กระชาย [Finger Root] : เลือกรากที่สด อวบอ้วน เนื้อจะมีน้ำมาก กลิ่นหอม รสซ่า ล้างให้สะอาดก่อนใช้ ขูดเอาเปลือกออก แล้วล้างอีกครั้ง สรรพคุณ ช่วยไล่แก๊ส, ช่วยในระบบการย่อยอาหาร บรรเทาอาการจุกเสียดกระเพาะอาหาร กระชายยังอุดมด้วยวิตามิน เอ, บี12 และแคลเซียมด้วย พริกแห้ง [Dried Chilies] : พริกแห้งโดยทั่วไปมักจะนำไปคั่วและตำให้ละเอียดเพื่อใช้เป็นเครื่องปรุง นอกจากนั้นพริกแห้งยังนิยมใช้ในการทำอาหารประเภทแกง สรรพคุณของพริกช่วยทำให้เจริญอาหาร ยังช่วยไล่แก๊ส, ลดเสมหะ, ขับปัสสาวะ และยังช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยอีกด้วย. หัวหอมใหญ่ [Onions] : หอมใหญ่ที่มีคุณภาพดีจะต้องมีน้ำหนักมาก ผิวแห้งและเรียบ เพื่อให้เก็บได้นานขึ้น ควรเก็บในที่ที่มีอากาศถ่ายเท ไม่ควรแช่ไว้ในตู้เย็น ข่า [Galangal] : เป็นพืชในตระกูลเดียวกับขิง มีรสเผ็ดร้อนและกลิ่นแรง ไม่เหมือนกับขิงธรรมดาทั่วไป ควรเลือกซื้อเฉพาะข่าอ่อน รากอวบอ้วน และผิวมีสีชมพูอ่อน สรรพคุณของข่าคือ ช่วยไล่แก๊สในลำไส้ และรักษาโรคท้องร่วง โรคบิด และยังช่วยลดเสมหะ มะกรูด (Kaffir lime) | ข่า (Galangal) | | ตะไคร้ [Lemongrass] : ควรเลือกซื้อตะไคร้ที่ฐานบริเวณลำต้นอวบอ้วนและมีสีม่วงอ่อน เวลาใช้ต้องควรปอกเปลือกข้างนอกออกจนกระทั่งเห็นเนื้อข้างในที่มีสีชมพู สรรพคุณของตะไคร้คือช่วยในส่วนการย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ และช่วยบรรเทาอาการอาเจียน นอกจากนั้นยังช่วยลดความดัน และไล่แก๊ส ตะไคร้ยังใช้เป็นยาบรรเทาอาการเป็นไข้ และลดอาการปวดท้อง หอมแดง [Shallots] : หอมแดงที่มีผิวสีม่วงอมแดง ให้กลิ่นที่แรงกว่าหอมแดงที่มีผิวสีออกเหลืองอ่อนซึ่งจะมีรสออกหวานกว่าเล็กน้อย สรรพคุณของหอมแดงช่วยไล่แก๊ส ขับปัสสาวะ และช่วยรักษาอาการไข้ กระเทียม [Garlic] : กระเทียมของไทยมักจะมีกลีบที่เล็ก เปลือกที่บางแต่ให้กลิ่นที่แรง ควรเก็บกระเทียมไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท สรรพคุณของกระเทียมช่วยลดความดัน ลดคลอเลสเตอรอล และลดน้ำตาลในเลือด นอกจากนั้นยังช่วยเสริมภูมิต้านทานของร่างกายอีกด้วย ขิง [Ginger] : มักจะใช้ในการทำอาหารสองรูปแบบ คือ ขิงอ่อนมักจะนำไปหั่นบางๆ และวางบนหน้าปลานึ่ง ขณะที่ขิงแก่ซึ่งมีกลิ่นแรงและรสเผ็ดร้อนมักจะนำไปทำเป็นน้ำซ๊อส สรรพคุณของขิงช่วยไล่แก๊ส ลดการหดเกร็งของลำไส้ และบรรเทาอาการอาเจียน นอกจากนั้นยังช่วยลดอาการปวดหัว ปวดท้อง มะกรูด [Kaffir Lime] : เป็นพืชที่มีกลิ่นที่หอมมากโดยเฉพาะใบของต้นมะกรูด ซึ่งในการประกอบอาหารสามารถนำใบมะกรูดไปหั่นซอยให้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือฉีกเพื่อเติมลงไปในอาหารก็ได้ นอกจากนั้นยังสามารถนำไปผสมในการทำเครื่องแกงได้อีกด้วย สรรพคุณของมะกรูดคือ ช่วยไล่แก๊สและบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ น้ำมะกรูดยังใช้เป็นยารักษาโรคลักปิดลักเปิด ผักชี [Coriander] : ใบ ลำต้น และรากมักใช้กันอย่างแพร่หลายในการปรุงอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทต้ม, ผัด, ยำ และอื่นๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นให้ชวนน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ใบกะเพรา [Holy Basil] : กะเพรามีอยู่สองชนิด คือ ชนิดที่ใบมีสีเขียว และชนิดที่มีสีออกม่วงปนแดง ซึ่งชนิดหลังจะให้กลิ่นที่หอมและรสชาติเผ็ดกว่าชนิดที่ใบสีเขียว สรรพคุณของกะเพราคือช่วยไล่แก๊สและบรรเทาอาการปวดท้อง ช่วยขับเหงื่อและลดการวิงเวียนศีรษะ อาการอาเจียน ใบโหระพา [้Sweet Basil] : มีสีเขียวเข้ม ใบมีลักษณะหนากว่าใบกะเพรา มีกลิ่นหอมและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ โหระพามีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหารและลดการปวดท้องเนื่องจากอาหารไม่ย่อย ใบแมงลัก [Hoary Basil] : ใบแมงลักจะมีขน และมีกลิ่นหอมน้อยกว่าใบโหระพา มีสรรพคุณช่วยไล่แก๊สในลำไส้ และลดอาการไอ ที่สำคัญยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มน้ำนมของมารดาที่เพิ่งคลอดบุตร นอกจากนั้นยังช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย มะเขือเทศ (Tomato) | พริก (Chili) | | ชมิ้น [Tumeric] : ขมิ้นที่ใช้ปรุงอาหารไทยมีสีออกส้มเหลืองและมีกลิ่นและรสชาติที่รุนแรง ควรเก็บในถุงพลาสติกและแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อเก็บไว้ได้นานขึ้น มีสรรพคุณช่วยลดและบรรเทาแผลพุพอง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้นและลดอาการหดเกร็งของลำไส้ ลดอาการจุกเสียดและปวดท้อง ใบสาระแหน่ [Thai Mint] : นิยมใช้ใส่ในอาหารประเภทยำ เนื่องจากมีกลิ่นและรสชาติที่หอม ควรเลือกซื้อโดยดูจากใบที่สดและสีออกเขียวเข้ม สาระแน่มีสรรพคุณช่วยลดอาการจุกเสียด อาการปวดท้อง ขับเหงื่อ และไล่แก๊ส ในกระเพาะอาหาร ใบสาระแหน่ยังสามรถใช้เคี้ยวเพื่อลดกลิ่นปาก และยังช่วยทำความสะอาดกระเพาะ, ลำไส้เพื่อลดการหดเกร็งได้อีก พริกไทยอ่อน [Green Peppercorns] : พริกไทยอ่อนมีสีเขียว รสชาติดีแต่เผ็ดร้อน พริกไทยอ่อนมีสรรพคุณช่วยในการย่อย และลดอาการปวดหัว ลดอาการปวดไขข้อ และยังใช้เป็นยารักษาโรคท้องร่วงได้อีกด้วย อบเชย [Cinnamon] :อบเชยมีสีน้ำตาลดำ และมีรสหวาน ส่วนมากมักจะจำหน่ายในรูปผง, หรือแท่ง มีสรรพคุณช่วยขับเหงื่อ และให้ความสดชื่นแก่ร่างกาย นอกจากนั้นยังช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร |