สถานทูตเยอรมนีออกแถลงการณ์จี้รัฐบาลไทยจ่ายเงิน 1.5 พันล้านบาท ให้"วอลเตอร์ บาว"เพื่อสร้างความมั่นใจนักลงทุน

วันนี้ (26ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา สถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการถึงกรณีศาลเยอรมนีมีคำสั่งอายัดเครื่องบินพระที่นั่ง มีใจความระบุว่า คำตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ตัดสินเมื่อกลางปี 2552 ให้ประเทศไทยจ่ายค่าชดเชยแก่บริษัท วอลเตอร์ บาว เป็นเงินจำนวน 36 ล้านยูโร (ประมาณ 1,558 ล้านบาทไทย) ซึ่งคำตัดสินนี้ถือเป็นสิ้นสุด รัฐบาลไทยจึงต้องจ่ายค่าชดเชยแก่บริษัท วอลเตอร์ บาว และรัฐบาลเยอรมันคาดหวังว่ารัฐบาลไทยจะปฏิบัติตามคำตัดสินนี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเยอรมันและจากประเทศอื่นๆ ในประเทศไทยอีกครั้ง และจะส่งสัญญาณทางบวกสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนี-ไทยต่อไปด้วย

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ดังกล่าว ยังระบุด้วยว่า กระบวนการตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ที่นครนิวยอร์ก

เป็นไปเพื่อขอคำตัดสินว่าการบังคับคดีในเรื่องนี้สามารถกระทำในสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่เท่านั้น ซึ่งจะไม่มีการสืบพยานใดที่จะทำให้ไทยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามคำตัดสินได้ ทั้งนี้โบอิ้ง 737 ถูกอายัด หลังจากคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศได้ตัดสินเมื่อกลางปี 2552 ว่ารัฐบาลไทยต้องจ่ายค่าเสียหายชดเชยให้กับบริษัท วอลเตอร์ บาว ซึ่งคำตัดสินถือเป็นสิ้นสุด

ทั้งนี้ในแถลงการณ์ ยังระบุถึงความเป็นมากรณีดังกล่าว ว่า

บริษัท วอลเตอร์ บาว เอจี เคยถือหุ้นในกลุ่มบริษัทผู้ดำเนินการก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ในกรุงเทพฯ ในช่วงปี 2523 แต่เนื่องจากการเข้ามาแทรกแซงครั้งแล้วครั้งเล่าของรัฐบาลไทย เกี่ยวกับเงื่อนไขสัญญาเพื่อการลงทุน ทำให้กลุ่มบริษัทผู้ดำเนินการก่อสร้างไม่สามารถบริหารโครงการให้เกิดผลกำไรได้ รัฐบาลเยอรมนีได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลไทยหลายครั้งให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นมิตรด้วยการชำระค่าชดเชยอย่างสมเหตุผลให้กับบริษัทนี้ แต่ก็ไม่สามารถมีข้อตกลงที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่ายได้

ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

กระทรวงการต่างประเทศของไทยกำลังตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และจะทำเรื่องชี้แจงไปยังกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ทั้งนี้ ไทยได้ยืนยันไปในเรื่องข้อมูลพื้นฐานทั้งหมด เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เยอรมนี ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนีควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะจนถึงวันนี้มีปรากฏบ้างแล้วว่ากระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน