Group Blog All Blog
|
รายการวิ่งแรกกับมาราธอนแรกไปพร้อมๆกัน @ ( Laguna Phuket Marathon 2019 ) และ ตารางฝึกซ้อม 38 สัปดาห์ เกริ่นกันก่อนว่ากระทู้นี้ยาวหน่อย และไม่ได้เป็นการโอ้อวด อุตริ ใดๆทั้งสิ้น ก็จะแค่มาแชร์ประสบการณ์กับการฝึกฝนเพื่อที่จะวิ่งให้จบเป็น Marathoner เต็มตัวของนักวิ่งหน้าใหม่ เวลาของผมที่จบก็ไม่ได้ดีอะไรเท่าไหร่หรอกครับ Pace 7 ครึ่ง ท่านใดมีของอย่าแกล้งกันนะคร๊าบบบ ต้องการแค่อยากมาแชร์ประสบการณ์เท่านั้นเอง และมาราธอนแรกของผมนี้ไม่แน่ใจว่าอาจจะเป็นมาราธอนสุดท้ายของผมรึเปล่า ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ถ้าอ่านให้จบ จะรู้ครับว่ามันมีเหตุผลในตัวและส่วนตัว ฮ่าๆๆ เหตุผลที่หนักที่สุดคือขี้เกียจซ้อม เดี๋ยวท้ายๆจะบอกครับว่าทำไม ย้อนไปปี 2017 คงเหมือนกับใครหลายๆคนที่ "อ้วน" และก็อยากจะลดความอ้วน และ รักษาสุขภาพ ด้วยวิธีการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง รองเท้าวิ่งคู่แรก ซื้อจากญี่ปุ่น Mizuno รุ่นไหนไม่รู้ ถูกดี เลยเอามาใส่ก่อน ผลคือ แค่ 300 เมตรรอบคอนโด หอบแหลก ขึ้นคอนโดเลย หยุดไป 3 วัน เอาเว้ยวิ่งใหม่ วิ่งๆเดินๆ ได้ 2 โลเหนื่อยอิ๊บอ๋าย จากนั้นหยุดเลย แล้วมาตั้งคำถามว่า ทำไมคนอื่นวิ่งได้ แล้วทำไมเราถึงวิ่งไม่ได้ ผอมก็ไม่ได้ผอมซักที น้ำหนักตอนนั้น 92 หน้าบวม ท้องยื่น หาเสื้อใส่ลำบาก ช่วงนั้น ผมได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการวิ่ง ในหลายๆเพจ หลายๆ YouTube ทั้งไทย หรั่ง อีกทั้งเพื่อนที่ทำงาน เพื่อนที่คอนโด ข้อมูลเต็มหัวไปหมด ... แต่จะตัดตอนสำคัญๆมาให้เพื่อนๆที่กำลังอยากจะเริ่มวิ่งคือ - การหายใจ - สมาธิ - ท่วงท่า จังหวะการวิ่ง.... 3 สิ่งนี้ถ้าคุณมีระเบียบวินัยในการฝึก ยังไงๆก็จบ เอาละได้คีย์มาไม่ยากเท่าการฝึกหรอก กระตุ้นตัวเองซะหน่อย ซื้อรองเท้าคู่ใหม่มันซะเลย #คู่ 2 มาล่ะจร้า Asic dynaflyte 2 วิ่งอยู่ซักเดือนได้ ขายทิ้งเพราะมันบีบเท้าเหลือเกิน เราเป็นคนหน้าเท้ากว้าง วิ่งนานพื้นร้อน ผมหยุดไป 1 สัปดาห์เพื่อหารองเท้าที่น่าจะเหมาะกับตัวเอง จนมาได้คู่นี้ครับ Brook Ghost 10 สเตป ท่วงท่าผมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆฝึก Zone 2 (ไม่ขออธิบายนะครับ ใน Google มีเยอะ) ผมเริ่มหาเพลงมาฟังเพื่อวิ่งให้เข้ากับจังหวะเพลง เริ่มไม่สนคนอื่นจะวิ่งเร็วแค่ไหน สุดท้ายผมก็ค้นพบว่า การวิ่งเราไม่ได้แข่งกับใคร การวิ่งที่มีความสุขที่สุด มันคือการวิ่งอยู่ในใจตัวคุณเอง ท่วงท่าที่ดีที่สุดคือท่วงท่าที่เราวิ่งแล้วสบายที่สุด ร่างกายจะจัดระเบียบตัวคุณเอง ให้วิ่งสบายที่สุด เมื่อคุณได้แล้ว #จำไว้ ฝึกท่านั้นแหละ ฝึกไปเรื่อยๆ สุดท้ายรองเท้าขาด บ้าที่สุด อุตส่าห์ฝึกคู่นี้เพื่อที่จะไป Amazing Thailand Marathon มาขาดก่อนงานจะเริ่มประมาณเดือนนึงได้ เลยเข้าไปดูในเวป runrepeat เจอ Altra escanlante racer มีคนรีวิวแง่บวกเยอะมา ก็จัดไปเลย Altra encanlante Racer Newyork ก็รู้นะว่ามันคือ Drop 0 ก็เลยต้องมาฝึกกันใหม่ ฝึกได้ 2 สัปดาห์ มา long run เข้าไปทีเดียวเท่านั้นแหละ รองช้ำมาเลย แต่ก็มาซ้อมจนชินนะครับ แต่สุดท้ายสำหรับ Marathon แรกที่ผมเลือกคือ Nike Vaporfly 4% เพราะไปเดินเจอที่ฮ่องกง เลยเอามา มี Drama ตอนแข่งนิดหน่อย เดี๋ยวช่วงแข่งเล่าให้ฟังครับ #รายการแรกที่ขอ license คุณแม่บ้านให้ไปวิ่ง แต่ไม่ได้วิ่ง# Amazing Thailand Marathon 2019 เป็นงานที่ผมเตรียมพร้อมมากๆ สำหรับ การเปิดตัววิ่งรายการแรก ไม่เคยวิ่งรายการที่ไหนมาก่อนเลย ลงครั้งแรกก็มาราธอนเลย สาเหตุว่าทำไมถึงไม่ลงมินิ ลงฮาฟก่อนเลย เนื่องจากว่า คุณแม่บ้านไม่อินเนอร์กับสิ่งนี้เลย ต้องทำเรื่องขอใบอนุญาติ สมัครเรียบร้อย ซ้อมมาพร้อมมากๆ แต่ในตอนนั้นกรุงเทพมีปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 ผลคือ #โดนยึดใบอนุญาติไปเฉยๆ ฮ่าๆๆ ทั้งๆที่วันวิ่งไม่มีฝุ่น เศร้าใจ เคลียร์กันอยู่คืนกว่าๆ คือเราบอกไปว่า เราตั้งใจ เราอยากจะพิสูจน์ตัวเอง ว่าเราก็ทำได้ เราฝึกวิ่งมาเป็นปี ฝึกเข้าโปรแกรมมาราธอน ที่ผมออกแบบเอง เกือบ 40 สัปดาห์ก็เพื่อสิ่งนี้ *** สรุปคือ ได้ license คืนมาจ้าาาาา... *** แต่จะรอปีหน้าคงไม่ไหว ก็หาข้อมูลเลย ตั้งแต่ มีนายันปลายปี มีรายการมาราธอนไหนบ้าง โดยที่เลือกต้องเป็นต่างจังหวัดทั้งหมด เพราะเข็ดอีฝุ่นพิษนี่แหละ ก่อนที่จะได้รายการแรกลงแข่งขัน ขอคั่นด้วยการฝึกแบบกะทัดรัดหน่อยละกันนะครับ ผมซ้อมแบบไหนบ้าง ลองไปดูใน Excel นะครับ ผมแนบลิ้งค์ไว้ให้ด้วย ลองไปโหลดดูครับ ซึ่งการฝึกจะซ้ำๆกันทุกสัปดาห์คือ ภายใน 7 วัน - แรกๆควรต้องมี Z2 อย่างต่ำ 2 วัน หลายวันไม่ไหว เหนื่อยและเมื่อย - Tempo 1 วัน - วิ่งสบายๆอีก 1 วัน - บางสัปดาห์ แทรก Fartlek 1 วัน แทน Tempo - Interval ซ้อมน้อยมากๆ คนที่อยากวิ่งเร็วควรซ้อม แต่ผมแค่อยากจบ Full เลยซ้อมน้อยมาก - Long run อันนี้สำคัญ ต้องซ้อมอย่างน้อยเดือนละครั้ง สำหรับผมคำว่า long run ควรเกิน 25 Km เป็นต้นไป แต่ผมซ้อมสูงสุดแค่ 33 Km ครับ ที่เหลือไปวัดดวงเอา - หลังๆซ้อมวิ่งขึ้นตึกลานจอดรถคอนโดบ้าง - อันนี้สำคัญกว่า Long run คือการ "พัก" ผมพัก 2 - 3 วันต่อสัปดาห์ครับ น่าจะมีแค่นี้ครับ สำหรับการฝึกของผม.....แทรกและออกแบบตารางกันเอาเองนะครับ ผมว่าตารางผมชิลๆนะ มีบางสัปดาห์ไปเที่ยวก็หยุดไปเลยก็มี บางสัปดาห์ก็เข้มข้นอยู่ ลองไปปรับกันดูครับ https://www.mediafire.com/file/wkucq789rj08pgq/way_to_marathon.xlsx/file ท่านใด Download ไม่ได้ก็ Inbox หรือ Message มาหาที่เพจผมก็ได้ครับ https://www.facebook.com/littleduckinthefog *** Laguna Phuket Marathon *** ทำไมผมถึงเลือกที่นี่ เนื่องจากว่า ภูเก็ตเป็นเกาะมีทะเลล้อมรอบเกือบทั้งหมด อากาศน่าจะดี ลมน่าจะมี ถ้าโชคดีฝนคงจะตก โดยส่วนตัวผมเป็นนักวิ่งแพ้แดด ถ้าแดดออกคือ จบ วิ่งไม่ไหวครับ แรงไม่มีเลยจริงๆ แต่วันไหนถ้าฝนตกนะครับ โหย.. หัวใจต่ำมาก วิ่งเท่าไหร่ก็ไม่เหนื่อย เอาล่ะ สมัครเลย... *** Laguna Phuket Marathon 2019 *** เอาล่ะ !! ในที่สุดก็มาถึงวันวิ่งเสียที ผมเลือกพักที่ Cassia Phuket ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใกล้และถูกที่สุดในระแวกนั้น ออกจากโรงแรมก็เดินไป 200 เมตรก็ถึงงานละครับ เดี๋ยวลงคลิปบรรยากาศ ทั้งเที่ยว ทั้งวิ่ง ทั้งกิน และห้องพักมาให้ชมช่วงท้ายนะครับ 03:15 เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นแล้วจ้า.... เมื่อคืนหลับตอน 22:30 เห็นจะได้ 03:45 อาบน้ำ - แต่งตัวเสร็จพอดีจ้า ปลุกเร้าอารมณ์ตัวเองในกระจกนิดหน่อย แต่เสียงดังไม่ได้เดี๋ยวคุณแม่บ้านด่า ฮ่าๆๆ 04:00 เดินจากโรงแรม 200 เมตรก็ถึงบริเวณที่จัดงานครับ และก็ Warm up 20 นาทีครับ แล้วก็เดินเข้า Block เลยครับ Block ของผมคือ Block E ครับ แต่เห็น Block D ว่างๆอยู่ ผมเลยเดินเลาะๆไป Block D ช่วงท้ายๆ กะว่าช่วงแรกจะใส่ Pace 6 ก่อนเลย ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดและท้อแท้มาก ฮ่าๆๆ 04:30 เริ่ม Start ที่จุดปล่อยตัวครับ และฝนก็โปรยปรายมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีครับ ผมคนชอบวิ่งฝ่าฝน เย็นสบายมากๆ Km 1. ออกตัวกันเร็วทุกคนเลย อิ๊บอ๋าย ไม่เคยวิ่งงานไหนเลย ก็ออกตัวเร็วกันแบบนี้ทุกคนเลยเหรอนี่ เคยแต่ซ้อมอย่างเดียว เลยต้องเข้าขอบซ้ายเลยครับ ให้คนอื่นที่วิ่งเร็วเค้าไปกันก่อน Km 2 - 5. เอาจริงๆนะ ตอนนั้นคิดว่าคงจะมีใครซักคนผ่อนแรงลงมา และเราก็แซงขึ้นไป ขออ้างถึงตอนซ้อมหน่อยครับ เวลาผมซ้อม ผมจะมองหาคนข้างหน้าที่เดิน หรือวิ่งช้าๆ แล้วกำหนดว่าเราต้องวิ่งไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดให้ถึงคนข้างหน้า แต่ตอนนี้เป้าหมายเคลื่อนที่ตลอดเวลา อิ๊บอ๋ายสิ แถมคนข้างหลังก็แซงขึ้นมาเรื่อยๆอีก Km 5 - 10. จริงๆแล้ววิ่งตามแผนที่ตัวเองซ้อมมาตลอดคือ 10 โลแรก Pace 7 แต่ด้วยความที่ว่าโดนแซงไปเรื่อยๆคนแล้วคนเล่า ขนาดคุณพี่ฝรั่งใส่ชุดไดโนเสาร์ดูวิ่งไม่ค่อยถนัด ก็ยังวิ่งแซง #กำลังใจเริ่มเสีย นี่ตรูตกไปอยู่ท้ายสุดรึยังวะ กลัวมากๆเพราะมันจะส่งผลไปถึง กิโลต่อๆไปเป็นอย่างมาก ตั้งแต่โลที่ 1 ถึง 10 นี้ผมไม่มองข้างหลังเลย กลัวจะมองไปแล้วไม่เหลือใคร ฮ่าๆๆ โดยรวมของทางทั้งหมด ส่วนตัวผมว่าโค้งลาดเอียงเยอะ ทำให้รองเท้าที่ผมใส่ กับ การลงเท้าไม่ค่อยสัมพันธ์กันเลย (ตอนซ้อมไม่มีแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าต้องมาวิ่งแบบนี้ด้วย) การลงเท้ารู้สึกได้ว่าผิดปรกติ แต่ก็ยั้งๆฝืนๆเอาไว้ ตรงนี้เป็นส่วนนึงที่ทำให้รู้สึกว่า เท้าขวาเริ่มจะพอง.....แต่ยังไม่ได้คิดอะไร ### อยู่กับตัวเอง เป็นสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจ ถูกต้อง ### Km 10 - 12. เนินล้วนๆ มองไม่เห็นหรอกว่ามันคือเนิน แต่มันรู้สึกได้ ผมตัดสินใจว่า ผมจะไม่สนใจใครทั้งนั้น ผมจะวิ่งเพื่อตัวเอง วิ่งเพื่อแรงกายแรงใจ ที่ผมฝึกและเตรียมตัวมา ให้เกียรติและมั่นใจตัวเอง ว่าตัวเองก็ทำได้ ช่วงกิโลนี้สมาธิผมเริ่มแน่นขึ้น สายตาที่มองไปข้างหน้า ผมไม่ได้มองคนวิ่งเลย ผมมองเสาไฟฟ้า ป้ายไฟ เป็นตัวกำหนดว่าจะวิ่งไปเรื่อยๆให้ถึงตรงนั้นตรงนี้ บวกกับ ชื่นชมแสงธรรมชาติของพระอาทิตย์ใกล้จะลืมตาขึ้นมา Km. 12 - 15 นี่คือ Km. ที่ผมเริ่มจะแซงคนอื่นเป็นคนแรก แต่ผมไม่ได้สนอะไรตรงนั้นแล้ว เพราะผมเริ่มมีสมาธิมากขึ้นเรื่อยๆ สนใจทุ่งนาป่าเขา บ้านเรือน มองนู้นนี่นั่น รู้สึกว่ามีความสุขที่ได้มาวิ่งที่นี่มากๆ ช่วงๆโลนี้แหละที่เห็นพวก Elite วิ่งสวนกันมาล่ะครับ รู้สึกช่วงนี้จะวิ่งได้ดีขึ้น เหมือนจะวิ่งไปแตะ Pace 6 หลายกิโลอยู่ Km. 15 - 17 นี่คือกิโลเมตรแห่งความทรงจำ ก่อนจะเข้าหาดอะไรซักอย่าง วิ่งไม่ได้สังเกตุชื่อหาดเลย ถ้าให้เดาอาจจะเป็นหาดบางเทารึเปล่าไม่แน่ใจ แผนที่ก็ไม่ได้ดูจะวิ่งไปไหนบ้าง พี่ตูนวิ่งสวนมาว่ะ เฮ้ย!! คนข้างหน้าเค้าก็แตะมือพี่ตูนกัน วิ่งสวนผมมา ผมก็อยู่วิ่งคนเดียว ผมก็แตะมือพี่ตูนบ้าง เฮ้ยมีพลังว่ะ ช่วงนั้นขามันจะเปลี้ยๆนิดหน่อย มี 3 อย่างที่ผมมาวิเคราะห์ดูภายหลังช่วงกิโลนั้นทำให้ผมมีแรงวิ่งไปเรื่อยๆต่อไปคือ 1. ได้แตะมือพี่ตูน 2. เจลมันดีด 3. วิ่งเข้าหาดมันไปทรายกับรากไม้ฝอยๆ ทำให้วิ่งได้ง่ายขึ้น Km. 17 - 21.5 Half ละจร้าพอมาถึงจุดกลับตัว รู้สึกตัวช่วงโลที่ 18 - 19 นี่แหละว่าอาการเท้าพองที่สะสมมาตั้งแต่โลที่ 10 กว่ามันเริ่มออกอาการ เพราะคุณ Nike Vaporfly 4% นี่แหละเนื่องจากว่า ใช้คู่นี้ซ้อมน้อยมากๆ เอาจริงๆก็ Long run ครั้งเดียว 33 โลนี่แหละ แล้วเอามาวิ่งลงงานเลย สาเหตุที่ชอบคู่นี้เพราะว่า ผมว่าใส่แล้วมันดีด มันเด้ง และ มัน Support เท้าเราดีแฮะ ชอบสีสดๆด้วย แต่ช่วงกว้างเท้าเรามันใหญ่ รองเท้าช่วงกว้างจะแคบหน่อย การลงเท้าเลยไม่ค่อยถูกจังหวะ เท้าเลยพอง พองโตเลยทีเดียวล่ะ ผมตัดสินใจหยุดตรงจุดให้น้ำที่จุดกลับตัวนั้นแหละ นั่งลงถอดรองเท้าดูอาการ แต่ไม่กล้าถอดถุงเท้าเพราะถ้าถอดแล้วเรารู้สึกเยอะ ใจจะเสีย เอาฟองน้ำเย็นจุ่มน้ำราดเท้าไปเลย จากนั้นก็ราดเท้าที่พองไปเรื่อยๆทุกจุดให้น้ำ Km. 21.5 - 25 ความทรมานจากเท้าพองก็ยังไม่หาย โรคใหม่ก็ยังเข้ามาแทรก คือ ITB ที่หน้าขาซ้าย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเนินล้วนๆ เนินไม่เกรงใจตรูเลย หลังจากนี้ผมตั้งใจเลยว่าถ้าเจอเนินต้องเดิน ถ้าฝืนวิ่ง ผมว่าผมคงไม่จบแน่นอน ทำเหมือนเดิม จุดให้น้ำก็เอาน้ำเย็นมาราดตรงหน้าขาที่เจ็บนั่นแหละ Km. 25 - 27 ITB ขาซ้ายไม่พอ ตรงเข่าซ้ายก็มาอีก ผมตัดสินใจหยุดอีกครั้งเพื่อยืดตามคลิปที่เคยดูหมอเมย์ใน Youtube บอกไว้ ช่วยได้เยอะเลยจริงๆครับ ### อยู่กับเพลง ### Km. 27 - 30 หลังจากที่เราอยู่กับตัวเองมา 30 กิโลเมตรละ เริ่มกิโลเมตรที่ 30 นี้มันเป็นช่วงกิโลเมตรที่ซ้อมมาถึงประมาณนี้แหละ ก็ไม่ได้คิดอะไรนะ อาการบาดเจ็บก็ประคองไปตามอาการ เหนื่อยมั้ย ไม่รู้สิรู้สึกว่าตัวเองยังต่อได้ อากาศดี สู้ไหวแน่นอน แต่มันรู้สึกว่าใจมันหมด อธิบายยังไงดี ฮ่าๆๆ คือ ซ้อมมาสูงสุดระยะแค่นี้อ่ะ ใจมันคิดว่าอีก 12 โลจะถึงป่าววะ เคล็ดลับทีเด็ดไม้ตายที่ผมพกมาด้วย และคิดไม่ผิดคือ หยิบ Ipod มาเลยจ้า เสียบหูฟัง ฟังเพลงให้จังหวะลงเท้าเป็นไปตามจังหวะเพลง ช่วยได้ดีมากๆเลยครับ ส่วนเพลงที่ผมใช้คัดมาเน้นๆทั้งนั้นเพื่อใช้ในการวิ่งตามได้เลย - Stereo Hearts ( Maroon 5 ) - Love the Way You Lie ( Eminem ) - อยู่ต่อเลยได้ไหม (สิงโต นำโชค) - วัดใจ (Silly Fool) - แสงสุดท้าย (Body Slam) จังหวะไม่ได้ แต่ใจมันได้ ฮ่าๆๆ - กระเป๋าแบนแฟนยิ้ม (Richman toy) - XXX เพลงแรพนี้เนื้อหาสุ่มเสียง มีประเด็นในสังคม แต่ผมค่อนข้างจะชอบจังหวะมากๆ ไม่ได้ฟังเนื้อเพลง แต่จังหวะมันฮึกเหิม ในการลงเท้ามากๆ เพลงนี้ Pace 6 สวยๆเลย ### อยู่กับบุญและกรรมที่ฝึกฝนที่กระทำมา ### Km. 30 - 37 ผมอยู่กับเพลงมาได้ 7 กิโลเมตรแต่เนื่องจากว่า อาการบาดเจ็บที่รุงรังมาตั้งแต่กิโลเมตรที่ 21 มันรุมเร้ามาอยู่ที่กิโลเมตรนี้ทั้งหมด ถ้าถามถึงปีศาจ Hit the wall ก็น่าจะตรงนี้แหละ ถามว่าวิ่งออกไหม วิ่งออกนะแต่ว่าอาการบาดเจ็บมันทนมาสุดๆแล้วแหละ ร่างกายคงบอกว่า กูไหวแค่นี้แล้วล่ะ วิ่งซัก 100 เมตรก็เจ็บอีก ผมตัดสินใจปิดเพลง แล้วเดินเลยครับ Km. 37 - 39 เนื่องจากมันใกล้เส้นชัยขึ้นเรื่อยๆ ช่างภาพก็จะประจำจุดถี่ อิ๊บอ๋าย คือเข้าใจมั้ย เหนื่อยก็เหนื่อย แต่เห็นกล้องก็ต้องทำท่าวิ่งแบบไม่เจ็บไม่เหนื่อย ซึ่งบ้าบอที่สุด วิ่งไปขำในใจไป ตรูต้องทำถึงขนาดนี้รึ พอเลยกล้องไปก็เดินต่อ พอเจอกล้องก็ต้องทำเป็นวิ่ง ตลกดี Km. 39 - 40 ถึงตอนนี้คิดแล้วว่า ตรูจะร้องไห้มั้ยเมื่อถึงเส้นชัย ตรูจะรู้สึกอย่างไรเมื่อถึงเส้นชัย รายการวิ่งแรก แถมยังเป็น Full Marathon เลยด้วย เจ๋งว่ะ แต่ก็ชะงักอีกครั้งเมื่อร่างกายบอกว่า ก่อนที่จะคิดอะไรเลยเถิด เอาตัวเ มิงงงง ไปให้ถึงก่อนเถอะ เดิน เ มิงงงต้องเดิน อย่าวิ่ง ถ้าวิ่งแล้วเ มิงงง จะเข้าเส้นชัยไม่สวย ไม่รู้ด้วยนะ เอ้าเดินสิเดิน Km. 40 - 41.5 เก็บทุกอย่างอยู่ในใจ กลั้นใจ เปิดเพลงอีก 1 รอบ Random มาเลย แสงสุดท้ายยยยย โค ตร Peak ...อีก 500 เมตร สูดหายใจลึกๆแล้วบอกตัวเองว่า เข้าเส้นสวยๆ พอเห็นหน้าแฟนและครอบครัวมารับก่อนที่จะเข้าเส้นชัย รู้สึกดีมากๆ ไม่คิดว่าจะมาด้วยซ้ำ เพราะก็บอกไปแล้วว่า เค้าไม่ได้อินเนอร์อะไร แต่ก็ยังมารับ ลืมไปเลยว่าท่าเข้าเส้นชัยจะเป็นยังไง อยู่ก็วิ่งผ่านเข้าเส้นมาเลยที่ 5 Hr. 18 Min หันไปดูด้านหลังแล้วแบบว่า ตรูทำได้แล้ว ๆ ไม่ร้องนะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง Km. 0 - 42.195 รับเหรียญรับเสื้อเสร็จ ก็มายืนใต้ต้นไม้ แล้วพูดกับตัวเองว่า เนี่ย 38 สัปดาห์ที่ฝึกฝนกันมา มันก็เพื่อสิ่งนี้แหละ เป็นเครื่องการันตีความมีระเบียบวินัยของเรา ความอดทน บางทีตอนซ้อมเป็นวันที่ไม่อยากวิ่งเลย ขี้เกียจ แต่พอหันไปดูตารางซ้อม ก็กลั้นใจหยิบรองเท้าไปซ้อม มันคือรางวัลแห่งความสำเร็จ สุดยอดจริงๆ สุดท้ายก็ร้องไห้โฮ...อยู่ 5 วินาที ฮ่าๆๆ คงจะอายคนอื่นมั้งตอนนั้น ร้องไห้คนเดียว ไม่มีใครรู้จัก ฮ่าๆๆ ไม่มีคนปลอบ หยุดร้องดีกว่า เดินหน้าต่อไป และที่บอกว่า มาราธอนนี้อาจจะเป็นมาราธอนสุดท้าย ก็ไม่รู้จะเป็นจริงหรือเปล่า ด้วยเหตุผลที่ว่า - คุณแม่บ้านไม่อยากให้วิ่งเยอะแบบนี้ ( license Expire ) ไม่ต่อเพิ่ม ฮ่าๆๆ - ผมก็ไม่อยากบีบตัวเอง ให้ซ้อมเยอะแบบนี้อีกแล้ว มีเวลาให้กับครอบครัวน้อยมาก - ผมว่ามาราธอนในเมืองไทย ผมไม่เหมาะเลย เพราะมันร้อนสำหรับผมจริงๆ ถึงจะปล่อยตัวตี 3 ตี 4 ก็ตาม - เป้าหมายจบมาราธอนสำเร็จแล้ว จริงๆมีเป้าหมายใหม่แล้วล่ะ คิดออกตอนกิโลเมตรที่ 21.5 ช่วงจุดกลับตัวนั่นแหละ - เป้าหมายใหม่คือ อยากจะวิ่ง Half Marathon ให้จบก่อน 2:15 จริงๆอยากจะได้ Sub 2 แต่กลัวจะกดดันตัวเองเกินไป จนไม่มีเวลาให้กับครอบครัวอีก เนื่องจากว่าสถิตตอนซ้อมฮาฟของผมคือ 2:40 แต่วิ่งจริงในรายการนี้ 2:30 แต่ก็ต้องแอบเก็บแรงไว้อีก 21 กิโลเพื่อให้จบมาราธอน จึงคิดว่าถ้าใส่เต็มแมกซ์ 2:15 น่าจะได้มั้ย นั่งคิดตอนเท้าพองนั่นแหละ ฮ่าๆๆ อีกอย่างมีทีเด็ดคือ การที่จะได้ license จากแม่บ้านไปวิ่ง Half Marathon น่าจะง่ายกว่า Full เพราะว่า วิ่งเสร็จคุณแม่บ้านก็น่าจะยังไม่ตื่น อิอิ น่าจะได้ๆ ### เรื่องอุปกรณ์การวิ่งตั้งแต่หัวจรดเท้า ### - หัวไม่มีอ่ะ มีผ้าบัฟพันข้อมือไว้ผืนเดียวเพื่อแดดออก แต่วันวิ่งฝนตกตลอดไม่ได้ใช้ - ครีมกันแดด คุณแม่บ้านเตรียมให้ สุดท้ายฝนตก เหนอะกันเลยทีเดียว - เสื้อ Uniqlo Dry-ex กางเกง H&M Running มีกระเป๋าให้ใส่ Gopro ได้ด้วย ชอบตรงนี้แหละ อิอิ - นาฬิกา FR235 Garmin, ถุงเท้า Nike Cushion, รองเท้า Nike Vaporfly 4% ผมวิ่งเพราะ "ผมวิ่งแล้วมีความสุข" แค่นี้เป็นเหตุผลที่คุณพร้อมจะออกมาออกกำลังกายกันรึยังครับ ไม่จำเป็นต้องวิ่งก็ได้ครับ หาสิ่งที่ชอบให้เจอ แล้วทำมันครับ เราจะมีความสุขในสิ่งที่ทำ.... ขอขอบคุณ คุณแม่บ้านสุดที่รัก ที่อนุญาติให้ฝึกวิ่ง และ ร่วมรายการวิ่งครั้งแรก , ขอบคุณ น้องนัทที่ทำงานเก่าที่สร้างแรงกระตุ้นและให้ความรู้เรื่องวิ่งตั้งแต่เริ่มวิ่งยันจบ Full Marathon แรก, ขอบคุณคนที่ไม่รู้จักชื่อที่คอนโดผมเอง แกบอกผมเรื่องฝึกลมหายใจและการ Warm up down, ขอบคุณหลายๆเพจเลย พี่หนุ่ม Runner Journey พี่บุ๊ย Running Insider เพจพี่ป๊อก 3 เพจหลักๆนี้ผมเสพข้อมูลจาก Page พวกนี้แหละครับ, Youtube ก็ต้องครูดิน พี่ต้น หมอเมย์ ดูซ้ำๆไปเรื่อยๆ ดูจนเมียด่า ฮ่าๆๆ ซ้ำไปซ้ำมาหลายๆรอบเพื่อศึกษาการยืดเหยียด วิ่งอย่างไรไม่ให้เจ็บ เทคนิควิ่งมาราธอน เพียบเลย และอีกหลายๆท่านที่ไม่เอ่ย ขอขอบคุณจากใจจริงๆครับ เวลาที่ใช้ในการวิ่ง Marathon ของผมแต่ละช่วงเวลา https://www.sportstats.asia/display-results.xhtml?raceid=103958&status=results&bib=1727 บรรยากาศงานทั้งหมดของ Laguna Phuket Marathon บางช่วงอาจจะขาดๆหายๆไปบ้างเพราะ ก็เหนื่อยนิ บางช่วงก็วิ่งมันส์ ลืมหยิบกล้องมาถ่าย สุดท้ายครับ ถึงคนที่อ่านมาถึงท้ายสุด ฝากเพจของผมหน่อยละกันนะครับ Share เรื่อง กิน เรื่อง เที่ยว ไม่มีออกกำลังกายนะครับ ฮ่าๆๆ https://www.facebook.com/littleduckinthefog สำหรับ Youtube Channel : Ekka Act Journey https://www.youtube.com/user/oooBlackboodooo/videos?view_as=subscriber ครับ ส่วนเพจวิ่งไปดูเพจพี่หนุ่ม Runners Journey ไปละกันครับฮ่าๆๆ กับพี่บุ๊ย Running Insider ไปครับ |
I am a Runner
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] |