spooky161
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add spooky161's blog to your web]
Links
 

 
อีกครั้งกับแม่ฮ่องสอน (17/12/2005)

การมาเที่ยวแม่ฮ่องสอนอีกครั้งเป็นเหมือนภาคต่อจากคราวที่แล้ว อะไรที่ยังไม่ได้เที่ยวเมื่อคราวที่แล้วคราวนี้ก็ว่าจะต้องไปให้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือการไปเที่ยวหมู่บ้านรวมไทยที่ปางอุ๋ง แต่คราวนี้จะไม่ได้เน้นเที่ยวชมสถานที่ต่างๆเพราะไม่ได้เช่ารถบวกกับปีที่แล้วไปมาหมดแล้ว คราวนี้เลยกะแค่เปลี่ยนบรรยากาศกับเที่ยวสบายๆ

คราวนี้เปลี่ยนจากนั่งเครื่องจากกรุงเทพมาเป็นนั่งรถทัวร์แทนเสร็จแล้วก็มาที่สนามบินเพื่อมานั่งเครื่องต่อเพื่อไปลงแม่ฮ่องสอนหลังจากปีที่แล้วที่ต้องนั่งรถเกือบ 6 ชม. ปีนี้เลยแบบขี้เกียจละ ไปเครื่องดีกว่า

ฝั่งตรงข้ามสนามบิน (เยื้องๆนิดนิง) จะมีร้านกาแฟอร่อยอยู่เจ้านึง มาทีไรต้องแวะประจำ กาแฟที่นี่อร่อยมากๆ ร้านชื่อลีลาวดี คอฟฟี่ แกลลอรี่



แล้วเราก็ออกเดินทางไปแม่ฮ่องสอนกัน



พอมาถึงแม่ฮ่องสอนก็บ่ายโมงพอดี เราก็แวะไปทานข้าวที่ร้านเฟิร์น ติดใจรสชาติจากคราวที่แล้ว จากนั้นก็รอรถสองแถวจนถึงบ่ายสามเพื่อขึ้นไปที่หมู่บ้านรวมไทย คืนนี้เราจะนอนกันที่นั่น

หมู่บ้านรวมไทยตั้งอยู่ในบริเวณอ่างเก็บน้ำในโครงการพระราชดำริซึ่งอยู่บนเขา อากาศจะเย็นตลอดทั้งปี

ทางเข้าอ่างเก็บน้ำ



วิวโดยรวม



ในบริเวณอ่างเก็บน้ำจะมีบ้านพักให้เช่าเป็นของทหารเรียกว่ารวมไทยเกส์ตเฮาส์ ราคาก็ไม่แพงไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น





บ้านพัก





วิวที่อ่างเก็บน้ำ จะมีศาลาให้นั่งเล่นด้วย





ที่นี่จะมีต้นสนเต็มไปหมด



มีแพให้พายออกไปชมวิวเล่นด้วย (แต่จริงๆเหมือนพายออกไปสูบบุหรี่มากกว่า) คนเรือบอกขี้เกียจไปไกล ขี้เกียจพายกลับ



แล้วก็หมดวันไปกับการอ่านหนังสือกับชมวิว

วันรุ่งขึ้นพวกเราก็เดินออกมาที่หมู่บ้านกันเพื่อมากินกาแฟ ที่นี่ได้ชื่อว่ามีกาแฟสดๆจากต้นให้กิน เราก็มาที่นี่กันเลย บ้านคุณลุงปาละ



ต้นกาแฟ





วิธีการทำกาแฟก็มีดังนี้
1. เอาเม็ดกาแฟที่เด็ดออกมาจากต้น มาตำๆๆๆๆ เพื่อให้ได้เม็ดที่อยู่ข้างในออกมา





2. เอาเม็ดข้างในที่ได้มาไปตากแห้ง ก็จะได้ออกมาหน้าตาอย่างนี้



3. แล้วก็เอาไปคั่ว จะออกมาเป็นเม็ดดำๆแบบที่เราๆเคยเห็นกัน

เสร็จแล้วก็เอามาแพ็คขาย



เอามาชงกินก็กลิ่นหอมดี



บ้านชาวบ้านที่อยู่แถวนั้น





หลังจากกินกาแฟเสร็จแล้วเราก็กลับมาที่อ่างเก็บน้ำเพื่อจัดกระเป๋าเตรียมเดินทางไปปาย พอได้เวลา 11 โมง พี่สองแถวที่นัดไว้ก็มารับ ขาลงเขาคราวนี้มีชาวบ้านนั่งกันมาเต็มคันรถ ทั้งข้าวของกับคนต้องอัดๆกันลงมา บางคนก็ต้องโหน สนุกดี

พอมาถึงถนนใหญ่ได้พี่โชเฟอร์เค้าก็ดักรถเมล์ที่จะวิ่งไปปายให้พวกเรา เราต้องรีบออกจากสองแถวเพื่อไปขึ้นรถเมล์ เกือบลืมจ่ายตังค์พี่เค้าแน่ะ

มาถึงปายเราก็มาพักที่เกสต์เฮาส์ที่เดิม สิบสองพันนา แต่คราวนี้อะไรก็เปลี่ยนไปมาก อย่างแรกเลยคือบรรยากาศที่ปายที่แตกต่างจากปีที่แล้ว เนื่องจากปีที่แล้วมาปลายฝนต้นหนาวทุกที่ๆไปจะเป็นสีเขียวไปหมด ทุกอย่างจะดูสดชื่น แต่คราวนี้ทุกอย่างดูแห้งแล้งไปหมด นั่นเนื่องมาจากเป็นฤดูหนาวกับพิษจากน้ำท่วม 2 ครั้งใหญ่ที่ผ่านมา บ้านเรือนต้นไม่เสียหายยับเยิน

ปีนี้น้ำท่วมปายหนักที่สุด ครั้งแรกมาตอน 12 ส.ค. วันแม่พอดี กับอีกครั้งนึงไล่มาตอนเดือน ก.ย. เห็นพี่เค้าว่าน้ำท่วมถึง 2 เมตร และทุกจุดโดนหมด

สภาพเกสต์เฮาส์ที่มาถึง เหมือนบ้านพักติดทะเลเลยเพราะไม่มีต้นไม้ซักกะต้นมีแต่ทราย แถมแม่น้ำที่เคยไหลผ่านหน้าบ้านก็เปลี่ยนทิศไปซะไกลเลย ลองมาดูภาพเปรียบเทียบปีที่แล้วกับปีนี้กัน

ถ่ายจากมุมเดียวกัน

ปีที่แล้ว


ปีนี้


ไม่มีซากสะพานไม้ให้เห็น แม่น้ำที่เคยวิ่งตัดหน้าบ้านตอนนี้กระเถิบไปไกลจนแทบจะเป็นชายหาด เอาไว้วิ่งเล่นได้สบาย

ปีที่แล้ว


ปีนี้


ไม่มีเงาของต้นไม้ต้นนี้


ถึงแม้สิบสองพันนาจะเปลี่ยนไปยังไงก็ตามแต่ด้วยการบริการของพี่ๆที่นี่ เสน่ห์ของปายกับที่นี่ก็ยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม (พี่มดกะพี่เอม พวกเราจะเอาใจช่วยให้พี่ๆฟื้นฟูที่นี่ให้กลับมาเหมือนเดิมนะคะ แล้วปีหน้าเราจะแวะมาใหม่)

วันรุ่งขึ้นเราก็ขี่มอไซค์เที่ยวกัน ที่ที่มาที่แรกคือที่กองเลน หรือ ปายแคนย่อน แต่ไปไม่ถึงเพราะไม่กล้าเดินไป ทางจริงๆแล้วต้องเดินขึ้นเนินไป 200 เมตร แต่มันจะมีทางบางส่วนที่เป็นทางแคบชัน บวกกับลมที่พัดมาปะทะร่างกาย ทำให้เกิดความรู้สึกว่าไม่กล้าเดินกลัวตก แล้วแถมถ้าตกลงไปก็คงไม่มีคนรู้เพราะมันอยู่ในป่าไม่มีคนซักกะคน เลยตัดใจกลับดีกว่า

ทางแคบที่ว่า (ดูในรูปอาจไม่น่ากลัว แต่จริงๆแล้วมันสูงกว่าพื้นล่างมากๆ)



แล้วเราก็ไปแช่น้ำร้อนกันที่เดิม ท่าปายสปาแคมปิ้ง พอขับมาเรื่อยๆก็มาเจอที่นี่ เกสต์เฮาส์ที่เพิ่งเปิด มีบ้านอยู่บนต้นไม้สามหลัง ราคาไม่แพง 700 บาท





จากนั้นเราก็ไปที่ศูนย์วัฒนธรรมยูนาน



ทางเข้าจะเต็มไปด้วยกองหิน พี่เค้าบอกว่าตรงนี้เมื่อก่อนเป็นบ้านคน แต่น้ำท่วมที่ผ่านมาน้ำป่ามันพัดเอาหินพวกนี้ไหลมาจากบนภูเขา





มาคราวนี้ได้เพื่อนใหม่มาอีกกลุ่ม เผอิญพักที่เดียวกันพอตกกลางคืนสาวๆสองคนในกลุ่มเค้าก็ชวนพวกเราให้มานั่งดื่มด้วยกัน กลุ่มเค้ามีกันสองสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มพวกเราก็เลยย้ายโต๊ะมานั่งคุยกัน แล้วก็มีพี่มดกับพี่เอม (พี่ๆที่ดูแลเกสต์เฮาส์ที่นี่) มาร่วมแจมด้วย เป็น 2 คืนที่สนุกดีได้ทั้งเพื่อนใหม่ และได้ฟังเรื่องราวต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำท่วม เรื่องไร้สาระ หรือแม้แต่เรื่องที่ไม่ควรนำมาพูดนอกวงเหล้า เป็นความประทับใจที่คราวหน้าคงต้องกลับมาอีก กับที่นี่สิบสองพันนา

อีกเรื่องนึงที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ มาปายทีไรต้องแวะมากินที่นี่ทุกที ร้านน้องเบียร์ อาหารเป็นแบบง่ายๆพวกข้าวซอย แกงต่างๆ แต่อร่อย




Create Date : 24 ธันวาคม 2548
Last Update : 7 พฤษภาคม 2549 13:20:41 น. 1 comments
Counter : 819 Pageviews.

 
น่าไปมากๆ แม่ฮ่องสอนนี่น่าอยู่มากๆเลย


โดย: ป้อจาย วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:16:22:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.