...พระราชวังพญาไท ในวันฟ้าฉ่ำฝน... วันเสาร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๔๘ ข้าพเจ้ากับเพื่อนๆ อีก ๓ คน มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชม พระราชวังพญาไท ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้มีโอกาสเดินชมภายในเขตพระราชวัง ถ่ายรูปอาณาบริเวณ และได้พบปะพูดคุยกับพี่ๆ จากชมรมคนรักวังฯ ณ พระที่นั่งพิมานจักรี ตลอดช่วงบ่ายของวันฟ้าฉ่ำฝน ในโอกาสนี้ จึงนำภาพที่ถ่ายได้เมื่อวาน มาฝากให้เพื่อนๆ ชม เผื่อมีเวลาและโอกาส เพื่อนๆ จะได้แวะเข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ที่น่าสนใจแห่งนี้ และได้ซาบซึ้งประทับใจในความงดงามด้านสถาปัตยกรรมของพระราชวังแห่งนี้ รวมถึงได้รับรู้ประวัติศาสตร์ในรอบเกือบ ๑๐๐ ปี ตั้งแต่พระราชวังแห่งนี้เริ่มก่อตั้งขึ้นมาและผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน ข้อมูลจากแผ่นพับประชาสัมพันธ์ของชมรมคนรักวัง และจาก เว็บไซต์มูลนิธิเด็ก สถาบันเด็ก มีเรื่องราวของวังพญาไทที่น่าสนใจดังนี้ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๕๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลคฤหมงคล ณ พระตำหนักใหม่ ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นที่ประทับพักร้อนที่ทุ่งนาริมคลองพญาไท ซึ่งเคยเป็นทุ่งนาหลวงทดลองปลูกธัญพืชและประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญอยู่หลายปี หลังจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี ได้เสด็จย้ายพระราชฐานจากพระบรมมหาราชวังมาประทับ ณ พระตำหนักพญาไทเป็นการถาวรจนตลอดพระชนมายุ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายหลังที่สมเด็จพระบรมราชชนีสวรรคตใน พ.ศ.๒๔๖๒ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระตำหนักที่ประทับและอาคารบริวารคงไว้แต่ท้องพระโรงองค์เดียว คือ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ และโปรดเกล้าฯให้สร้างหมู่พระราชมณเทียร ประกอบด้วยพระที่นั่ง ๔ องค์ มีพระที่นั่งพิมานจักรีเป็นองค์ประะาน และพระที่นั่งรองอีก ๓ องค์ พระราชทานนามว่าไวกูณฐเทพยสถาน ศรีสุทธนิวาส และอุดมวนาภรณ์ การก่อสร้างแล้วเสร็จในเวลา ๒ ปี จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพระราชพิธีเฉลิมพระราชมณเทียรตามพระราชประเพณี ในวันที่ ๑๖ และ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖๕ ยกขึ้นเป็นพระราชวังเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมชนกนาถ และพระบรมราชชนนี ณ พระราชวังแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงนิพนธ์วรรณกรรมชิ้นเอกหลายเรื่อง งานด้านการปกครองที่โดดเด่น คือดุสิตธานีเมืองจำลองในพื้นที่ ๒ ไร่เศษ ด้านหลังพระที่นั่งพิมานจักรีซึ่งพระองค์ ทรงใช้ประโยชน์ ๒ ประการ คือปฏิบัติการทดลองปกครองและสอนระบอบประชาธิปไตย หลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตพระราชวังแห่งนี้ไม่ได้ใช้เป็นพระราชฐานที่ประทับอีกต่อไป จึงได้มีการดัดแปลงเป็นโรงแรมชั้นหนึ่ง โฮเต็ลพญาไทเริ่มดำเนินกิจการเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๖๘ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้ส่วนหนึ่งของพระราชวังเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุกระจายเสียง ถ่ายทอดกระแสพระราชดำรัส เป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๓ เมื่อสถานีแห่งนี้ย้ายออกไปรวมกับสถานีวิทยุกระจายเสียงศาลาแดง ทางราชการจึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใช้เป็นที่ตั้งกองเสนารักษ์จังหวัด ทหารบกกรุงเทพฯ และในเดือนมกราคม พ.ศ.๒๔๘๙ ได้แปรสภาพกองเสนารักษ์เป็นโรงพยาบาล ต่อมากรมแพทย์ทหารบกได้อัญเชิญพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมาสถาปนาเป็นชื่อโรงพยาบาล ได้กระทำพิธีเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๕ อันเป็นวันคล้ายวันสวรรคต เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ สถาปัตยกรรมของพระราชวังพญาไทเป็นรูปแบบที่พัฒนาจากตะวันตกยุคฟื้นฟู เน้นความเรียบง่ายแต่สง่างาม และมีการดัดแปลงให้เหมาะสมกับภูมิอากาศของเมืองไทยได้อย่างลงตัว เห็นได้จากพระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถานและพระที่นั่งพิมานจักรีซึ่งมีหน้าต่างเปิดกว้างรับลมได้ทุกด้าน ลักษณะที่เด่นของพระราชวังแห่งนี้ คือ หอคอยสูงหลังคายอดแหลมตรงมุม พระที่นั่งพิมานจักรีซึ่งเป็นพระที่นั่งองค์ประธานยอดโดมชักธงมหาราชในเวลาที่องค์พระประมุขประทับในพระราชฐาน จากด้านหน้าจะมองเห็นได้ชัดว่าเป็นหมู่พระที่นั่ง ๔ องค์ เป็นแบบก่ออิฐฉาบปูนมีความสูงเพียง ๒ ชั้นทั้งหมด นอกจากพระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาานซึ่งได้ต่อเติมชั้นที่ ๓ ภายหลังเป็นห้องพระบรรทมและห้องสรงส่วนพระองค์ ส่วนหน้าของพระที่นั่งพิมานจักรี มีอาคารชั้นเดียวเป็นที่เทียบรถพระที่นั่งและที่พักคอยขอเฝ้า ทางทิศตะวันออกของหมู่พระที่นั่งค่อนมาทางด้านหน้า คือ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ มีรูปแบบแตกต่างจากพระที่นั่งองค์อื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด แสดงลักษณะสถาปัตยกรรมไปแซนไทน์ ทางด้านตะวันตกของหมู่พระที่นั่งมีอาคารไม้หลังน้อยซึ่งสร้างขึ้นเป็นที่ประทับชั่วคราวระหว่างการก่อสร้างพระราชมณเฑียร ต่อมาได้พระราชทานนามว่าเมชลารูจี ใช้เป็นที่ทรงพระเครื่องใหญ่ ซึ่งเป็นพระราชประเพณีสืบเนื่องมาแต่โบราณกาล บริเวณหลังหมู่พระที่นั่งเป็นสวนมีศาลาเปิดแบบโรมัน จากศาลามีบันไดทอดลงในแนวเดียวกับสระน้ำรูปยาว กลางสระมีรูปหล่อทองแดงของพระวรุณ เทพแห่งฝนและสัตว์น้ำฐานสูงที่รองรับมีรูปปูนปั้นพญานาคด้านละตัว เข้าใจว่าสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ทรงออกแบบ ท้ายสวนด้านเหนือของพระราชวังใกล้คลองสามเสนเป็นที่ตั้งศาลท้าวหิรันพนาสูร มีตำนานว่าเป็นอสูรผู้ติดตามอารักขาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวแต่ครั้งยังทรงเป็นมงกุฎราชกุมาร ครั้งพระราชมณเฑียรแล้วเสร็จได้โปรดเกล้าฯ ให้หล่อรูปสัมฤทธิ มีพิธีบวงสรวง เชิญท้าวหิรันพนาสูรเข้าสิงสถิต เพื่อเป็นเทพารักษ์ประจำพระราชวังพญาไทสืบไป ความรู้สึกลึกๆ จากห้วงคำนึง จากการเดินเที่ยวชมและถ่ายภาพบริเวณภายนอกและภายในหมู่อาคารพระราชวังพญาไท ข้าพเจ้ารู้สึกใจหาย และเหมือนมีอะไรบางอย่างอัดแน่นในใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกเหล่านี้จะมาจากอากาศฉ่ำฝนในเวลานั้นหรือเปล่า ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ใช่ แต่มันมาจากอะไรล่ะ อาจจะมาจากภาพการซ่อมบำรุงอาคารพระราชวัง มาจากภาพไม้ที่มีร่องรอยผุพัง หรือภาพอาคารที่เสื่อมสภาพจากการใช้งานกระมัง ว่ากันตามที่จริงแล้วพระราชวังพญาไท ก็อยู่กลางเมืองหลวงในปัจจุบัน อยู่ใกล้อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพียงเดินไปถึงได้ไม่เหนื่อย และที่สำคัญอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานราชการทหาร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใช้ประโยชน์จากหมู่อาคารพระราชวังเป็นหน่วยงานหลังสุด โดยใช้ประโยชน์เป็นอาคารโรงพยาบาลพระมงกุฎในทุกตารางนิ้ว ก่อนที่หน่วยงานทหารจะเข้ามาใช้ ที่นี่เคยเป็นโรงแรม เคยเป็นสถานีวิทยุ และเคยเป็นอะไรต่างๆ มากมาย ร่องรอยการใช้งานอาคารสถานที่อย่าง "เต็มที่" ยังคงปรากฏอยู่ทุกผืนไม้ และทั่วรอยปูนที่ฉาบทา ผ่านกาลเวลามาจนปัจจุบัน ซึ่งก็ธรรมดาเมื่อเวลาผ่านไป บ้านเมืองเปลี่ยนแปลง แต่ เฮ่อออออออออออออ พอคิดไปถึงว่า พื้นที่แห่งนี้ สมเด็จพระพันปีหลวง ประทับอยู่จนเสด็จสวรรคต พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ ทรงปลูกสร้างแต่ละส่วน แต่ละอาคาร และเสด็จประทับที่นี่อยู่หลายปี จากสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทำให้สัมผัสได้ว่า องค์ผู้สร้าง องค์ผู้ประทับ "รัก" และ "พึงใจ" ในสถานที่อันเป็นที่รักของพระองค์เป็นอันมาก... แต่มาถึงวันนี้ สถานที่แห่งนี้ แทบไม่เหลือรอยแห่งความเป็นพระราชวังอันเป็นที่รักของพระองค์อยู่เลย นอกจากความเป็นอาคาร และตัวตึก กับสวนด้านหลัง เท่านั้น บางที การจ่อมจมกับอดีตอันรุ่งเรือง ความสำนึกในเรื่องราวเก่าแก่กระมัง ที่ทำให้เราเศร้าใจแปลกๆ ยิ่งได้คุยกับพี่ๆ จากชมรมคนรักวัง ยิ่งรู้สึกว่า พระราชวังแห่งนี้ ยังต้องได้รับการบูรณะดูแลอีกมากมาย และแน่นอนที่สุด งบประมาณจากแผ่นดินคงไม่มีเพียงพอที่จะบูรณะ ก็ต้องรอเงินบริจาคจากผู้มีจิตรักในของเก่า และมีเงินเพียงพอจะบริจาคได้เท่านั้น ถามพี่ๆ ว่า ทำไมไม่เก็บค่าเข้าชมละคะ อย่างน้อย เงินจำนวนเล็กน้อย สิบบาทยี่สิบบาท จากผู้ชมแต่ละคน ยังพอมาประทังค่าน้ำค่าไฟฟ้าได้บ้าง พี่ ๆ ถามกลับมาว่า เก็บเงินเขาไปแล้วจะให้เขามาดูอาคารเก่าๆ อย่างเดียวหรือ คงไม่ดีเหมือนจะเป็นการเอาเปรียบท่านผู้เข้าชม อืมมม บอกไม่ถูกน่ะค่ะ หนูอาจจะคิดไม่เหมือนพี่ๆ แต่หนูรู้สึกอยากให้ทุกคนที่เข้ามาที่นี่ หรือที่เคยใช้ประโยชน์จากที่นี่ ได้เห็นคุณค่าของที่นี่ รักที่นี่ เหมือนที่องค์เจ้าของเดิมท่านทรงรัก และประทับอยู่จนสิ้นพระชนม์ชีพ ไม่ใช่ปล่อยให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาจนยากจะบูรณะขึ้นมาอีก หรือใช้เวลาในการบูรณะนานเกินจนเมื่อบูรณะจุดหนึ่งเสร็จ ก็ต้องย้อนกลับมาบูรณะจุดเดิมอีก หรืออะไรทำนองนี้ แต่ก็นะ... ในสภาวะเช่นปัจจุบันนี้ จะหวังอะไรก็คงลำบาก ในเมื่อชีวิตของผู้คนพลเมืองทั้งหลายก็ยังคงวุ่นๆ วายๆ กับภาวะข้าวยากหมากแพงอยู่เลย ที่สุดแล้วก็คงได้แต่หวัง หวังหลายๆ อย่าง ว่าที่สุดแล้ว สถานที่แห่งนี้จะกลับมางดงามเฉกเช่นเดิม และกลับมาเป็นสถานที่ที่เป็นสง่าแก่ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอย่างยืนนานต่อไป อืมมมม ได้แต่หวัง... อ้ะน่ะ สิ่งที่ดีที่สุดของมนุษย์ที่ยังเหลืออยู่ในกล่องแพนดอร่า ก็คือ ความหวัง นี่แหละ เนาะ ณ ตรงนี้ คงบ่นๆ แค่นี้ก่อนดีกว่า อิอิ เดี๋ยวมีคนมาแซวว่าแม่มดอายุมากล่ะสิ ถึงขี้บ่น หวังและสิ้นหวัง วนเวียนอยู่อย่างนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด ข่าวฝากประชาสัมพันธ์ โครงการบูรณะพระราชวังพญาไท และชมรมคนรักวังในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี มีภารกิจที่ต้องหารายได้มาสนับสนุนการบูรณะให้เสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์ จึงใคร่ของเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน เพื่อจะได้ช่วยจรรโลงพระราชวังอันเป็นที่รักของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ และเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติให้คงอยู่ตราบนานแสนนาน ติดต่อสอบถามรายละเอียด และเชิญร่วมบริจาคที่ สำนักงานชมรมคนรักวังฯ พระที่นั่งพิมานจักรี ชั้น ๒ พระราชวังพญาไท (ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า) เลขที่ ๓๑๕ ถนนราชวิถี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ๑๐๔๐๐ โทร.๐-๒๒๔๕-๙๗๗๐ และ ๐-๒๒๔๖๑๖๗๑ ต่อ ๙๓๖๙๔ ขอเชิญร่วมงาน "เพชรรัตน-สุวัทนา สองราชนารีในรัชกาลที่ ๖" ๒๘ ตุลาคม - ๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ณ พระราชวังพญาไท ในบริเวณโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ส่วนนี้รายละเอียดต้องพิมพ์ แล้วจะพิมพ์มาเผยแพร่ต่อเช้าวันพรุ่งนี้ค่ะ ขอเชิญเพื่อนๆ ทุก ๆ คน ติดต่อขอเข้าเยี่ยมชมตามรายละเอียดข้างต้น โดยสามารถติดต่อขอบันทึกภาพภายในพระราชวังอย่างเป็นทางการได้ที่ชมรมคนรักวัง ตามสถานที่ติดต่อข้างต้น และขอความกรุณาผู้เข้าเยี่ยมชมทุกๆ ท่านกรุณาแต่งกายสุภาพ เพื่อเป็นเกียรติแก่สถานที่ค่ะ ... ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ...   Create Date : 12 กันยายน 2548 30 comments Last Update : 12 กันยายน 2548 22:13:33 น. Counter : 4415 Pageviews. Share Tweet

สงสัยไปกะคนหน้าตาดี รูปเลยออกมาสวยไปหมด แต่สิ่งที่ไม่ต้องสงสัย คนถ่ายหน้าตาดี ลป. รูปหนูดูไม่ได้เลย มืดหม่นหมด   โดย: นกซิลล่า IP: 202.44.32.11 12 กันยายน 2548 13:34:44 น.

หวัดดีครับ..คุณมรกตฯ...ขอนุญาตเจิม blog ใหม่..เพื่อความเป็นศิริมงคล..นะครับ..555555555555555 (แต่กลัวเป็นอัปมงคลซะมากกว่า) ไปมาหลายหนครับสำหรับ "วังพญาไท"... สวยครับสวย..วังสวย..ภาพถ่ายออกมาสวย...คนถ่ายก็...(เติมเอาเองแล้วกันครับ..) ไปที่ วังพญาไท ทีไร..นึกถึง "พระราชวังสนามจันทร์"..ที่นครปฐม..ทุกทีเลย...   โดย: กุมภีน 12 กันยายน 2548 13:42:19 น.

ภาพชุดนี้ ดูเหงาๆ นะคะ ตอนแรกคิดว่าคิดไปเอง แต่มาอ่านตอนปลายๆ แล้ว คิดว่าตัวเองเข้าใจถูกนะ (ไม่รู้เจ้าของภาพจะคิดงี้เปล่าเนอะ)   โดย: หนูชล 12 กันยายน 2548 13:55:52 น.

สวัสดีค่ะ น้องนกซิลล่า ภาพพี่ก็ใช้ได้ไม่เยอะอ้ะค่ะ แหมๆ ก็ฟ้าฉ่ำฝนซะขนาดนั้น เราสองคนได้ดี ก็มืออาชีพแว้วววววววววว หงิหงิ ลุงกุมภีนคะ พระราชวังสนามจันทร์ แอนไม่เคยเข้าไปข้างในเลยอ้ะค่ะ แม้ว่าเมื่อก่อนจะไปเตร็ดเตร่หาหนังสืออ่านที่ห้องสมุดคณะอักษรศาสตร์ วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์เป็นบางครั้งก็ตาม พอจะเข้าไปจริงๆ จัง ๆ ก็ปรากฏว่า เขาปิดเป็นเขตพระราชฐานแล้ว ก็เลยยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปชมความงดงามเลยค่ะ วังพญาไท อยู่กลางเมืองแท้ๆ แต่โดนทอดทิ้ง เอ๊ะ ไม่สิ แต่ไม่มีคนสนใจเท่าที่ควร แอนออกจะรู้สึกใจหายเล็กน้อยน่ะค่ะ ยินดีจังที่ลุงเข้ามาเจิมบล็อกแอน อิอิ แง้ ๆ อยากได้เพลงไทยเดิมเพราะๆ มาประกอบบล็อกหน้านี้สักเพลง แต่หาไม่ได้เลย ใครมีเพลงที่คิดว่าเข้ากับ Theme blog วันนี้ ขอด้วยนะคะ ขอเป็นเพราะเพราะ ๆ นะคะ ตะกี้เล็งๆ เพลงประกอบเรื่อง โหมโรง เอาไว้ แต่ไม่รู้วิธีเอามาแปะที่นี่อ้ะค่ะ ถ้าใครมีเพลงทีเหมาะสม ขอด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ   โดย: มรกตนาคสวาท 12 กันยายน 2548 14:02:24 น.

รูปสวยๆๆๆ อยู่ กทม แท้ๆๆแต่ไม่เคยไป   โดย: ปลาทูน่าในบ่อปลาพยูน 12 กันยายน 2548 14:04:01 น.

สวัสดีค่ะ น้องหนูชล คิดว่าคิดเหมือนกันอ้ะค่ะ เหงา แล้วก็ปนโศกนิด ๆ ดูอาดูร ยังไงก็บอกไม่ถูก คุณ ปลาทูน่าในบ่อปลาพยูน ไว้วันหลังลองหาโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมดูนะคะ พี่ๆ ชมรมคนรักวังใจดีทุกๆ คนเลยค่ะ ถ้าแวะไปวันเสาร์ได้จะยิ่งดีค่ะ   โดย: มรกตนาคสวาท 12 กันยายน 2548 14:15:41 น.

เมื่อไหร่เราจะถ่ายรูปออกมาสวยแบบนี้บ้างสักทีน้า พี่แอนช่วนสั่งสอนผมบ้างนะคับ   โดย: + MenGie + 12 กันยายน 2548 14:20:42 น.

สวยๆๆคงมีโอกาสได้เข้าไปเดินถ่ายรูปสักวัน   โดย: ธูปหอมเทียนสว่าง 12 กันยายน 2548 14:33:14 น.

ชอบรูปที่ถ่ายจากเงาในน้ำ (ใช่ป่าววุย)   โดย: เต้าหู้หิมะ 12 กันยายน 2548 14:51:46 น.

สวัสดีสามท่านนะคะ แอบเอาเพลงมาแปะก่อน ขอตัวไปสัมมนาก่อนนะคะ แว้บบบบบบบ   โดย: มรกตนาคสวาท 12 กันยายน 2548 15:13:56 น.

เพลงเร้าใจมั่กๆ   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 12 กันยายน 2548 15:46:39 น.

แหม....เข้า Blog นี้ ถูกใจดีจังเลยค่ะ ได้ดูทั้งภาพสวยๆ และได้อาหารสมอง แวะมาเยี่ยมนะคะ   โดย: Ning_999 (Ning_999 ) 12 กันยายน 2548 16:12:40 น.

สวยมากครับ ตั้งแต่ซื้อกล้องมายังไม่มีโอกาส ถ่ายภาพกลางแจ้งแบบจริงๆจังๆเลย อยากมีโอกาสไปถ่ายสถานที่เช่นนี้บ้างครับ   โดย: TeNZ IP: 61.91.216.10 12 กันยายน 2548 18:48:52 น.

สวยมากค่ะ ชอบภาพฝ้าเพดานจังเลย   โดย: quin toki 12 กันยายน 2548 19:05:39 น.

ภาพสวย....ฟังเพลงประกอบแล้วคิดถึงหนังเรื่องโหมโรง.... ดนตรีไทยนี่ชอบฟังจังค่ะ คิดถึงตอนเด็กๆ ที่เล่นดนตรีไทย อิอิ   โดย: ตะกร้าหวายสีขาว 12 กันยายน 2548 19:55:03 น.

โอ.... โอ.... โอ.... ๓ โอ เลย ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ ครูแอนฯ ได้โอกาสเหมาะ ก็เลยแวบงานมาเยี่ยมเยือน พอเข้ามาแล้วก็ตื่นตาตื่นใจ งามจริงเจียว ขอรับ คงต้องหาโอกาสไปเยี่ยมชมบ้างแล้วล่ะ ขอรับ เอ่อ... อยู่ในเมืองเทวานครแท้ ๆ ข้าพเจ้าก็ยังบ่เคยได้ไปชมเลย ขอรับ แหะ แหะ ขอรับ สวัสดี ขอรับ   โดย: นายทิวา (นายทิวา ) 12 กันยายน 2548 20:20:55 น.

แอบมาดูวิชาถ่ายรูปครับป้า ...อิอิ ชอบ รูป ที่เงาสะท้อนในน้ำครับ   โดย: Nutty Professor 12 กันยายน 2548 20:42:39 น.

สวยมากเลยฮะ.... ผมก็แอบไปมา....   โดย: รู้สึกแปลก 12 กันยายน 2548 20:48:20 น.

เห็นในห้องกล้องมีไปวังพญาไทกัน พี่แอนก็ไปด้วย หุหุ   โดย: panumas05 12 กันยายน 2548 22:35:04 น.

ยังไม่เคยไปเลยคะ แต่ท่าทางสวยใช่เล่น สงสัยต้องหาโอกาศไปบางแล้วนะคะ หลับฝันดีนะคะ   โดย: asariss 12 กันยายน 2548 23:12:46 น.

ถ่ายรูปบ้านมาอวดเหรอครับ   โดย: แป๊กก 13 กันยายน 2548 4:04:56 น.

เพลงได้ใจจริง ๆ   โดย: nutxnut 13 กันยายน 2548 4:43:17 น.

สวัสดีตอนเช้าวันฝนตกปรอยๆ ค่ะ ^^ ...   โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 13 กันยายน 2548 7:35:58 น.

หวัดดีตอนเช้าครับ..คุณมรกตฯ มาเที่ยววังพญาไท..อีกรอบ.. รอบนี้..ชอบบบบบบบบบบบ...จริงๆครับ.. เสียงรัว "ระนาดเอก"....ฟังแล้วขนลุก.... เมื่อก่อนผมก็เล่นนะ ระนาดเอก อ่ะ..เดี๋ยวนี้...ห่างมือไปนานแล้วครับ...   โดย: กุมภีน 13 กันยายน 2548 10:27:40 น.

เมื่อคืนดูรายการคุณพระช่วย ประชันระนาดเอก ดูไปขนลุกไป ดีใจที่ยังมีเยาวชนสนใจอะไรที่เป็นไทย ๆ ไท ๆ ยิ่งมาเจอ Blog นี้อีก โอ้ยยยย พระเจ้ายอดมันจอร์ดมาก อิอิ   โดย: ปะหล่อง IP: 61.19.32.226 13 กันยายน 2548 13:07:42 น.

หวัดดีครับคุณมรกตฯ.... ฝนตกเซ็งจริงๆ... เรื่องจำนวนผู้เข้าชม ผมแจ้งไปตั้งแต่วันแรกแล้วครับ.. หายแซ่บหายสอยยยยยยยยย...ไม่มีการตอบกลับมาเลยครับว่าแก้ไขได้หรือไม่ได้ยังไง..แต่ก็ไม่เป็นไรครับ..ไม่ได้ซีเรียส ขอตัวไปหาอาหารมื้อเที่ยงก่อนนะครับ.. enjoy eating สำหรับมื้อกลางวันนะครับ..   โดย: กุมภีน 14 กันยายน 2548 12:12:32 น.

ตามมาเที่ยวด้วยคน   โดย: zaesun 14 กันยายน 2548 18:56:49 น.

เข้าใจหาเพลงมาประกอบเรื่อง.....   โดย: เต้าหู้หิมะ 14 กันยายน 2548 19:08:43 น.

สวยจัง น่าไปจัง ทำไรอยู่คะ   โดย: คนขี้เหงาคนหนึ่ง IP: 58.10.90.13 14 กันยายน 2548 19:57:42 น.

โดย: NeoCyber IP: 58.9.129.7 18 กันยายน 2548 21:11:20 น.