โดย นางสุทธศรี เปิดเผยภายหลังหารือ ว่า จากหารือร่วมกันที่ประชุมได้วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ของโครงการแจกแท็บเล็ต ประกอบกับนำผลการวิจัยที่ทำดำเนินการโดยหน่วยงานที่เป็นกลาง อาทิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) รวมไปถึงผลการติดตามการดำเนินโครงการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มดำเนินโครงการ ซึ่งทุกฝ่ายมีมติร่วมกันว่าควรจะเปลี่ยนแปลงงบประมาณของแท็บเล็ตที่เหลือทั้งหมดเพื่อนำ ไปใช้ทำโครงการอื่น ที่เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนมากกว่า เหตุผลที่ตัดสินใจยุติโครงการแท็บเล็ต ทั้งในส่วนของปีงบประมาณ 2556 ซึ่งเหลือการจัดซื้อในโซนที่ 4 ระดับ ม.1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ) วงเงิน 1,170 ล้านบาท และการจัดซื้อแท็บเล็ต ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 5,800 ล้านบาทของทั้ง 10 หน่วยงานนั้นยึดเรื่องผลประโยชนต่อผู้เรียนเป็นหลัก โดยหลายฝ่ายเห็นว่าถ้านำไปทำโครงการอื่น ๆ เช่น สมาร์ทคลาสรูม อี-เลิร์นนิ่ง หรือพัฒนาห้องคอมพิวเตอร์ไว้ที่โรงเรียน และให้นักเรียนหมุนเวียนมาใช้ จะเกิดประโยชน์ในวงกว้างมากกว่า ขณะเดียวกันยังไม่ต้องเสียงบประมาณจัดซื้อทุกปีเหมือนโครงการแจกแท็บเล็ตนางสุทธศรี กล่าวและว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้ ศธ. ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาโครงการที่เหมาะสมมาแทน แหล่งข่าวระดับสูงจาก ศธ. เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มอบให้ ปลัด ศธ. ทำเรื่องเสนอไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายการและขอกันเงินงบประมาณแบบไม่มีหนี้ด้วย ขณะเดียวกัน ระหว่างการประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง โดยมีข้อสรุปว่านักเรียนทุกคนไม่จำเป็นต้องได้รับแจกแท็บเล็ตเป็นของตนเอง เพราะใช้แท็บเล็ตเรียนเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น จึงถือว่าไม่คุ้มค่า และไม่เหมาะสมที่จะจัดซื้อให้แก่นักเรียนทุกคน ขณะเดียวกันยังเห็นว่าแท็บเล็ตไม่เหมาะที่จะนำมาใช้สอนนักเรียนตลอดเวลา ควรใช้บางชั่วโมงเท่านั้น และเด็ก ๆ ควรได้เรียนรู้จากครูผู้สอน อีกทั้งแท็บเล็ตถือเป็นครุภัณฑ์ของโรงเรียน จึงไม่เหมาะสมที่จะไปมอบให้นักเรียนเป็นของส่วนตัวได้ ซึ่งในที่ประชุมคณะกรรมการว่าด้วยพัสดุ กรมบัญชีกลาง ก็ได้ระบุว่าจะมอบแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนไม่ได้ ที่สำคัญแท็บเล็ตมีขนาดหน้าจอที่เล็ก ทำให้นักเรียนมีปัญหาด้านสายตา นอกจากนี้ เครื่องแท็บเล็ตซื้อมาในราคถูกทำให้แท็บเล็ตที่ได้มีคุณภาพต่ำ มีอายุใช้งานที่สั้นเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้นและไม่คุ้มค่าเมื่อต้องมีการซ่อมแซม อนึ่ง สำหรับหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัดที่ต้องซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนมีทั้งสิ้น 10 หน่วยงาน ได้แก่ สพฐ. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ,สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ,กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น, สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร, สำนักการศึกษา เมืองพัทยา ,กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน, สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ,สถาบันการพลศึกษา และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ |