|
|
|
ลอนดอนกับทุ่งกุลาร้องไห้ใกล้กินนิดเดียวเอง
ทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับผมแล้วเพิ่งใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ไม่กี่ปี แต่ทุกวันนี้หายใจเข้าออกก็นึกถึงชีวิตออนไลน์ที่มีประโยชน์กับชีวิตผมพอสมควร
ผมใช้โปรแกรม voipdiscount ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีโทรศัพท์ไว้ใช้กลับบ้านฟรีได้ตลอดเวลาทั้งหมายเลขโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์เคลื่อนที่ ปกติผมจะโทรหาพ่อแม่ทุกวันที่อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าอังกฤษกับบ้านเกิดผมไม่ได้ห่างกันเลย โดยเฉพาะถ้าใช้ MSN ก็จะเห็นภาพและได้คุยด้วยซึ่งสะดวกมากครับ
วันนี้ผมโทรกลับบ้านก็ได้รู้ว่าแม่ป่วยและพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลชุมชนที่อำเภอ สอบถามแล้วแม่ไม่ทราบว่าเป็นอะไรบ้างนอกจากบอกว่าท้องเสีย ได้ยาอะไรบ้างแม่ก็ไม่ค่อยทราบตามประสาชาวบ้านทั่วไปซึ่งตามปกติก็เชื่อฟังบุคลากรทางการแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำ ไม่ได้แสดงสิทธิ์ผู้ป่วยให้เห็นเป็นรูปธรรม ปกติผมจะเตือนให้คนรอบข้างเสมอในเรื่องนี้ กล่าวคือ จะต้องสอบถามว่าเราเป็นโรคอะไร จะต้องรักษาอย่างไร ขณะนี้ได้รับยาอะไรบ้างและมีสรรพคุณอย่างไร และจะต้องปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะหายเร็วๆ
ในเมื่อคุยกับแม่ไม่ได้ข้อมูลมากนักก็เลยใช้ Google ช่วยค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลสุวรรณภูมิเพื่อติดต่อไปยังฝ่ายการพยาบาลผู้ป่วยใน สุดท้ายก็ได้คุยกับคุณพยาบาลซึ่งอธิบายและตอบคำถามดีมาก ทำให้ผมสบายใจมากขึ้นเพราะได้ทราบข้อมูลจากประวัติการรักษาและได้รู้ว่าจะรักษาแม่ผมอย่างไรต่อไป
ผมใช้เวลาไม่นานนักตั้งแต่คุยกับ แม่ติดต่อโรงพยาบาลสุวรรณภูมิ และได้คุยกับคุณพยาบาลที่ชื่อสุพักตร์ สิ่งที่ผมใช้เป็นเครื่องมือครั้งนี้ก็คงเป็นอินเตอร์เน็ต และ voipdiscount ขอบคุณเทคโนโลยีเหล่านี้ที่ทำให้ลอนดอนกับทุ่งกุลาร้องไห้อยู่ใกล้กันมากขึ้น
| Create Date : 27 พฤษภาคม 2550 | | |
| Last Update : 27 พฤษภาคม 2550 19:40:03 น. |
| Counter : 792 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
เขาบอกว่า TAG คนหน้าตาดี
1.นี่ครัยอ่ะ...
weerapong_rx เป็นนามแฝงที่ใช้ในหลายเว็บ weerapong มาจากชื่อจริงคือ วีระพงษ์ ส่วน rx มาจาก Rx ที่หมายถึงเป็นเภสัชกรครับ
2.ทำรัยอยู่...
กำลังเรียนหนังสือที่ประเทศอังกฤษครับ
3.เกิดวันที่เท่าไหร่อ่ะ...
8 เมษายน 2524 (ใกล้ครบรอบความแก่อีกแล้ว)
4. ชอบครายอยู่รึป่าววว..
เฉยๆ ยังไม่มีนะครับ
5.บอกได้มั้ยอ่ะครัย นิดนึงๆ..
ก็บอกว่าไม่รู้สึกไง เอ เซ้าซี้เจงๆ
6.แล้วเค้าคนนั้นเป็นยังงัย...
อืม ยังมาถามอีก
7.คิดว่าเค้าจาชอบเรามั้ย
อ้าว ไปถามเองดิครับ เค้านะไม่ใช่เรา
8. ชอบกินไอติมรสอะรัย...
มะม่วง เผือก เจงๆ แล้วรสอารายก็ได้ครับ
9.คิดว่าตัวเองเรียนเก่งมั้ย..
เก่งนะ แต่ตอนนี้ยังมีความรู้น้อยกว่าที่อยากจะเป็น
10.เก่งวิชารัย.. ละ
วิชาตอน ม.ต้น ก็ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ พลานามัย
วิชาตอน ม.ปลาย ก็ ชีววิทยา เคมี ภาษาไทย พละศึกษา
วิชาตอนปริญญาตรี ก็ ชีวเคมี กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา เภวัชวิทยา เภสัชศาสตร์ชีวภาพ
วิชาในปริญญาโทตอนนี้ molecular and cellular neuroscience กับ neurobiology
11.แล้วเพื่อนเพศตรงข้ามที่สนิทมีเปล่าละ..
คนเราก็ต้องมีบ้างดิครับ สนิทหรือเปล่า อืม ไม่แน่ใจว่าขั้นไหน
12.ชอบเพลงไหนเป็นพิเศษป่าวตอนนี้...
ตอนนี้เหรอก็ชอบเพลง ทางไกลกราบแม่ กับ หยาดเหงื่อเพื่อแม่ ของ เอกพล มนตระการ สังกัด Grammy gold เพราะว่าคิดถึงแม่
13.ถ้าหั้ยเลือกมีแฟนได้ ...
เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุขตามอัตภาพ
14.อยากแก้นิสัยข้อไหนของตัวเอง...
คิดมาก คิดไกลเกิน บางทีทำให้คิดฟุ้งซ่านไม่อยู่กับปัจจุบัน
15.ทำมัยอ่ะ...
ทำให้ชีวิตปัจจุบันไม่มีความสุข
16.เหนื่อยมั้ยเนี่ยที่ตอบมา..
ไม่นะ
17.เหรอ..
แม่นแล้ว ฮ่วย
18.เวลารับโทรสับ ละ..!!
สมัยก่อน สวัสดีครับ
ตอนนี้ hello
19.แล้วเวลาจะวางละ
สมัยก่อน สวัสดีครับ
ตอนนี้ good bye
20.ส่ง msg บ่อยมั๊ย....
ไม่ค่อยบ่อยนะ แต่ตอนนี้อยู่ที่อังกฤษถ้าไม่จำเป็นก็ไม่โทร ถ้าส่ง msg ได้ก็จะประหยัดเงินและประหยัดเวลา
21.ส่งหั้ยครัยบ่อยที่สุด..
ตอนนี้ก็เพื่อนในชั้นเรียน
21.แล้วครัยส่งมาบ่อยๆอ่ะ...
อืม ก็เพื่อนอีกนั่นแหละ
22.เล่น msn ... เปล่า
ไม่ได้เล่นนะ คำนี้ดูไม่ดี เรียกว่าใช้งานดีกว่าเพราะมันใช้ให้เป็นประโยชน์ได้เยอะ เช่น ถามไถ่สุขทุกข์ คุยงานกับเพื่อน ส่งเปเปอร์ให้เพื่อนที่เมืองไทยเวลาที่มหาวิทยาลัยในเมืองไทยไม่มี access ผมเปิดตลอดเวลาทำการ แต่บางครั้งต้องเซ็ตเป็น off line เพราะว่าถ้าเป็น busy คนไทยบางคนไม่เข้าใจ ทักอยู่ได้ ก็บอกว่าทำงานยุ่งอยู่ยังจะมาชวนคุยไร้สาระอีก บางครั้งเด็กน้อยที่เมืองไทยแอดเราแล้วก็มาถามว่า ดีๆๆ นี่นายชื่อไร เธอเรียนชั้น ม. ไหน พี่ขาช่วยทำการบ้านหน่อยค่า พี่ขาช่วยหาโครงงานให้หน่อยค่า แล้วนายเป็นใคร (อ้าว แอดเราแล้วจำไม่ได้ ไม่แนะนำตัวก่อน แล้วยังอยากรู้จักเรามากมายอีก)
23.บ่อยป่าว...
เปิดคอมเมื่อไหร่ก็เริ่มปฏิบัติการโดยอัตโนมัติละครับ
24.คำพูดที่ตอนนี้ติดปาก...
I see
25.เกลียดเพื่อนแบบไหนมากที่สุด...
ไม่โกรธ ไม่เกลียด เพราะเราจะไม่อาฆาต สร้างเวรต่อกัน
26.ถ้าเรามีแฟนแล้วแฟนไปชอบคนอื่นอยู่ทำงัย ต่อยเลยมั้ย..
ก็ปล่อยไป ชอบได้นะ เพราะเขาก็ยังรักเราอยู่นิ
27.แล้วถ้าเราไปชอบคนอื่นมั่งล่ะ ...
ชอบได้นะ ชอบได้มากมายหลายคน แต่ไม่ได้รัก
28.จะทำยังงัยกับเพื่อนที่เห็นแก่ตัว..
คอยดูว่ามันจะเกิดขึ้นอีกไหม ถ้าต้องบอกกล่าวก็ต้องทำ
29.เป็นคนขี้งอนมั้ย..
สมัยก่อนเป็นนะ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลางอนดอก ตั้งใจเรียนให้จบแบบงดงามก่อนเหอะ
30.แล้วชอบง้อคนอื่นรึป่าว ....
ไม่อะ งอนได้ก็งอนต่อไป
31.แม่ดุป่ะ...
ไม่เคยดุเลยครับ
32.คุยโทรสับกะครัยบ่อยที่สุด..
โทรศัพท์ไม่ใช้เพราะเปลือง เรานิยมชอบของฟรี ตอนนี้โทรหาแม่ที่เมืองไทยเกือบทุกวันเพราะโทรฟรีผ่าน voipdiscount
33.สถานการณ์ไหนที่ม่ายค่อยชอบ...
การเร่งรีบ เช่น ก่อนสอบ หรือก่อนถึงเส้นตาย เพราะว่าความเครียดทำให้เซลล์ประสาทตายโดยไม่จำเป็น
34.อยู่ในห้องเรียนสนุกมั้ย..
ก็เรื่อยๆ นะครับ ต้องเอาใจจดจ่อกับภาษาประกิด หูก็ต้องฟังว่าอาจารย์พูดไรหว่า สมองก็ต้องเก็บข้อมูลที่ยากแสนยาก แต่ตอนนี้มาทำแล็ปก็โอเคครับ
35.นั่งกับครัย..
นั่งเรียนกับเพื่อนทั้งฝรั่งทั้งเอเชีย
36.เคยคิดว่าตัวเองตั้งใจเรียนมั่งป่ะ..
เคยนะและตอนนี้ก็คิด (ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต) อยู่เสมอนะว่าเราต้องตั้งใจเรียน
37.คิดว่าในห้องครัยเสียงดังบ่อยๆ..
อาจารย์ไง ครับ
38.ครูประจำชั้นเป็นงัยมั่ง...
สมัยก่อนก็มีคุณครูประจำชั้น น่ารักดี สนิทด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วนะ มีแต่ personal tutor ถ้าไม่มีอะไรพิเศษก็ไม่เคยได้คุยกันเลยนอกจากไปขอ reference ไปสมัครเรียนต่อ PhD
39.ครัยให้ทำอะไรแบบนี้..
ก็งงเงงมากมายว่าทำมายต้องมาถามเราด้วย อ่านของคนอื่นสนุกกว่าอีก
40.เค้าเปนงัย...
ก็เป็นพี่สาวที่ดูจากรูปเหมือนจะสวยนะ (อิ อิ) ขยันเรียนน่าดู อ่านจาก MSN space ดูเหมือนจะ sensitive พอสมควร และกำลังพักฟื้นจากอาการความรักเป็นพิษ (จาโกรธไหมเนี้ย ยกโทษให้ด้วยนะพี่) เป็นพี่หอพักซีมะโด่ง จุฬาฯ ไม่แน่ใจว่าเคยเห็นตัวเป็นๆ หรือเปล่านะ เพราะว่าโลกของ cyberspace ทำให้เราได้รู้จักกัน
41.บอกอะรัยกับคนที่จะส่งไปหั้ย
ทำตามหน้าที่ ตอบให้สมบูรณ์ เพราะว่าเราหน้าตาดีเลยต้องทำให้มันดีประเดี๋ยวจะเสียชื่อ (ฮ่า ฮ่า)
42.คิดว่าเค้าจาตอบกลับมั้ย..
แน่นอนครับ
43.พอดีกว่ามาย
ดี มากๆ
44..ขออีกนิดนะ
อ้าว เงง
45.ภาพยนตร์ ที่คุณชอบที่สุด...คือ
จำไม่ได้ แต่ล่าสุดที่ชอบคือ season change ชอบตรงที่หนังบอกเป็นนัยให้เราเดินไปตามทางแห่งฝัน ทำในสิ่งที่เรารักและศรัทธา เพราะว่าสิ่งนี้แหละที่มันจะติดตัวเราไปจนวันตาย
46.บุคคล... ที่คุณนับถือ เป็นแบบอย่าง
หลายคนนะครับ
1. พ่อ กับแม่ ทรหดอดทน ขยันอดออม ใจสู้ มุ่งมั่น สรุป คือ ทุกอย่างที่ผมเป็นในทุกวันนี้
2. ศ นพ กระแส ชนะวงศ์ ท่านเคยเป็นเด็กบ้านนอกที่ขอนแก่น เคยขายน้ำตาม บขส แล้วเข้ากรุงขยันตั้งใจเรียน จนประสบความสำเร็จ ผมเจอท่านตอน ม. 3 เนื่องจากท่านมาบรรยายที่วัดเวฬุวัน ผมก็เลยสรุปเป็นคติประจำตัวว่า ขยัน คือ คำตอบ ซึ่งก็ยังใช้ได้ดีครับ
3. รศ ดร ดวงเดือน เมฆสุริเยนทร์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาปริญญานิพนธ์ตอนเรียนที่เภสัชจุฬาฯ ปีห้า ตรงฉิน วิชาการแกร่ง รักประเทศชาติ สมถะ ปรารถนาดีต่อศิษย์
4. คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ใจบุญให้เงินผมเรียนปริญญาตรีตั้งหกปี เก่ง แนวคิดกว้างไกล และเท่
5. ศ ดร อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เก่งมากมาย ใจดี เท่ มีศรัทธาเรื่องทางจิตอย่างแรงกล้า ผมอยากสร้างโรงเรียนสอนเด็กน้อยแบบอาจารย์นะครับ
และอีกหลายๆ ท่านที่ไม่ได้เอ่ยนามครับ
47.เพราะอะไร ?
ให้เหตุผลไปแล้ว
48.อย่างไร ?
ทำให้เป็นผมในทุกวันนี้
49.คติประจำใจ หรือ ข้อคิดที่ยึดถืออยู่
"ขยัน...คือ...คำตอบ"
50.คุณคิดว่าคุณเป็นคนยังไง...
เก่ง ดี มีสุข ขยัน รักครอบครัว รักการเรียนรู้ รักชาติ อีโก้สูง คิดฟุ้งซ่าน มักใหญ่ ใฝ่สูง ชีวิตบ้านๆ แนวภาคอีสาน
52.คุณคิดว่า คนอื่น คิดว่าคุณเป็นคนยังไง ?
หน้าตาดี (แล้วแต่มุมมองอะ ฝรั่งมันไม่เห็นชมผมเลย คนไทยก็มีบ้าง คนลาวกับเขมรก็มีชอบเพราะหน้าลาวดี) เรียนเก่งจนน่ากลัว (จริงๆ แล้วผมไม่เก่งหรอก) น่าชื่นชม (ผมก็คนธรรมดา) รักตัวเองเกินไป (อืม ไม่มีเหตุผล) หยิ่ง (ไม่นะ อาจเป็นเพราะนิ่งๆ) น่ากลัวไม่กล้าคบ (ผมเป็นมิตรกับทุกคนครับ) เจ้าชู้ (อันนี้แต่ก่อนใช่ แต่ตอนนี้ปลงแล้ว) สรุป แล้วแต่มุมมองครับ ร้อยคนก็ร้อยคำพูด
ตอบแล้วนะครับ ตอบยากกว่าสอบปลายภาคอีกแนะ ตามธรรมเนียมแล้วต้องส่งให้คนอื่นตอบอีกใช่ไหมครับ ถ้างั้นผู้โชคดีที่หน้าตาดีคู่ควรกับ tag คนหน้าตาดีๆ ได้แก่
1. จิ๊บ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=jipjoy12
2. พี่พอล //www.bloggang.com/mainblog.php?id=jurisprudence
3. แมรี่ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=whymemarie
4. น้องดิว //www.bloggang.com/mainblog.php?id=duen
| Create Date : 28 มีนาคม 2550 | | |
| Last Update : 28 มีนาคม 2550 7:52:07 น. |
| Counter : 295 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
สัมภาษณ์เรียนต่อ PhD
ช่วงนี้เพื่อนหลายคนคงกำลังวุ่นกับการสมัครเรียนต่อนะครับ ผมก็เช่นกันครับตอนนี้ก็หาที่เรียนต่อ PhD ให้เรียบร้อยก่อนที่จะไม่มีที่เรียนหลังจากจบโทแล้ว
กว่าที่จะถึงขั้นสัมภาษณ์นั้นผมก็ต้องอีเมล์ไปหาอาจารย์ที่ผมสนใจอยากจะไปเรียนเพื่อแนะนำตัวคร่าวๆพร้อมกับแนบ CV ซึ่งทั้ง cover letter และ CV นี้ผมเขียนแล้วให้อาจารย์ที่เป็นคนอังกฤษช่วยตรวจทานให้ เพราะไม่มั่นใจภาษาตัวเองรวมทั้งถ้าเขียนไปหาครั้งแรกแล้วเขาประทับใจกับจดหมายนี่ผมว่ามันสำเร็จไปเกินครึ่งแล้วครับ
โต้ตอบกันไปมาทางอีเมล์ รวมทั้งจดหมาย letter of recommendation จากอาจารย์ทั้งที่เรียนโทและอาจารย์ที่เมืองไทยก็ส่งไปเรียบร้อย สุดท้ายภาควิชาก็เรียกไปสัมภาษณ์ตามธรรมเนียมของมหาวิทยาลัยครับ
ไปถึงเขาก็นำเสนองานโดย power point presentation จากนั้นก็พาไปดูห้องแล็บว่าทำงานวิจัยอะไรบ้างตอนนี้ ขั้นตอนต่อไปก็คือ คณะกรรมการภาควิชาสองท่านก็มาสัมภาษณ์ เขาก็ถามทั่วไปครับว่าทำไมอยากเรียนที่นี่ สมัครที่อื่นบ้างไหม จบแล้วจะไปทำอะไร งานอดิเรกทำอะไรบ้าง รวมทั้งเรื่องทั่วๆไป รวมแล้วใช้เวลาตรงนี้ประมาณครึ่งชั่วโมงได้
กินข้าวเที่ยงเสร็จช่วงบ่ายก็เป็นหน้าที่ของ Pos-doctoral fellow ที่เขามาบรรยายเรื่องที่เขาศึกษา จากนั้นก็เป็นหน้าที่ PhD students สี่คนมานำเสนองานที่ทำทีละคน คนละประมาณ 15 นาทีได้ครับ
คุยกับนักเรียนเสร็จก่อนกลับบ้านก็ต้องมาคุยกับอาจารย์ที่เป็น supervisors ซึ่งมีสองท่าน ตกลงกันว่าขอบข่ายงานวิจัยจะทำอะไรบ้าง เปิดเทอมวันไหน ขั้นตอนต่อไปต้องทำอะไรบ้าง พอดีผมสมัครที่สถาบันอื่นด้วยครับแต่เป็นมหาวิทยาลัยเดียวกันก็เลยบอกเขาตามตรงว่ารอผลของอันนั้นก่อนเพราะอันนี้ผมชอบแต่ไม่ใช่ชอบมากที่สุด สรุปแล้วใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงในการไปสัมภาษณ์ครั้งนี้ครับ
สิ่งที่ผมพอจะสรุปได้ก็คือว่า
1. จดหมายครั้งแรกๆ รวมทั้ง CV และเอกสารที่ส่งไปให้เขา มีความสำคัญและต้องทำให้ดีและให้เขาประทับใจที่สุด
2. สำหรับผมซึ่งผลการเรียนตอน ป. ตรี ไม่ได้ดีมากนัก การมาเรียนโทก่อนที่ประเทศนั้นๆ แล้วค่อยสมัครเอก เขาจะสนใจมากกว่าและได้ตอบรับง่ายกว่าตอนที่ผมสมัครที่เมืองไทย ก่อนมาเรียนโทผมเคยสมัครที่นี่นะครับแต่เหมือนเขาไม่เชื่อว่าเราจะเรียนจบ ไม่สนใจอีเมล์เราก็มีเยอะครับ
| Create Date : 28 มกราคม 2550 | | |
| Last Update : 29 มกราคม 2550 18:32:26 น. |
| Counter : 525 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
จุดเริ่มต้นที่ 1
หลังจากที่เส้นทางชีวิตของผมตั้งต้นจากบ้านเกิดอำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นก็เป็นเด็กบ้านนอกเข้ามาเรียนปริญญาตรีย่านสยามสแควร์ก็เป็นเวลาหลายปีแล้ว
ตอนนี้ชีวิตก็ถูกกำหนดให้มาอยู่เมืองไกลต่างแดนที่บอกตามตรงว่าไม่เคยคิดว่าจะได้มีโอกาส ตอนนี้กำลังเรียนสาขาประสาทวิทยาศาสตร์ ที่อิมพีเรียลคอลเลท ประเทศอังกฤษ คงต้องใช้ชีวิตต่างแดนอีกนานหลายปี สิ่งที่คอยหล่อเลี้ยงใจให้เข้มแข็งมีชีวิตอยู่ได้นอกจากครอบครัวที่ผมเป็นห่วงมากกับอีกทั้งเพื่อนพี่น้องที่อยู่ที่เมืองไทย ต้องให้กำลังใจตัวเองด้วยคติอันเดิม " ขยัน คือ คำตอบ" เพื่อรอวันที่ฟ้าใสครับ
| Create Date : 09 มกราคม 2550 | | |
| Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2550 18:52:47 น. |
| Counter : 526 Pageviews. |
| |
|
| |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [
