spooky161
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add spooky161's blog to your web]
Links
 

 
แม่ฮ่องสอน (21/10/2004)

ในที่สุดทริปแม่ฮ่องสอนแห่งการรอคอยก็ได้มาถึงซะที วางแพลนมานานมาก อยากมาเต็มที่เพราะดูรูปที่คนอื่นเค้าถ่ายมาแล้วมันสวยมากๆ คราวนี้จะได้เที่ยวเองแล้ว

การเดินทางเริ่มขึ้นโดยสายการบินแอร์เอเชีย นั่งไปลงเชียงใหม่ เสร็จแล้วก็นั่งรถจากสนามบินไปท่ารถอาเขตตอนแรกว่าจะไปรถเมล์แต่เที่ยวกลับเต็มต้องรอถึง 11 โมง คิดไปคิดมาถ้ารอถึง 11 โมงกว่าจะไปถึงแม่ฮ่องสอนได้คงค่ำเลยตัดใจไปรถตู้ซึ่งเหมาไปกับคนอื่นๆไปลงที่ปาย นั่งไปประมาณเกือบ 3 ชม.ก็ถึงปายพอดี แต่จากนี้ล่ะ ที่ต้องนั่งรถเมล์จากปายไปลงแม่ฮ่องสอน กว่าจะได้ไปถึงแม่ฮ่องสอนก็รวมเบ็ดเสร็จ 6 ชม. ไปถึงก็เย็นพอดี พวกเราก็เข้าเช็คอินที่รีสอร์ทเลยเพราะเหนื่อยเต็มที

รีสอร์ทนี้ออกจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนไปไม่กี่กิโลแต่มีความเป็นธรรมชาติมากๆ รีสอร์ทชื่อเฟิร์นริมธาร อาหารอร่อยโคตรๆ



ที่รีสอร์ทนี้จะมีนาข้าวอยู่ในรีสอร์ทด้วย เค้าก็เข้าใจสร้างบรรยากาศดีนะ









หมดวันแรกของการเดินทาง พวกเราก็พักเอาแรงไว้ลุยต่อวันรุ่งขึ้น

วันที่สอง วันนี้เราเช่ารถพร้อมคนขับราคา 1200 บาท (ไม่รวมน้ำมัน) ให้พาเราไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ที่แรกที่พลาดไม่ได้ก็นี่เลย ถ้ำน้ำแข็ง ถ้ำนี้ต้องนั่งรถจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมาอีก 3 ชม.





พอเที่ยวถ้ำเสร็จเราก็ย้อนกลับมาทางเดินเพื่อมาที่ดอยแม่อูคอหรือที่เรียกอีกชื่อนึงว่าทุ่งดอกบัวตอง แต่ช่วงที่มาเร็วไปนิดนึงดอกบัวตองยังไม่บาน ถ้ารอกลางพ.ย.คงได้เห็นดอกบานสะพรั่งเต็มดอยไปหมด

วิวที่ดอยแม่อูคอ



เราก็เลยขับเลยเข้าไปเที่ยวน้ำตกแม่สุรินท์รกัน เป็นน้ำตกที่ยาวที่สุดในประเทศไทย



วิวข้างทางส่วนมากก็จะเป็นทุ่งนา





พอกลับมาถึงเมืองแม่ฮ่องสอน พี่คนขับเค้าก็พาเราไปที่วัดพระธาตุดอยกองมู อันนี้อยู่ขึ้นเขาไปนิดนึงแต่อยู่ในบริเวณตัวเมือง ถ้ำขึ้นไปที่พระธาตุจะได้เห็นวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอนทั้งหมด





วิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอน



แล้วเราก็มาที่วัดหนองจองคำ เป็นวัดในตัวเมือง



แล้วก็หมดวันไปด้วยความประทับใจ

วันที่สองเรานัดให้พี่มนต์สิทธิ์มารับเพื่อไปปายและก็เที่ยวระหว่างทาง พี่มนต์สิทธิ์นี่เป็นตำรวจแต่ให้เช่ารถด้วยเป็นพี่ที่ทางสิบสองพันนาแนะนำมา พี่คนนี้ตลกดี ชวนคุยตลอดทางและก็เล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังมากมาย

ที่แรกที่พี่เค้าพาก็ที่หมู่บ้านรักษ์ไทย การจะมาที่หมูบ้านนี้ต้องขับขึ้นเขามาเพราะหมู่บ้านนี้เป็นพวกคนยูนานอยู่ติดชายแดน อาชีพคนที่นี่ก็คือปลูกชาขายแล้วก็มีม้าให้นักท่องเที่ยวเช่านั่งเพื่อชมวิวด้วย ที่นี่ขึ้นชื่อว่าถ้ามาต้องมากินขาหมูหมั่นโถกับน้ำชา เวลาอากาศเย็นๆได้กินชาร้อนๆก็ดีเหมือนกัน

ไร่ชาของที่นี่


บ้านส่วนใหญ่เค้าจะปลูกเป็นบ้านดิน



วิวรอบๆบ้านรักษ์ไทย



บ้านชาวบ้านยูนาน



ลงจากหมู่บ้านรักษ์ไทยเราก็แวะกันที่น้ำตกผาเสื่อ เป็นน้ำตกเล็กๆระหว่างทาง ก่อนกลับก็เห็นเด็กคนนี้วิ่งเตรียมโดดน้ำแล้ว



แล้วเราก็แวะกันที่ถ้ำปลา ถ้ำนี้ก็แปลกดีมันเป็นเหมือนอุโมงค์เล็กๆที่น้ำลอดผ่านแต่ปลาก็ต้องมากระจุกรวมกันที่ตรงในถ้ำนี่แหละไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม





แล้วเราก็มาที่ถ้ำลอดกัน ที่ถ้ำนี้จะมีน้ำไหลผ่านเข้าไปในถ้ำ ตัวถ้ำจะแบ่งเป็น 3 ส่วนคือส่วนแรกถ้ำเสาหิน ถ้ำนี้ต้องนั่งแพข้ามไป ส่วนถ้ำที่สองกับถ้ำที่สามที่เป็นโรงผีแมนเราไม่ได้เข้าไปเพราะช่วงนั้นเป็นหน้าน้ำหลากแพเค้าไม่อยากเข้าไปอันตราย



อันนี้เป็นส่วนของถ้ำส่วนแรก





มีกบคุยกันด้วย



ระหว่างทางกลับมาปาย พี่มนต์สิทธิ์เค้าจอดแวะให้เราซื้อของจากพวกชาวเขาด้วย ตรงนั้นเป็นจุดพักรถและชมวิวพอดี ชาวเขานี่เค้าลำบากมากๆพวกผู้หญิงกับเด็กต้องออกมาทำงานส่วนพวกผู้ชายส่วนใหญ่นอน วิธีการดูแลลูกอ่อนๆเค้าก็คือเลี้ยงในตะกร้านี่แหละ เวลาไปไหนก็ใส่ไว้ในนี้แหละ



แล้วเราก็มาถึงปายซะที หลังจากที่เมื่อวันก่อนใช้เป็นทางผ่านต่อรถไปแม่ฮ่องสอน เวลามานี่ สิ่งนึงที่ไม่แวะไม่ได้เลยคือ ร้านโปสการ์ด



ตกกลางคืนก็ออกมาเดินอีก มี 2 ร้านด้วยกัน





เกสต์เฮาส์ที่เราพักที่ปายก็นี่เลย สิบสองพันนา มาจาก 12,000 Rice Field





สภาพห้องนอน ของห้องที่ชื่อว่า River



แล้วก็มีรูปนี้ในห้องนอนด้วย



ตกดึกไม่รู้ทำไรก็นี่เลยตั้งวง



หรือถ้าจะเปลี่ยนบรรยากาศก็มานั่งที่บาร์ของเกสต์เฮาส์นี่ก็ได้ เปิดเพลงใช้ได้เลย



บรรยากาศตอนตื่นเช้ามา



วิวตรงข้ามห้องกับต้นพญาไร้ใบ



วิวที่พักอีกมุมนึง





วิวแม่น้ำปายจากในห้องนอน



หรือแม้แต่วิวจากศาลานั่งพักผ่อน



แม่น้ำปายยามแดดส่อง กับสะพานที่พังไปจากช่วงน้ำหลาก เวลาหน้าหนาวเค้าจะสร้างกลับมาทุกปี



ต้มลั่นทมในเกสต์เฮาส์



พอสายๆของวันนั้น ถ้ามองไปฝั่งตรงข้ามห้องพักจะมีชาวบ้านเค้ามาขุดดินเตรียมจะปลูกกระเทียมกัน แฟนอิฉันพอเห็นพี่เค้านั่งพักทานข้าวกะดื่มเหล้าขาวก็นึกได้ว่ามีเหล้าขาวที่ซื้อมาจากบนบ้านรักษ์ไทยวันก่อน เอาไปให้พี่เค้าดีกว่า คุณเธอก็เดินลงแม่น้ำข้ามเอาไปให้เค้าเลย น้ำแรงเหมือนกันดูๆแล้วตัวเกือบโดนพัดไปตามน้ำแล้วดีพี่เค้าช่วยยื่นมือมาจับ



แล้วมิตรภาพก็ไม่ต้องการความยุ่งยากใดๆ



ขากลับพี่เค้าเดินกลับมาส่งด้วย แต่ไม่รู้ใครส่งใครสิเนี่ย



เช้าวันถัดมา เราก็มีอันต้องจากลาปาย แล้วมุ่งหน้าสู่ห้วยน้ำดัง การเดินทางก็โดยนั่งรถเมล์จากปายมาลงที่ปากทางขึ้นห้วยน้ำดัง เสร็จแล้วก็นั่งรอโบกรถคนใจดีเพื่อขอติดขึ้นไปบนห้วยน้ำดังด้วย แล้วเราก็ได้เหยื่อ

ตอนที่เราขึ้นไปถึงเป็นเวลาแค่บ่าย 2 โมงเอง เจ้าหน้าที่เค้ามีเต้นท์กางทิ้งไว้ให้แล้ว เราสามารถไปเลือกนอนเต้นท์ที่ต้องการได้เลย ตอนไปถึงเนี่ยยังไม่มีใครมาเลยจึงเหมือนเขาเป็นของเราทั้งลูก มีแต่ความเงียบกับอากาศที่เย็นวาบไปถึงข้างใน กิจกรรมที่ทำก็นั่งอ่านหนังสือกับนอนเล่น พอเริ่มเย็นๆก็เริ่มมีรถกระบะทยอยกันขึ้นมาแล้วเต้นท์ที่ว่างก็ค่อยๆถูกจับจองไปทีละหลังสองหลังจนเต็ม

ห้วยน้ำดังยามพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า



ตอนเช้าที่ห้วยน้ำดัง



กับเต้นท์ของเรา



หลังจากลงจากห้วยน้ำดัง เราก็กลับมาที่เชียงใหม่เพื่อรอขึ้นเครื่องกลับบ้านตอนกลางคืน ระหว่างฆ่าเวลาพวกเราก็แวะมาเยี่ยมน้องแพนด้า (ตามกระแส)






Create Date : 24 ธันวาคม 2548
Last Update : 24 ธันวาคม 2548 10:50:55 น. 4 comments
Counter : 1298 Pageviews.

 
คิดถึงบ้านจังเลย อิอิ
we wish you a merry chirstmas
we wish you a merry chirstmas
we wish you a merry chirstmas
and a happy new year ....
((((((meaw)))))))))


โดย: zMee วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:15:04:27 น.  

 
สวยมากจนอยากไปเที่ยวดัวยเลยค่ะ

มีความสุขมากๆ จากวันนี้จนตลอดไปนะคะ



Image hosted by Photobucket.com


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:15:15:48 น.  

 



มาเยี่ยม


โดย: Mr.Vop วันที่: 24 ธันวาคม 2548 เวลา:16:27:55 น.  

 
หมดค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่ค่ะ


โดย: pako IP: 58.8.106.5 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:17:00:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.