สาวออฟฟิศอย่างเราๆ เรื่องปวดหลังคงเจอะเจอกันจนเบื่อหน่าย คล้ายๆ กับบิลค่าบัตรเครดิต! เพราะมาบ่อยแถมเพิ่มขึ้นทุกครั้ง แต่ที่ต่างกันก็คือ อาการปวดหลังนั้น ยิ่งเป็นนานเท่าไหร่ อาจจะเป็นอันตรายได้มากเท่านั้น แถมเรื่องสุขภาพ มีแต่ตัวคุณเอง ไม่มีใครมาประนอมหนี้ให้นะคะ
คุณกำลัง ปวดหลังเรื้อรัง อยู่หรือเปล่า
หากคุณมีอาการปวดหลังอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน และมีแนวโน้มจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญเป็นมานานกว่า 8สัปดาห์แล้วล่ะก็ เป๊ะเลยค่ะ
คุณกำลังปวดหลังเรื้อรัง อยู่ค่ะ
อาการปวดหลังเรื้อรังมีสาเหตุจากปัญหาต่างๆ มากมาย ตั้งแต่สาเหตุเล็กๆ น้อยๆ เช่น กิจวัตรประจำวันอยู่ในท่าทางที่ผิดปกติ พิมพ์งานผิดท่า ยกของหนักเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อหลังจะต้องเครียดตึงเรื้อรัง หรือมีน้ำหนักตัวมากเกินไปจนกระทั่งกล้ามเนื้อหลังต้องมีการเครียดตึงเรื้อรัง ทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังตามมา
นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรังได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่รุนแรงมากขึ้น เช่น การมีกระดูกสันหลังเสื่อม (Spondylosis) การมีกระดูกสันหลังคด (Scoliosis) การมีหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมหรือแตกปริ (Degenerative Disc Disease) หรือการมีกระดูกสันหลังเคลื่อนแผงอยู่ภายใน หรือบางคนอาจจะเป็นผลจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก แต่ไม่แสดงอาการ เมื่ออายุมากขึ้น ก็แสดงออกมาเป็นอาการปวดหลังบริเวณนั้น เป็นต้น
ซึ่งแน่นอนค่ะว่าสาเหตุขั้น Advance ดังที่กล่าวมานี้คงมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแน่ๆ เพราะฉะนั้นคนที่จะวินิจฉัยได้ดีที่สุดคงเป็นคุณหมอนั่นล่ะค่ะ อย่ามัวแต่โปะยานวดหรือทานยาคลายกล้ามเนื้อให้กระเพาะพังกันอยู่เลย ถ้ามันนานขนาดนี้ก็ไปหาหมอกันดีกว่าค่ะ
ปวดหลังยังบรรเทาได้
น.อ. (พิเศษ) นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก และรองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพ มีข้อแนะนำเมื่อเกิดอาการปวดหลังดังนี้ค่ะ
1. ปวดมาก ทำอย่างไรดี?
ถ้าเกิดอาการปวดรุนแรงมากควรลงนอนพักในท่าที่สบายๆ อาการจะทุเลาลง นอนพักที่สะโพกและเข่างอ จะลดความตึงของกล้ามเนื้อหลัง
2. ปวดทันที มีทางแก้
การปวดอย่างปัจจุบันทันด่วน ใช้ประคบด้วยความเย็น จะเป็นผ้าห่อน้ำแข็ง หรือเจลแบบโคลด์แพ็กประคบ ถ้ายังไม่ดีขึ้นในเบื้องต้นให้กินยาแก้ปวด จะช่วยได้ในเบื้องต้น
3. ปวดเบาๆ แต่บ่อยๆ ต้องค่อยๆ นวด
ถ้าปวดไม่รุนแรงมาก สามารถนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ คุณหมอยังแนะนำว่า ถ้ากล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อหน้าท้องเราแข็งแรงแล้ว จะเป็นตัวช่วยพยุงน้ำหนักให้หลังของเรา ลดโอกาสปวดหลังได้ดีทีเดียวค่ะ
คลายข้อข้องใจกันได้บ้าง สำหรับสาวๆ ที่หาสาเหตุได้ออกแนวรู้อยู่แก่ใจว่าทำไมถึงปวดหลัง ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับอาการปวดที่หาสาเหตุเองได้ อย่ามัวแต่รักษาตัวเองแบบงูๆ ปลาๆ ให้เปลืองค่ายากันอยู่เลย รีบไปหาคุณหมอเพื่อวินิจฉัยสาเหตุให้ได้ ก่อนจะเป็นอะไรร้ายแรงดีกว่านะคะ
ที่มา : chicministry.com