瞳閉じれば広がってゆく . . .
Group Blog
 
All blogs
 

เล็ก!จน!verr! press con

เล็ก!จน!verr! press con
2013.02.28 @CTW

ไปเวิ่นเว้อเอาไว้ในทวิต >_<
ขอเอามาแปะ ก่อนจะอัพบล็อคเป็นเรื่องเป็นราว
เพราะอิชั้นแฮปปี้มากค่ะ ฟินอีกแล้ว
รูปเริปอะไรยังไม่ได้โหลด ใดๆ
ไฟล์คลิปยังไม่ได้อัพ 55555

 

ทำตัวเป็นfangirlที่ดี55555

กำลังเนียน ^^

คือ...ขอมโนสำหรับ 'that sign'(^_^)v //แบบว่าอิชั้นสายตาสั้นอ่ะ 5555 คิดว่าเห็นแระกันนะคะเธอ //เบลอแบบมองไม่เห็นเรยว่าเธอโพกัสที่ไหน กั่กๆ

Today thank you na ka ... v(^_^)

ขอบคุณจริงๆค้าบบบบบ >_< ถึงอยู่ห่างๆ แต่แค่มองมาก็รู้สึกดีมากแระค่ะ เวลาถ่ายรูปแล้วศิลปินมองกล้องนี่มันฟินจริงๆ //แม้กล้องจะกดไม่ทันก็ตาม555

เอ่อ จริงๆวันนี้ก็เจอแบบธรรมดานะ แต่ยังยิ้มไม่หุบจนป่านนี้ เฮ้ยยยย นี่มันอะไรเนี่ยเธอ เธอทำอารายช้านนนนน >_<

ตอนแตมป์"ส่งสัญญาณ"ตอบมาอิชั้นต๊กกะใจจริงๆนะคะ สะดุ้งไปโดนกล้องคนข้างหลังเรย ขอโทษค้าบ T_T ส่วนกล้องตัวเองตกใจจนลืมกดชัตเตอร์เรย 5555

แตมป์ยืนรอสัมภาษณ์อยู่อ่ะค่ะแล้วหันมาทางที่เรายืนพอดีเลยชูมือไป แตมป์มองมาแล้วทำมือเหมือนกัน ^^ เหมือนจำได้อะไรประมาณนั้น

แต่วันนี้แตมป์ทำตัวน่ารักนะ ยืนยิ้มยืนโบกไม้โบกมือให้แฟนๆถ่ายรูปอยู่นานมาก ^^ หว่านเสน่ห์ไปเรื่อยๆเริ่มโปรแระ555

เพื่อความมั่นใจ เลยย้ายมุมไปเล็งอีกฝั่ง ไกลหน่อย แต่ไม่มีกล้องเรย >_< ให้สัมภาษณ์อยู่ แต่ก็ยังมองมาทางอิชั้นโด้ยยยย โอยยย น่ารักไปแล้วพ่อคุณ

ขัดใจก็ตรงกล้องอิชั้นเนี่ยยย ไม่ค่อยเป็นใจเรยเนี่ยยยย T_T ช้าตลอด จังหวะพลาดหลายที ตลอดๆๆ //ใช้ลูกขยันเข้าไว้ มันต้องได้ซักจังหวะ ฮืออออ

แต่โดยรวมแล้วประทับใจนะ ^^ เวิ่นในนี้ไปพลางๆ เด๋วค่อยไปอัพบล็อค กรี๊ดดดดดดด อะไรจะฟินตลอดยังงี้ //เอ๊ะหรืออิชั้นฟินง่ายไป 5555

วันนี้แทบจะวิ่งรอบลาน eden เรย วิ่งขึ้นลงชั้น 1 ชั้น 2 อีกตะหาก 555 เปลี่ยนมุมส่องไปเรื่อยๆ

ถ้าไม่ชัวร์และถ้าอยากรู้จริงๆก็ลอง double check ดู ^^ ทุกเรื่องแหละ ไม่ว่าจะมีสาระหรือไม่มี (เช่นวันนี้) 55555

พี่บอยฮากว่าที่คิดนะคะเนี่ย 55555 ปล.วันนี้เจอ บ.ก.เหวิน แต่เห็นทำงานวิ่งไปวิ่งมา ไม่กล้าทัก แบบว่าเกรงจายยยย ^^

 

*

*

*

 

จริงๆก็ไม่มีอะไร เป็นงานแถลงข่าว ^^ แต่ชอบไปงานไปดูบรรยากาศ
นั่งอยู่แถวๆนั้นหลังเวที ใกล้จะได้เวลา ยังเห็น บ.ก.เหวิน อัพรูปศิลปินกำลังซ้อมกันอยู่ในห้องแต่งตัวอยู่เลยไปห้องน้ำ เดินกลับมาอีกที อ้าว คุณศิลปินทั้งค่ายเข้านั่งประจำที่ที่งานกันหมดแล้ว 555 พลาดๆ >_<
พอเดินเข้าไปก็เห็นแฟนๆยืนกระจุกตัวกันอยู่กลุ่มนึงหนาแน่นเป็นพิเศษ เลยเดินผ่านไปเพราะยืนตรงนั้นคงไม่เห็นอะไร คนเยอะจริงๆ หันกลับมาจึงถึงบางอ้อ อ่อๆ คุณแสตมป์นั่งอยู่ริมฝั่งนี้นี่เองงงงง
แฟนก็ถ่ายรูปกันร่าเริงไป .. ศิลปินก็ดูจะร่าเริงกันดี ^^
ยืนอยู่ซักพักก็รู้สึกว่าทำเลไม่ดีแฮะ เลยมูฟตัวเองไปชั้นสอง ได้มุมข้างชีวิตมากๆ ข้างเวที ข้างลำโพง อ่อ แต่เสียงก็ยังโอเคอยู่ เลยปักหลักละกัน ที่เต็มๆ 555 บวกกับขี้เกียจย้ายตัวแระ
ส่องคุณศิลปินลงมาจากชั้นสอง กดชัตเตอร์มาได้แบบเบลอๆ ด้วยกล้องกระป๋องของอิชั้น //มันซูมไม่ค่อยเวิร์คแล้วแฮะ เพิ่งสังเกต สงสัยจะต้องถอยตัวใหม่เร็วๆนี้ (เพื่อการซูมที่มีประสิทธิภาพ 555)

พอจบพิธีการ จบโชว์ medley เค้ามอบดอกไม้กัน ก็เลยจรลีลงมาข้างล่าง
ตอนแรกก็กะว่าจะไปแล้ว แต่เห็นแตมป์ยังยืนๆรีๆรอๆอยู่ (ทีแรกทำท่าเหมือนจะแหวกแฟนๆออกมาแล้ว แล้วเหมือนเปลี่ยนใจ สงสัยสื่อขอคิวรอสัมภาษณ์อยู่ เลยยังอยู่ต่อ)
แฟนๆก็ส่องกันไป แตมป์ก็ยืนยิ้มกันไป โบกไม้โบกมือบ้าง หันหน้ามาบ้าง หันข้างให้บ้าง หันหลังให้บ้าง ดื่มน้ำบ้าง ^^
อ่อๆ วันนี้ 7thSCENE มาไม่ครบทีมนะคับ ขาดคุณชัชชะนีไปหนึ่ง

มีอยู่ตอนนึง แตมป์ยืนรอสัมภาษณ์อยู่กับอาร์ท แล้วมองมาทางที่อิชั้น(และแฟนๆทั้งหลาย)ยืนอยู่พอดี ข้าน้อยพอเห็นแตมป์มองมาก็ชูไม้ชูมือไป แล้วแตมป์ก็มองมาพร้อมชูมือเหมือนกัน >_< ประหนึ่งว่าจำได้ ... เฮ้ยยย ชอตนั้นนี่แบบว่าตกใจจริงๆ ถึงกับสะดุ้งไปโดนกล้องคนที่อยู่ข้างหลัง (หนูขอโต๊ดจริงๆคร้าบบบบ T_T) ส่วนกล้องที่อยู่ในมือตัวเองก็ดันลืมกดชัตเตอร์ 5555 มัวแต่ตกใจ!
จริงๆแล้วอาจจะมโนไปเองก็ได้นะ เพราะมองก็ไม่ค่อยจะเห็น ตาสั้นและไม่ได้ใส่แว่น เลยไม่รู้จริงๆว่าแตมป์โฟกัสมาที่อิชั้นจริงๆรึเปล่า .. แต่จังหวะมันแบบว่า ใช่อ่ะ จุดสายตามันใช่อ่ะ เพราะงั้นจะขอมโนตามนี้แระกัน 55555555555555

ซักพักก็สัมภาษณ์ (สัมภาษณ์กันหลายสำนักเลยเชียว) แตมป์กับอาร์ท ยืนหันหลังให้ทางแฟนๆทางนี้แล้ว อิชั้นเห็นว่าอีกฝั่งนั่น ไม่มีคนอยู่เลย ไม่มีกล้องเลย เลยมูฟตัวอีกรอบอย่างรวดเร็ว
ก็ตั้งใจจะถ่ายแบบแคนดิดนะ แต่คุณแสตมป์มองมาที่กล้องด้วยค่ะ ตอนแรกคิดว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่พอหลายรอบก็เลย เอ่อ OKๆ ช่ายแระ แบบว่า กำลังสัมภาษณ์อยู่แต่เธอไม่มองกล้องไม่มองคนสัมภาษณ์ มีพักสายตามาทางนี้เป็นระยะๆ 5555 อ่ะ ฟินก็ได้ค่ะ ^^
แต่ประเด็นคือ กล้องอิชั้นนี่โค่ดจะช้าอ่ะ แตมป์มองมาเป็นระยะๆจริง แต่กดในจังหวะดีๆไม่ค่อยจะทัน T_T ฮืออออ รู้สึก จำได้ ว่ามียิ้มใส่กล้องหนสองหนด้วย แต่หนูถ่ายชอตนั้นไม่ทันเจรงๆ
แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกไป การถ่ายรูปศิลปินแล้วศิลปินมองกล้องเนี่ย (ไม่ว่าใครก็เหอะ) นี่มันฟินจริงๆนะคะ >_<

หลังจากนั้นก็มาเนียนๆ เดินไปเดินมา ถ่ายรูปชิลๆ รอเวลา เพราะนัดคุณเพื่อนไว้ แต่ยังไม่ถึงเวลาก็เลยเดินเล่นไปเรื่อยรอบงาน
เจอ บ.ก.เหวิน แต่เห็นว่าวิ่งไปวิ่งมาทำงานอยู่ ไม่กล้าทักค่ะ เกรงจายยยยย
เลยเดินกลับมาทางแตมป์อีกรอบ .. นี่ก็ยังสัมภาษณ์กันไม่เสร็จ (แต่เปลี่ยนสำนักแล้ว)
มีเซอร์วิสแฟนๆด้วยการยิ้มไปเรื่อยๆ //แต่ดูท่าจะเริ่มเมื่อยแระมั๊ง 555
นานอยู่นะกว่าจะเสร็จ ซึ่งอิชั้นนั่งเล่นทวิตรออยู่แถวๆนั้นอยู่แล้ว .. คือที่ยังไม่ไปไหนเพราะยังติดต่อคุณเพื่อนไม่ได้ และที่สำคัญคือ เผื่อมีช็อตอะไรเด็ดๆจะได้ไม่พลาด

จนแตมป์ร่ำลาแฟนๆแล้วจริงๆนั่นแหละ จึงเดินออกมาจากงาน

เออ ดูแล้วแตมป์ตอนนี้เป็นศิลปินคนเดียวในค่ายเลยมั๊งที่ต้องใช้การ์ดตามเยอะขนาดนี้ 5555 ยินดีด้วยๆ เข้าใกล้ความเป็นซุปตาร์แล้วค่ะเธอ .. (อ่อ ตอนยืนบนเวทีก็ได้เป็นผู้ชายแถวหน้าด้วย //ทั้งๆที่ตัวสูงมากตัวใหญ่มากกก ควรจะยืนข้างหลัง ^^ แต่ตอนนี้ได้ยืนใน A position แล้ว ยินดีด้วยค่ะ)

ตอนแตมป์เดินจะกลับไปที่ห้องพักนี่ข้าน้อยไม่ได้จะตามอะไรแล้วนะคะ เราจะไป B2S ซึ่งเป็นทางเดียวกันพอดี เลยรอให้แตมป์กะเหล่าบอดี้การ์ดเดินไปไกลๆก่อน ค่อยเดินไป .. แต่ก็ยังเห็นมีแฟนๆเดินตามวิ่งตามไปอยู่กลุ่มเล็กๆนะ
เดินไปถึงตรงโถงบันไดที่มีลิฟท์แก้ว มี event อีกงานนึง มีนายแบบถอดเสื้อโชว์กล้ามอยู่ อิชั้นเลยหยุดยืนดู 5555555555 พอดีโทรศัพท์แจ้งว่าเบอร์คุณเพื่อนติดต่อได้แล้วเลยโทรศัพท์ไปดูหนุ่มๆไป ... ซักพัก เหมือนขบวนคุณอภิวัช จะเดินทางผิด เลยเดินย้อนกลับมาตรงที่อิชั้นยืนอยู่ มีแฟนๆตามมาขอถ่ายรูป แตมป์ก็ยินดีให้ถ่ายด้วยนะ เป็นคนดีจริงๆเลยพ่อคุณ ^^ .. และดูเหมือนเรายืนขวางขบวนอยู่ ง่ะ รู้สึกโก๊ะมาก  เหะๆ เลยหลบขบวนคุณอภิวัชร์ ให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปก่อน แล้วอิชั้นค่อยขึ้นตามไปอีกที อย่างห่างๆ ^^ //ไม่ได้ตามจริงๆนะ หนูจะไป B2S จริงๆ 555 ...เออ พอมาลองคิดดูแล้วถ้าขึ้นบันไดเลื่อนไปก่อน แล้วหันมาเจอแตมป์นี่เธอจะฮาไม๊อ่ะ หรือเหนื่อยแล้ว ^^

ขอชมจากใจว่า แสตมป์ อภิวัชร์ โปรมาก รู้สึกว่าคงปรับตัวกับสภาวะแบบนี้ได้ค่อนข้างดีแล้ว ^_^ อย่างน้อยเวลาอยู่หน้าฉาก เวลามีสปอตไลท์ส่อง ก็ทำตัวน่ารักล่ะนะ ยิ้มแย้มตลอด

 

*

*

*

1 มีนาคม 2556
เปิดจองบัตร "เล็ก!จน!verr!" วันแรก
ไปจองอย่างชิลๆ ได้มาครอบครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (แม้ว่าโซนบล็อคที่เล็งเอาไว้จะเต็มไปแล้วก่อนหน้าก็เหอะ) แล้วเจอกัน 7 พฤษภา ค่า ^o^

 




 

Create Date : 01 มีนาคม 2556    
Last Update : 1 มีนาคม 2556 15:31:37 น.
Counter : 1821 Pageviews.  

PassionTalk

Passionate Profession
2013.02.13
@ASA Center / SiamDiscovery

 

*

ก็..ไม่ได้มีหน้าที่อะไรโดยตรงนะคะงานนี้ ^^ แต่ได้มีโอกาสไป"ช่วยๆเค้า"นิดหน่อย
พอดีว่าทั้งออฟฟิศรู้ว่าข้าน้อยเป็นแฟนแสตมป์..รู้กันทั้งออฟฟิศก็ตอนไปพรีเซลนั่นอ่ะค่ะ.. (แต่ไม่ค่อยมีคนรู้ว่าข้าน้อยก็เป็นแฟนพี่เกี๊ยง เป็นแฟนเฉลียงด้วย อิ อิ) ก็เลยมอบหมายงานมาประมาณว่าให้ช่วย"ดูแลศิลปิน"ละกัน
//เย้ๆๆ >_<
จริงๆก็แทบจะไม่ได้ดูแลอะไรนะคะ 5555
เพราะตอนก่อนงานจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมง พี่เกี๊ยงยังรถติดอยู่ชิดลม และวันนั้นรถติดมากกกกก .. ส่วนแตมป์ยังกำลังเดินมาจาก siamCenter อย่างชิลๆ .. แตมป์ขึ้น BTS มาตามเคยค่ะ

 

 //คุณพี่และคุณน้องแต่งตัวสไตล์เดียวกัน และยืนท่าเดียวกันเลยนะคะ

 

ระหว่างรออิฉันก็ทำหน้าที่เป็น DJ จำเป็นด้วยการเปิดเพลงไปเรื่อยๆ ^^ คนก็ทยอยมากันเรื่อยๆ แต่ศิลปินยังมาไม่ถึงค่ะ
แตมป์มาถึงก่อน ซักพัก ตามด้วยพี่เกี๊ยง .. อ่ะพี่ กะเวลาพอดีเป๊ะไปไม๊คะ 555555 ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอก พี่เกี๊ยงมาถึงอย่างฉิวเฉียดจริงๆค่ะ

 

 //ผมข้างหลังที่กระเดิดๆนี่ จงใจใช่มั๊ยคะเธอ ^^

 

หลังจากเสิร์ฟข้าวเสิร์ฟน้ำเสร็จ อิชั้นก็โบกมือให้แตมป์ ..ยังไม่ได้ทักทายอะไร .. กะลังจะลองดูว่าจะจำได้รึเปล่า
เออ.. คุณเธอจำได้ค่ะ มีแนะนำเค้าไปทั่ว ^^
แตมป์หันไปแนะนำกับน้องนิวว่า นี่ๆ พี่เค้ามาจองบัตรคิวแรก ... อ่า ค่ะ
แตมป์หันไปหาพี่ปุ๋ยบอก นี่ครับเค้ามาจองบัตรผมคนแรก ... อ่า ไม่ต้องบอกเจ้านายข้าน้อยก็ได้นะคะแตมป์ 555555

 

 

แล้วก็ยื่นของขวัญไปให้ .. ไม่รู้โอกาสไรแหละ ให้เฉยๆละกัน ไม่มีโอกาสไรพิเศษ โอกาสที่ได้เจอหน้ากันอีกรอบละกันเนอะ ^^ จะให้วาเลนไทน์ก็กระไรนะ จะให้วันเกิดก็ล่วงหน้านานไปนิดนะ 555

แล้วก็เลยเอาบัตรคอนเกรียนเดย์ไปให้แตมป์ลงนามให้หน่อยค่ะ อิ อิ

 

 

 

 

//รูปนี้ตลกอ่ะ มองกันไปคนละทาง แบบว่ากล้องเยอะเกิน ไม่รู้มองกล้องไหนกันดี ^^ 

 

 


พูดคุยกันตามประสาพี่ๆน้องๆ สบายๆ แฮปปี้ๆ มีสาระบ้าง บันเทิงบ้าง และเฮฮาบ้าง

 

 

 

 แถมๆ รูปสุดท้าย หวานๆกับหวานใจก่อนวาเลนไทน์นะคับ ^^

 

ขอบคุณภาพสวยๆจากน้องโจ้ด้วยนะค้าบบบบ Thanks ja

 

 ปล. ถ่ายคลิปมานิดหน่อย ไม่ค่อยปะติดปะต่อเท่าไหร่ ^^ เด๋วเมมหมด เด๋วแบตหมด .. วิ่งไปวิ่งมา เหะๆ

https://www.youtube.com/watch?v=-7VdXpyutEQ

 

 




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2563 13:48:36 น.
Counter : 1892 Pageviews.  

เด็กหนุ่มที่ยืนรอแท๊กซี่อยู่ริมถนน

ผมเห็นเด็กหนุ่มคนนี้ครั้งแรกที่สนามกอลฟ์ เพราะได้ไปร่วมงานหาเงินสมทบทุนสมาคมนิสิตเก่าสถาปัตย์ จฬาฯ
ตอนนั้นเด็กหนุ่มคนนี้ยังเรียนอยู่ประมาณปีสองหรือปีสามนี่แหละ
เขามากับรุ่นพี่คนหนึ่งเล่นกีต้าร์แล้วก็ร้องเพลงประสานเสียงกันอยู่ตามซุ้มขายน้ำ ...สองคนเล่นเพลงดังๆในยุคนั้น ร้องไปทักพี่ๆไปเพื่อสร้างบรรยากาศ รุ่นพี่คนไหนอยากทิปสมทบทุนเพิ่มก็โยนเหรียญหรือแบงค์ให้
ผมจำได้ว่าผมถามชื่อรุ่นน้องสองคนนี้เพราะเห็นประสานเสียงกันกลมดี
คนหนึ่งชื่อเม้ง อีกคนหนึ่งชื่อ แสตมป์
...
แล้วผมก็เห็นเด็กหนุ่มคนนี้ตามงานต่างๆของคณะ ผมว่าผมชอบเด็กหนุ่มคนนี้นะ
รวมไปถึงเพิ่งมารู้ว่าเขาเป็นอดีตหนึ่งในสมาชิกวงเซเว่นซีน เล่นเพลงร็อคแนวๆ ไม่ถึงกับหนักมาก แต่น่าสนใจ
วงเซเว่นซีนเคยมานั่งคุยกับผม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดความเห็นกันทีหนึ่งในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้อง ชัท หนึ่งในสมาชิกเซเว่นซีนเป็นคนแต่งเพลงเอก"ดั่งนิยาย" ให้กับละครเวทีชายกลาง เพลงในฉากที่คนดูอาจร้องไห้อย่างไม่รู้ตัว
...
เมื่อตอนคณะสถาปัตย์ครบรอบ72ปี สมาคมฯได้จัดการแสดงหาทุนชื่อครบเด็กสร้างบ้าน งานนั้นเป็นการรวบรวมศิษย์เก่ากันอย่างคึกคัก ซูโม่มาครบ ลูกทุ่งสถาปัตย์ก็มา เฉลียงก็มา ผมแต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่งเพื่อเป็นที่ระลึกของการกลับมาคณะ ครั้งแรกผมตามแสตมป์ให้มาอัดเสียงเพื่อลงในซีดีที่จะขายและเป็นไกด์ให้พี่ๆได้ร้องในฉากฟินาเล่ แสตมป์ออกตัวว่ายังไม่กล้าร้องเพราะตัวเขาเองยังเรียนไม่จบ คนที่ร้องเพลงนี้ควรเป็นศิษย์เก่า เพราะเนื้อเพลงมันพูดถึงการกลับมาสถาบันที่เรารัก ผมยังแซวว่าสงสัยกลัวเป็นเคล็ดที่ทำให้เรียนไม่จบ ในครั้งนั้นเลยได้น้องโถ รุ่นน้องที่คุ้นเคยกันมาบันทึกเสียงให้
...
แต่ถึงแสตมป์จะไม่ร้องเพลงนี้ ผมก็ยังหาเรื่องอยากได้เสียงแสตมป์มาอัดเสียง เลยชวนเขามาอัดเสียงประสานให้เสียงพี่เกี๊ยงในเพลงจามจุรีศรีจุฬา
วันอัดเสียงผมยังจำได้ว่า อัดกันที่ห้องอัดที่เมืองทอง เสร็จตอนค่ำๆ แสตมป์ยังติดรถผมออกมาลงที่ถนนใหญ่เพื่อเรียกแท็กซี่ ไม่รู้สิ ตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่ หลังจากรถผมเลยมาแล้วผมได้มองกลับไป ผมว่าผมเห็นศิลปินคนสำคัญในอนาคตยืนอยู่ริมฟุตบาธนะ
...
แต่หลังจากที่แสตมป์เรียนจบแล้ว ก็ให้สบโอกาสตามแสตมป์มาบันทึกเสียงเพลง"มีบางสิ่งบางอย่างนำทางให้เรากลับมา"อีกทีตามที่ผมตั้งใจไว้ เพลงนี้อยู่ในชุดเปลี่ยนฉาก ถึงตอนนั้นแสตมป์เริ่มมีเพลงของตัวเองที่เป็นที่รู้จักกันบ้างแล้วหลายเพลง ผมชอบเพลงของเขา
...
แล้ววันที่ผมได้ร่วมงานกับแสตมป์อย่างเต็มฝีมือของเขาก็คือ วันที่ผมทำ"ยักษ์" ผมบอกกับทีมงานเลยว่าอยากได้เด็กหนุ่มคนนี้มาแต่งเพลงเอกให้ หลายคนในทีมรวมทั้งแสตมป์ถามผมว่าทำไมพี่จิกไม่แต่งเอง
ผมตอบไปสนุกๆว่า ไม่อยากทำเองทั้งหมดเดี๋ยวเครดิตขึ้นชื่อเยอะไป
แต่เหตุผลจริงๆและลึกๆแล้ว ผมอยากได้ลายมือของเด็กคนนี้ในหนังเรื่องนี้ ผมชอบลายมือเขา แล้วผมก็ได้เพลงเกิดมาเป็นเพื่อนเธอประกอบหนังเรื่องนี้อย่างสมใจ แถมในหนังแสตมป์ยังมาช่วยร้องเพลงประกอบที่ผมแต่งอีกเกือบทั้งเรื่อง
...
แสตมป์เป็นเด็กน่ารัก มีน้ำใจ มองโลกงดงาม และเสมอต้นเสมอปลาย มุมมองเขาในเพลงน่าทึ่ง
ใครเห็นเขาได้คุยกับเขาจะรักเขา ยิ่งมาเป็นโค้ชในเดอะว๊อยซ์ยิ่งมีแต่คนรัก และมีชื่อเสียงออกไปในวงกว้างกว่าเดิม
ในความเห็นผม ในยุคนี้นักร้องที่เป็นนักแต่งเพลงเองคงหาใครเทียบเขายาก
...
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมก็ยังเห็นว่านักร้องนักแต่งเพลงดังแห่งยุคนี้คนนี้กับเด็กหนุ่มที่ยืนรอแท๊กซี่อยู่ริมถนน เป็นคนๆเดียวกัน

 

จาก FB ของพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์
Tuesday, February 5, 2013 at 12.25pm

 




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2556 13:17:04 น.
Counter : 1533 Pageviews.  

อยากให้เพลงฮิต อย่าคิดถึงทางลัด

 ...

"ผมเชื่อว่าคนเราแต่งเพลงหรือทำงานสร้างสรรค์ได้เฉพาะช่วงอายุหนึ่ง เท่านั้นน่ะครับ เพราะหลังจากนี้ไปเราก็อาจจะไม่เข้าใจคนสมัยนั้นแล้วหรือว่าคนสมัยนั้นอาจ ไม่เข้าใจเราแล้ว ผมรู้สึกว่าเรายังมีแรงอยู่ก็ต้องรีบทำ"

...

"ถ้าเป็นเรื่องของคอนเซปมันมักจะมาด้วยความบังเอิญเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น ไปคุยกับเพื่อนคนนี้ แล้วเขาบ่นเรื่องนี้ให้เราฟัง หรือคุยกับแฟนแล้วเขาก็พูดคำคมออกมาสักคำ ซึ่งเราก็ เฮ้ย อะไรวะเนี่ย เราก็เก็บสิ่งเหล่านั้นไว้ในใจ แล้วพอมีเมโลดี้ที่เราทำออกมาแล้วรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นเรื่องนี้ เราก็เอามาผูกกัน มันเป็นความบังเอิญซะส่วนใหญ่ ผมเชื่อว่าเรื่องที่เด็ดจริงมันต้องจำได้ แต่ก็มีบางครั้งที่จดเอาไว้แต่ไม่ค่อยได้ใช้น่ะครับ อันที่ใช้คืออันที่จำได้"

...

"ผมว่าด้วยความที่เราอายุพอๆ กับคนฟังอยู่ ทำให้เราเสพอะไรมาเหมือนๆ กัน เราพูดคล้ายๆ กัน เราใช้ชีวิตเหมือนกัน เวลาเราทำอะไร เมโลดี้อะไรก็จะไปคล้ายเขา แค่นี้เองครับ ผมว่าเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้าผมจะทำได้หรือเปล่า เพราะคนเปลี่ยนไป ผมก็เปลี่ยนไป"

...

"ผมเชื่อว่าเรื่องความฮิตเป็นเรื่องที่กะเก็งกันไม่ได้ ถ้าถามว่าสูตรสำเร็จมีไหม มันก็มี แต่ว่าก็ใช้ได้ไม่มาก สมมุติว่าเรากะว่าเพลงนี้ต้องฮิต โอเค ถ้าเราทำแบบนี้แล้วฮิตแน่นอน ผมเชื่อว่าไอ้แบบนี้เป็นการฮิตแบบตรรกะน่ะ มันฮิตไม่จริง ฮิตแบบวางแผน คนฟังก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเข้าไปอยู่ในหัวใจเขา เพราะว่ามันถูกวางแผนมาหมดแล้ว ก็แค่การตลาดอย่างหนึ่ง ถ้าวางให้ฮิตมันก็ฮิต แต่ผมเชื่อว่ามันจะฮิตได้ไม่ยั่งยืน ผมก็คิดว่าโลกนี้ไม่มีสูตรสำเร็จ สูตรสำเร็จก็คือคุณต้องทำให้เจ๋งจริงๆ คุณต้องฝึกหนักจริงๆ น่ะ ร้อยเพลงอาจจะออกมาสักเพลงก็ได้ทำหนักเข้าไว้ครับ"

...

"มันก็ทำให้เราเป๋เหมือนกันนะครับ บางทีที่พอมีคน Press เรามากๆ เนี่ย สิ่งที่อันตรายที่สุดคือเราหลงทางจากสิ่งที่เราทำจริงๆ สมมุติว่าตอนแรกเราอยากจะทำดนตรีเพื่อที่จะทำให้เพลงเจ๋งที่สุดเท่าที่เราจะ ทำได้ใช่ไหมครับ เมื่อมีคน Press เยอะๆ เราก็ชอบ เราก็ไปติดใจ มันก็เลยเป๋ไปว่าเราอยากจะทำเพลงเพื่อให้คนชมเยอะที่สุด ซึ่งก็ต้อง Balanceกันพอสมควร"

...

"พอเราเริ่มที่จะทำเพลงเพื่อที่จะให้คนชม เพื่อให้คนชอบ เพื่อให้คนคิดยังไงกัน แต่ว่าไอ้ความตั้งใจเดิมของเราก็ยังอยู่ในตัวอยู่นะ ความตั้งใจที่ว่าเราอยากจะทำเพลงให้เจ๋งที่สุด มันก็เลยขัดแย้งในตัวเองอย่างสุดยอดเลยล่ะ อะไรดีวะเนี่ยแล้วก็เครียด ผมว่าวิธีรับมือก็คือต้องกลับสู่รากเหง้าว่าเรามาถึงจุดนี้ได้เพราะว่าความ ตั้งใจไหน แค่นั้นเอง"

...

"ซึ่งความตั้งใจดั้งเดิมของผมคือความตั้งใจที่จะทำเพลงมากกว่าที่จะ ทำให้คนชอบ คือเราทำเพลงแล้วมีคนมาชอบ ไม่ใช่คนมาชอบเรา แล้วเราค่อยทำเพลง ซึ่งตอนนี้ก็พยายาม Balance อยู่ครับ มีคนชมอีกก็ดีนะ ก็ต้องรู้สึกดีอยู่แล้วล่ะคนเรา แต่ก็ต้องกลับมาดูว่าอะไรสำคัญกว่า คนชมหรือว่าใจเรา สมมุติว่าเราทำเพลงแล้วคนชอบ อย่างเพลงทฤษฎีสีชมพูเป็นเพลงที่คนชอบ แต่ผมไม่ชอบเลย มันฮิตไปก็เท่านั้นน่ะ ผมรู้สึกอย่างนั้นไง แต่ว่าถ้าทำให้เราชอบด้วยแล้วเขาชอบด้วย ก็ยากนะ แต่ถ้าทำได้เราก็จะมีความสุขทีเดียวครับ"


...

"ผมไม่ได้ตลกนะครับ แต่ผมเป็นคนกวนตีนมากกว่า อย่าเรียกว่าตลกเลยครับ ผมว่าเอาเข้าจริง 'บอย โกสิยพงษ์' ก็ไม่ใช่คนโรแมนติกนะ(หัวเราะร่วน) ผมว่าเพลงไม่ได้บอกอะไรว่าเขาเป็นคนยังไงนะ ผมไปเจอวงเดธเมทัลเขาก็เป็นคนตัวหอมๆ เลี้ยงลูกอยู่บ้าน น่ารัก ไม่ได้ฆ่าแมว บูชายัญอะไรแบบนั้น ผมว่าเพลงมันเป็นเหมือน Outer Ego ของเราน่ะ คือเราอาจจะไม่ใช่คนที่ชีวิตแบบนี้ แต่ว่าเราก็มีอักด้านนึงที่เป็นแบบนี้ ชีวิตจริงเราก็ไม่ได้ใช้แบบนั้น แต่เราเอาออกมาในงานของเรา"

...

"ถ้าฟังเพลงจริงๆ เพลงของผมก็จะมีความกวนตีนอยู่พอสมควร จะมีแอบกวนตีนอยู่ทุกเพลงครับ ลืมไปก่อน คนที่คุณก็รู้ว่าใคร หรือเพลงความคิดก็แอบกวนตีนนะ(หัวเราะ) จะมีความเกรียนอยู่เสมอนะครับ ถ้าลองจับดีๆ"

...

"สิ่งที่เราทำไปทั้งหมดในวันนี้ มันไม่ใช่แค่การทำเพลงแล้วในยุคนี้น่ะครับ มันคือการ Branding แล้ว ผมคิดว่าทุกเพลงที่พวกเราทำ มันไม่ใช่สินค้าของเราแล้ว สินค้าของเรามันคือเรา ส่วนเพลงมันคือ Advertising ของเรา ผมก็คงจะต้อง Branding ตัวเองให้แข็งแรงด้วย (หัวเราะ) แล้วก็ต้อง Balance ตัวเองมากขึ้น ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าการที่พยายามทำเพลงรัก ทำเพลงอกหัก แล้วมันได้เป็นเพลงฮิต มันไม่พอสำหรับการ Branding อีกแล้ว"

...

" เพราะว่าคนยุคนี้คนไมได้ซื้ออัลบั้ม โอเค คนล้านคนรู้จักเราด้วยเพลงเพลงเดียวหรือสองเพลงที่ฮิต แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่มันจะอยู่ต่ออย่างยั่งยืนมันคือคนที่อาจจะแค่หมื่นสองหมื่นคนที่เป็นแฟนเราจริงๆ ซึ่งเขาอาจจะต้องการมากกว่าแค่เพลงที่ฮิตน่ะ ผมคิดว่าเราอาจจะต้อง Serveคนกลุ่มนี้ด้วยการทำเพลงที่ไม่ใช่แค่เพลงอิตแล้ว มีเพลงที่มันทรงคุณค่าขึ้น อาจจะมีเพลงที่ปล่อยไปแล้วตั้งใจไม่ฮิต แต่ตั้งใจสร้างแบรนด์"

...

"นักแต่งเพลงสไตล์กวนตีนแบบไม่รู้ตัว คือคนฟังไม่รู้ตัวว่าโดนกวนตีนอยู่ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร กวนเงียบน่ะครับ"

...

 


"อยากให้เพลงฮิต อย่าคิดถึงทางลัด" 'แสตมป์ อภิวัชร์' เขาบอกมา...
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2555
ตัดมาบางส่วน ^^ ถ้าจะอ่านต่อแบบเต็มๆเชิญได้ที่นี่ ค่ะ





 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2556 15:02:50 น.
Counter : 1840 Pageviews.  

ทฤษฎีสีชมพู

เพิ่งเห็นว่าเคยเขียนถึงเพลงนี้เอาไว้นิดนึง(นิดนึงจริงๆ^^) ครั้งนึง เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ที่นี่
ลืมไปแล้ว 555 นี่ล่ะมั๊งข้อดีของการเขียนบันทึก (แต่ต้องเก็บดีๆ และต้องหามันเจอด้วยนะ)
ตอนนั้นยังไม่รู้จักแสตมป์ ... แต่ชอบเพลงนี้มากอย่างที่เคยบอกไว้ ^_^

ชอบเมโลดี้เพลงนี้ โดยเฉพาะท่อนฮุค... ฟังแล้วใจลอยไปเลย
และชอบตรง มันเป็นเพลงรัก ที่ใช้คำได้ลื่นไหล ได้ฟิลแบบสีชมพูหม่นๆนิดๆ
รวมแล้วเป็นเพลงรักแบบนุ่มๆไม่เลี่ยน ^^ 

 

 

 

เธอ เธอเป็นสีชมพู เธอมีโลกของเธออยู่
ที่ฉันไม่อาจล่วงรู้และไม่เคยเข้าไป
ส่วนฉันเป็นสีเทา มีแต่ความเหงารอบๆ กาย
ไม่รู้เลยมีความหมายอะไรมากกว่านี้

แต่เธอและฉันก็เดินเข้ามาชิดใกล้
มาทำให้ฉันแปรเปลี่ยนเป็นสีใหม่
เมื่อชีวิตของเราไหลปนกัน
โลกของฉันก็ดูจะเปลี่ยนสีไป

อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน
เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน
โลกของฉันและเธอก็สดใส กว้างใหญ่ขึ้นกว่าวันนั้น
เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา

เราผลัดกันเดินเข้าไป สู่โลกคนละใบ
สุดท้ายก็ต่างไม่รู้ ว่าโลกของใครเป็นของใคร
เมื่อในวันนั้นเธอเข้ามาใกล้ๆ
มาทำจนฉันแปรเปลี่ยนเป็นสีใหม่
และเมื่อสีของเราไหลรวมกัน
โลกของฉันก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปทั้งใบ

อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน
เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน
โลกของฉันและเธอก็สดใส กว้างใหญ่ขึ้นกว่าวันนั้น
เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา

เมื่อเธอได้เข้ามา ฉันก็ได้เห็นอะไรขึ้นมากกว่า
จากนี้และเรื่อยไป จากนี้ทั้งหัวใจ
ก็คงจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมใช่ไหม

อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน
เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน
ก็คงจะเป็นไปตามทฤษฏีที่เขาบอกไว้ว่ามัน
เมื่อสีทั้งสองผสมกันนั้น

ก็คงไม่มี อะไรที่จะเป็นเหมือนเดิมได้อย่างวันนั้น
เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา

 

"ทฤษฎีสีชมพู" : เพลงประกอบหนังสือ The Soundtracks Of My Love
Music & Lyrics : แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข

 

 

 

"ใครที่รู้จักกันแล้วเนี่ย ไม่มีทางที่จะไม่รู้จักกันได้อีก..." : แสตมป์ อภิวัชร์ กล่าวไว้
รู้สึกจะใน 2talk ตอนโปรโมทหรือพูดถึงหนังสือ/เพลงทฤษฎีสีชมพูนี่แหละ
เมื่อใครลองได้รู้จักกันแล้ว มันจะมีส่วนผสมบางอย่างเข้ามาในชีวิต และมันไม่สามารถแยกออกได้ เพราะมันได้ผสมลงไปในชีวิตเราแล้ว ^^ นี่คือ "ทฤษฎีสีชมพู"
ป.ล.ไม่ได้ถอดเทป แต่ก็พูดประมาณนี้แหละ




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2556    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2556 16:33:39 น.
Counter : 2574 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  

perfect blue
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




A r e . . y o u . . f e e l i n g . . f i n e ?






流れてゆく 星の涙を 数えながら

揺れる時をわたって

唇の傍で 僕の眼の前に 晒されだした

全ての愛で lost yourself in happiness

.

Changing, nothing gonna changing

彷徨い巡る 季節に 惑わされて

縋る この血が今縋るものに 身を委ねてみよう

.

BGM :

twinkle, twinkle : L'Arc-en-Ciel










© สงวนลิขสิทธิ์ .. นะจ๊ะ ..
เหอ เหอ เหอ


littledevilxxx © 1999 - 2022 All Rights Reserved.


งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

*
New Comments
Friends' blogs
[Add perfect blue's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.