถามว่า
"กิฟต์เวาเชอร์พักฟรีบ้าบออะไร ฉันไม่รู้เรื่อง"


"เอ่อ ลูกค้าบอกว่าคุณภูมิบดินทร์ให้มาน่ะครับ
ผมจะไม่รับก็ไม่ได้เพราะมีลายเซ็นกำกับมาชัดเจน  แล้วเลขาฯเสี่ยก็โทร.มาบอก
ว่าให้รับ ผมก็เลยรับไว้"


รชาบ่นอย่างแค้นใจว่าแค่ไม่กี่วันมากันตั้งหลายสิบห้อง ชัชถามว่าจะลองโทร.คุยกับภูมิบดินทร์ดูไหม ถ้าปล่อยไว้แบบนี้โรงแรมแย่แน่


"ฉันจัดการเอง..." รชาคว้าบัตรสมนาคุณทั้งปึ๊งเดินไปอย่างแค้นใจ


ooooooo


ที่ออฟฟิศภูมิบดินทร์ นภดลทนายความประจำตัวของเขากำลังรายงานว่า
เมียของชาญคือปนุทได้ตั้งทนายความมาทำคดีแล้ว
ถ้าอัยการไม่รับฟ้องก็จะยื่นฟ้องเอง


ที่หน้าออฟฟิศ รชามาถึงจะเข้าไปหาภูมิบดินทร์ ลูกน้องเขามาขวางไว้
เธอสั่งให้หลบไปหยิบแบงก์พันเบิกทางบอกว่า "เกิดอะไรขึ้นฉันรับผิดชอบเอง"
แล้วตรงไปที่ห้องภูมิบดินทร์ ได้ยินเสียงคุยกันในห้อง
เธอหยุดฟังอย่างตั้งใจ


ภูมิบดินทร์ถามนภดลว่าปนุทตั้งใครเป็นทนายความทำคดี
นภดลบอกว่าเป็นสำนักงานทนายความที่เป็นเพื่อนกับเสี่ยชาญ
ทนายความที่ทำคดีคือ "ตุลา เธียรธาดา"


รชานิ่งกึกเมื่อได้ยินชื่อตุลา เงี่ยหูฟังต่อ ได้ยินภูมิบดินทร์ ถามว่าแล้วจะเล่นงานเราได้ไหม


"ต่อให้ถึงจะยังไม่พบศพ
แต่ไอ้เรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจกับเราอาจจะเป็นแรงจูงใจให้ศาลเชื่อว่าการ
หายตัวไปของเสี่ยเป็นการฆาตกรรมได้" นภดลชี้แจง


"ฮึ...มันคิดว่ามันจะทำอะไรฉันได้ อีนี่คงอยากตายตามผัวมันอีกคน
คนอย่างกูไม่รู้จักคำว่าคุกหรอกเว้ย! ฮ่าๆๆ" ภูมิบดินทร์หัวเราะอย่างผยอง


"ฉันนี่แหละจะลากแกเข้าคุกเอง" รชาจิกตายิ้มร้ายเมื่อเดินกลับไป


ooooooo


ที่ออฟฟิศลัลนารี ขณะที่ลัลนารีนั่งทำงานอยู่นั้น ภารตีได้รับโทรศัพท์คุยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ พอวางสายหันมาบอกเพื่อนรักว่า


"ลัลงานเข้าแล้วแก...ลูกค้าใหม่ เขาจะให้เราออกแบบเปลี่ยนผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ ของานแบบฮิปสุดๆ เขาขอดูพอร์ตงานบ่ายสามวันนี้เลยนะแก"


"วันนี้? ทำไมเร่งนัก? ไว้ใจได้รึเปล่าเนี่ย"


"งานใหญ่เงินหนาคิดมากทำไม ดีกว่าแกนั่งถอนใจกลุ้มเรื่องผัวไปวันๆ มีเงินทุกอย่างก็จบทุกปัญหา เข้าใจ๊"


เมื่อถึงเวลานัด ภารตีกับลัลนารีพากันไปถึงโรงแรมตามนัดหมายอย่างตื่นเต้น
ลัลนารีถ่ายรูปมุมต่างๆในโรงแรม ภารตีชมว่าเก๋ไก๋ดีนะ
เธอเห็นด้วยว่าดีไซน์เขาก็โอเคอยู่แล้ว มาจ้างเราทำไมอีก
ภารตีพูดเข้าข้างตัวเองว่าเก๋ไก๋ไม่พอไง
มันต้องเริ่ดคุยโอ่ว่าที่เขาเลือกเพราะเห็นแก่ตนแน่ๆเลย


ขณะสองสาวเดินเข้าไปในโรงแรมนั้น ถูกชัชแอบถ่ายรูปลัลนารีไว้ถี่ยิบด้วยมือถือแล้วกดส่งทันที


รชาเปิดดูรูปของลัลนารีที่ชัชส่งมาให้
พลางขับรถไปจอดที่หน้าตึกออฟฟิศทนายความของตุลา กำชับกับชัชว่า
อย่าบอกว่าตนเป็นเจ้าของโรงแรม และที่สำคัญ
"ถ้าฉันยังไม่มีคำสั่งอย่าให้กลับเด็ดขาด"


ชัชรับคำแล้วชัชปรากฏตัวออกไปทักทายสองสาว แนะนำตัวเองว่าเป็นผู้จัดการโรงแรม


"สวัสดีค่ะ" สองสาวตอบพร้อมกัน ลัลนารียิ้มจริงใจไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกหลอก


รชาสั่งการชัชแล้วยิ้มอย่างสะใจ
ที่หลอกได้นามบัตรของลัลนารีจากติ้งมาได้เมื่อครั้งเอาขนมไหว้พระจันทร์ไป
ฝาก จึงติดต่อได้โดยง่าย ตั้งหลักที่หน้าออฟฟิศของตุลาแล้ว
เธอเดินเข้าไปในออฟฟิศอย่างมาดมั่น


ooooooo


ตุลากำลังประชุมคดีของชาญอยู่กับนวัตและณิชนิชาในห้องประชุม
นวัตแจ้งว่าตามข้อมูลที่ตำรวจสืบสวนยังไม่เจอร่องรอยของผู้ตายที่จะยืนยัน
ได้ว่าถูกฆาตกรรม ที่สำคัญผู้ตายเพิ่งหายไปหกเดือน
ศาลก็คงยังไม่สั่งให้เป็นบุคคลสูญหาย
ณิชนิชาถามว่าแปลว่าถ้าเรายื่นฟ้องก็มีโอกาสที่ศาลจะยกฟ้อง


"ถ้าจะให้ศาลรับฟ้องเราต้องพิสูจน์ให้ศาลเชื่อให้ได้ว่านายภูมิบดินทร์มีแรงจูงใจที่จะอุ้มฆ่าเสี่ยชาญจริง" ตุลาเสนอ


"ถ้างั้นเราคงต้องพุ่งไปที่ปมขัดแย้งเรื่องธุรกิจอาบอบนวดระหว่างบลูลากูนกับนิวเอเดน" นวัตสรุป


ระหว่างนั้นรชาเดินเข้ามาบอกจุรีว่ามาหาตุลา แล้วเดินตามจุรีไปที่ห้องประชุม


เป็นเวลาที่ตุลาสรุปว่า
ภรรยาของเสี่ยชาญบอกว่าเสี่ยขัดแย้งกับภูมิบดินทร์เรื่องแย่งเด็กเบอร์ดังๆ
ของอาบอบนวด
ภูมิบดินทร์ไม่พอใจที่เด็กในสังกัดพากันย้ายไปประจำที่อาบอบนวดของเสี่ยชาญ
เลยมีการนัดเคลียร์กัน
นวัตเสนอว่าเราคงต้องหาหลักฐานหรืออะไรสักอย่างที่จะมัดตัวภูมิบดินทร์
ให้แน่นกว่านี้


"อย่างพวกข้อมูลเชิงลึกของนายภูมิบดินทร์
หลักฐานการนัดพบหรือหลักฐานการขู่ฆ่า" ตุลาสรุป
ณิชนิชาถามว่าเราจะไปหาข้อมูลเหล่านี้จากทางไหน "ก็คงต้องเป็นพยานวัตถุ
หรือไม่ก็พยานบุคคล"


ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตุลาอนุญาตให้เข้ามา
จุรีมาบอกว่ารชามาขอพบเขา ตุลาให้ไปบอกว่ารอก่อนเพราะตนติดประชุม
จุรีบอกอย่างลำบากใจว่า "แต่เขาบอกว่ามีเรื่องด่วนมาก"


ตุลาบอกว่าด่วนมากก็ต้องรอ แต่พอจุรีบอกว่า
"เธอบอกว่าเธอยินดีจะเป็นพยานในคดีของสามี" แค่นั้นเอง ตุลา ชะงักกึก
นวัตมองหน้าตุลาอึ้ง ส่วนณิชนิชาทำหน้าแปลกใจ


ooooooo


ณิชนิชาบ่นขณะเดินออกจากห้องประชุมพร้อมนวัตและจุรีว่า  ทำไมถึงอยู่ในห้อง
ประชุมไม่ได้  มีความลับอะไรทั้งที่เราเป็นทีมเดียวกัน
นวัตพูดเหน็บให้เจ็บใจว่าเราเป็นทีมเดียวกันแต่เธอเป็นแค่เด็กฝึกงาน
เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง


ณิชนิชาสะอึกเข้าหานวัต จนจุรีต้องมาขวางไว้ พูดแก้ว่านวัตพูดเล่นเท่านั้น
แล้วหันถามเจ้าตัวว่าจริงไหม นวัตตอบชัดเจนเสียงดังว่า "เปล่าครับ
ผมพูดจริง"


จุรีหวังดีพูดไกล่เกลี่ยแต่ตัวเองกลับหน้าแตกเลยยืนตีหน้าไม่ถูก ณิชนิชาพยายามอดกลั้น พูดอย่างมีหลักการว่า


"ฉันไม่รู้ทุกเรื่องก็ได้ แต่ฉันมีสิทธิ์สงสัย
ที่อยู่ดีๆคุณรชาก็โผล่มาเวลานี้ เขารู้ได้ไงว่าเรากำลังทำคดีสามีเขาอยู่
หรือว่าคุณไม่สงสัย" พูดแล้วค้อนใส่นวัต
ทำเอาเขาชะงักแอบนึกในใจว่านั่นสินะ...


ooooooo


รชาคุยกับตุลาด้วยสีหน้าจริงจัง
บอกว่าให้เขารู้ไว้ว่าตนพร้อมช่วยอย่างเต็มที่เพื่อเอาผิดภูมิบดินทร์
ให้ได้ ตุลาถามว่าจะช่วยอย่างไร เธอย้ำว่าทุกอย่าง
หาข้อมูลหรือหาหลักฐานที่พิสูจน์ให้ได้ว่าภูมิบดินทร์ผิด


"คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร" ตุลาซัก รอคำตอบ


"เพื่ออิสรภาพ ถ้าไอ้ภูมิบดินทร์มันโดนจับ เราก็จะได้หย่า
กับมันพร้อมกับได้สินสมรสที่เราควรได้ ในเมื่อตุลย์ปฏิเสธที่จะช่วยเรา
เราก็ต้องช่วยตัวเองสิ ตุลย์ลองคิดดูว่าอยากให้เราช่วยรึเปล่า
แต่บนโลกใบนี้ ไม่มีใครรู้จักไอ้ภูมิบดินทร์ดีไปกว่าเรา"


รชามองตุลาอย่างเป็นต่อแล้วเดินออกไปอย่างถือดี ทิ้งตุลาให้นั่งนึกตรึกตรองอย่างหนัก


ณิชนิชาทนสงสัยไม่ได้ ออกอุบายทำเป็นจะเอาน้ำเข้าไปให้ตุลากับรชา
แต่พอเอาน้ำมาเจอรชาเดินเชิดออกมาพอดี นวัตรีบเข้าไปในห้องประชุม
ณิชนิชาตามไปติดๆอย่างไม่ยอมแพ้นวัต


ระหว่างเข้าไปปรึกษากันในห้องประชุมนั้น
นวัตกับณิชนิชาต่างเขม่นขัดคองัดข้อกันโดยมีเรื่องงานเป็นปมโต้แย้ง
แต่แอบจิกกัดกันด้วยอารมณ์ส่วนตัว
จนตุลาที่นั่งฟังอยู่นานลุกขึ้นบอกทั้งสองคนว่า


"ทะเลาะกันต่อไปนะ ผมไปล่ะ"


ณิชนิชาจะลุกตามถูกนวัตจับมือไว้ เธอแว้ดใส่ทันทีว่ากล้าดียังไงมาจับมือตน นวัตพูดขำๆว่า


"โห...พูดอย่างกับนางเอกละคร ที่ผมจับเพราะไม่อยากให้คุณตามพี่ตุลย์ไป
ไม่ได้ยินเหรอว่า พี่ตุลย์ให้เราทะเลาะกันต่อ
อย่าขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาสิคุณ"


"ทะลึ่ง ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง" ณิชนิชาด่า มองอย่างเหยียดหยันแล้วเดินสะบัดออกไป


"ไฮโซ" นวัตพูดเหมือนไม่พอใจ แต่ทุบตรงหัวใจตัวเองเบาๆ พูดยิ้มๆ "โดน!"


ooooooo


ภารตีกับลัลนารีรออยู่ที่โรงแรมถึง 3 ชั่วโมง เจ้าของโรงแรมก็ยังไม่มา
ลัลนารีจะกลับ ภารตีจะกลับด้วย
สาปส่งว่าถ้าคราวหน้าคนแบบนี้ติดต่อไปอีกตนจะไม่รับงานแล้ว
คนอะไรไร้สามัญสำนึกปล่อยให้คนอื่น รอตั้ง 3 ชั่วโมง


สองสาวไปนั่งให้ปลาตอดเท้าที่สปาในห้างฯ ภารตีซี้ด
ปากทำเสียงเสียวเมื่อถูกปลาตอด แต่ลัลนารีนั่งครุ่นคิด
จนเพื่อนทักว่าคิดเรื่องผัวอีกแล้วหรือ
ลัลนารีบ่นว่ารชาหายไปจนตนกังวลเชื่อว่าจอมฉกนั่นไม่ถอยง่ายๆแน่


"เอ๊า...นังนี่ พอเขารุกก็กลุ้ม พอเขาเงียบก็กลุ้มอีก เอาไงเนี่ย" ภารตีงง


ลัลนารีเล่าว่าตั้งแต่ตบกันตอนโน้นตุลาก็ไม่พูดเรื่องรชาอีกเลย
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นคิดดูสิว่ามันแปลกไหม
ภารตีแย้งว่าเขาไม่พูดก็แสดงว่าไม่มีอะไรทำไมถึงต้องหยิบทุกเม็ดเก็บทุก
เรื่องมาร้อนอยู่คนเดียว จะคิดไปทำไม


"วันก่อนแม่ฉันแอบได้ยินตุลย์คุยโทรศัพท์กับผู้หญิงแล้วตุลย์ก็บอกแฮปปี้เบิร์ธเดย์"


ภารตีถามว่าแล้วเธอถามเขาหรือเปล่าว่าคุยกับใคร ลัลนารีบอกว่าถามแล้ว เขาบอกว่าคุยกับน้องที่ออฟฟิศ


"เอ๊า...เขาบอกแกแล้วแกจะคิดมากทำไมอีก ย้ำคิดย้ำทำนะเนี่ย แกเป็นเมีย
ยังไงแกก็เหนือกว่าผู้หญิงทุกคนเข้าใจไหม
ฉันว่าแทนที่แกจะมานั่งคิดเรื่องรชา
แกเอาสมองไปคิดกิจกรรมกุ๊กกิ๊กๆสมานฉันท์ระหว่างแกกับผัวแกจะดีกว่า
ถ้าแกสองคนรักกันแนบแน่น มารตัวไหนมันก็เข้ามาไม่ได้หรอก"


"กิจกรรมสมานฉันท์..." ลัลนารีคิดตาม ประกายตาแจ่มใสขึ้น
นึกถึงเรื่องสมุดไดอารี่ที่แลกกันเขียนคนละวันขึ้นมา
พอกลับถึงบ้านก็เอาเศษผ้ามาตัดแปะทำสมุดไดอารี่อย่างตั้งใจมากมายหลายเล่ม
โดยมีเจ้าปั๊กกี้นอนหนุนตักสบายอารมณ์ทั้งคู่


ooooooo


จนได้ยินเสียงรถของตุลาขับเข้ามา ลัลนารีดีใจปัดเจ้าปั๊กกี้ทิ้งแล้วรีบเดินลงไป


ตุลาลงจากรถก็ตกใจเมื่อติ้งโผล่มาจากเงามืดลากเขาเลี่ยงไปคุยในมุมอับบอก
เบาๆว่ารชามาหา ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ มาฝากตนด้วย
ตุลาถอนใจโล่งอกบอกว่านึกว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายอะไร


ติ้งทำท่าลึกลับกระซิบบอกอีกว่าตนอึดอัดใจมากสงสารรชาเพราะพูดอะไรไปก็
สะเทือนใจและลัลนารีก็เชื้อบ้าแรง ถ้าเรื่องแตกมีหวังโวยวายแหลก
บ่นว่าต้องโกหกทางโน้นทีทางนี้ทีประสาทจะแตกพูดแล้วรวบรัดว่า
"พี่ว่าแกบอกเรื่องรชา กับเมียแกก็สิ้นเรื่อง เป็นเมียก็ต้องเชื่อฟังผัว"


"พี่ก็รู้ว่าลัลคิดมาก ถ้าบอกมีหวังถามไม่เลิก ให้มันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว"


"ดีสำหรับแกแล้วมันดีสำหรับฉันไหมเนี่ย" ติ้งพึมพำ


พอดีลัลนารีลงมาเรียกเขา พอทั้งสองหันมาเห็นก็ตกใจทำเอาเธอตกใจไปด้วย
ถามว่ากำลังคุยอะไรกันอยู่หรือ ทำไมคุยกันในที่มืดๆ หรือมีความลับอะไรกัน


ติ้งปฏิเสธพัลวันว่าไม่มีตนมาขอยืมน้ำปลาแค่นั้นเองแล้วจะกลับไป
พอลัลนารีถามว่าแล้วไหนล่ะน้ำปลา ก็ได้รับคำตอบที่งงยิ่งขึ้นว่า
"เปลี่ยนใจไม่เอาแล้ว นึกได้ว่ากินเค็มมากไม่ดีกับไต ไปก่อนนะ"


ติ้งหัวเราะแห้งๆแล้วรีบเดินไปอย่างมีพิรุธ ลัลนารีหันมองตุลาอย่างจับผิด
เขาชิงพูดอย่างรู้ทันว่า "ลัล...หิวจังเลย มีอะไรกินหรือเปล่า?"


"มี...แต่ต้องคุยกันก่อนถึงจะกินได้!"


ooooooo


พอพากันเข้าไปในบ้าน ลัลนารีเอาไดอารี่ที่ทำขึ้นให้เขา
เล่ากิจกรรมที่จะทำให้เขาฟัง ตุลาถามว่า สลับกันเขียนไดอารี่ เอาจริงหรือ
นึกว่าพูดเล่นเสียอีก


"จริงสิ ไม่เล่น" ลัลนารียิ้มหวานหยิบไดอารี่มาอธิบาย
"สลับกันเขียนทุกวันนะ
การเขียนไดอารี่จะทำให้เรารักกันมากขึ้น  เริ่มจากลัลเขียนก่อนพอเขียนเสร็จ
ลัลจะเอามาวางที่โต๊ะตัวนี้  แล้วตุลย์ก็เอาไปเขียนต่อ  แล้วเอามาวางไว้ตรง
นี้"


ตุลาทำเสียงอืมม...ในลำคอทำนองว่าเข้าใจแล้ว  ถามว่าพูดจบหรือยังจะได้กิน
ข้าว  ลัลนารีทำเป็นงอนบ่นว่าไม่โรแมนติกเลย  ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน
เดี๋ยวลงมากินข้าวด้วยกัน


พอลัลนารีลุกไปก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น ตุลาหยิบมาดูเห็นชื่อ
"รชา" เขาชะงัก
ลัลนารีหันมาดูเห็นเขากดตัดสายทิ้งยิ้มให้เธอบอกว่าลูกความโทร.มาเดี๋ยวกิน
ข้าวแล้วค่อยโทร.กลับ


ลัลนารีทำเป็นยิ้มหวาน  แต่พอหันหลังให้เท่านั้นสีหน้าเปลี่ยนเป็นสงสัยทันที


รชามองมือถือที่ถูกตัดสายพูดยิ้มร้าย  "ตัดสายทิ้ง สงสัยอยู่กับเมีย"


เมื่อเห็นลัลนารีขึ้นไปแล้ว  ตุลาลุกเดินเลี่ยงไปมุมหนึ่งแล้วกดมือถือ
โทร.หารชา  ฝ่ายนั้นรับสายถามประชดนิดๆว่า สะดวกคุยกับตนแล้วหรือ
ตุลาไม่ตอบถามว่ามีอะไรหรือเปล่า


"ตกลงตุลย์ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้เราช่วยไหม หรืออยากจะขอเวลาคิดก่อน"


"ไม่เป็นไร  ผมคิดแล้ว  ผมยินดีรับความช่วยเหลือจากคุณ"


"ตุลย์คิดถูกแล้วล่ะ เราจะไม่ทำให้ตุลย์ผิดหวัง
แต่...เรามีข้อแลกเปลี่ยนนะ  ไว้พรุ่งนี้เราจะบอก...แค่นี้นะ"  พูดเสร็จวาง
สายทันที  ตุลามองไปทางบันไดโล่งใจที่ลัลนารียังไม่ลงมา


หารู้ไม่ว่าเธอแอบฟังอยู่ในมุมมืด  นิ่วหน้าพึมพำ  "รับความช่วยเหลือจากใคร??"


ooooooo


ณิชนิชาเปิดคอมพิวเตอร์ดูรูปรชาที่ถ่ายในหลายๆแบบ  เธอพึมพำพลางดูไปทีละรูป...ทีละรูป


"รชา  วงศ์สุธรรม  ดาวมหาลัย  สาวแพรว...นับเป็นท็อปโมเดลเลยเหรอ...ฮึ
ก็แค่อดีตยัยนางแบบตกกระป๋อง...แต่งงานกับนายภูมิบดินทร์คงหวังรวยทาง
ลัด  เชอะ!  สู้ฉันไม่ได้สักอย่าง!"


จุรีเข้ามาทักว่ายังไม่กลับหรือ
ณิชนิชารีบปิดจอหยิบแฟ้มขึ้นมาบอกว่ากำลังอ่านสำนวนคดีเรื่องนายภูมิบดินทร์
อยู่ แล้วถามหยั่งท่าทีจุรีว่า ตุลาจะยอมให้รชาเป็นพยานไหม
จุรีบอกว่าเดาใจยาก


แต่พอณิชนิชาบอกว่าตนกังวลใจแทนตุลาจริงๆ เพราะไม่ไว้ใจรชาเลย
จุรีร้องอย่างตื่นเต้นว่าคิดเหมือนกันเลย แล้วบอกว่าตนเป็นห่วงลัลนารี
ถ้ารู้เข้ากัดจิกไม่ปล่อยแน่ คิดแล้วก็เห็นใจแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
ณิชนิชายุว่าก็โทร.บอกสิ จุรีทำตาโตบอกว่า


"บอกไปก็บ้านแตกสิคะ คุณลัลกับคุณรชาเคยตบกันกระจายมาแล้ว
คุณลัลขี้หึงจะตาย
ถ้ารู้ว่าคุณรชายังมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆคุณตุลย์มีหวังเกิดสงครามแน่ๆ
และคนที่น่าสงสารที่สุดก็คือคุณตุลย์
พี่เลยคิดว่าเรื่องนี้ให้คุณลัลรู้ไม่ได้เด็ดขาด"


ณิชนิชานิ่งฟังอย่างตั้งใจ คิดตามที่จุรีพูด


หารู้ไม่ว่า ลัลนารีกำลังสงสัยตุลา
เธอพยายามเลียบเคียงถามเขาเมื่อยังไม่ได้เรื่องก็ออดอ้อนถามว่ารักตน
ไหม  แล้วทำเป็นเล่าเรื่องที่พบในอินเตอร์เน็ต  ว่าผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงาน
แล้วสามีกลับไปช่วยเหลือเพื่อนที่เป็นแฟนเก่า  แล้วเมียจับได้เลยทะเลาะกัน
สุดท้ายก็หย่ากัน เล่ายํ้าว่า


"ที่จริงผู้ชายเขาก็บริสุทธิ์ใจ แต่ไม่บอกให้เมียรู้
พอเมียรู้จากคนนั้นทีคนนี้ทีก็เลยสติแตก  โอ๊ย...เป็นลัลก็ทนไม่ได้หรอก
ตุลย์มีอะไรต้องบอกลัลนะ อย่าให้ลัลรู้เองนะตุลย์นะ..."


พอตุลาถามว่าไม่เชื่อใจตนหรือ  เธอรีบบอกว่าเชื่อแต่เพื่อความสบายใจของเรา
ไง ตุลาพยักหน้า ลัลนารียิ้มนอนกอดเขาเหมือนสบายใจแต่ยังแอบคิดหนักอยู่


ooooooo


ภาวิชเป็นลูกพี่ลูกน้องกับภารตี
เขาเพิ่งกลับจากอังกฤษเมื่อวาน  เข้ามาอยู่ในห้องที่คอนโดฯของภารตีโดยเจ้า
ตัวไม่รู้  เพราะแอบขอกุญแจห้องจากแม่เธอมา


เขาบอกภารตีว่าจะอยู่กับเธอเพราะขี้เกียจเดินทางไกล
พูดหน้าตาเฉยว่าถึงภารตีไม่อนุญาตก็จะอยู่  หน้าด้านเสียอย่างมีอะไรไหม
แล้วยึดห้องนอนของภารตีล็อกประตูเลย


"เฮ้ย! ไอ้วิช ดูมัน แล้วฉันจะนอนไหนเนี่ย เฮ้อ..."


ภาวิชเห็นรูปของภารตีที่ถ่ายคู่กับลัลนารีในชุดนักศึกษา เขาหยิบขึ้นมาดูยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดถึงวันเก่าๆ


เวลานั้นเขาเป็นนักดนตรีหนุ่มเท่ที่นักศึกษารุ่นน้องพากันกรี๊ดอย่างหลงใหล
ครั้งหนึ่งเขาขึ้นเวทีเล่นดนตรีและร้องเพลง
ภารตีมายืนชมอยู่ครู่หนึ่งลัลนารีวิ่งมาหาภารตี
ภาวิชตะลึงค้างเมื่อเห็นลัลนารีที่น่ารักสดใส   เมื่อเขาร้องเพลงจบ
เขาพูดคุยกับผู้ฟังซึ่งล้วนเป็นนักศึกษาว่า


"สนุกไหมครับ...เพลงต่อไป ผมขอเชิญคุณภารตีญาติผู้พี่ของผมขึ้นมาช่วยร้องนะครับ  ขอเชิญคุณภารตีบนเวทีด้วย"


ภารตี ตกใจ  ลัลนารีถามว่ามีญาติอยู่ปีเดียวกับเราด้วยหรือ
ภารตีไม่มีอารมณ์จะตอบ  ชวนลัลนารีรีบออกไปจากที่นี่ก่อน ตนไม่ชอบร้องเพลง
ลัลนารีจับแขนไว้ไม่ให้ไป


"เฮ้ย! ได้ไง ญาติแกเชิญแล้ว แกไม่อยากร้องฉันร้องเอง"
แล้วเธอก็ยิ้มให้ทุกคนเดินขึ้นเวทีไปอย่างมั่นใจ
ภาวิชมองเธอไม่วางตาตะลึงในความสดใสน่ารักและทึ่งในความห้าวหาญของเธอ


พอดนตรีขึ้น ลัลนารีก็ร้องเพลงทันที
ปรากฏว่าเสียงเพี้ยนจนแทบจะกลายเป็นคนละเพลง ผู้ชมต่างพากันอึ้ง เหวอ
ภารตีอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
ภาวิชหัวเราะขำๆกับความมั่นใจของลัลนารีที่เข้าใจว่าตัวเองร้องเพลงเพราะ
มาก...


จนกระทั่งเรียนจบ วันรับปริญญาลัลนารีทำพวงกุญแจรูปกีตาร์จากผ้าสีสวยให้
บอกว่าทำทั้งคืนลงอาคมไว้ด้วย ภาวิชถามหยอกว่าลงอาคมให้ตนรักตนหลงเธอหรือ


"บ้า!   ลัลขอให้วิชได้เป็นนักดนตรีอย่างที่ฝันไว้ต่างหากล่ะ"


ภาวิชยิ้มปลื้มชวนมาถ่ายรูปกันดีกว่า แล้วทั้งคู่ก็ยืนชิดกันยิ้มให้ช่างภาพถ่ายรูป


คิดถึงอดีตแล้วภาวิชยิ้มอย่างมีความสุข วางรูปลัลนารีลงบนโต๊ะข้างเตียง
เหลือบเห็นรูปถ่ายบนชั้นในห้อง เขาลุกไปหยิบดู
ถึงกับผงะที่เห็นรูปลัลนารีในชุดแต่งงานถ่ายคู่กับตุลา
เธอยิ้มสดใสโอบกอดตุลาไว้ ภาวิชหน้าเสีย อุทานอย่างผิดหวัง


"อ้าว...แต่งงานแล้วเหรอ?"


ooooooo


รุ่งขึ้น ตุลากำลังใส่รองเท้าจะออกไปทำงาน ลัลนารีกำลังให้อาหารเจ้าปั๊กกี้
มัวแต่มองตุลาจนเทอาหารออกนอกชามยังไม่รู้ตัว
เธอวิ่งไปหาตุลาบอกว่าตนเขียนไดอารี่แล้ววันนี้เป็นเวรของเขา ส่งไดอารี่ให้
ตุลารับไว้บอกว่าไปทำงานนะ
เธอก็ยังอุตส่าห์ถามอีกว่าโทร.กลับไปหาลูกความเมื่อวานรึยัง


ตุลานิ่งไปนิดหนึ่งพอนึกออกก็บอกว่าโทร.กลับแล้ว
ถูกซักอีกว่าลูกความคนไหนหรือ ใจจดจ่อรอคำตอบจนเทอาหารหมาหกล้นออกมานอกชาม
ตุลาร้องบอกเธอตกใจรีบกอบเก็บ
ทำท่าจะถามอะไรอีกแต่ตุลาเข้ามาหอมแก้มก่อนไปทำงาน
เธอเลยเปลี่ยนเป็นบอกให้เขาทำงานให้สนุก ส่งจูบจุ๊บๆให้


ตุลายิ้มงงๆ หันไปวางไดอารี่บนโต๊ะแล้วเดินออกไป ลัลนารีมองอึ้งๆ ถอนใจพึมพำ


"เห็นชัดเลย...ว่าใส่ใจ...เฮ้อ!"


ขณะขับรถไปที่ทำงานได้รับโทรศัพท์จากรชา
เขาทักสวัสดีคำเดียวก็ถูกรชาตัดพ้อต่อว่าหาว่าทำเสียงห่างเหินกับเพื่อนร่วม
งานมันไม่ดีกับงานนะ เขาตอบไปอย่างเป็นการเป็นงานว่ากำลังขับรถอยู่


"เราต้องคุยกับตุลย์วันนี้" รชาบอก พอตุลานัดเจอกันที่ออฟฟิศ เธอกลับบอกว่า "เราจะไม่คุยกับตุลย์ที่ออฟฟิศ"


ตุลานิ่งคิดว่าเธอจะมาไม้ไหนกันแน่


ooooooo


หลังจากเมื่อวานไปรอที่โรงแรมถึง 3 ชั่วโมงเจ้าของยังไม่มาเจรจาเรื่องงาน
วันนี้ภารตีก็ได้รับโทรศัพท์นัดใหม่ เธอรีบโทร.บอกลัลนารี
ถูกเพื่อนท้วงติงว่าไหนบอกว่าจะไม่รับงานนี้แล้วไง
เมื่อวานยังพูดอยู่หยกๆว่าเรามีศักดิ์ศรีนะ


"ศักดิ์ศรีซื้อข้าวไม่ได้เว้ยไอ้ลัล" ภารตีแย้ง คาดหวังว่า
ผ่านงานนี้แล้วต่อไปโรงแรมต่างๆจะต้องหันมาใช้บริการของเรา
แล้วนัดเจอกันที่โรงแรมเลย


แต่พอภารตีจะออกไปเกิดปวดท้องรุนแรงเข้าห้องน้ำแล้วก็ยังไม่หายปวด
แต่ลัลนารีไปถึงโรงแรมแล้ว ชัชออกมาต้อนรับตามเคย
บอกให้รอสักครู่แล้วจะเดินไป ลัลนารีเรียกไว้ทันที


"เดี๋ยวค่ะ คราวที่แล้วสามชั่วโมง สักครู่คราวนี้คงไม่ใช่สามปีนะคะ"
ชัชอึกอัก เธอรุกต่อ "ขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้รับงานคุณเจ้าเดียวนะ
ถ้าเสียเวลาอีกฉันรับไม่ได้เหมือนกัน"


เมื่อชัชเข้าไปรายงานรชาว่าทางโน้นบอกว่าถ้าช้าจะไม่รอ
รชาพูดอย่างดูถูกว่าหยิ่งนักเหรอ
แล้วครู่เดียวชัชก็ออกมาพบลัลนารียื่นซองให้บอกว่า


"เงินจำนวนนี้เป็นค่าเสียเวลาที่ปล่อยให้คุณต้องรอคราวที่แล้ว
ตอนนี้เจ้านายท่านกำลังเคลียร์ธุระสำคัญ
หวังว่าจะทำให้ทางคุณรู้สึกดีขึ้นนะครับ"


พอเปิดซองออกดู ลัลนารีนิ่งอึ้ง รชาแอบดูอยู่พูดอย่างสะใจ


"รอให้สนุกนะลัลนารี ฉันจะดูแลสามีเธอเอง"


ooooooo


ภารตีท้องเสียจนไม่สามารถมาตามนัดได้ วานภาวิชให้ไปแทนตนที ภาวิชโวยวายว่าตนไม่รู้เรื่องงานจะไปแทนได้ยังไง


"ฉันไม่ได้ให้แกไปคุย ฉันให้แกเอาตัวอย่างไปส่งให้หน่อย"


"ไม่เอา" ภาวิชส่ายหน้าดิก "ฉันไม่ใช่เด็กส่งเอกสาร แกจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปซิ ฉันไม่ไปหรอก เอาไปให้ใครก็ไม่รู้"


"รู้สิเว้ย ก็ไอ้คนที่ฉันจะให้แกเอาของไปให้มันคือไอ้ลัล! ไอ้ลัลเพื่อนฉันเอง แกจำได้หรือเปล่า?"


"ลัลเหรอ?..." ภาวิชตาเป็นประกายสนใจจี๋ขึ้นมาทันที


ooooooo


ตุลาคุยกับนวัตที่ห้องครัวเล็กๆในออฟฟิศ บอกว่าวันนี้จะออกไปคุยงานกับรชาข้างนอก


เมื่อนวัตรู้ว่ารชานัดตุลาไปคุยงานข้างนอก เขาติงว่าจะดีหรือ
ถามว่ารชาจะช่วยเราจริงหรือเปล่า
ตุลาเชื่อว่ารชาเป็นคนที่ใกล้ตัวภูมิบดินทร์ที่สุดที่ยอมเป็นพยานให้เราตอน
นี้ แล้วตัดบทฝากนวัตให้ดูแลณิชนิชาด้วย อย่าเอาแต่ชวนทะเลาะกันอย่างเดียว


"รายนั้นเขาเก่งจะตาย เขาไม่ได้แบ๊วอย่างที่พี่เห็นนะ" นวัตแย้งถูกตุลาตำหนิว่าเป็นผู้ชายพูดถึงผู้หญิงให้มันดีๆหน่อยแล้วออกไป


ที่แท้ณิชนิชาแอบฟังอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว พอตุลาเดินไป เธอก็ย่องออกมาขับรถตามไปอย่างไม่ไว้ใจ


ooooooo


ลัลนารีรอภารตีจนร้อนใจโทร.ตามก็ไม่รับสาย ขณะกระวนกระวายใจนั่นเอง
เหลือบเห็นชวินทร์โอบผู้หญิงเข้ามาในโรงแรมถึง 3 คน แต่ยังเห็นไม่ชัด
เดินออกมาจะดูให้ชัดแต่ไม่เห็นแล้ว


ชวินทร์พาสามสาวมาเช็กอินด้วยกิฟต์วอยเชอร์
คุยเขื่องไว้ฟอร์มตัวเองกับสาวที่มาด้วยว่า ถึงจะพักฟรีแต่ก็วีไอพี
ไม่ใช่บัตรไก่กา ถ้าเส้นไม่ใหญ่จริงไม่มีทางได้
พูดให้ดูดีแล้วถามพนักงานว่า


"น้องๆห้องสวยรึเปล่า ขอแบบโรแมนติกหน่อยนะ พี่จัดให้แอ๊นท์แบบที่หรูที่สุดเลยนะจ๊ะ"


ชวินทร์หันมาสั่งพนักงานที่กำลังเช็กห้องอยู่ยิ้มหน้าบานอย่างย่ามใจ


ooooooo


รชานัดตุลาไปคุยกันที่ร้านอาหารหรูโรแมนติก
ตุลาถามว่าหรูไปหรือเปล่าสำหรับการคุยงาน
เธอบอกว่าอยากได้ที่ที่เป็นส่วนตัว แล้วชวนดื่มอะไรก่อนไหม


รชาพยายามที่จะอ่อยถ่วงเวลา
แทนที่จะคุยงานเธอกลับถามเรื่องส่วนตัวรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆ
แม้ตุลาจะพยายามดึงเข้าเรื่องงาน
เธอก็ยังชักใบให้เรือเสียไปทางอื่นอยู่เรื่อย


สุดท้ายก็ลากเข้ามาคุยถึงเรื่องลัลนารี ถามว่า แต่งงานกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เท่าที่ตนดูภรรยาของเขาคงใจร้อนน่าดู


"ไม่หรอก ถ้าในสถานการณ์ปกติลัลเขาเป็นคนใจเย็น"


"ใจเย็น?" รชาทวนคำแอบขำอย่างไม่เชื่อ แต่แสร้งทำเป็นชื่นชมว่า
"ภรรยาตุลย์เป็นคนน่ารักจริงๆนะ ที่ตุลย์พูดมามีแต่ข้อดีนะ ทั้งใจเย็น
สุภาพ ให้เกียรติคนอื่น รักครอบครัว"


"ผมรักพี่ติ้ง ลัลเขาก็รักพี่สาวเขาเหมือนกัน" ตุลาพูดต่ออย่างจริงใจ


"งั้นเราก็เข้าใจผิดที่คิดว่าคุณลัลเขาดูเป็นคน...ขี้หึง"
รชาเปลี่ยนเสียงเมื่อเห็นว่าตุลาชื่นชมลัลนารีมาก
พอตุลายืนยันว่าลัลนารีเป็นคนมีเหตุผล เธอพูดผสมโรงว่า


"ดีค่ะ คราวที่แล้วคุณลัลตบเรา เขาโกรธมากจนเรากลัวว่าเขาจะมาตบตีเราอีก ถ้าเขารู้ว่าเรามาช่วยตุลย์ทำงาน"


"เขาอาจจะเป็นคนโมโหง่ายบางครั้ง แต่เขาไม่ชอบความรุนแรง" ตุลารับรองความดีของลัลนารีอย่างมั่นใจ


ooooooo


ระหว่างนั้น ลัลนารีกำลังอาละวาดเมื่อหาชวินทร์
เจอกำลังเช็กอินกอดรัดอยู่กับสาวๆ เธอพุ่งเข้าไปโวยวายใส่ทันทีว่า
พาเมียน้อยมากกในโรงแรมนี่หรือ
แอ๊นท์สาวคู่ขาเถียงว่าตนไม่ใช่เมียน้อยแต่เป็นแฟน


"นี่ไม่ต้องมาทำเชิดใส่ฉัน หล่อนน่ะเป็นแค่แฟน แต่พี่สาวฉันน่ะเป็นเมียมันรู้ไว้ซะด้วย"


แอ๊นท์ทำท่าตกใจ ชวินทร์รีบแก้ตัวพัลวันว่าไม่จริง ตนไม่มีเมีย ด่าลัลนารีว่า


"อีนี่มันบ้า อย่าไปเชื่อมัน พี่ยังไม่มีเมียจริงๆนะจ๊ะ"


"ไอ้ตอแหล ต่อหน้าฉันยังกล้าโกหกอีกเหรอ แล้วยังด่าฉันบ้า ไอ้วินทร์
ไอ้เลว" ด่าแล้วพุ่งเข้าไปจิกคอเสื้อจนชวินทร์หน้าหงายแล้วตบไม่ยั้ง


ชวินทร์ด่าลัลนารีพลางก็เรียก รปภ.ให้มาช่วย ลัลนารี
หันไปคว้าแจกันจะทุ่มใส่ชวินทร์ ทันใดนั้นก็ถูกล็อกตัวไว้
เธอใช้กำลังทั้งหมดสะบัดจะให้หลุด แต่กลับได้ยินเสียงพูดนิ่มๆว่า


"ลัล...ใจเย็นๆ" ลัลนารีพยายามดิ้นจะเข้าเล่นงานชวินทร์อีก
ทั้งยังตะโกนด่าลั่นโรงแรม จนชวินทร์ทนอยู่ไม่ได้
ทิ้งผู้หญิงอีกสองคนหนีเอาตัวรอด แต่แอ๊นท์วิ่งตามไป ลัลนารี
ถอดรองเท้าส้นสูงปาไป
ส้นรองเท้าปักเข้ากลางหัวชวินทร์ราวกับจับวางจนร้องโอ๊ย แล้วก้มเก็บรองเท้า
ตะโกนเย้ยว่าเดินตีนเปล่ากลับก็แล้วกัน


ลัลนารีดิ้นไม่หลุดควานเจอกุญแจรถเลยปาใส่ชวินทร์ ถูกที่หัวคิ้วพอดี เลยถูกชวินทร์เอากุญแจรถไปด้วย ทั้งยังพูดอาฆาตว่า


"อีนังลัล นังบ้า คอยดูนะฉันจะเอาคืนให้สาสม"


พอเหตุการณ์สงบเพราะชวินทร์พาแอ๊นท์หนีไปแล้ว
ลัลนารีหันมาถามคนที่มาล็อกตัวเธอว่า คุณเป็นใคร มาห้ามฉันทำไม
แต่พอเห็นหน้าเต็มตา เธออุทานอย่างตกใจ


"ภาวิช!"


ooooooo






Create Date : 04 ธันวาคม 2553
Last Update : 4 ธันวาคม 2553 19:33:27 น. 0 comments
Counter : 192 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.