Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
30 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 
เปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนความคิด ปรับคุณภาพสมอง



 


เมื่อคนเราจินตนาการถึงเรื่องดี ความสุข ความภาคภูมิใจ และเป็นคนอารมณ์ดี ใจเย็น รอบคอบ สมองทั้งสามส่วนนั้น ก็จะพองตัวขึ้นคุณหมอเดเนียล จี. เอเมน ผู้เขียนหนังสือ Making a Good Brain Greatจึงมีวิธีปรับฮอร์โมนที่มีผลต่ออารมณ์ในสมอง รวมถึงวิธีคิดของสมอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ซึ่งเราสรรหามาฝากดังนี้


5 DIY เปลี่ยนความจริง


อย่าหลงเชื่อความคิดวูบแรก เมื่อรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสแรกส่งข้อมูลมาถึงสมอง สมองจะเชื่อมโยงสิ่งทั้งหมดเหล่านี้เข้ากับประสบการณ์เดิมที่เคยเกิด เราจึงรู้สึกกับบางสถานการณ์หรือเรื่องราวตรงหน้ามากหรือน้อยเกินไป ซึ่งล้วนแล้วแต่ก่อความเข้าใจผิดได้ทั้งสิ้น คุณหมอเอเมนกล่าวว่า ทางที่ดีที่สุด เราควรซักถามหาเหตุผลของสถานการณ์หรือเรื่องราวที่เพิ่งเกิดใหม่หมาด เพื่อบันทึกไว้เป็นข้อมูลในเชิงเหตุผลที่ถูกต้อง มากกว่าอารมณ์ความรู้สึกในทางลบ


เชื่อว่าความคิดของเรามีพลังพิเศษ เมื่อเราคิดแต่ละครั้ง สมองจะปล่อยสารเคมีบางอย่างออกมา บางตอนในหนังสือ Making a Good Brain Great บอกว่า ถ้าคิดในทางบวก เป็นเรื่องสุข เป็นความหวัง สมองจะปล่อยสารเคมีที่ทำให้เรารู้สึกดี และระบบการทำงานของสมองก็จะมีประสิทธิภาพ ตรงกันข้าม ถ้าคิดในทางลบ เป็นเรื่องผิดหวัง โศกเศร้าเสียใจ สมองจะปล่อยสารเคมีที่ทำให้อารมณ์เราบูดเน่า ย่ำแย่ และระบบการทำงานของสมองก็พานรวน ฉะนั้น ลองชี้ทิศทางให้สมองขับเคลื่อนไปด้วยพลังงานบวกดีกว่าค่ะ


ทันทีที่บังเกิดความคิดลบ ความสุขก็หมดลงโดยพลัน ผู้คนจำนวนหนึ่งต้องทนทรมานกับความกดดัน กระวนกระวายใจ และวิตกกังวลอย่างหนัก นั่นเป็นเพราะเขาป่วยด้วยอาการ ANTs หรือ automatic negative thoughts คนกลุ่มนี้มักตั้งใจและจดจ่ออยู่กับแง่มุมด้านลบของสถานการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้น และความคิดแบบนี้มักจะดูดพลังชีวิตไปจากสมอง ถ้าใครมีอาการแบบนี้ ต้องพยายามพาตัวเองขึ้นมาจากกับดักหลุมดำในจิตใจ ที่ขุดไว้เอง โดยวิธีง่าย ๆ คือ ทันทีที่ความรู้สึกด้านลบบังเกิด รีบจรดดินสอปากกาเขียนสิ่งที่อยู่ในความคิด คุณจะพบความคิดไร้เหตุผลมากมายกำลังจู่โจมทำร้าย จากนั้นก็ใช้ความคิดบวกเข้ามาแทนที่ และเยียวยาจิตใจตนเอง คุณหมอเอเมน กล่าวว่า “จงทำลาย ANTs เปลี่ยนสมองกันเถอะ”


ลองหลอกตัวเองบ้าง ทันทีสมองคิดในเชิงคาดหวัง สถานการณ์หรือเรื่องราวก็อาจเกิดขึ้นจริง โดยหากสมองคิดลบ สถานการณ์หรือเรื่องราวในทางลบก็เป็นจริง ตรงกันข้ามหากสมองคิดบวก สถานการณ์หรือเรื่องราวในทางบวกก็เกิดขึ้น

กว่า ศตวรรษที่จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรู้เรื่องนี้ ความคาดหวังในทางบวกจึงนำมาใช้บำบัดเยียวยาอาการเจ็บป่วยสารพัดโรค และเมื่อ 150 ปีที่ผ่านมา ในการบำบัดผู้ป่วย แพทย์ต้องทำตัวเป็นกันเองกับคนไข้ และสร้างความคิดหลอก (placebo effect) ขึ้นมา

ความคิดหลอกนี้คือ การสร้างความคาดหวังและความหวังขึ้นมา ระหว่างที่แพทย์กำลังบำบัดผู้ป่วย คุณหมอที. ฟินด์เลย์ ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวว่า "ทั้งพิธีกรรม ความศรัทธา และความกระตือรือล้น ล้วนแล้วแต่สร้างพลังชีวิต"

ในทางการแพทย์พบว่า การสร้างความคาดหวังและความหวัง คือ เครื่องมือสำคัญในการบำบัดผู้ป่วย มีพลังถึงหนึ่งในสี่ หรือสองในสามของการใช้มอร์ฟีนบำบัดอาการปวด และมีผู้ป่วยถึงหนึ่งในสามที่ใช้ความคิดหลอกแล้วได้ผล นั่นเป็นเพราะความคิดหลอก สามารถเปลี่ยนปฏิกิริยาและสารเคมีในร่างกายจากตัวร้ายเป็นตัวดีได้จริง

เมื่อร่างกายสบายขึ้น ระบบการทำงานของสมองก็เปลี่ยนไปในทางดี


สั่งสมองปรับนิสัย เพื่อให้สมหวังเราใช้สมองส่วนคอร์เทค เมื่อต้องวางแผนชีวิต โดยสมองส่วนนี้จะทำหน้าที่ในการหาข้อมูลและวิธีการ เพื่อให้แผนที่วางไว้สำเร็จลุล่วงลงได้ ฉะนั้นการตั้งเป้าหมายในชีวิต แล้วปรับเปลี่ยนนิสัยเพื่อให้ได้มาจึงเป็นเรื่องที่ทำได้

เมื่อสมองคิดอย่างไร สถานการณ์หรือเรื่องราวนั้นก็เกิดขึ้นได้


ลิขิตชีวิตตนเอง

คุณหมอเอเมนแนะนำว่า หากเราเขียนสิ่งที่ตนเองต้องการ และสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นลงหน้ากระดาษทุกวัน/สัปดาห์ มหัศจรรย์ในชีวิตจะเกิดขึ้น โดยเขียนแยกเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง ตัวเองกับคนใกล้ตัว การงาน การเงิน รวมไปถึงเรื่องความต้องการในส่วนลึก เช่น อารมณ์ความรู้สึก ร่างกาย และจิตใจ ดังนี้


เมื่อความคิดสามารถ กำหนดคุณภาพสมองได้ จึงควรคิดในสิ่งดี ก่ออารมณ์เบิกบาน สดชื่น แจ่มใส แบบที่อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิตแนะนำเนืองๆ
เพื่อระบบการทำงานของสมองที่ดี ส่งผลต่อคุณภาพสมองดีตลอดไป




ที่มา นิตยสารชีวจิต







Create Date : 30 พฤษภาคม 2555
Last Update : 30 พฤษภาคม 2555 12:38:32 น. 0 comments
Counter : 1903 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอ็กซ์ซ่า
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




Friends' blogs
[Add เอ็กซ์ซ่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.