ตอนที่ 34 <เกือบจะสายเกินไป> ครึ่งแรก




ตอนที่ 34 เกือบจะสายเกินไป (ครึ่งแรก)

เจ้ากระทิงเปลี่ยวสีเทาเข้มเกือบดำจอดนิ่งสนิทอยู่หน้ารั้วบ้านทรงไทยประยุกต์ตอนเกือบสองทุ่มแสงสลัวจากไฟรั้วส่องกระทบตัวรถให้เห็นเพียงเงารางๆเป็นตะคุ่มอยู่ใต้เงาต้นไม้ใหญ่เจ้าของรถเอื้อมมือกดปุ่มเปิดไฟให้ความสว่างภายในห้องโดยสารขณะที่คนนั่งข้างๆกำลังวุ่นวายกับการรวบรวมข้าวของที่ถูกโยนกองระเกะระกะอยู่ข้างหลังชายหนุ่มเอี้ยวตัวไปช่วยหยิบถุงต่างๆส่งให้ด้วยสายตาเจือรอยไม่พอใจนัก

“ไม่รู้จะซื้ออะไรเยอะแยะเพิ่งรู้ว่า ‘พี่ชาย’ ของน้องพลูคนนี้เนี่ยจะนิยมเล่นบทเสี่ยใหญ่ใจป้ำทุ่มเงินเอาใจสาวซะด้วย” น้ำเสียงเต็มไปด้วยแววเย้ยหยันผสมเหน็บแนมตาคมตวัดมองใบหน้านิ่งขรึมแวบหนึ่งอย่างขัดใจเหลือกำลัง

“พี่ชลนี่นะ...ยังไม่จบอีกแล้วทีตัวเองล่ะ” คนเถียงรวบรวมถุงต่างๆมากองไว้บนตัก แล้วยื่นหน้าไปส่องกระจกสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง

“ทำไมล่ะ...พี่ซื้อของให้แฟนจะเป็นไรไปแต่ไอ้โนบิตะนั่นมันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นยังจะสะเออะ ดูตาก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ชิชะ...จะเล่นบทพี่ชายที่แสนดีก็เล่นให้มันเนียนหน่อย ยังไม่ทันไรพ่อจะตีบทแตก” ถึงตาคนพูดจะจ้องหน้าคนข้างๆแต่ปากก็มิได้หยุดพร่ำบ่นคู่กรณี

“แล้วต่อไปนี้นอกจากคนในบ้านน้องพลูแล้ว...พี่ก็ต้องเป็นอีกคนที่ต้องรับรู้ว่าน้องพลูจะไปไหนกับใครจะไม่ยอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบวันนี้อีกแน่ๆ”เขาสั่งพลางเกลี่ยผมที่ปรกอยู่ตรงหน้าผากเกลี้ยงเกลาไปให้พ้นทางด้วยกิริยานุ่มนวลผิดกับน้ำเสียงเคร่งเครียด

“เชอะ...คิดว่าตัวเองเป็นใครกันฮึ คนเถียงจ้องตากลับอย่างท้าทาย มันจะมากไปหน่อยล่ะทีตัวเองไปทำอะไรมาไม่เห็นบอกกันบ้างเลย

“เป็นคู่หมั้น...แฟน...และว่าที่สามีชัดไหมครับ...คุณแทนดาว เขาทอดเสียงตอนท้ายอย่างล้อเลียนแทนดาวได้แต่ถลึงตาใส่ กัดปากแน่น โกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

“แล้วอย่าได้คิดทำอะไรรั้นๆนะจนป่านนี้น้องพลูคงรู้แล้วนะครับว่า ดื้อแพ่งกับพี่แล้วจะเป็นยังไงพี่ไม่เกี่ยงหรอกนะ…ที่จะจับตัวน้องพลูมาทำโทษบ่อยๆ”

“จอมเผด็จการเบอร์สอง” คนตัวเล็กว่าทิ้งท้ายก่อนจะรีบเปิดประตูรถเดินจ้ำอ้าวเข้าบ้านชลธีมองตามไปจนเห็นว่าแม่จอมดื้อเข้าสู่ตัวบ้านเรียบร้อยแล้วก็ออกรถอย่างสบายใจหวังว่าคราวนี้แทนดาวคงไม่คิดทำอะไรแผลงๆอีก

แทนดาวหอบของพะรุงพะรังจะเข้าไปหาคุณย่าก่อนแต่พอเหลือบไปเห็นรถของพี่สาวจอดอยู่เรียบร้อยก็สัมผัสถึงความเย็นวาบวิ่งแล่นไปทั่วทุกเส้นเลือดจะอธิบายกับพี่ชายว่าอย่างไรดีที่ไม่ได้กลับมากับหมออชิตะ แถมยังถึงบ้านเลยเวลาเคอร์ฟิวเสียด้วยจะหวังให้พี่สาวช่วยพูดก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว หนำซ้ำป่านนี้คงจะก่อกองไฟเตรียมเผาตนไว้พร้อม

หญิงสาวย่องเงียบในลักษณะจิกปลายเท้าอ้อมหลบห้องนั่งเล่นที่เห็นว่าสมาชิกในบ้านกำลังนั่งดูรายการโทรทัศน์กันอยู่คิดว่าจะอาศัยจังหวะนี้แอบหนีเข้าห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ในระหว่างนั้นก็คงจะคิดหาคำอธิบายดีๆได้แล้วแต่ว่ายังไม่ทันย่างเท้าก้าวขึ้นบันไดขั้นแรก เสียงทรงอำนาจก็เรียกให้หยุดอยู่กับที่ค้างนิ่งเป็นหุ่นอยู่อย่างนั้น

“มาคุยกันก่อนดีไหมครับ....คุณแทนดาว”

“เอ่อ...น้องพลูเอาของไปเก็บก่อนนะคะ” พยายามทำใจดีสู้เสือหันกลับไปมองพี่ชายอย่างกล้าๆกลัวๆแล้วค่อยเผยอยิ้มให้อย่างประจบแต่ฝ่ายนั้นดูเหมือนจะไม่เล่นด้วย

“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นตามพี่มา...เดี๋ยวนี้ แทนดาวกลั้นใจเดินตามพี่ชายไปในห้องโถงใหญ่หัวใจกระตุกวาบ

อย่างแรงเมื่อเห็นปลายเดือนนั่งไขว่ห้างจิบน้ำส้มเย็นฉ่ำอย่างสบายอกสบายใจพอดีกับที่ฝ่ายนั้นเห็นน้องสาวเดินหน้าจ๋อยเข้ามาก็รีบสวมวิญญาณพี่สาวที่แสนดีโดยปัจจุบันทันด่วน

“โอ๊ย! น้องพลูมาแล้วเหรอ พี่เป็นห่วงแทบแย่แน่ะรู้ไหม เนี่ย...คุณอชิบอกว่าแยกกับเราตั้งนานแล้วโทรไปบ้านม๊าหลีก็ไม่มี ทำไมไปไหนไม่บอกกันมั่งฮึแทนดาวปัดมือที่กำลังลูบหลังไหล่แสดงความเป็นห่วงเสแสร้งขัดกับแววตาเยาะเย้ยอย่างนึกขยะแขยงและรังเกียจความไม่จริงใจที่ลูกผู้พี่กระทำอยู่อย่างยิ่ง

“ทำไมจะต้องบอกล่ะ...ก็ไปด้วยกันแท้ๆ” แทนดาวทำหน้าบึ้ง

“สีผึ้งออกไปก่อนพี่จะคุยกับน้องพลูเดี๋ยว” เทียมภพสั่งเสียงเย็นแล้วหันยังน้องสาวคนเล็กที่ยืนหน้าซีดบิดมือไปมา

“ขอพี่ไปเที่ยว...แล้วทำไมกลับเอาป่านนี้ มือใหญ่กดตัวน้องสาวให้นั่งลงเป็นสัญญาณบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ ‘เล่นๆ’ แทนดาวมองหน้าพี่ชายด้วยสายตาวิงวอนไม่รู้ว่าปลายเดือนเล่าอะไรไปแล้วบ้างแต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้อธิบายความจริงกันก่อนเถอะ

“ก็...” อาการอึกอักลังเลของเกิดทีหลังยิ่งกระตุ้นความโมโหในใจให้เพิ่มมากขึ้น

“พี่บอกแล้วใช่ไหม...ว่าห้ามไปเถลไถลที่ไหน” เทียมภพขบกรามแน่น เขาแทบคลั่งตอนน้องสาวคนรองโทรมาบอกว่าแทนดาวขอไปเดินเที่ยวกับอชิตะตามลำพังก่อนจะหายไปและติดต่อไม่ได้ทั้งคู่ความรู้สึกตอนนั้นร้อนรุ่มเหมือนใครมาเผาถ่านในทรวงอก

“สีผึ้งบอกพี่ว่า...เราขอไปกับไอ้หมอกรุ้มกริ่มนั่น” แทนดาวอึ้ง นึกไม่ถึงว่าปลายเดือนจะเอาตนมาขายทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้ทั้งหมด

“แต่ว่า...พี่ผึ้งก็รู้นี่คะแถมยังเป็นคนบอกเองว่าไปด้วยกันไม่ได้เพราะติดคอร์สนวดเล็กหหน้าเรียวอะไรนั่น”

“พอแล้ว...เลิกโทษคนอื่นซะทีทำไมต้องโกหกพี่ด้วย เสียงตวาดก้องทำให้แทนดาวสะดุ้งเฮือกน้ำตาเริ่มล้นออกมาคลอเบ้า

“เรื่องที่ไปกับพี่อชิน่ะ...พี่ผึ้งก็รู้เห็นทำไมไม่ไปถามพี่ผึ้งเองล่ะคะ อีกอย่างก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อยแค่ไปกินข้าวกลางวันด้วยกันแล้วก็ซื้อของพวกนั้น” แทนดาวขึ้นเสียงเถียงเรื่องอะไรจะยอมให้ถูกใส่ไข่อยู่ฝ่ายเดียว

“ถ้ายังงั้นเราลองบอกพี่มาซิ...ว่ากลับมากับไอ้ชลมันได้ยังไง คราวนี้จำเลยถึงกับหน้าซีดเผือด พี่ชายเห็นแล้วว่ากลับมากับเขา ทีนี้ล่ะ...เรื่องใหญ่ของแท้แน่นอน

“คิดหรือว่าจะปิดบังพี่ได้ตลอดรู้ไหมว่าตั้งแต่เราหายตัวไป...ติดต่อไม่ได้เนี่ย พี่เป็นห่วงเรามากแค่ไหนตอนที่ไอ้ชลมันมาส่งเราที่บ้าน พี่แทบจะไปฆ่ามันถ้ายัยผึ้งไม่ห้ามไว้ล่ะก็...”

“แล้วพี่ผึ้งบอกว่าไงล่ะคะ?เขาว่าไง...ก็ว่างั้นแหละ” ความน้อยเนื้อต่ำใจผสมปนในเนื้อเสียงและแววตาตัดพ้อคนเป็นพี่ที่ไม่เคยเชื่อใจกันเลย

“ใบพลู! พี่เสียใจและผิดหวังมากนะที่เราพูดแบบนี้ รู้ไหม...ทั้งพี่ สีผึ้งทุกๆเป็นห่วงเรามากแค่ไหน พยายามปกป้อง ดูแล แต่ทำไมเราถึงทำตัวแบบนี้ออกไปเที่ยวกับผู้ชายสองต่อสองยังไม่พอ...แถมยังกลับมากับผู้ชายอีกคนถ้าคนอื่นรู้เข้ามันจะเป็นยังไง รู้ตัวไหม? ว่าเราน่ะเป็นฝ่ายเสียหาย”เสียงดุดังลั่นไปถึงชั้นบนและเรือนพักแม่บ้านดึงดูดให้หลายคนออกมาดูต้นเสียง

“แต่น้องพลูไม่ได้ทำอะไรเสียหายนี่คะแค่ไปเดินซื้อของเฉยๆ ส่วนพี่ชล...ก็แค่บังเอิญเจอกันแล้วเขาก็มีน้ำใจมาส่ง...เท่านั้นเองทำไมพี่หมากไม่ฟังกันบ้าง? ทำไมฟังคนอื่นได้แต่ไม่ยอมฟังน้องพลูเลย หญิงสาวสะอื้นตัวโยนน้ำตาไหลพราก เทียมภพเบือนหน้าไปจากภาพนั้นเขาโกรธ...โกรธทั้งคนของตัวเองและไอ้คนที่พาน้องสาวไป

“ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเหรอ? แล้วทำไมชุดที่ใส่ก่อนออกจากบ้านเมื่อเช้ากับตอนนี้มันเป็นคนละชุดกัน คราวนี้

แทนดาวจนตรอกคิดหาคำอธิบายไม่ได้อีกแล้วเมื่อหลักฐานคาตาอย่างนี้ ดวงตาละห้อยมองตามพี่ชายที่รื้อค้นถุงต่างๆจนข้าวของกระจายออกมา

“อื้อหือ! ฟัดเหวี่ยงกันจนเสื้อผ้าขาดวิ่นเลยนะครับ...น้องสาวคนดีของพี่”แทนดาวมองชุดที่ขาดในมือพี่ชายอย่างหวาดผวาหลักฐานขนาดนี้ไม่ว่าใครก็คงจะคิดไปในทางเดียวกัน

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะน้องพลูกับพี่ชลไม่ได้ทำเรื่องบัดสีแบบนั้น

“พี่ให้เราไปเที่ยวนะ...ไม่ได้ให้ไปแรด ด้วยโทสะที่สุดจะเหลืออดเทียมภพปาชุดนั้นใส่หน้าน้องสาวอย่างแรงและบริภาษด้วยถ้อยคำหยาบคายเป็นครั้งแรกในชีวิต

“น้องพลูไม่ได้ทำตัวเลวแบบนั้นนะ!มันขาดเพราะอุบัติเหตุ” แทนดาวลุกขึ้นแผดเสียงตวาดลั่นบ้าน

“หยุดนะ! กล้าขึ้นเสียงกับพี่แล้วเหรอ...แทนดาว เธอกล้าขึ้นเสียงกับพี่เพราะไอ้ชลเหรอ

“พี่หมากคะ...ค่อยๆพูดกันเถอะค่ะดูสิ...น้องพลูกลัวจะแย่แล้วนะคะ” ปลายเดือนรีบเข้ามาห้ามทัพ

“นั่นสิ...คุยกันดีๆก่อนเถอะเจ้าหมาก” คุณย่าตามมาสมทบช่วยพูดอีกแรง แทนดาวเข้าใจในทันทีว่าผู้เป็นพี่สาวคงใช้เวลาที่หายไปเมื่อครู่เล่ารายละเอียดเท็จให้คนอื่นๆฟังกันหมดแล้วและตอนนี้ก็ได้เวลาที่จะจับหล่อนเผาประจาน

“เรื่องนี้ผมจัดการเองได้น้องผม...ผมเลี้ยงมา ถ้ามันจะมาดีแตกตอนนี้ ...ผมเองนี่แหละจะเป็นคนกำหราบ แทนดาวทั้งน้อยใจทั้งกลัว แต่ก็ไม่เท่าความเสียใจที่คนเกิดก่อนไม่ให้ความไว้วางใจแถมยังไม่ฟังคำชี้แจงสักนิด

“หมาก! ทำไมว่าน้องแรงแบบนี้ล่ะ” คุณดวงทิพย์ทนดูพี่น้องถกเถียงกันเอาเป็นเอาตายไม่ไหวรีบเข้าไปกอดบุตรสาวที่ร้องไห้ตัวสั่นอยู่บนเก้าอี้

“แม่ครับ...น้องพลูทำผิดมากนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอแอบไปกับไอ้ชล ผมไม่รู้ว่าไอ้นั่นมันหลอกน้องไปยังไงแต่ที่สำคัญยัยพลูยอมไปกับมันทุกครั้ง เกิดพลาดท่าเสียทีท้องป่องขึ้นมาจะทำยังไง? ชอบนักหรือครับ...ที่ต้องเดินเอาปี๊บคลุมหัวน่ะ”

“พูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะหมากคุณชลกับน้องพลูเป็นคู่หมั้นกัน แล้วพ่อก็เชื่อว่าเขาต้องให้เกียรติน้องพลูอยู่แล้วหมากคิดมากไปเองมากกว่านะ” คุณพ่อช่วยเสริมอีกคนแต่ก็ไม่ได้ผล

“น้องพลูยังเป็นของผมอยู่ครับพ่อเธอยังไม่มีคู่หมั้นหรืออะไรทั้งนั้น ผมเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็กจนโต ดังนั้นผมจะเป็นคนตัดสินใจเองว่า...จะทำยังไงต่อไป” เขาหันมามองน้องสาวอีกครั้งก่อนจะสั่งเสียงเย็น

“มันคงใช้คารมกล่อมเราให้ลืมเรื่องเละๆที่มันทำไว้ใช่ไหม? ถึงยังยอมให้มันหลอกเอาซ้ำซาก” คำพูดนั้นกรีดลึกลงไปในหัวใจดวงน้อยๆที่นั่งรับฟังด้วยความร้าวราน

“ต่อไปนี้...ห้ามเราไปพบไอ้ชลมันอีกโดยเด็ดขาดไม่ว่าจะทางไหนทั้งนั้นถ้ายังดื้อด้านไม่ฟังกัน...ก็เตรียมเก็บข้าวของได้เลย พี่จะไปลาออกกับมหา’ลัยให้ แล้วก็เชิญไปอยู่กินเป็นผัวเมียกับมันซะให้จบๆไปถ้าไม่รักพี่กับพ่อแม่แล้วล่ะก็...ไปอยู่กับมันเลยทุกคนต่างอึ้งพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำประกาศที่แสนโหดร้ายนั้น คุณดวงทิพย์ถึงกับต้องปาดน้ำตาเพราะความสงสารบุตรสาวและโดยที่ไม่มีใครคาดคิด...เทียมภพหยิบกระเป๋าสะพายมาค้นได้โทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กแล้วก็ปามันกับผนังห้องจนแตกกระจาย

“เลิกติดต่อกับมันโดยเด็ดขาด แทนดาวรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง คนที่รักที่สุดในชีวิตกลับทำให้เสียใจที่สุดในชีวิตเช่นกัน

“เจ้าหมาก! ทำไมทำรุนแรงขนาดนี้ โธ่เอ๋ย...” คุณย่าลูบศีรษะหลานสาวคนเล็กด้วยความเห็นใจเต็มเปี่ยม

“พี่หมากเลี้ยงน้องพลูมากับมือทำไมถึงไม่รุ้ว่าน้องพลูเป็นยังไง? พี่หมากคิดว่าน้องพลูเป็นคนไม่รักดีแบบนั้นหรือ

คะ หญิงสาวคร่ำครวญอย่างน้อยอกน้อยใจสุดจะพรรณนามองเศษซากโทรศัพท์ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นห้องขณะกัดริมฝีแน่นจนเจ็บเพื่อเก็บกลั้นความสะเทือนใจ

“นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่พี่จะพูดเรื่องนี้กับเราอย่าให้มีอีกแม้แต่นิดเดียว พี่รักเรามาก...พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เรามีความสุขยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้เรามีชีวิตที่ดีกว่าเด็กผู้หญิงคนอื่นๆแต่ในเมื่อเรามองไม่เห็น...พี่ก็ไม่จำเป็นต้องทำต่อไปอีก...จริงไหม เขาเงยหน้ามองเพดานเพื่อขับไล่ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการพูดจาทำร้ายจิตใจน้องสาวที่เฝ้ากอุ้มชูมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก

“น้องพลูอย่าคิดมากนะจ๊ะพี่หมากกำลังโกรธเลยพูดไปแบบนั้น” ปลายเดือนเข้ามาช่วยปลอบคนที่สะอึกสะอื้นปานใจจะขาดแทนดาวรีบเบี่ยงตัวหลบแล้วยังผลักลูกผู้พี่เสียกระเด็นลงไปกองกับพื้น

“ว๊าย! น้องพลูทำไมทำแบบนี้ล่ะ” ปลายเดือนร้องเสียงหลงหลายคนตกใจกับการกระทำก้าวร้าวของน้องคนเล็ก “พี่ผึ้งนั่นแหละตัวดี!เก่งนักใช่ไหมไอ้เรื่องปั้นน้ำเป็นตัว เกลียด...เกลียดที่สุด

“หยุดนะ! นี่ต่อหน้าคุณย่ายังกล้าอีกเหรอ”เทียมภพกระชากแขนน้องสาวไม่ให้เข้าไปซ้ำน้องคนรองที่นั่งบีบน้ำตาอยู่บนพื้น

“น้องพลู...ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ” ปลายเดือนร้องไห้สะอึกสะอื้นบีบน้ำตาออกมาต่อเนื่องได้อย่างน่าทึ่ง

“กล้าลงไม้ลงมือกับพี่เชื้อใช่ไหมไม่ให้ความเคารพกันแล้วใช่ไหม ใบพลู...ทำไมเราถึงทำตัวเลวๆแบบนี้ได้นะ เทียมภพรีบลากน้องสาวคนเล็กออกมาข้างนอกบ้านแล้วเหวี่ยงลงไปกองเขลงกับพื้นหญ้าเหงื่อกาฬแตกพลั่กหน้าตาแดงก่ำเพราะความโกรธสุมอก พอหันรีหันขวางไปเจอไม้ขนาดพอดีมือก็จับมันหักมันเป็นสองท่อนรวบคู่ไว้ด้วยกัน

“เอาสิ!...ตีให้ตายไปเลย น้องพลูไม่ใช่คนดีแล้วนี่” คนตัวเล็กท้าทายอย่างไม่เกรงกลัวเทียมภพทำเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอแล้วฉุดแขนน้องสาวขึ้นมาอีกครั้งเพื่อจะหวดไม้ฟาดลงตรงน่องขาที่โผล่พ้นชายกระโปรงออกมาแทนดาวน้ำตาร่วงเผาะด้วยความเจ็บปวดที่สุด ทั้งเจ็บตัวเจ็บใจ ตั้งแต่จำความได้...พี่หมากจะเป็นคนแรกและคนเดียวที่คอยปกป้องไม่ว่าเกิดเรื่องใดๆก็ตาม แต่ตอนนี้พี่ชายคนนั้นไม่มีอีกแล้ว รู้สึกว่าเนื้อตัวกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆเจ็บแสบจนชาไปทั่วร่างกาย

“อยากเป็นเมียมันมากนักใช่ไหม? ชอบใช่ไหมคนเลวๆแบบนั้น ทำตัวเป็นเด็กใจแตกเรอะ? ถ้าพี่ห้ามเธอไม่ได้...ก็อย่ามาเรียกว่าพี่ ไม้ท่อนนั้นยังตีลงมาไม่หยุดยั้งจนหักกระเด็นสั้นกุดลงไปทุกครั้งที่หวดฟาดลงมาและแน่นอนว่าเนื้อนุ่มที่รองรับปริแตกเลือดซิบตามจำนวนครั้งที่ถูกตี ทุกครั้งที่ท่อนไม้กระทบถูกเนื้ออ่อนบาง...หัวใจของคนลงทัณฑ์ก็เหมือนถูกแส้เฆี่ยนเจ็บแปลบทุกครั้งที่เห็นบาดแผล แต่ถ้าหากใจอ่อนต่อไปอีกน้องสาวของเขาคงไม่พ้นต้องตกเป็นของหวานให้ศัตรูตัวฉกาจชิมแล้วคายทิ้งเหลือแต่กาก

“พอแล้ว! เจ้าหมาก...ตายแล้ว คุณย่ารีบเข้ามาห้ามปรามแต่กระนั้นความเสียหายทางร่างกายก็มากเกินกว่าจะแก้ไขได้แล้ว

“โธ่! หลานย่า...ทำไมแกต้องรุนแรงแบบนี้ด้วยฮึ ดูซิ...น้องมันเจ็บไปทั้งตัวแล้ว” คุณย่ากอดหลานสาวแน่นด้วยความสงสาร

“ฮือ...พลูเกลียดพี่หมากเกลียดที่สุดในโลกเลย

“ใบพลูเจ็บตัววันนี้ ดีกว่าต้องเจ็บใจไปตลอดชีวิต”

“แล้วคุณชลเขาไม่ดีตรงไหนล่ะ...แกบอกมาซิ คุณเที่ยงธรรมถามกลับด้วยความโกรธแล้วค่อยๆดึงตัวลูกสาวคนเล็กขึ้นมาเทียมภพชั่งใจกับคำถามนั้นอยู่ครู่หนึ่ง เขาจะไม่ทนเก็บไว้อีกต่อไปถ้ามันจะทำให้ทุกคนตาสว่างแล้วหันมาระแวดระวังแทนดาวให้มากกว่านี้

“มันทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับผิดชอบไงล่ะพ่อ! ผู้หญิงคนนั้นก็คือเปรมยุตาไง…แล้วยัยพลูก็จะเป็นรายต่อไป

ทุกคนหันมามองเขาเป็นตาเดียวคนที่ตกใจที่สุดเห็นจะเป็นปลายเดือน ความจริงที่เพิ่งได้รับรู้ทำให้เริ่มเข้าใจอะไรได้มากขึ้นอย่างแรกก็คือทำไมพี่ชายถึงตั้งแง่รังเกียจชลธีนัก อีกประการคือความสัมพันธ์ซับซ้อนกับคนรักเก่า

“หมาก...จริงเหรอ คุณเที่ยงธรรมถามต่อด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาสลับกับมองหน้าลูกสาวแต่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรในทันที ด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่มีเหตุมีผลท่านจึงไม่ยอมฟังความข้างเดียว

“พ่อว่าเราเข้าไปคุยในบ้านเถอะนะพาน้องพลูไปทำแผลด้วย” เทียมภพรีบหันหลังเข้าบ้านไปก่อนใครส่วนแทนดาวรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือวิ่งออกไปทางหน้าบ้านท่ามกลางความตกใจปนเสียงร้องเรียกให้กลับมา

“หมาก!...แย่แล้วลูก น้องหนีไปแล้วเทียมภพหันมาตามเสียงร้องเรียกของมารดาก่อนจะตะโกนก้องสะท้าน

“ช่างมัน…มันจะไปหาผัวที่ไหนก็ไป๊ พอพูดไปแล้วก็ต้องเจ็บปวดในดวงใจเสียเองแต่ก็แข็งใจหันหลังเดินกลับเข้าบ้านไปในใจคิดแต่ว่าคนน้องคงทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจเท่านั้น ไปไม่ไกลเดี๋ยวก็กลับมาไม่น่าจะพ้นรั้วบ้านเป็นแน่ เพราะเคยออกไปข้างนอกคนเดียวเสียที่ไหนยิ่งมืดๆแล้วไม่ต้องพูดถึง ออกจะขี้กลัวขนาดนั้น

หากแต่ใครจะรู้ว่า บางครั้งคนเราเมื่อมาถึงที่สุดของความอดทนแล้วความกดดันที่มีบวกด้วยความชอกช้ำที่ได้รับก็อาจจะทำให้เตลิดไปไกลได้ และตอนนี้มันก็กำลังเกิดขึ้นกับแทนดาวที่ฝืนใจพาร่างบอบช้ำวิ่งทั้งน้ำตาออกมาไกลจากตัวบ้านพอสมควรจนเริ่มรู้สึกอ่อนล้าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ออกจากบ้านมาคนเดียวโดยไร้จุดหมาย ไร้พี่ชายคอยคุ้มครองอีกต่อไป

ความมืดที่ปกคลุมไปทั่วก่อให้เกิดความกลัวและหวาดระแวงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนมีเพียงแสงไฟส่องถนนพอให้เห็นหนทาง ยังดีทีมีรถราวิ่งเข้าออกในซอยบ้างเพราะยังไม่ดึกมากหาไม่แล้วคงไม่มีความกล้าพอที่จะก้าวขาพาตัวเองเดินเรื่อยมาจนถึงปากซอยแน่ๆ แต่คำถามก็คือ...ตอนนี้จะไปที่ไหนดีหญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งตรงป้ายรถเมล์ที่มีคนอยู่ไม่กี่คนกำลังนั่งรอรถกลับบ้านผิดกับตนที่ออกมาจากบ้านและนั่งรออย่างไร้ที่ไปบาดแผลที่มีเลือดซึมตลอดเวลายิ่งเพิ่มอาการปวดแสบเมื่อกระทบถูกลมและอากาศเย็นๆน้ำตาหยดสุดท้ายเหือดแห้งไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงคราบความเจ็บช้ำบนใบหน้า

ขณะที่ในบ้านเต็มไปด้วยความวุ่นวายโกลาหลกับการหายตัวไปของลูกสาวคนเล็กคงมีแต่เทียมภพเท่านั้นที่ยังคงขังตัวเงียบในห้องหนังสือมือที่ใช้ลงโทษน้องสาวที่รักปานดวงใจยังคงเจ็บชาไม่หายพยายามบอกตัวเองว่าสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมดนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว ให้แทนดาวเข็ดหลาบเสียแต่วันนี้ดีกว่าต้องมาทนกล้ำกลืนมองน้องนั่งอกขมอกไหม้น้ำตาเช็ดหัวเข่าหากต้องลงเอยกับชลธีจริงๆ

“เดี๋ยวผึ้งจะออกไปตามเองนะคะ” ปลายเดือนอาสาออกไปหาน้องสาว สีหน้าที่แสดงความเป็นห่วงกังวลต่อหน้าทุดคนช่างแนบเนียนแต่พอคล้อยหลังก็เดินยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปที่รถแล้วติดเครื่องยนต์อย่างใจเย็นไม่คิดว่าทุกอย่างจะง่ายและราบรื่นกว่าที่คิดไว้ ตอนแรกก็แค่หวังให้แทนดาวโดนข่าวซุบซิบเล่นงานให้ผิดใจกับชลธีแต่เรื่องก็กลับเลยเถิดมาขนาดนี้ถือเสียว่าเป็นกำไรที่ได้รับคนเดียวเต็มๆ นึกภาวนาขอให้ลูกผู้น้องถูกฉุดไปข่มขืนหรือถูกลักพาตัวไปเลยก็ดี

หญิงสาวยิ้มกับตัวเองก่อนออกรถเพราะความคิดใสๆแวบขึ้นมาในสมองถ้าแทนดาวไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาอีกต่อไปแล้วล่ะก็...ชลธีคงไม่อยากแม้แต่จะแลตามองแน่นอนมือไวเท่าความคิด มือเรียวบางหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาแนวร่วมทันที

แทนดาวยังไปได้ไม่ไกลอย่างที่คิดจริงๆด้วยยังคงนั่งเหม่ออยู่ตรงป้ายรถเมล์หน้าปากซอยนี่เองปลายเดือนเปิดไฟจอดรถข้างทางแล้วลงไปหา แทนดาวปาดน้ำตาออกก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามบังคับไม่ให้สั่น

“มาตามเหรอ? พลูไม่กลับไปหรอกนะ”

“ไม่ได้มาตามหรอกจ้ะพี่หมากไม่เห็นเดือดร้อนเลยที่เธอออกมาน่ะ พี่แค่มาดูให้แน่ใจว่าเธอยังอยู่รอดปลอดภัยจะได้ไปบอกกับแม่เธอถูก”

“งั้นก็กลับไปได้แล้ว” เจ็บแปลบในอกเมื่อได้ยินว่าพี่ชายไม่เดือดร้อนที่ไม่มีน้องสาวคนเล็กอยู่ในบ้านพี่หมากไม่ต้องการน้องสาวไม่รักดีอีกต่อไปแล้ว

“แล้วจะไปไหน? มานั่งอยู่ตรงนี้ไม่กลัวถูกลากไปรุมโทรมหรือไงหรือว่าต้องการแบบนั้นกันล่ะ ปลายเดือนเยาะ

“ถ้าจะมาซ้ำเติมกันก็ไปซะเถอะพลูเหนื่อยจะแย่...ไม่มีแรงพอที่จะสู้กับพี่ผึ้งหรอกนะ”

“ถ้าไม่คิดจะกลับบ้านวันนี้ล่ะก็...เธอจะไปไหน

“ไม่รู้...”

“เอางี้ไหม...ไปอยู่ที่คอนโดพี่แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับหรือจะอยู่ให้สบายใจสักสองสามวันแล้วค่อยกลับก็ได้”ปลายเดือนเสนอทางเลือกที่คิดว่าน่าจะหว่านล้อมลูกผู้น้องให้คล้อยตามได้ดีที่สุดแทนดาวผู้ซึ่งกำลังอับจนหนทางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแต่มันจะดีหรือที่จะออกไปนอนค้างอ้างแรมที่อื่นนอกเหนือจากบ้านที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เกิด

“พี่จะโทรกลับไปบอกที่บ้านว่าเจอตัวเราแล้วและจะพาอยู่ที่คอนโด...ดีไหม เมื่อเห็นน้องสาวยังลังเลก็โอบไหล่อย่างให้กำลังใจดุจพี่สาวที่รักน้องสุดดวงใจ

“ไม่ต้องกลัวนะ...พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนด้วยจะได้ทำแผลด้วยไง คิดดูนะ...ขืนกลับไปตอนนี้มีหวังโดนตีรอบสองพี่หมากอาจจะยังไม่หายโมโหก็ได้” แทนดาวไม่กลัวหรอกที่จะต้องถูกตีอีกแต่ความน้อยเนื้อต่ำใจที่ได้รับจากการกระทำและคำพูดของพี่ชายได้ทำลายความความอยากกลับบ้านร่างบอบช้ำพยายามยืนขึ้นเต็มสองเท้าก้าวตามแรงจูงของปลายเดือนที่กำลังจะนำพาหล่อนไปสู่หายนะที่ไม่มีใครคาดคิดว่าคนๆหนึ่งจะทำกับพี่น้องร่วมสายเลือดได้เพียงนี้

ปลายเดือนเทียบรถเข้าจอดที่ชั้นเกือบบนสุดของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งแล้วช่วยประคับประคองร่างกายอ่อนล้าของน้องสาวมาถึงห้องพักแทนดาวหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนขณะมองสำรวจไปรอบๆตัว ไม่คิดว่าจะมีวันที่ตนกลายเป็นเด็กบ้านแตกต้องมาอาศัยหลับนอนที่อื่น

ปลายเดือนเสียบคีย์การ์ดตรงกล่องอ่านแล้วผลักบานประตูเข้าไปกลิ่นสีใหม่ส่งกลิ่นฉุนจางๆเพราะว่าเจ้าของห้องไม่ได้ตั้งใจจะซื้อนี้ไว้อยู่อาศัยเองแต่เพื่อเอาขายไว้เก็งกำไรมืออุ่นๆจับจูงมือเย็นเฉียบพามานั่งพักตรงโซฟาในส่วนที่จัดเป็นห้องนั่งเล่นล้อมด้วยกำแพงกระจกใสที่รูดม่านสีทึบปิดไว้มือน้อยๆค่อยแหวกม่านตามรอยแยกมองออกไปเห็นดวงไฟเป็นจุดจิ๋วระยับประดับเมืองหลวงยามค่ำคืนมันควรจะเป็นคืนที่สวยงาม...หากมิใช่เวลาแบบนี้

“น้องพลูนั่งพักไปก่อนนะพี่จะกลับไปดูที่รถเผื่อมีเสื้อผ้าสำรองติดไว้บ้าง อ้อ...จะไปซื้อพวกอุปกรณ์อาบน้ำร้านข้างๆด้วยแย่จริง...พี่ไม่ค่อยได้มาเลยไม่มีของพวกนี้ติดไว้เลย แล้วเดี๋ยวจะโทรบอกที่บ้านว่าเราอยู่กับพี่แล้ว” แทนดาวพยักหน้าเหนื่อยๆ ตอนนี้ขาทั้งชาไปหมด เลือดแห้งเกรอะกรังความอ่อนเพลียจากการร้องไห้มาราธอนบวกความหิวโหยเริ่มอุทร สภาพร่างกายกำลังอ่อนแรงและในที่สุดก็เผลอหลับใหลหมดสติอยู่บนโซฟายาวหวังว่าตื่นขึ้นมาแล้วทุกอย่างจะเป็นแค่เพียงฝันไป

เวลาล่วงเลยไปจนถึงห้าทุ่มก็ยังไม่มีวี่แววว่าแทนดาวจะกลับมาบ้านปลายเดือนที่กลับมาจากการตามหาน้องสาวด้วยสีหน้าร้อนรนบอกกับทุกคนว่าตามหาจนทั่วทั้งที่บ้านคุณหลีกับที่บริษัทแม้กระทั่งที่ธาราก็ไม่มี เท่านั้นยังไม่พอ...เพื่อความแนบเนียนยิ่งขึ้นหญิงสาวกางสมุดโทรศัพท์ไล่โทรเชคตามโรงพยาบาลต่างๆท่ามกลางการรอลุ้นจากคนในบ้าน ส่วนคนที่ตอนนี้นั่งไม่ติดกว่าใครก็คงหนีไม่พ้นเทียมภพเขามั่นใจแล้วว่าน้องสาวไม่ได้แกล้งหนีออกจากบ้านเพื่อเรียกร้องความสนใจเท่านั้น แต่หายตัวไปแล้วจริงๆ

“โทรไปให้ครบทุกที่เลยนะสีผึ้งคุณพ่อแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าโทรไปแจ้งความครบทุกโรงพักแถวนี้แล้ว ไอ้ตำรวจบ้า

เอ๊ย!...คนๆเดียวหากันไม่เจอหรือไงวะ” เทียมภพเดินวุ่นเป็นหนูติดจั่นเผาบุหรี่ไปเป็นกองก็ไม่อาจดับความว้าวุ่นกลุ้มใจได้ เขาชำเลืองมองมารดาที่ร้องไห้จนหน้าซีดบิดาที่คอยโทรแจ้งความตามโรงพัก แล้วตัดสินใจโทรปลุกบรรดาลูกสมุนให้ช่วยกันตามหา

“หาให้เจอนะโว้ย! ไม่งั้นไม่ต้องโผล่มาให้เห็นหน้าถ้าพวกมึงกลับมาโดยไม่มีน้องพลูล่ะก็...พวกมึงตายทุกคน เสียงสั่งเฉียบขาดตวาดก้องกรอกใส่โทรศัพท์ทำให้ไม่ต้องเดาว่าคนรับคำสั่งจะต้องปฏิบัติงานให้สำเร็จส่วนคนบงการทนติดแหงกอยู่ในบ้านไม่ได้อีกต่อไปจึงคว้ากุญแจรถออกไปโดยไม่บอกว่าจะไปไหน

ความห่วงในจิตใจของคนเป็นพี่ยิ่งทวีมากเมื่อขับรถฝ่าความมืดไปเรื่อยๆบนถนนที่เงียบสงบนัยน์ตาสีนิลคอยชำเลืองมองสองข้างทางเผื่อจะเจอน้องสาวเดินอยู่ คำถามเดียวที่คอยผุดวนเวียนไม่รู้จักจบสิ้นคือตอนนี้แทนดาวอยู่ที่ไหนแค่เพียงได้รู้แม้สักนิด...แม้จะอันตรายถึงชีวิตก็จะต้องไปพาตัวออกมาให้ได้จะแลกกับอะไรก็ยอมทั้งนั้นขอเพียงให้ได้เห็นว่าน้องปลอดภัย

ความรู้สึกผิดเริ่มเกาะกินหัวใจจนเป็นอัมพาตเขาต้องทำให้น้องเสียใจมากจริงๆไม่อย่างนั้นแล้วมีหรือที่เด็กสาวขี้กลัวจะเดินออกจากบ้านกลางค่ำกลางคืนแค่คิดว่าจะออกไปเจอกับอะไรบ้าง...หัวใจก็แทบแตกสลายป่นปี้ เสียใจเหลือเกินที่ลงไม้ลงมือและต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงทั้งที่ในใจแค่หวังเพียงให้ได้หลาบจำแต่พอตรึกตรองดูลึกอีกนิด...ก็เพราะตัวเองมิใช่หรือที่เลี้ยงน้องมาแบบนั้น ไม่เคยให้ต้องกระทบกับอะไรไม่เคยลงไม้ลงมือถึงขั้นเลือดตกยางออก ถ้าหากแทนดาวเป็นอะไรไปแม้แต่น้อยความผิดครั้งนี้จะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเลย

ฝ่ามือชื้นเหงื่อกดแตรถี่ๆเรียกคนในบ้านหลังใหญ่กลางดึกแต่ดูเหมือนอาการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวของผู้อาศัยช่างเชื่องช้าไม่ทันใจอาการคุ้มคลั่งจนแทบระเบิดเทียมภพเปิดและปิดประตูรถอย่างรุนแรงจนสั่นสะเทือนไปทั้งคันแล้วไปเกาะประตูรั้วเขย่าร้องตะโกนเรียกเสียงดังลั่นในสภาพไม่ต่างจากกอริลล่าตกมันเป็นครู่ใหญ่กว่าที่จะมีใครโผล่ออกมา

“คุณหมาก! เกิดอะไรขึ้นเนี่ย รมย์นลินยกมือทาบอกที่เห็นเทียมภพมาหากลางดึกสีหน้าท่าทางบ่งบอกว่าเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นและน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก

“เปิดประตูก่อนเถอะแฟง” เขาบอกอย่างร้อนรน พอคนข้างในเปิดประตูก็พรวดพราดเข้ามา

“ไอ้พี่คุณมันอยู่ไหน...อยู่ไหน เสียงถามหาดังลั่นพร้อมกับสายตาที่กวาดไปทั่ว

“มีเรื่องอะไรกันคะบอกแฟงก่อนได้ไหม รมย์นลินแตะแขนเขาเป็นเชิงบอกว่าให้ใจเย็นๆ

“ไปตามพี่คุณมาก่อนดีกว่า...จะได้เล่าทีเดียว” เขาย้ำขณะหันรีหันขวางหาคู่กรณี

“พี่ชลไม่ได้มานอนบ้านหรอกค่ะ...อยู่ที่ธารา”

“เอะอะอะไรกันคะ? อ้าว...คุณหมากนั่นเอง” ปาลิดาที่ถูกปลุกด้วยเสียงแตรเดินโงนเงนลงมาดูตาชั้นเดียวหรี่มองผู้มาเยือนยามวิกาลด้วยอาการง่วงงุน

“ใบพลูโทรมามั่งหรือเปล่า?...ลูกปลา”เทียมภพปรับเสียงให้ค่อยลงแล้วถามออกไป ปาลิดาส่ายหน้าเร็วๆแทนคำตอบ

“ผมจะไปหาพี่คุณที่ธารา”เทียมภพรีบหันหลังกลับไปขึ้นรถ

“คุณหมากรอแฟงเดี๋ยวนะคะ”รมย์นลินวิ่งตัวปลิวเข้าบ้านและกลับมาในไม่กี่นาทีพร้อมกระเป๋าใบเล็กกับเสื้อคลุมตัวหนาแล้วก้าวขึ้นรถไปกับเทียมภพปาลิดายังคงยืนทำหน้างงขณะมองสองคนนั้นออกไป

ด้วยคำสั่งพิเศษของบอสใหญ่อย่างชลธีเจ้าม้าลำพองสีแดงเพลิงจึงได้รับอนุญาตให้ขับวนขึ้นไปจอดบนชั้นที่

สงวนไว้ให้ผู้บริหารระดับสูงโดยไม่ต้องแลกบัตรผ่านใดๆเพราะชลธีไม่อยากให้เป็นที่สนใจของพนักงานบางส่วนที่เข้าเวรกลางคืนฟังเรื่องที่น้องสาวโทรมาเล่าคร่าวๆก็ทำให้เกิดความตึงเครียดจนนั่งไม่ติดที่แทนดาวจะไปอยู่ที่ไหนได้บ้างยังคลำทางไม่ถูก

“แทนดาวอยู่ไหน มึงเอาน้องกูไปไว้ที่ไหนพอเจอหน้ากันเทียมภพก็จับคอเสื้อยืดอีกฝ่ายเขย่าแรงๆ ชลธีสลัดตัวหลุดมาพักหายใจอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบกลับดังลั่น

“ไอ้บ้า! มึงเมาหรือเปล่าวะ? น้องพลูจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

“ก็มึงพาเธอไปไม่ใช่เหรอ ชลธียิ่งงงหนักขึ้น เขาจำได้ว่าไปส่งหญิงสาวตอนสองทุ่มทั้งยังรอดูจนเข้าบ้านไปเรียบร้อยแล้วถึงกลับมา

“ก็พาไปส่งแล้วไงล่ะ”

“ฉันทะเลาะกับน้องก็คิดว่า...เธอจะมาที่นี่”

“ใบพลูไม่ได้มาที่นี่ไม่เชื่อก็เข้าไปดูในห้องได้” เทียมภพมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อใจแต่ดูจากสภาพการณ์แล้วคงไม่ได้มาที่นี่แน่

“วันนี้น้องพลูไปเจอแกได้ยังไง

“ฉันพาลูกค้าไปกินข้าวแล้วเจอเธอกับ...หมออชิตะ ฉันคิดว่า...อชิตะไม่ควรจะเข้ามายุ่มย่ามกับแทนดาวอีกก็เลยพาเธอไปส่ง แต่ระหว่างทางเกิดเรื่องนิดหน่อย...ก็เลยไปถึงบ้านช้า”คำตอบของอดีตเพื่อนไม่ได้ทำให้อารมณ์เย็นขึ้นนักแต่ก็ยังดีที่รู้ที่มาที่ไป

“แล้วทำไม...เสื้อผ้ายัยพลูถึงขาดแบบนั้นยังกับ...ถูกข่มขืนมา” เขากระซิบถามเสียงเครียด

“นี่...เลิกคิดอัปรีย์แบบนั้นเสียทีเถอะมันเกิดอุบัติเหตุจนทำให้เสื้อเธอขาดก็เลยต้องไปหาซื้อชุดมาเปลี่ยนแกอย่าเอามาตรฐานความชั่วช้าของแกมาวัดกับฉันสิ” ชลธีกระซิบตอบเสียงเหี้ยมกว่าแล้วมองไปทางรมย์นลินที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆเท่านั้นก็ทำให้เทียมภพถึงกับพูดไม่ออก

“ไม่ได้มานี่...ก็แล้วไป”เขาบอกแค่นั้นแล้วทำท่าจะเดินออกไป

“เดี๋ยว...แกหาที่ไหนไปแล้วมั่งฉันจะให้คนช่วยหาที่อื่นๆ”สองหนุ่มสบตากันอย่างเข้าใจว่าต่างฝ่ายต่างต้องทำอะไรต่อ เทียมภพตัดสินใจยอมละทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดที่มีเพื่อให้ได้น้องสาวกลับคืนมาเขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากชลธีอย่างน้อยอาศัยเส้นสายของฝ่ายนั้นช่วยตามหาอีกแรงก็ยังอาจจะพอมีทาง

เทียมภพขับรถกลับบ้านด้วยสภาพไม่ต่างจากร่างไร้วิญญาณเขาตามหาน้องสาวคนเล็กจนทั่วแต่ก็ไม่พบ ไม่ว่าจะไล่ตามหาบ้านเพื่อนๆที่คิดว่าอาจจะไปหรือแม้กระทั่งตามร้านคาราโอเกะทว่าไม่มีแม้แต่เงา พอกลับมาบ้านก็ยิ่งประสาทเสียหนักขึ้นเมื่อบิดาบอกว่าตำรวจก็ยังไม่ได้เบาะแสเหมือนกันพวกลูกน้องที่ส่งไปช่วยหาก็ไม่ได้วี่แววอะไรสักอย่าง ชายหนุ่มเดินเหม่อลอยเข้าห้องอย่างหดหู่ตอนนี้ได้แต่ภาวนาเท่านั้น ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองน้องสาวให้ปลอดภัย

เทียมภพพาร่างงองุ้มไปหยุดยืนตรงกรอบรูปที่แขวนติดไว้ผนังด้านหนึ่งแล้วหยิบมันมานั่งพิจารณาในกรอบรูปไม้สีขาวมีกระดาษแข็งสีสวยระบายด้วยสีเทียนทับกันจนเขรอะขระแต่ก็พอจะมองออกชัดเจนว่าเป็นรูปเด็กผู้ชายยืนจูงมือเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆทั้งคู่ยืนอยู่หน้าบ้านที่ทำมาจากขนมและลูกกวาดหลากสีถึงมันจะดูบิดเบี้ยวไม่เป็นรูปทรงแต่ก็ดูอบอุ่น เทียมภพสูดจมูกขับไล่ความตื้นตันที่เอ่อล้นภาพวาดใบนี้เป็นของขวัญวันเกิดชิ้นแรกที่น้องตั้งใจทำให้เขา ตอนนั้นแทนดาวเพิ่งจะอยู่ชั้นอนุบาลและเพิ่งจะหัดเขียนหนังสือได้ครั้งแรกเขาหลุบตาลงเพ่งมองลายมือขยุกขยิกโย้เย้ที่แทบจะไม่เป็นตัวอักษรบนภาพที่อ่านจับใจความได้ว่า

“รักพี่หมาก”

เขาอ่านทวนวลีนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นนานกว่าจะเงยหน้าไล่น้ำตาให้คืนกลับเข้าไปแต่มันก็ยากเต็มทีเพราะมันได้เอ่อล้นท่วมท้นจนสุดที่จะกล้ำกลืนเอาไว้ได้จนต้องยอมปล่อยให้หลั่งรินครั้งแรกในชีวิตที่หัวหน้าครอบครัวและพี่ชายที่ต้องแสดงความอ่อนแอด้วยการร้องไห้สายตาพร่ามัวยังคงจับจ้องภาพวาดที่สวยสดงดงามที่สุดในชีวิต ดวงใจของเขากำลังจะถูกเด็ดมันเจ็บร้าว ปวดลึก จนแทบอยากตาย

“น้องพลูจ๋า...น้องพลูของพี่อยู่ที่ไหน”ชายหนุ่มรำพันกับตัวเอง หวังให้ได้ยินเสียงใสๆตอบกลับมาแต่หูที่คอยเงี่ยฟังยังคงได้ยินเพียงความว่างเปล่า

เทียมภพกอดรูปไว้แนบสูดหายใจไล่น้ำตาหยดสุดท้ายและยืนขึ้นอีกครั้ง มือสั่นเทาแขวนกรอบรูปไว้ที่เดิมก่อนจะออกจากบ้านอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เขาสัญญากับตัวเองว่า ถ้าไม่ได้ตัวแทนดาวกลับมา...เขาก็จะไม่กลับมาเช่นกัน



Create Date : 09 พฤษภาคม 2559
Last Update : 9 พฤษภาคม 2559 12:21:31 น.
Counter : 409 Pageviews.

1 comments
  
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 วันที่: 25 สิงหาคม 2560 เวลา:15:44:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อิสวารายา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2007 นักเขียนหน้าใหม่นามปากกาว่าอิสวารายาได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆกับนวนิยายรักอบอุ่นหัวใจเรื่อง ปลูกรักในรั้วใจ จำได้ว่าเมื่อ 9 ก่อนนั้นนวนิยายเรื่องยาวนี้เป็นที่นิยมของแฟนนักอ่านที่น่ารักหลายท่าน เนื้อเรื่องได้ดำเนินมาถึงตอนใกล้จบแต่ writer ก็หยุด update ต่อจนจบเนื่องจากเกิดเหตุคอมพิวเตอร์ขัดข้อง เนื้อหาที่เป็นต้นฉบับไม่สามารถเรียกมาได้ ก็เลยหมดกำลังใจที่จะนั่งพิมพ์ใหม่ เนื้อเรื่องที่ได้ post ไว้ทั้ง 3 pages (Dek-D, Bloggang, Jamsai) ก็ไม่เหมือนฉบับ rewrite ที่ได้วางพลอตเอาไว้จนถึงตอนอวสาน พอทิ้งไปนานๆเข้าก็เริ่มไม่มีเวลาเพราะยุ่งกับงานรวมถึงการศึกษาต่อ

จนกระทั่งวันนี้ ผ่านไปแล้ว 9 ปี ก็คิดถึงปลูกรักในรั้วใจขึ้นมา เลยลอง search ใน google ก็ยังพบว่าปลูกรักในรั้วใจยังคงอยู่ ประกอบกับมีนักอ่านบางท่านยังคงมา comment อยู่ อิสวารายาก็รู้สึกผิดและคิดว่าควรจะสานต่อปลูกรักในรั้วใจให้สมบูรณ์เสียที ให้สมกับที่แฟนนักอ่านรอคอยให้น้องพลูกับพี่ชลกลับมา ดังนั้นจึงนั่ง copy เนื่อเรื่องจากเวบเอามาเขียนใหม่ โดยอิสวารายาเริ่มหยิบเนื้อหามาค่อยๆ rewrite ใหม่ตั้งแต่เดือน พ.ย. 58

น้องพลูกับพี่ชลกำลังจะกลับมา พร้อมกับเนื้อหาที่ปรับแต่งใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย นอกจากนั้นยังพิ่มบท ตัวละคร เพื่อให้มีอรรถรสมากขึ้น

นวนิยายเรื่องนี้จะได้รับการตีพิมพ์หรือไม่นั้นไม่สำคัญ แต่อิสวารายาคิดถึง น้องพลู พี่หมากและพี่ชล และต้องการให้พวกเขากลับมา มาร่วมสร้างความรัก ความอบอุ่น กับนวนิยายรักน่ารักเรื่องนี้กันใหม่อีกครั้งนะคะ

รักและคิดถึงที่สุด
อิสวารายา
20 ก.พ. 2559
New Comments
  •  Bloggang.com