Welcome to My World ...จากเมืองนอก..สู่บ้านนา ลั้ลลาสุดๆ
สี่ปีแสนสั้น กับเรื่องราวมันๆ ในรั้วมอดินแดง ตอนจบ

หลังจากเล่าเรื่องราวของพี่ๆ น้องๆ ในภาควิชากันแล้ว ก็พลาดไม่ได้ ที่จะพูดถึงเรื่องราวที่น่าประทับใจกับเพื่อนๆ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมากว่าสี่ปี ... จริงๆ แล้วเรื่องราวประทับใจมันมีมากกว่าที่จะได้เล่าไปมากนัก แต่ว่าเนื่องจากเหตุผลบางประการ ทำให้ใม่สามารถเผยแพร่เวอร์ชั่นเต็มได้ ทางเราเองก็ได้แต่เชื่อว่า ... เรื่องราวบางส่วนนี้ จะทำให้พวกเรา จะได้ร่วมระลึกถึงความทรงจำดีๆ ร่วมกันนะ

ภูกระดึง ถิ่นนี้ช่างมีมนต์ขลัง

ขอข้ามมาเขียนเรื่องนี้ก่อนแล้วกันนะ แบบว่ามันนานมากแล้ว แต่ยังจำได้ดี... เนื่องจากเราประทับใจมากๆ ทั้งคน ทั้งสถานที่ ...ตอนที่ไปขึ้นภูกระดึง ...เหล่าผู้กล้าทั้งสิบคน ได้ผนึกกำลังกัน ออกเดินทางในช่วงวันหยุดวันพ่อ ไม่มีใครล่วงรู้ล่วงหน้าว่า ช่วงสามวันที่พวกเค้าขึ้นไปนั้น จะต้องผจญกับเหล่าผู้กล้าที่เดินมาจากถิ่นอื่นๆ ทั่วประเทศไทย หลายหมื่นชีวิต...โอ้ก้อด... คิดแล้วมันก็เป็นความทุกข์ที่ยากจะบรรยายนะ ต้องต่อแถวเข้าห้องน้ำ เพื่อทำทุกอย่างเนี่ยะ นรกมีจริงเลยแหละ โชคดีนะที่เราเป็นคนไม่ค่อยชอบอาบน้ำ เลยรอดตัวไป อิอิ ...ไหลออกนอกทางอีกแล้วเรา... มาว่ากันต่อดีกว่า ว่ากลุ่มผู้กล้าของเรามีใครมั่ง...เริ่มที่ผู้หญิงก่อนแล้วกันนะ ...กลุ่มเรามีผู้หญิงไปสองคน คือ เรา กับนิ(ถ้าขาดเธอไปซักคน เราคงแย่ เพราะอดไป เหอๆๆ) ส่วนผู้ชาย ก็มี โอ๊ด ท๊อป โจ ตูเช่ แก่ กาโม่ บุ๊ค เจ้ย (จริงๆ ชื่อโจ้ แต่พวกเราไม่เรียกหรอก ไม่สมศักดิ์ศรี)

เริ่มต้นการเดินทางด้วยการว่าจ้างรถสองแถวให้ไปรับ แล้วก็ไปส่งที่ภูกระดึง พวกเราไปถึงที่หมายประมาณแปดโมงเช้า ขนของเดินอยู่ได้สักพัก ก็ได้ยินประกาศที่ทำให้เข่าอ่อน แทบทรุด...นั่นก็คือ ขณะนี้ลูกหาบของเราได้หมดลงแล้ว...ขอให้พวกท่านขนของขึ้นไปเอง... นรกแล้วสิครับท่าน ก็ของที่พวกเราขนมายังกับจะกินอยู่ซักอาทิตย์ แบบว่ากลัวว่าข้างบนจะไม่มีอะไรเลย (ครั้งหน้าขนไปแต่เงินแหละ ของไม่ต้อง) คนก็เริ่มหลั่งไหลกันเข้ามา พวกเราก็เลยวางแผนว่า จะแบ่งกันเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกขึ้นไปจองเต็นท์แล้วก็จัดการเรื่องอาหาร ส่วนที่เหลือ ก็ดูแลข้าวของที่จะถือขึ้นไป แทบเป็นลม...แต่แล้วโอ๊ดก็พูดขึ้นว่า ...ลองไปยืนทำหน้าโง่ๆ ดูสิ เดี๋ยวก็มีลูกหาบเดินเข้ามาถามเองนั่นแหละ... แล้วก็เป็นจริงดังคาด พวกเราได้ลูกหาบในราคากิโลกรัมละ สิบห้าบาท ซึ่งถือว่าถูกมากๆ แต่ตอนนั้นไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ บ่นกันว่าแพง แต่พอขึ้นไปถึงบนนั้นได้นะ ...นึกสรรเสริญลูกหาบในใจเลย เพราะขนาดว่าพวกเราไม่ได้ถือของอะไรนะ ยังแทบตาย แล้วเค้าแบกทุกอย่างเลยเป็นร้อยโล แล้วคนก็ติดมากๆ พวกเราขึ้นไปตั้งแต่สิบโมงเช้า ขึ้นไปถึงข้างบนตอนบ่ายสี่กว่าๆ ทั้งๆที่เพื่อนกลุ่มแรกไปถึงตั้งแต่เที่ยงๆ แล้ว

พอขึ้นไปถึง หนาวก็หนาว ลูกหาบก็ขึ้นมายังไม่ถึง ทุกคนเครียดกันมากๆ เพราะจำหน้าลูกหาบไม่ได้ คนก็เยอะ มืดก็มืด แล้วทุกอย่างก็อยู่กับลูกหาบหมด แต่สุดท้าย เรื่องราวทุกอย่างก็จบลงอย่างสวยงาม ท๊อปจำของที่ลูกหาบถือได้ ก็เลยเจอลูกหาบ ...บรรยากาศค่ำคืนนั้นบนภูกระดึง เหมือนค่ายผู้อพยพที่เราได้ดูทางทีวีเลย เพราะว่าเต็นท์แล้วก็คนเต็มไปหมด ต่างก็จุดไฟหุงหาอาหารกัน...ได้บรรยากาศไปอีกแบบ คืนนี้เอง พวกเราก็ได้โหวตกันว่า พรุ่งนี้เราจะไปไหนกันดี เสียงส่วนใหญ่อยากไปป่าปิด คนที่อยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งมีคนเดียว ก็งอนตามระเบียบ เมื่อตกลงกันได้แล้วว่าจะไปไหน เราก็ได้รับเกียรติอันทรงคุณค่าทันทีว่า...โดยเราได้รับหน้าที่ให้ไปจองป่า ซึ่งต้องไปจองตั้งแต่ตีห้าแน่ะ แล้วที่สำคัญนะ พอไปแล้วเค้าบอกว่ามันเต็มแล้วตั้งแต่เมื่อคืน...เฮ้ย...ได้ไงวะ อันนี้เราวีนแตกเลย เราบอกว่าเราก็ทำตามกติกาทุกอย่าง แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ อย่างงี้ก็ไม่ต้องบอกกันสิว่าให้มาจองวันนี้ ถ้าให้จองได้เมื่อวานกี่โมงก็จะมา ...บ้าที่สุด (มาถึงตอนนี้ เราอยากจะกลับไปขอโทษเจ้าหน้าที่จัง เค้าก็ทำดีที่สุดแล้ว ... แต่เราก็ดันไปว่าเค้าอีก) ในที่สุดพวกเราก็อดทุกอย่าง ทำได้อย่างเดียวคือ เดินรอบๆ เพื่อดูบรรยากาศของภูกระดึง

จากการพลาดอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้เกิดบรรยากาศโคตร มาคุ... เราพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้นโดยการเรียกถ่ายรูปนะ...เสียดายเหมือนกัน ไม่รู้ว่ารูปถ่ายหายไปไหนหมดอ่ะ เรียกเพื่อนถ่าย ก็ไม่ค่อยจะยอมถ่ายกัน ระหว่างทางพวกเราก็เก็บท่อนฟืนกลับไปเผาไฟด้วย เพราะคืนนี้มีไฟกับน้ำมันแล้ว ....เกือบลืมแน่ะ ที่นี่เราประทับใจสระอโนดาตมากๆ เห็นในรูปโคตรสวยเลย แต่ของจริงเนี่ยะ เหมือนหนองน้ำดำๆ มีต้นไม้โดนเผาล้มลงไปตาย... จนต้องย้ำกันว่า...เนี่ยะนะ สระอโนดาต ...แต่ไม่น่าเชื่อนะ ว่าถ่ายรูปออกมาแล้วจะสวยมากๆ

หลังจากที่เที่ยวกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ก็กะว่าจะอาบน้ำซักหน่อย...เค้าก็ดันประกาศว่า น้ำจะมาตอนประมาณห้าโมง.... สรุปว่าคืนนั้น เราได้เช็ดตัวกับสระผมตอนหกโมงมั้ง ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ คืนนั้นมีการก่อกองไฟ แล้วก็สนทนากันเรื่องเพลง สลับกับการดูดาว หนาวนะ แต่ก็รู้สึกดี วันรุ่งขึ้นก็กลับลงมาแต่เช้า ถึงภาควิชาตอนบ่ายๆ จากนั้นก็ตรงดิ่งกลับหอ ได้พักซักที... เฮ้อ เหนื่อยแทบขาดใจ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวเลยว่า ครั้งเดียวก็เกินพอ...



Create Date : 24 ตุลาคม 2548
Last Update : 23 เมษายน 2554 13:27:42 น. 0 comments
Counter : 599 Pageviews.

I_am_Nin
Location :
กาญจนบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน... ทางเว็บของเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บล็อกแห่งนี้...

โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่มีอุปนิสัยสนุกสนานร่าเริง รักการอ่านทุกประเภท ชอบท่องเที่ยว (ไม่รักสัตว์ ไม่รักเด็ก เพราะไม่คิดจะเป็นนางงาม อิอิ)... ส่วนใหญ่ก็ไปเที่ยวตามแต่กำลังทรัพย์ ชอบเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆ ปัจจุบันตอนนี้มีความสนใจและความชอบเพิ่มขึ้น ตามวงปีที่ได้เรียนรู้โลกที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ ซีรีส์ วาไรตี้ และนักร้องเกาหลี (เข้าสู่วงการเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว และบัดนี้ก็ยังไม่ได้ออกมา ...ก็อย่างที่เค้าบอก ว่าวงการนี้เข้าง่าย แต่ออกยาก)

... หน้าที่การงานตอนนี้ ก็หลบเลี่ยงจากความวุ่นวายของเมืองกรุงฯ มาทำงานอยู่ในจังหวัดใกล้ๆ ที่ขับรถ 2-3 ชั่วโมงก็มาถึงแล้ว (อยู่ที่ว่าจะมาเส้นไหน ขับรถเร็วมั้ย และติดไฟแดงเยอะรึเปล่า) มีสโลแกนของจังหวัดว่า 'แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์' หลังจากที่เรียนจบมานานจากเกาะอันไกลโพ้น
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add I_am_Nin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.