โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 

ท่ า ก ลั บ บ น ล ง ล่ า ง Inverted Poses กั บ ล ม ใ น ช่ อ ง ค ล อ ด

สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้ฤกษ์ดีมาเขียนบล็อก Smiley พอดีหมวยได้รับคำถามที่น่าสนใจผ่านมาทางเฟสบุ๊ค เห็นว่าน่าจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนน่าจะเคยประสบมาค่ะ เลยเอามาตอบที่นี่

คำถามมีดังนี้ค่ะ
มีปัญหาเวลาทำท่า Inverse มักจะมีลมออกมาจากช่องคลอด จนคนรอบข้างนึกว่าผายลม  มันเกิดจากสาเหตุอะไร และแก้ได้ไหมคะ

จากคำถามหมวยเองไม่ทันได้ถามต่อว่า มีบุตรหรือยัง แต่คิดว่าผู้หญิงที่ฝึกโยคะจะมีปัญหานี้กัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว

ท่าสราวางคาสนะ ปฏิบัติดังนี้ค่ะ เผื่อคนที่ไม่ทราบนะคะ
Photo Credit: remediespoint.com

ในท่านี้กล้ามเนื้อรอบๆลำตัวที่ปกติจะรับแค่น้ำหนักลำตัวด้านบน  จะเปลี่ยนไปรับน้ำหนักร่างกายส่วนล่างหรือสะโพกให้ขึ้นไปด้านบนให้ได้ ซึ่งลำตัวส่วนบนมีน้ำหนักน้อยกว่าส่วนล่างมาก ถ้าหน้าท้องไม่มีความแข็งแรง หน้าท้องก็จะหย่อนคล้อยลงมา ส่วนของกะบังลมก็จะหย่อนลงมาตาม ทีนี้ในช่องท้องของผุ้หญิงมีช่องค่ะ ช่องที่ว่ามีสองช่องก็คือ ทวารหนัก กับ ช่องคลอด ซึ่งรอบๆช่องทั้งสองจะมีกล้ามเนื้อหูรูดด้วยๆ ซึ่งก็ควรมีความแข็งแรงที่เพียงพอด้วยเพื่อควบคุมการขับถ่าย ทั้งทวารหนักและทวารเบา และเตรียมพร้อมเพื่อการตั้งครรภ์ด้วย (กำลังพยายามอธิบายให้สุภาพอยู่นะเนี่ย มันยากมากๆเลย แฮะ! Smiley )

ทีนี้พอเราอยู่ในของการกลับบนลงล่างแล้ว เช่นนี้

ไม่รู้ว่ามีใครเคยทำการทดลองแบบนี้ในตอนเด็กๆบ้างนะคะ สีเขียวและสีแดงเป็นลูกโป่งที่ครอบไว้กับกระบอกตามรูป ไม่มีอากาศผ่านเข้าและออก ทีนี้ถ้าเราดึงลูกโป่งสีแดงลง จะทำให้ลูกโป่งสีเขียวที่อยู่ด้านในมีการขยายใหญ่ขึ้น ... การทดลองก็ประมาณนี้ค่ะ

ทีนี้ถ้ามาเปรียบเทียบเป็นร่างกายมนุษย์ สมมุติว่าสีเขียวคือช่องคลอด สีแดงคือกะบังลม ถ้าเราทำท่าสราวางคสนะโดยที่กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรงพอก็จะทำให้ไม่สามารถพยุงอวัยวะภายในให้อยู้ในที่ของมันได้เพียงพอก็จะลงมาทับกะบังลมให้ลดลงไปทางด้านศีรษะ ในช่องท้องของคนเราเป็นเหมือนสูญญากาศพออะไรมันพยายามดึงลง ช่องคลอดก็ถูกดึงให้ขยาย ทำให้ลมเข้าไป และพอเราออกจากท่าอาสนะ อวัยวะก็จะตันตัวกลับ ทำให้ไปดันให้ช่องคลอด ลมในช่องคลอดจึงถูกดันออกมา คนก็นึกว่าผายลมค่ะSmiley (แต่ถ้าเขารู้ว่าลมออกจากช่องคลอด หมวยว่าน่าจะฟังประหลาดๆกว่านะคะ) ซึ่งอาจจะเกิดอย่างนี้ได้เช่นกันกับช่องทวารหนัก แต่ช่องทวารหนักมีหูรูดที่แข็งแรงกว่าและมีหูรูดอยู่สองชั้น และก็อาจจะไม่ได้โล่งๆว่างๆเหมือนช่องคลอด จึงทำให้เกิดได้น้อยกว่าค่ะ

ในกรณีเช่นนี้ ควรจะฝึกท่าที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อลำตัว หรือที่เรียกว่า Core Muscles และกล้ามเนื้อบริเวณฝีเย็บที่เราเรียกว่า Pelvic Floor ค่ะอาจจะด้วยการขมิบค่ะ

เวลาเข้าท่าอาสนะก็ควรจะเกร็งกล้ามเนื้อไว้บ้างหรือมีการขมิบไว้บ้าง เพื่อไม่ให้ลมเล็ดลอดเข้าไปค่ะ

เอวังด้วยประการฉะนี้
หริโอมตัสสัส
-/|-
Smiley




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2556    
Last Update : 8 กรกฎาคม 2556 19:11:02 น.
Counter : 3575 Pageviews.  

โ ย ค า ส น ะ-ปวันมุกตาสนะ ท่าขับลม ง่ายๆแต่มีประโยชน์

สวัสดีค่ะ
ได้ฤกษ์เขียนเรื่องอาสนะมาให้อ่านกันสักที

ก่อนอื่นขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามบล็อกและให้กำลังใจนะคะ

ปวันมุกตาสนะ - ท่าขับลม

ท่านี้จะช่วยขับลมออกจากลำไส้ใหญ่ ลมในลำไส้เป็นเรื่องปกติหากมีเพียงเล็กน้อย แต่การมีลมในลำไส้มากเกินไปทำให้ขัดขวางการทำงานของลำไส้ ทั้งยังแสดงถึงการย่อยที่ไม่สมบูรณ์ ดื่มน้ำน้อย ลมที่อยู่ในลำไส้ใหญ่เป็นแก๊สมีเทนเจือจาง แสดงถึงการหมักหมมของกากอาหารที่เกิดจากอาการท้องผูกจนเกิดแก๊สขึ้น หากแก๊สเหล่านี้ไม่ถูกขับออกก็มีโอกาสที่จะดูดซึมกลับเข้ากระแสเลือดและไปสะสมยังเซลล์ทั่วร่างกายทำให้เซลล์ผิดปกติและเซลล์นั้นก็มีโอกาสผิดปกติและก่อให้เกิดมะเร็งได้ ท่าขับลมจะช่วยให้ลมในลำไส้เคลื่อนออก รวมถึงทำให้กากอาหารหรืออุจจาระเคลื่อนตัวด้วย




วิธีปฏิบัติ
-เริ่มจากท่านอนหงาย
-หายใจเข้า ยกขาข้างขวา ขาตรง ไม่งอเข่า ยกขึ้นไปตั้งฉากกับพื้น
- หายใจออก พับหัวเข่าขาข้างขวา แล้วใช้มือดึงหัวเข่าให้มาชิดกับอกให้มากที่สุด
- ค่อยยกศรีษะขึ้นมา ให้คางจรดเข่า
- ค้างในท่าประมาณ 30 วินาที ถึง 1 นาที
-ค่อยๆออกจากท่า ด้วยการย้อนกลับวิธีข้างต้น
- ทำซ้ำอีกข้างหนึ่ง

หมายเหตุ หากมีอาการปวดต้นคอ ก็ให้งดเว้นการยกศรีษะ หากมีปัษหาหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทที่ L4-L5 ให้หาผ้าขนหนูมาทบ รองไว้ และผู้มีปัญหาไส้เลื่อนก็ควรทำด้วยความระมัดระวัง และควรปฏิบัติช้าๆด้วยความผ่อนคลาย ไม่ควรฝืน ควรทำเท่าที่ทำได้

อ้อ!! การทานอาหารที่เหมาะสมและดื่มน้ำให้เพียงพอก็สามารถลดการเกิดแก๊สในลำไส้ได้นะคะ

ในการเรียนรู้แบบโยคะคีตา
โดยหลักพื้นฐานที่ยึดเป็นแนวทางนั้นจะเป็นโยคะดั้งเดิมจากโยคะวิทยากูรูคูล เมืองนาสิก แต่ด้วยประสบการณ์ที่เรียนมาหลายคอร์สบวกกับความชอบในแนวทางอายุรเวทและธรรมะ(ชาติ) จึงนำหลักการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเข้ามาผสมผสาน ด้วยแนวคิดที่ว่า ทุกคนมีความเป็นปัจเจก อันขึ้นอยู่กับ ธาตุ อายุ สิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิต ที่ไม่เหมือนกัน

ทำให้ในคอร์สครูโยคะของโยคะคีตาจะต้องมีการศึกษาแบบองค์รวม เพื่อเสริมให้ท่าอาสนะมีการปฏิบัติที่ได้ผลมากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น ท่าขับลมนี้ นอกจากจะช่วยในการขับลมในลำไส้ทำให้กากอาหารมีการเคลื่อนตัวออกไปเร็วขึ้น นี่คือประโยชน์ของท่า แต่สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้ต่อคือ....

ถ้าปฏิบัติท่าขับลมและเกิดการผายลมออกมาบ่อยครั้งก็แปลว่ามีการคั่งค้างของกากอาหารในลำไส้อยู่มาก และยังหมายถึงการดื่มน้ำที่ไม่เพียงพอ ทำให้อุจจาระแข็ง อาการเหล่านี้มักจะเกิดบ่อยในหน้าหนาวหรือในช่วงอากาศเย็นๆ จะสังเกตุได้จากผิวแห้ง เป็นขุย ฯลฯ ก็ควรจะจิบน้ำให้บ่อยขึ้น

และนอกจากนี้คนที่ท้องผูกก็มีแนวโน้มจะปวดหลัง เพราะเวลาที่ต้องเบ่งถ่ายก็จะต้องเกร็งหน้าท้องเข้าไปมากและบ่อยๆ จนกว่าจะถ่ายหมด ทำให้แรงดันที่ถูกสร้างขึ้นจากการเกร็งหน้าท้องดันไปที่กระดูกสันหลังโดยตรง ซึ่งก็มีแนวโน้มทำให้หมอนรองกระดูกถูกดันออกจากแนวไปดันเส้นประสาทด้านหลัง ทำให้เกิดอาการปวดหลัง หากเป็นบ่อยๆ และไม่ได้มีการปรับพฤติกรรมก็อาจทำให้หมอนรองกระดูกไม่กลับเข้าที่ ทำให้ปลิ้นออกมาอย่างถาวร ก็จะเจ็บอย่างถาวร และอาจจะมีอาการของริดสีดวงทวารร่วมด้วย ซึ่งถ้าใครมีริดสีดวงทวารอยู่แล้ว การแบ่งถ่ายอาจทำให้ปุ่มของริดสีดวงปลิ้นออกมาด้านนอก ก็จะนั่งไม่ได้ เพราะจะเจ็บ

ดังนั้นคนที่มีลมในลำไส้มากๆ อาจจะเริ่มจากการทานอาหารที่มีกากใยเยอะๆ ดื่มน้ำบ่อยๆให้เพียงพอ และทานอาหารที่ย่อยง่ายค่ะ

ทั้งหมดนี้เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของสิ่งที่หมวยวิเคราะห์ให้ฟังได้ (จริงๆจะอธิบายเพิ่มอีกแต่ท่าจะยาวเป็นหน้า -_- )

นี่เป็นเสี้ยวหนึ่งที่จะมีการเรียนการสอนในคอร์สครูโยคะของโยคะคีตาค่ะ ดังนั้นอาสนะที่สอนที่โยคะคีตาจึงเป็นอะไรที่มากกว่าที่คุณคิด

ดังนั้นการเรียนจึงจะยึดหลักตามแนวโยคะดั้งเดิม เพื่อให้เข้าใจหลักของท่าอาสนะอย่างแท้จริงซะก่อน จากนั้นจึงเป็นการนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับนักเรียนหรือกลุ่มของนักเรียน ซึ่งมีทั้งท่าอาสนะที่เหมาะกับฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว มีทั้งการหยุดนิ่งและการเคลื่อนไหว ซึ่งครูจะต้องวิเคราะห์ได้ว่าควรสอนอะไร

ก็เป็นฉะนี้แล.... ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นการสอนโยคะในแบบองค์รวมก็ได้ค่ะ
หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถโทรมาสอบถามกันได้นะคะ ที่ 085-1420201 หรือ yogagitabangkok@gmail.com

หริโอมตัสสัส
-/|-




 

Create Date : 15 มกราคม 2556    
Last Update : 15 มกราคม 2556 16:12:25 น.
Counter : 4720 Pageviews.  

ป ล ด ป ล่ อ ย ตั ว ต น ไ ป กั บ ส า ย น้ ำ แ ห่ ง โ ย ค ะ Yoga in Water

หริโอมค่ะ

พอดีช่วงนี้ดิฉันมาสอนชั่วคราวอยู่ที่ The Spa เกาะช้าง พอสอนเสร็จในช่วงเช้าเวลาที่เหลือก็พักผ่อนหรือทำงานของตัวเองไป และมีเวลาตอนช่อวงเย็นที่ได้ลงว่าบน้ำค่ะ ทำให้คิดถึงท่าที่จะเอามาฝากในวันนี้ได้ การฝึกโยคะในสระว่ายน้ำ

ในปัจจุบันคุณจะเห็นการผสมผสานโยคะกับการบริหารอื่นๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเต้น แอโรบิก ศิลปะการต่อสู้ หรือแม้กระทั่งในสระว่ายน้ำ การผสมผสานเหล่านี้คงไม่ใช่ว่านึกจะทำก็ทำกันขึ้นมา ผู้ที่ปฏิบัติควรจะมีความเข้าใจในทั้งสองสิ่งที่จะนำมารวมกัน คงจะนึกภาพออกนะคะ เพราะคุณจะเอามันรวมเข้ากับการเต้นรำได้อย่างไรถ้าคุณเต้นรำไม่เป็น ฟังจังหวะไม่ออก

การฝึกโยคะในสระว่ายน้ำก็เช่นกันค่ะ แม้ว่าการฝึกโยคะในสระว่ายน้ำคุณอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องว่ายน้ำเก่งหรือแม้กระทั่งว่ายน้ำเป็นนะคะ แต่คุณควรจะรู้จักธรรมชาติของน้ำค่ะ --ความไร้น้ำหนัก ความเงียบใต้น้ำ สำคัญคือไม่ควรจะกลัวการจมน้ำ เพราะบางทีอาจจะมีการโงนเงนในท่า และบางท่าก็จะปฏิบัติในน้ำลึก บางท่าก็ฝึกได้โดยใช้อุปกรณ์ช่วยค่ะ เพราะฉะนั้นหลักที่สำคัญถ้าจะทำไปสอนคือ การได้ทดลองด้วยตัวเองก่อนค่ะ และอีกอย่างที่สำคัญมากๆเช่นกันคือคุณจะต้องชอบมัน เพราะถ้าคุณไม่ชอบก็คงจะไม่สามารถถ่ายทอดได้อย่างเต็มที่ และการไม่ได้ลองด้วยตัวเองก่อน ลองในทุกๆความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นคุณก็จะรับกับสถานการณ์ของนักเรียนไม่ได้ค่ะ เพราะบางครั้งการสอนโยคะน้ำ ครูโยคะเองก็ไม่ได้จำเป็นต้องลงน้ำเสมอไปค่ะ

ท่าที่ดิฉันเขียนขึ้นมานั้นได้ทดทองกับตัวเองแล้วรู้สึกดีค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่ได้เอาศีรษะจมน้ำบางส่วนจะได้ยินเสียงการหายใจของตัวเองชัดเจนมาก เพราะฉะนั้นถ้าคุณนำไปปฏิบัติเองจะต้องทราบระดับการฝึกของตัวเองหรือนักเรียนจะได้ทราบว่าควรจะอยู่ที่ระดับน้ำเท่าไหร่ และในรูปก็ไม่ได้เรียงลำดับระดับน้ำนะคะ เพราะพักว่ายน้ำบ้าง ว่ายไปเจอตรงไหนก็หาท่าปฏิบัติ ตอนวาดเลยยังไม่ได้เรียงลำดับเท่าไหร่ และก็มีอีกหลายท่าที่ไม่ได้ลงไว้เพราะบางทีต้องให้อุปกรณ์ช่วย

การฝึกในน้ำนั้นมีข้อดีหลายประการเลยทีเดียว อย่างเช่นท่าแอ่นหลังก็สบายขึ้น หรือท่าที่ทรงตัวก็ดี แต่การฝึกในน้ำก็อาจจะให้พลาดข้อดีหลายๆข้อในการฝึกบนบกของแต่ละท่าไปเหมือนกันค่ะ



ลองดูนะคะ ไม่แน่คุณอาจจะต้นพบธรรมะในสายน้ำเหมือนที่ดิฉันได้พบมาก็เป็นได้ค่ะ

หริโอมตัสสัส




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2554    
Last Update : 10 มิถุนายน 2554 10:51:43 น.
Counter : 1322 Pageviews.  

ท่ า ชุ ด โ ย ค ะ เ ปิ ด ไ ห ล่ Shoulders sequence อีกครั้งเพื่อผู้ทำงานนั่งโต๊ะและขับรถนานๆ

หริโอมค่ะ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วดิฉันลงท่าการฝึกที่เกี่ยวกับหัวไหล่ไปชุดหนึ่งเพราะตอนนี้มีผู้ที่มีปัญหา บ่า ไหล่ คอ และปวดศรีษะจากการที่เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ มาฝึกโยคะกันมากขึ้น ดิฉันจึงได้รวบรวมมาอีกชุดหนึ่ง

จากการสอนในวันนี้ การสอนคลาสนี้มีท่าจำนวนไม่มาก ต้องฝึกช้าๆเพื่อให้ได้รู้สึกว่ามีการทำงาน การยืดบริเวณหัวไหล่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังบริเวณสะบัก ต้องปฏิบัติด้วยความผ่อนคลาย หายใจเข้าออกช้าๆสบายๆนะคะ แล้วจะได้ผลอย่างชัดเจนค่ะ แต่อย่าลืมฝึกท่าอื่นๆด้วยนะคะ เพราะส่วนอื่นๆก็สำคัญเช่นกันค่ะ



หริโอมตัสสัส




 

Create Date : 25 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 25 พฤษภาคม 2554 19:54:27 น.
Counter : 5820 Pageviews.  

ชี่ น ช ม ยิ น ดี กั บ ร่ า ง ก า ย ข อ ง เ ร า Yoga class of Appreciation

หริโอมค่ะ

พักนี้พอมีเวลาบ้างก็เลยมีอะไรมาแบ่งปันกันเยอะหน่อย ยังไงก็ค่อยๆติดตามกันไปนะคะ

ที่โยคะคีตาจะมีคลาสต่างๆกันค่ะ จะมีคลาสสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ คลาสขั้นสูง และอีกคลาสหนึ่งที่ดิฉันเองชื่นชอบคือ Meditation, Yoga & Awareness ซึ่งเป็นการเรียนที่เน้นความมีสติ การจดจ่อและมีการฝึกทำสมาธิในแบบต่างๆ หรืออาจจะเป็นการค่อยๆฝึกท่ายากๆในแบบง่ายๆเป็นขั้นตอนกันไป บางทีดิฉันก็จะเน้นเป็นท่าเช่นคลาสที่เน้นในท่านักรบ 3 ก็จะมีการฝึกให้เข้าใจในกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของท่านั้น ลักษณะและความรู้สึกเวลาที่เราอยู่ในท่านั้นๆ

แต่ในวันนี้ที่จะนำมาแบ่งปันกันเป็นคลาสแห่งการค้นหาและชื่นชมคุณค่าในตัวเราเองค่ะ

โดยในคลาสดิฉันจะกล่าวนำถึงร่างกายหรือตัวผู้ฝึก ว่าร่างกายหรือตัวเรานั้นจะต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิตของเราเอง จะได้เห็นตัวเองผ่านความรักและการสูญเสีย ความสุขและความเจ็บปวด ความท้าทายและการเจริญเติบโต ร่างกายของเรานั้นควรค่าแก่การได้รับการชื่นชมในประสบการณ์ที่มันได้แบ่งปันให้กับเราทุกครั้งและควรได้รับความชื่นชมในสิ่งที่เป็นหรือสิ่งที่มีในปัจจุบัน ดิฉันจะให้นักเรียนค่อยๆพิจารณาร่างกาย หากมีส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายของพวกเขาที่ต้องดูแลเป็นพิเศษหรือให้ความชื่นชมในวันนี้



โดยช่วงแรกดิฉันอาจจะเริ่มด้วยการยืนยืดแข้งยืดขา หรือเป็นท่าที่ไม่ถึงกับมีรูปแบบตายตัว การแกว่งแขน อาจจะแก่วงไปคนละทิศทางก็ได้ บางท่าก็ดูแล้วตลกๆทำให้ทั้งชั้นได้หัวเราะกับตัวเองและเพื่อนๆ และที่น่ารักอีกท่าคือการทำหน้าสิงโต (Lion Face)พร้อมกับการเปล่งเสียงออกมาดังๆ

จากนั้นก็ฝึกสุริยนมัสการแบบสบายๆและคอยอธิบายหรือกระตุ้นเตือนให้เขานึกถึงการค้นหาในคุณค่าของตนเอง ท่าทางอาจจะไม่จำเป็นต้องถูกต้อง100 % ท่าที่เตรียมไว้ก็เป็นท่าพื้นฐานแต่จะให้นักเรียนทำตามความรู้สึกของตนเองในขณะนั้น บางคนอาจจะอยากกางแขน อาจจะอยากท้าวเอว อาจจะเงยหน้าก็สามารถทำได้ แต่ที่สำคัญคือต้องปฏิบัติช้าๆค่ะ จะได้ทันสังเกตุทั้งร่างกายและความรู้สึกของตนเอง ถ้าเหนื่อยก็พัก

ตอนท้ายๆอาจจะผ่อนคลายด้วยท่าศพแล้วกล่าวนำให้นักเรียนรู้สึกถึงความยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ การมีสุขภาพที่ยังแข็งแรง การให้คำสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลร่างกายให้ดีขึ้น หรืออาจจะจบด้วยการสอนการนวดตัวเอง หรือแม้กระทั่งนั่งสมาธิบนความรู้สึกแห่งความยินดีปรีดาก็ได้เช่นกัน

ท่าอาสนะที่เขียนไว้ก็จะปรับหรือเพิ่มท่าไปบ้าง ทั้งนี้ไม่ควรยากจนเกินไป การได้รู้สึกถึงการทำงานของร่างกาย มีเหงื่อซึมๆออกมา รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจ ทำให้เรารู้สึกยินดีกับปัจจุบัน การรู้สึกถึงความสำคัญของทุกส่วนของร่างกาย เพราะถ้ามีเพียงแค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ก็ไม่สามารถเรียกได้ว่าร่างกาย เหมือนตัวเอาและผู้อื่นที่ได้นำส่วนเล็กๆมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน นั่นก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ

หริโอมตัสสัส




 

Create Date : 20 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 12:04:48 น.
Counter : 2217 Pageviews.  

1  2  

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.