ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

อั้ม เนโกะ โผล่เปลือยท่อนบน โพสต์คลิปถึง ประยุทธ์ ยันยังอยู่ไทย




อั้ม เนโกะ โผล่แล้ว ! โพสต์ภาพเปลือยท่อนบน และฝากคลิปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกไม่มีสิทธิ์เรียกรายงานตัว ชี้แค่คิดต่างไม่ใช่อาชญากร บอกกลัวโดนจับ แต่ที่กลัวที่สุดคือ คสช. ไม่ได้ดูคลิปนี้

            หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช. ออกคำสั่งเรียก นายศรัณย์ ฉุยฉาย หรือ อั้ม เนโกะ ให้มารายงานตัว เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีทีท่าว่า อั้ม เนโกะ จะเข้ารายงานตัวแต่อย่างใด อีกทั้งช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กของอั้ม เนโกะ ก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ทำให้หลายคนสงสัยว่า อั้ม เนโกะ ขณะนี้หลบหนีไปอยู่ที่ใด จนล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ทาง คสช. ได้ออกหมายจับ อั้ม เนโกะ เนื่องจากขัดคำสั่ง คสช. ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

            อย่างไรก็ตาม ล่าสุด (17 มิถุนายน 2557) อั้ม เนโกะ ได้โพสต์อินสตาแกรม aumneko ซึ่งเป็นภาพของเธอเปลือยท่อนบน เอามือสามนิ้วปิดหน้าอก มีข้อความสีแดงบนเรือนร่างเขียนว่า "NO COUP THAILAND" และมีข้อความเขียนใต้ภาพว่า  "I am now in danger, but I never give up to dictatorship ! #nocoupthailand #politicalvictims #democracy #humanrights #lgbtiq #peace #election"
            นอกจากนี้ อั้ม เนโกะ ยังได้โพสต์คลิปสั้น ๆ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ในทำนองที่ว่า ไม่มีสิทธิ์จะให้ตนไปรายงานตัว ตนแค่เป็นคนคิดต่าง ไม่ใช่อาชญากร และมีสิทธิอยู่ในประเทศไทยตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมกับกล่าวถ้อยคำด่าปิดท้าย นอกจากนี้ อั้ม เนโกะ ยังตอบเพื่อน ๆ ที่เข้ามาคอมเมนต์ว่า "ค่ะ กูอยู่ไทยนิกลัวมันมาเจอฉิบหาย แต่ที่กูกลัวที่สุดคือกูกลัวมันไม่ได้ดูคลิปกู"



ขอขอบคุณ




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2557   
Last Update : 19 มิถุนายน 2557 6:43:57 น.   
Counter : 9857 Pageviews.  

ดูหนังพระนเรศวรฟรี โพลชี้ คนกรุงเทพฯ ภูมิใจและมีความสุข




ดูหนังพระนเรศวรฟรี โพลระบุ คนกรุงเทพฯ มีความภูมิใจในความเป็นผู้นำของสมเด็จพระนเรศวรฯ และภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย มากที่สุด หลังได้ชม ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค 5 ยุทธหัตถี

          วันที่ 18 มิถุนายน 2557 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายนพดล กรรณิกา ประธานชมรมนักวิจัยไทยความสุขชุมชน  เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค 5 ยุทธหัตถี ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ หลัง คสช. เปิดรอบฉายให้ประชาชนดูฟรี


โดยทำการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 424 คน ระหว่างวันที่ 15-16 มิถุนายน 2557 พบว่า...

           ร้อยละ 98.2 ระบุว่า มีความภูมิใจมากถึงมากที่สุด ต่อความเป็นผู้นำของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 

           ร้อยละ 98.1 ระบุว่า รู้สึกภูมิใจมากถึงมากที่สุดที่เกิดมาเป็นคนไทย

           ร้อยละ 97.2 ระบุว่า รู้สึกถึงความกตัญญูต่อความเสียสละของบรรพบุรุษไทยมากที่สุด

           ร้อยละ 96.8 ระบุว่า รู้สึกสำนึกต่อความรักชาติรักแผ่นดินไทย

           ร้อยละ 95.9 ระบุว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยมากถึงมากที่สุด

           ร้อยละ 95.3 ระบุว่า มีความสุขมากถึงมากที่สุด ที่เกิดเป็นคนไทย

           ร้อยละ 89.3 ระบุว่า รู้สึกถึงความรักความเกื้อกูลต่อคนไทยด้วยกันมากถึงมากที่สุด


ความสุขหลังชมภาพยนตร์เรื่องนี้ พบว่า...

           ร้อยละ 93.7 ระบุว่า มีความสุขมากที่สุด

           ร้อยละ 5.4 ระบุว่า มีความสุขปานกลาง

           ร้อยละ 0.9 ระบุว่า ไม่มีความสุขเลย


ความรู้สึกต่อบรรยากาศบ้านเมืองในเวลานี้ พบว่า...

           ร้อยละ 78.8  ระบุ มีความหวังที่บ้านเมืองจะสงบได้

           ร้อยละ 21.2 ระบุ มีความกลัวต่อเหตุการณ์ข้างหน้า

ขอขอบคุณ




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2557   
Last Update : 19 มิถุนายน 2557 6:42:59 น.   
Counter : 1128 Pageviews.  

หมอนิ่ม ควงหนุ่มเดินห้าง จริงหรือไม่ ชาวเน็ตวิจารณ์แซด





โลกไซเบอร์แชร์สนั่น ภาพถ่ายสาวหน้าคล้าย หมอนิ่ม อดีตภรรยา เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ซบไหล่ ควงแขนหนุ่มเดินห้าง ชาวเน็ตวิจารณ์แซด ใช่หมอนิ่มหรือไม่

          เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกไซเบอร์ได้มีการแชร์ภาพผู้หญิงคนหนึ่งสวมแว่นตาสีดำ กำลังเดินควงแขนผู้ชายคนหนึ่งในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และมีการซบไหล่กันด้วย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเซ็งแซ่ เพราะผู้หญิงในภาพมีใบหน้าและลักษณะท่าทางคล้าย แพทย์หญิงนิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือ หมอนิ่ม อดีตภรรยาของ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยที่ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต 

          อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำยืนยันว่า ผู้หญิงในภาพคือ หมอนิ่ม หรือไม่ และไม่มีการระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ใด แต่ผู้ที่เห็นภาพนี้ต่างแชร์ต่อกันอย่างกว้างขวาง รวมทั้งในแฟนเพจ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ที่มีผู้นำภาพนี้มาโพสต์ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ถึงคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

          สำหรับคดีลอบสังหารเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ นั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 19 ตุลาคม 2556 โดยระหว่างที่ เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ กำลังขับรถไปหาหมอนิ่มที่บ้าน ก็ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาประกบยิงเสียชีวิต ซึ่งในตอนแรก เจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่ปัญหาเรื่องพระเครื่อง ก่อนจะมาพบว่ามูลเหตุน่าจะมาจากเรื่องในครอบครัว เพราะเอ็กซ์ก็เหมือนจะระแคะระคายอยู่แล้วว่าตนเองกำลังถูกปองร้าย กระทั่งในที่สุด นางสุรางค์ ดวงจินดา แม่ของหมอนิ่ม ยอมสารภาพว่าได้ว่าจ้างมือปืนให้ไปลอบยิงลูกเขย เนื่องจากทนไม่ได้ที่ลูกเขยทำร้ายลูกสาวอยู่บ่อยครั้ง และยังทำให้ลูกสาวแท้งลูกคนที่ 3 ด้วย ก่อนที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาจ้างวานฆ่าแก่นางสุรางค์และหมอนิ่ม

          เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อ นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม พ่อของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ได้ยื่นต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดกของลูกชายแทนหมอนิ่มที่ตกเป็นผู้ต้องหา ทำให้หมอนิ่มโพสต์เฟซบุ๊กต่อว่านายมานพที่จะมาเอาสมบัติของหลาน กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ทำให้คนในสังคมเคลือบแคลงใจอยู่ไม่น้อยว่า มูลเหตุต่าง ๆ ของคดีนี้ที่แท้จริงจะมาจากเรื่องทรัพย์สมบัติมากกว่าหรือไม่  



ขอขอบคุณ




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2557   
Last Update : 19 มิถุนายน 2557 6:41:51 น.   
Counter : 1644 Pageviews.  

ครบ 100 วัน MH370 สูญหาย รบ.มาเลย์ย้ำไม่หยุดพักจนกว่าหาพบ-แต่ญาติๆ เอือมระอา

เอเอฟพี - รัฐบาลมาเลเซียในวันจันทร์ (16) ย้ำคำมั่นจะไม่หยุดพักจนกว่าจะพบเที่ยวบิน MH370 สูญหาย แต่ญาติๆของผู้โดยสารที่จัดพิธีครบรอบ 100 วันการหายสาบสูญ บอกว่าพวกเขาต้องการคำตอบ ไม่ใช่คำสัญญา

       เที่ยวบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน สูญหายไปตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม สร้างความตกตะลึงแก่คนทั้งโลกและก่อความอกสั่นขวัญแขวนแก่ญาติของผู้ที่อยู่บนเครื่อง ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าอะไรเกิดขึ้นกับบุคคลอันเป็นที่รัก

       นายฮิชามมุดดิน ฮุสเซน รักษาการรัฐมนตรีคมนาคมของมาเลเซีย ระบุในถ้อยแถลงว่า "100 วันหลังจาก MH370 สูญหาย การหายไปของมันยังคงเป็นช่องว่างแห่งความเจ็บปวดในหัวใจของชาวมาเลเซียและผู้คนทั่วโลกทั้งปวง เรามิอาจและจะไม่หยุดพักจนกว่าจะพบ MH370"

       รัฐบาลที่แปดเปื้อนไปด้วยเรื่องอื้อฉาวของมาเลเซีย ตกภายใต้แรงกดดันอย่างหนักจากเหล่าญาติผู้โดยสารที่โกรธแค้นต่อการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่เพียงพอ ประกอบกับด้วยเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันจึงกระพือข้อกล่าวหาที่ว่ามีการปกปิดซ่อนเร้นอะไรบางอย่าง



ครบ100วันMH370สูญหาย รบ.มาเลย์ย้ำไม่หยุดพักจนกว่าหาพบ-แต่ญาติๆเอือมระอา

สตีเฟน หวัง ซึ่งคุณแม่วัย 57 ปีของเขาอยู่บนเครื่องบินด้วย แสดงท่าทีเคลือบแคลงต่อคำสัญญาล่าสุดของทางการมาเลเซีย "มาเลเซียพูดมาตั้งแต่ต้นมาจะทำงานหนักเพื่อหาเครื่องบิน และตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรคืบหน้าจากช่วงแรกเริ่ม หากพวกเขายังคงทำงานหนักในวิธีนี้ มันก็คงไม่มีความหวังมากนัก" เขากล่าว

       เครื่องบินโบอื้ง 777 หายไปขณะเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง โดยมาเลเซียเชื่อว่ามันตกลงสู่มหาสมุทรอินเดีย อย่างไรก็ดีจนถึงตอนนี้ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ แม้ทีมค้นหานานาชาติที่นำโดยออสเตรเลียไปใช้งบประมาณไปแล้วมหาศาลและพยายามค้นหาใต้ทะเลลึกแล้วก็ตาม

       กรหายไปอย่างปริศนาของเที่ยวบินนี้ โหมกระพือทฤษฎีต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินถูกจี้ เป็นฝีมือของนักบินเองหรือเหตุขัดข้องของเครื่องยนต์ แต่ด้วยยังไม่พบซากหรือเงื่อนงำใดๆ เหตุการณ์นี้จึงยังคงเป็นสิ่งลี้ลับที่สุดในประวัติศาสตร์การบินพลเรือนและมีหลักฐานหลักแน่นขึ้นเรื่อยๆ

ว่าความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตนั้นริบหรี่เต็มทน "เราอยากให้หาเครื่องบินให้พบ เราต้องการรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น" ชายชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ซึ่งลูกชายวัย 34 ปีอยู่บนเครื่องบิน ตั้งคำถามต่อคำสัญญาล่าสุดของรัฐบาลมาเลเซีย



ครบ100วันMH370สูญหาย รบ.มาเลย์ย้ำไม่หยุดพักจนกว่าหาพบ-แต่ญาติๆเอือมระอา

 นายฮิชามมุดดิน ยืนกรานว่ามาเลเซีย มิอาจและจะไม่ทอดทิ้งครอบครัวของผู้โดยสารบนเที่ยวบิน MH370 พร้อมขอบคุณออสเตรเลีย จีน สหรัฐฯและชาติเพื่อนบ้านอาเซียนต่อความช่วยเหลือในปฏิบัติการค้นหา ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปกปิดข้อมูลใดๆ

       อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังคงปิดปากเงียบเกี่ยวกับความคืบหน้าการสืบสวนเหตุหายไปของเครื่องบิน และไม่ได้กำหนดเวลาอย่างชัดเจนว่าจะเปิดเผยข้อมูลที่พบเมื่อไหร่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ครอบครัวของผู้โดยสาร MH370 ได้ตั้งเงินรางวัลมูลค่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 162 ล้านบาท) สำหรับคนวงในที่สามารถเปิดเผยข้อมูล และไขปริศนาของเครื่องบินซึ่งอันตรธานหายไปนาน 3 เดือนเต็มลำนี้ได้

       เมื่อวันอาทิตย์ (15) ญาติๆราว 20 คน พร้อมกันในเสื้อยึดสกรีนข้อความ “pray for MH370″ และร่วมกันสวดมนต์เพื่อรำลึกครบรอบ 100 วันแห่งการหายไปของเครื่องบินที่วัดพุธแห่งหนึ่งในปักกิ่ง ด้วย 2 ใน 3 ของผู้โดยสาร 227 คนบนเครื่องเป็นชาวจีน

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2557   
Last Update : 18 มิถุนายน 2557 6:45:06 น.   
Counter : 1092 Pageviews.  

ล้มแท็บเล็ต มติ คสช.ยุติแจกแท็บเล็ตทั้งค้างเก่าโซน 4 และใหม่ปี 57 สั่งนำงบกว่า 6 พันล.ทำเรื่องที่

ล้มแท็บเล็ต! มติ คสช.ยุติแจกแท็บเล็ตทั้งค้างเก่าโซน 4 และใหม่ปี 57 สั่งนำงบกว่า 6 พันล.ทำเรื่องที่เป็นประโยชน์

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย

คสช.มีมติยกเลิกโครงการจัดซื้อแท็บเล็ต ปี 57 รวมทั้งที่ยังค้างในโซน 4 ระดับ ม.1 ปี 56 หลังพิจารณาแล้วถ้านำเงินซื้อแท็บเล็ตไปพัฒนาทำโครงการอื่น เช่น สมาร์ทคลาสรูม อี-เลิร์นนิ่งเกิดประโยชน์กับเด็กมากกว่า พร้อมให้ ปลัด ศธ.ตั้งคณะทำงานเสนอโครงการอื่นมาทดแทน และให้ประสานสำนักงบฯ กรมบัญชีกลางกันงบปี 56-57 กว่า 6 พันล้านบาท ขอเปลี่ยนแปลงการใช้เงินและกันเงินแบบไม่มีหนี้

       วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา ได้เชิญ นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และคณะทำงานแท็บเล็ต

มาประชุมหารือเพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินโครงการ 1คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ1 นักเรียนต่อไปอย่างไร ทั้งที่ดำเนินการค้างในปีการศึกษา 2556 โซน 4 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ) และที่ ศธ. เตรียมการดำเนินการของปีงบประมาณ 2557

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น คสช.สั่งให้ ศธ.ชะลอการดำเนินการทุกอย่างไว้และให้ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปรวบรวมข้อมูลและความเห็น มาเสนอถึงข้อดีข้อเสียการใช้แท็บเล็ต รวมทั้งให้โจทย์ว่าหากไม่ซื้อแท็บเล็ตแจกจะนำเงินไปทำอะไร ที่จะเกิดประโยชน์ในเรื่องของคุณภาพการศึกษา



ล้มแท็บเล็ต! มติ คสช.ยุติแจกแท็บเล็ตทั้งค้างเก่าโซน 4 และใหม่ปี 57 สั่งนำงบกว่า 6 พันล.ทำเรื่องที่เป็นประโยชน์

       โดย นางสุทธศรี เปิดเผยภายหลังหารือ ว่า จากหารือร่วมกันที่ประชุมได้วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ของโครงการแจกแท็บเล็ต ประกอบกับนำผลการวิจัยที่ทำดำเนินการโดยหน่วยงานที่เป็นกลาง อาทิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) รวมไปถึงผลการติดตามการดำเนินโครงการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มดำเนินโครงการ

ซึ่งทุกฝ่ายมีมติร่วมกันว่าควรจะเปลี่ยนแปลงงบประมาณของแท็บเล็ตที่เหลือทั้งหมดเพื่อนำ ไปใช้ทำโครงการอื่น ที่เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนมากกว่า

       “เหตุผลที่ตัดสินใจยุติโครงการแท็บเล็ต ทั้งในส่วนของปีงบประมาณ 2556 ซึ่งเหลือการจัดซื้อในโซนที่ 4 ระดับ ม.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ) วงเงิน 1,170 ล้านบาท และการจัดซื้อแท็บเล็ต ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 5,800 ล้านบาทของทั้ง 10 หน่วยงานนั้นยึดเรื่องผลประโยชนต่อผู้เรียนเป็นหลัก โดยหลายฝ่ายเห็นว่าถ้านำไปทำโครงการอื่น ๆ

เช่น สมาร์ทคลาสรูม อี-เลิร์นนิ่ง หรือพัฒนาห้องคอมพิวเตอร์ไว้ที่โรงเรียน และให้นักเรียนหมุนเวียนมาใช้ จะเกิดประโยชน์ในวงกว้างมากกว่า ขณะเดียวกันยังไม่ต้องเสียงบประมาณจัดซื้อทุกปีเหมือนโครงการแจกแท็บเล็ต”นางสุทธศรี กล่าวและว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้ ศธ. ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาโครงการที่เหมาะสมมาแทน

       แหล่งข่าวระดับสูงจาก ศธ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มอบให้ ปลัด ศธ. ทำเรื่องเสนอไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายการและขอกันเงินงบประมาณแบบไม่มีหนี้ด้วย ขณะเดียวกัน ระหว่างการประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง

โดยมีข้อสรุปว่านักเรียนทุกคนไม่จำเป็นต้องได้รับแจกแท็บเล็ตเป็นของตนเอง เพราะใช้แท็บเล็ตเรียนเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น จึงถือว่าไม่คุ้มค่า และไม่เหมาะสมที่จะจัดซื้อให้แก่นักเรียนทุกคน ขณะเดียวกันยังเห็นว่าแท็บเล็ตไม่เหมาะที่จะนำมาใช้สอนนักเรียนตลอดเวลา ควรใช้บางชั่วโมงเท่านั้น และเด็ก ๆ ควรได้เรียนรู้จากครูผู้สอน

อีกทั้งแท็บเล็ตถือเป็นครุภัณฑ์ของโรงเรียน จึงไม่เหมาะสมที่จะไปมอบให้นักเรียนเป็นของส่วนตัวได้ ซึ่งในที่ประชุมคณะกรรมการว่าด้วยพัสดุ กรมบัญชีกลาง ก็ได้ระบุว่าจะมอบแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนไม่ได้ ที่สำคัญแท็บเล็ตมีขนาดหน้าจอที่เล็ก ทำให้นักเรียนมีปัญหาด้านสายตา นอกจากนี้ เครื่องแท็บเล็ตซื้อมาในราคถูกทำให้แท็บเล็ตที่ได้มีคุณภาพต่ำ มีอายุใช้งานที่สั้นเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้นและไม่คุ้มค่าเมื่อต้องมีการซ่อมแซม

       อนึ่ง สำหรับหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัดที่ต้องซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนมีทั้งสิ้น 10 หน่วยงาน ได้แก่ สพฐ. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ,สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ,กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร, สำนักการศึกษา เมืองพัทยา ,กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ,สถาบันการพลศึกษา และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2557   
Last Update : 18 มิถุนายน 2557 6:43:28 น.   
Counter : 1275 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]