"ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันถูกต้องอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด (หลวงพ่อชา สุภัทโท)"
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
25 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
กำเนิดพู่กันของไทย



นายสง่า มยุระ เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๒ ที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ศึกษาวิชาสามัญที่โรงเรียนวัดสัปรสเทศ พร้อมกับฝึกวิชาวาดเขียนมาตั้งแต่เด็กกับอาจารย์อู๋ ที่วัดมะนาว อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ต่อมาได้มาอยู่กับอาจารย์ม้วนที่วัดสุวรรณาราม คลองบางกอกน้อยธนบุรี จึงได้มีโอกาสเรียนวาดเขียนกับครูสอิ้งที่อยู่ข้างวัดนั้น ครูสอิ้งพาไปช่วยเขียนลายรดน้ำที่หน้าต่างพระวิหารวัดพระเชตุพนฯ ต่อมาได้ไปสมัครทำงานเขียนพานแว่นฟ้ากับคุณผิน และเขียนตู้พระมาลัยที่วัดมหาธาตุ

สง่า มยุระ ได้รู้จักกับหลวงเจนจิตรยง ช่างเขียนอันลือชื่อในสมัยนั้น ท่านชวนให้ไปช่วยเขียนลายบนโถกะยาคู โดยเอาฟักทองมากลึงให้เหมือนโถและจะต้องให้เสร็จในวันเดียว มิฉะนั้นฟักทองจะเหี่ยว ทั้งสองท่านช่วยกันเขียนจนเสร็จ หลวงเจนจิตรยงชมฝีมือว่าดี จึงชวนให้ไปช่วยเขียนที่วัดสุวรรณคีรีในคลองบางกอกน้อย โดยมอบหมายให้เขียนลายรดน้ำที่บานประตูหน้าต่างโบสถ์ ตอนนั้นหลวงเจนฯ ท่านชราภาพมาก เมื่อเห็นว่าเขาทำงานแข็งดีจึงมอบหมายให้เขียนทั้งหมด นายสง่าต้องใช้เวลาเขียนถึงสี่เดือนจึงเสร็จ

ต่อมา ได้รับเหมาเขียนพานแว่นฟ้าและตู้พระมาลัยให้นายอู๊ด ช่างหล่อ และส่งขายที่ร้านแถวเสาชิงช้า ระยะนี้ต้องทำงานหนักมาก โดยเริ่มลงมือทำการเขียนตั้งแต่เช้าตลอดไปจนดึกดื่นจึงวางมือ เมื่อเขาอายุครบบวช มารดาจึงจัดการบวชให้ โดยจำพรรษาที่วัดสุวรรณารามธนบุรี ในระยะ ที่บวชสองพรรษานั้น นายสง่าได้มีโอกาสเข้าไปเขียนภาพรามเกียรติ์ที่พระระเบียงวัตพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเทวาภินิมมิต (ฉาย เทียมศิลป์ไชย) เป็นผู้อำนวยการเขียนภาพที่นั่น เขาได้ฝากฝีมือไว้บนผนังพระระเบียงอันเป็นที่ยกย่องกันมาก

หลังจากลาสิกขาแล้วก็มาตั้งร้านขายเครื่องดื่มที่หลังโรงพยาบาลศิริราช โดยให้บิดาเป็นผู้ขาย ส่วนตนเองไปทำงานประจำที่ร้านคณะช่าง อันเป็นร้านช่างเขียนรับงานเขียนต่าง ๆ และทำบล็อกด้วย ทำงานอยู่ร้านคณะช่างได้สองปีก็ลาออก และไปทำงานที่โรงพิมพ์บุญครองสง่า สมรสเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๙ แล้วเลยคิดว่าจะตั้งตนด้วยการทำพู่กันขาย เขาพากเพียรแก้ไขดัดแปลงพู่กันจนดีได้ระดับมาตรฐาน กิจการของเขาดำเนินมาด้วยดี นับว่าเป็นโรงงานทำพู่กันแห่งแรกของเมืองไทย

เนื่อง จาก สง่า มยุระ ได้เคยร่วมงานเขียนภาพที่พระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดารามกับพระเทวาภินิมมิต ซึ่งคุณพระก็ได้ช่วยแก้ไขติชมให้ตลอด เขาจึงมีความเคารพและนับถือคุณพระเป็นครูตลอดมา สมัยต่อมาเมื่อภาพเขียนที่วัดพระแก้วเกิดชำรุดเสียหายมาก แม้ว่าเขาจะชราภาพมากก็ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเขียนซ่อม บางห้องก็เขียนใหม่ทั้งหมดจนสำเร็จ ผลงาน ของ สง่า มยุระ มีอยู่หลายแห่ง

เช่น ออกแบบลวดลายตกแต่งหน้าบัน ซุ้มประตูหน้าต่างให้พระอุโบสถวัดราชบูรณะ เชิงสะพานพุทธ ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ และยังออกแบบให้วัดสัตหีบและวัดกอไผ่ที่อยุธยาเป็นต้น ระยะหลังนี้เขามีฐานะมั่นคงร่ำรวยจากกิจการค้าโรงงานทำพู่กัน เขาจึงช่วยทำงานแก่พระพุทธศาสนาโดยไม่รับเงินค่าจ้างเลย บางครั้งถ้าทางวัดขาดแคลนเงินก็ยังช่วยทำบุญร่วมด้วย สง่า มยุระ ถึงแก่กรรมวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๑ นับว่าเขาเป็นจิตรกรรุ่นเก่าที่มีอาชีพเป็นจิตรกรมาตลอด และตั้งตัวได้ด้วยความพากเพียร ละด้วยฝีมือโดยแท้




เรื่องราวของศิลปินชั้นครูผู้ผลิตผู้กันสง่า มยุระ ที่เคยใช้กันเกือบทุกคนก็ว่าได้ ไปเจอบทความที่ อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต ท่านกล่าวถึงครูท่านนี้เอามาเล่าให้ฟังครับ
"เรื่องคุณลุงสง่า มยุระกับการซ่อมพระระเบียงวัดพระแก้ว"
คุณลุงสง่า มยุระ เป็นช่างเขียนรุ่นแรกๆที่ได้รับเชิญมาเขียนซ่อม ภาพระเบียงวัดพระแก้ว ในการอนุรักษ์ครั้งใหญ่นี้ เนื่องจากช่างรุ่นแรกเป็นช่างที่เคยเขียนซ่อมมาแล้วเมื่อครั้งฉลองพระนครครบ ๑๕๐ ปี
ในสมัยรัชกาลที่ ๗ จึงได้ถูกเชิญมาเขียนซ่อมอีกในรัชกาลที่๙ นี้ช่างเขียนรุ่นแรกเป็นช่างเขียนอาวุโสอยู่ในวัยหกสิบกว่าปีขึ้นไปทั้งนั้น ส่วนช่างรุ่นสองคือรุ่นข้าพเจ้า ต้องมีการสอบฝีมือดูความสามารถเสียก่อน

ก่อนที่จะไดรับความไว้วางใจเข้าไปซ่อม การสอบฝีมือใช้เวลา ๓ วัน ณ โรงเรียนช่างศิลปโดยคณะกรรมการกำหนดให้เขียนรูปกระบี่ลงสี ปิดทองและมีฉากหลังในการสอบรุ่นสองมีผู้มาสมัคร๓๐คนคัดออกเหลือเพียง ๙ คน ข้าพเจ้าได้พบกับคุณลุงสง่า ในตอนนี้ เนื่องจากห้องที่เขียนอยู่ติดกัน คือข้าพเจ้าเขียนห้อง ๑๕๙และ๑๖๐ ลุงสง่าเขียนห้อง๑๖๑ เรื่องรามเกียรติ์มีกี่ร้อยห้องไม่ทราบแต่ห้องที่ข้าพเจ้าและคุณลุงสง่าเขียน เป็นตอนปลายของเรื่องรามเกียรติ์แล้ว คือข้าพเจ้าเขียนตอนนางสีดาถูกขับ พระอินทร์แปลงเป็นควาย นำนางสีดาไปอยู่กับฤาษี กระทั่งนางสีดากำเนิดพระบุตร ส่วนคุณลุงสง่าเขียนตอนปล่อยม้าอุปการ การซ่อมภาพเขียนแต่ละห้องมีวิธีการไม่เหมือนกัน ห้องของคุณลุงสง่าและข้าพเจ้าเป็นห้องที่ทรุดโทรมมาก ภาพเก่ากระเทาะหลุดหมดหาเค้าเดิมไม่พบ

จึงต้องเขียนขึ้นใหม่จัดองค์ประกอบและตัวภาพใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่เขียนซ่อม คณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนดราคาในการเขียนซ่อมห้องแต่ละห้องซึ่งราคาไม่เท่ากัน โดยกำหนดก่อนที่จะลงมือเขียน เนื่องจากข้าพเจ้าเป็นผู้อ่อนอาวุโสที่สุด ที่สนิทคุ้นเคยกันนอกจากลุงสง่าแล้วยังมีลุงโหมด ว่องสวัสดิ์ คุณลุงสงวน รักมิตร คุณลุงด่วน สังข์ทองเล็ก ลุงสง่า มยุระจะใช้เวลาเขียนภาพๆหนึ่งนานมากคือเริ่มเขียนก่อนข้าพเจ้าเข้ามาหลายเดือนแต่เขียนเสร็จในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ช่างเขียนเมื่อมาทำงานต้องเซ็นชื่อไว้เป็นหลักฐานที่กองอนุรักษ์ ช่างเขียนมีสิทธิเบิกเครื่องเขียน สีฝุ่น กาว ทองคำเปลว ยางมะเดื่อที่ใช้ปิดทอง พู่กันได้จากกองอนุรักษ์




คุณลุงสง่า จะมาที่ผนังตอนเช้าประมาณ ๙ โมง เพราะบ้านท่านอยู่ใกล้วัดพระแก้วข้ามเรือที่ท่าวังหลังมาท่าช้าง มีน้อยครั้งที่จะมาตอนบ่ายพอถึงเวลาพักเที่ยง คุณลุงสง่าจะเดินออกไปทานอาหารข้างนอกตกบ่ายก็จะมาเขียนรูปที่ฝนังต่อ ถ้าอากาศร้อนคุณลุงสง่าก็จะถอดเสื้อเชิ๊ตออก เหลือแต่เสื้อกล้ามนั่งทำงานอย่างกระปี้กระเปร่า เพราะนั่งร้านอยู่ติดกับกับคุณลุงสง่าได้เห็นวิธีการทำงานอันปราณีต ล้างพุ่กันอย่างพิถีพิถันทุกครั้งที่เสร็จงาน

ไม่ปล่อยพู่กันเลอะสีไว้จนแห้งเเข็ง ไม่แช่ผู้กันทิ้งไว้ค้างคืนจนปลายงอ ช่างเขียนภาพผนังในสมัยรัตนโกสินทร์มักจะร่างภาพตัวละครทั้งหมดด้วยหมึกจีน แล้วลงพื้นฉากหลังกลบตัวละครทั้งฝืน จึงค่อยเขียนสีและตัดเส้นตัวละครที่ร่างไว้ ตั้งแต่ตอนต้น โดยหมึกจีนที่ร่างไว้จะขึ้นมาให้เห็นพอลางๆ แต่ลุงสง่าท่านร่างภาพด้วยดินสอดำบ้าง ชอล์กบ้าง ลงไปบนผนังขาวๆ แล้วระบายสีเสร็จไปเป็นส่วนๆ จากบนลงล่างตามลำดับโดยระบายสีท้องฟ้าจนเสร็จแล้วมาระบายสีราชวังเว้นตัวละครเป็นสีขาวของพื้นผนัง

ภาพร่างตัวละครนั้นลุงสง่าร่างไว้อย่างละเอียดทุกสัดส่วนโดยร่างบนกระดาษและลอกลงบนผนังอีกที เมื่อเขียนฉากหลังเรียบร้อยจึงเริ่มลงสีตัวละคร ระบายสีตัวและเครื่องนุ่งห่มก่อน แล้วใช้รงระบายส่วนที่เป็นชฎาและเครื่องประดับแล้วจึงทายางมะเดื่อทับรง เพื่อปิดทอง ตัดเส้นในขั้นต่อไป ในการเขียนภาพคุณลุงสง่าใช้ไม้ยาวเป็นสะพานรองมือทุกครั้งไม่เคยใช้มือทาบกับผิวผนังเลยด้วยเกรงว่าเส้นสีแดงที่ตัดลงไปบนทองจะติดเหงื่อมือขึ้นมา

ตลอดเวลาหลายเดือนที่ทำงานอยู่ใกล้กันที่วัดพระแก้วคุณลุงสง่า มักเล่าถึงชีวิตการทำงานเป็นช่างเขียน การทำพู่กัน "สง่า มยุระ " อันลือชื่อของท่าน เมื่อคุณลุงสง่า มยุระเขียนฝนังของท่านเสร็จ ท่านนำเงินค่าเขียนภาพทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ฟังเรื่องเล่าถึงการทำงานของครูสง่า มยุระแล้วคงต้องดูผลงานของท่านต้องยอมรับว่าท่านมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบมากลองดูผลงานของท่านทีละชิ้นครับ บางภาพอาจไม่ชัดบ้าง เนื่องจากระบบการพิมพ์ในสมัยก่อนครับ




ขอบคุณข้อมูลจาก วิชาการ.คอม(เรือนไทย) อยากทราบละเอียดมากกว่านี้เชิญเข้าไปที่เวปวิชาการ.คอม เลือกหน้าเรือนไทยครับ ขอบคุณเสียงเพลงที่ไม่ทำให้บล็อคเงียบเหงา นำมาจากบ้านป้ามดคนมีน้ำใจของชาวบล็อคแก๊งค์ครับ




Create Date : 25 พฤษภาคม 2553
Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 9:15:51 น. 15 comments
Counter : 2600 Pageviews.

 
ภาพวาดของคุณสง่าสวยจัง..
รายละเอียดเยอะเชียว

เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว
รายการกบนอกกะลาก็พาไปดูวิธีทำพู่กันค่ะ
ทำมาจากขนหูของวัว


โดย: VELEZ วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:59:23 น.  

 
นั่นจิ ลุงก็จำชื่อยี่ห้อพู่กันอันนั้นไม่ได้ หนูจำได้เปล่าครับ


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:35:15 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะลุงกล้วย ขอบคุณข้อมูลเป็นความรู้เคยใช้พู่กันสมัยเด็กๆ ในวิชาวาดเขียนเพิ่งรู้จักหน้าตาของผู้ให้กำิเนิดครั้งนี้เองค่ะ
คุณยายของลุงกล้วยทานยาเก่งจริงๆ นะค่ะ


โดย: kobnon วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:14:56 น.  

 

ชื่อพู่กัน "สง่า มยุระ" หรือเปล่าลุงกล้วย


โดย: อุ้มสี วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:15:15 น.  

 
คุณยายกับลุงกล้วยเหมือนกันครับคุณกบ ลุงกล้วยกินยาลืมเขย่าขวด
ยังกระโดดหลังดื่มเลยครับฮิฮิ

ถูถต้องครับป้าอุ้ม


โดย: ลุงกล้วย วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:56:48 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:49:07 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ


โดย: kobnon วันที่: 27 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:05:17 น.  

 
ได้รู้จักลุงกล้วยจากคุณอุ้มสีเชียวค่ะ
พู่กันยี่ห้อนี้ใช้ดีและทนมากเลยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ นะคะ คุณลุง


โดย: tummydeday วันที่: 31 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:49:15 น.  

 


โดย: พี่รี่+ต๊อก วันที่: 1 มิถุนายน 2553 เวลา:21:22:01 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ
ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมในบล็อคนะคะ
ตอนนี้ยัง งงๆ กะการแต่งบล็อคอยู่เลยค่ะ
ยังงัยจะติดตามอ่าน ลุงกล้วยเรื่อยๆ นะค



โดย: ณ เมืองเบียร์ วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:4:28:50 น.  

 
สวัสดีค่ะลุงกล้วย
แอบมาอ่านเรื่องราวดีๆๆ แหมทำให้ตัวเองตัวฉลาดขึ้นอีกนิด พอจะเล่าให้เพื่อนฟังบ้างได้แล้วค่ะ


โดย: NucH (sa-bye-sa-bye TEAM ) วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:11:14:52 น.  

 


โดย: kobnon วันที่: 5 มิถุนายน 2553 เวลา:7:34:34 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าคะลุงกล้วย อยากเห็นรูปลุงตอนไปภูจังเลย ว่างๆ เอามาให้ชมบ้างนะค่ะ ..แต่ตอนนี้เค้าว่ากัน อายุไม่เกี่ยงนะค่ะภูกระดึง .. แต่เรื่องกระเช้าไม่ดีเลยค่ะลุงไม่อยากให้เพราะ ธรรมชาติจะหายไปซิค่ะ


โดย: NucH (sa-bye-sa-bye TEAM ) วันที่: 7 มิถุนายน 2553 เวลา:8:57:11 น.  

 


โดย: kobnon วันที่: 7 มิถุนายน 2553 เวลา:10:06:57 น.  

 
ในบล๊อกลุงมีเพลงตั้งแต่เมื่อไหรเนี่ย ??


โดย: VELEZ วันที่: 8 มิถุนายน 2553 เวลา:7:09:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลุงกล้วย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




Friends' blogs
[Add ลุงกล้วย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.