Welcome to My World ...จากเมืองนอก..สู่บ้านนา ลั้ลลาสุดๆ
เรื่องราวสามปี ณ โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ตอนสอง

เรื่องที่จะเล่าเนี่ยะ ก็เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถของเราเท่านั้น พูดแล้วก็เหมือนจะโม้ ... เหอๆ ก็มีทั้งเรื่องดนตรีกีฬา แล้วก็เรียน ... แต่ก่อนที่จะถูกหมั่นตับ (หมั่นไส้ไปมากกว่านี้) เราก็เลยตัดสินใจ คัดเรื่องความสามารถด้านการเรียนของเราออกไป เอ้า...ลองอ่านกันดูก็แล้วกันนะ ขำๆ

ซ้อมวิ่งยังกับไปแข่งโอลิมปิก

นอกจากเรื่องเรียนแล้วเนี่ยะ เรื่องกีฬาของเราก็ไม่แพ้ใครเหมือนกันล่ะ ไม่ค่อยอยากจะโม้ (นี่ขนาดไม่โม้นะเนี่ยะ) ตอนม.สาม เราก็สมัครคัดตัวเป็นนักกีฬาเพื่อแข่งขันกีฬาสี แล้วไอ้ความสามารถของเราเนี่ยะมันก็ไม่ค่อยจะยอมซ่อนตัวซะด้วยสิ เราก็เลยติดเป็นหนึ่งในนักวิ่งสี่คูณร้อยน่ะ แล้วงานนี้ก็ดันได้ร่วมงานกับผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการวิ่ง แล้วก็มีดีกรีถึงนักกีฬาเขต ชื่อของเธอก็คือ สมพิศ การซ้อมวิ่งสี่คูณร้อยของเราเลยธรรมดาไม่เป็น เริ่มต้นด้วยการนัดซ้อมวันเสาร์อาทิตย์ นี่ขนาดกีฬาสีระดับโรงเรียนแค่นั้นนะ พี่แก่เล่นทำเหมือนกับว่าจะต้องไปแข่งระดับจังหวัด ระดับภาค ไอ้เราเนี่ยะ วันเสาร์อาทิตย์นี่ก็ต้องวิ่งรอกเรียนพิเศษ โหย...เหนื่อยสุดๆ

จากการเรียนที่โรงเรียนนี้นะทำให้เราได้รับค่านิยมด้านความคิดแบบแปลกๆ “ครูที่นี่ชอบปลูกฝังให้เด็กคิดว่า ถ้าเรียนเก่งแล้วจะเล่นกีฬาหรือทำอย่างอื่นไม่เก่ง” อันนี้เราเจอมากับตัวเลย วันนั้นเราซ้อมกีฬา แล้วก็คุยอยู่กับเพื่อนๆ ห้องสิบเพราะเป็นนักกีฬาด้วยกัน อาจารย์เค้าก็เดินมาที่กลุ่มพวกเรา เห็นใส่เสื้อสีแดงก็เหมารวมเลย พวกเธออยู่ห้องสิบกันละสิ...เราก็บอกว่าเปล่าค่ะ อยู่ห้องหนึ่ง...ทำไมต้องตัดสินคนจากค่านิยมของตัวเราเอง ...แย่จังเนอะ แต่จากการวิ่งโดยการฝึกซ้อมของสมพิศ ก็ทำให้เราสามารถรับส่งไม้ได้อย่างสุดเท่ เหมือนนักกีฬามีระดับเค้าทำกัน ...ถึงแม้ว่าผลการแข่งขันพวกเราจะแพ้ เพราะความไม่ได้มาตรฐานของสนามและกรรมการก็ตาม งานนี้สมพิศผิดหวังมาก ถึงขั้นหลั่งน้ำตาเลย ก็ได้แต่ปลอบกันไป ว่าการแข่งระดับเล็กแบบนี้คงไม่เหมาะกับพวกเรา เพราะเราเชื่อว่าถ้าสนามได้มาตรฐาน พวกเราต้องชนะแน่นอน

จากอังสุมาลิน...ถึงโหมโรง..(ว่าด้วยเรื่องของดนตรีไทย)

ที่โรงเรียนเรามีคล้ายๆ จะเป็นชมรมดนตรีไทย ซึ่งตอนนั้นเราเคยไปขออาจารย์หัดเรียน หัดซ้อมอยู่พักใหญ่ เราเล่นซออู้ แต่เห็นว่ายิ่งเล่นก็ยิ่งไม่เวิร์ก ก็เลยไม่อยากฝืน ...ว่าไปนั่นเลย จริงๆ ก็คือ เล่นได้ แต่ว่าเวลากลับบ้านไม่อำนวยให้ซ้อมได้น่ะ บ้านอยู่ไกล อะไรทำนองนั้น จริงๆ ก็อยากเล่นขิมเป็นอังสุมาลินเหมือนกันนะ เพราะสมัยนั้นคู่กรรมมาแรงเชียว...ดูแล้วน้ำตาไหลแบบว่าตะงืดๆ ถึงแม้ว่ามันจะนานมาแล้วแต่ความอยากเรียนดนตรีไทยมันก็ยังมีอยู่ไม่รู้คลาย ...จนเราไปเรียนที่สาธิต(ตอนม.ปลาย ซึ่งเป็นคนละที่กับตอนประถม) เราก็ได้ลองฝึกอีกหลายอย่าง เราลองเล่นขิม จะเข้ ระนาด ซอด้วง แต่ก็เห็นว่าไม่รุ่งซักอย่าง เลยไม่อยากจะฝืน...แล้วยิ่งพอมาดูโหมโรงเนี่ยะ อยากฝึกระนาดขึ้นมาตะหงิดๆ เลยแหละ ....แล้วยังมีเปียโน กับไวโอลินอีกนะที่อยากเรียนแต่ยังไม่ได้เข้าไปเริ่ม แล้วถ้าสบโอกาสยังไงคิดว่าไม่พลาดอยู่แล้วแหละ




Create Date : 24 ตุลาคม 2548
Last Update : 23 เมษายน 2554 13:24:01 น. 0 comments
Counter : 491 Pageviews.

I_am_Nin
Location :
กาญจนบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน... ทางเว็บของเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้อนรับทุกท่านเข้าสู่บล็อกแห่งนี้...

โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่มีอุปนิสัยสนุกสนานร่าเริง รักการอ่านทุกประเภท ชอบท่องเที่ยว (ไม่รักสัตว์ ไม่รักเด็ก เพราะไม่คิดจะเป็นนางงาม อิอิ)... ส่วนใหญ่ก็ไปเที่ยวตามแต่กำลังทรัพย์ ชอบเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่างๆ ปัจจุบันตอนนี้มีความสนใจและความชอบเพิ่มขึ้น ตามวงปีที่ได้เรียนรู้โลกที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ ซีรีส์ วาไรตี้ และนักร้องเกาหลี (เข้าสู่วงการเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว และบัดนี้ก็ยังไม่ได้ออกมา ...ก็อย่างที่เค้าบอก ว่าวงการนี้เข้าง่าย แต่ออกยาก)

... หน้าที่การงานตอนนี้ ก็หลบเลี่ยงจากความวุ่นวายของเมืองกรุงฯ มาทำงานอยู่ในจังหวัดใกล้ๆ ที่ขับรถ 2-3 ชั่วโมงก็มาถึงแล้ว (อยู่ที่ว่าจะมาเส้นไหน ขับรถเร็วมั้ย และติดไฟแดงเยอะรึเปล่า) มีสโลแกนของจังหวัดว่า 'แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์' หลังจากที่เรียนจบมานานจากเกาะอันไกลโพ้น
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add I_am_Nin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.