|
บางอย่างเหมือนดอกไม้
เดินผ่านร้านดอกไม้เมื่อหลายวันก่อน อดไม่ได้ที่จะหยุดมองดู ดอกไม้หลากสีสันที่เรียงรายอยู่ตามตู้แช่ ขณะที่อีกไม่น้อยกำลังถูกทยอยนำออกมาจัด เห็นอย่างนี้แล้วก็เพลิน คนทำงานอยู่กับดอกไม้เคยรู้สึกโกรธหรืออารมณ์ร้อนบ้างหรือเปล่า ฉันเองยังเคยสงสัย
หลายปีที่ผ่านมา ฉันเคยเขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว ที่มีการนำเอาดอกไม้มาเป็นส่วนสำคัญในเรื่องอยู่บ้าง เมื่อเขียนถึงดอกไม้ หรือส่วนประกอบอื่นใดของดอกไม้ ใบไม้ รู้สึกว่าจิตใจตัวเองจะนุ่มลงอ่อนลง ยามต้องสรรหาคำเพื่อมาบรรยายองค์ประกอบหรือที่ทางแวดล้อมของดอกไม้ ใบไม้เหล่านั้น ก็คงไม่ต่างจากการที่คนจัดดอกไม้ต้องปฏิบัติอย่างนุ่มนวลกับดอกไม้แต่ละดอกนั่นกระมัง
เพราะความบอบบางนุ่มนวลในของบางสิ่ง เราคงต้องใช้การถนอม ดูแลมากกว่าปกติ และคุณค่าของการปฏิบัติต่อสิ่งนั้นก็คือความสุข ความสบายใจ ทีได้ถนอมความงามของกลีบดอก ตลอดจนก้านกิ่งใบ ให้คงสภาพสมบูรณ์ที่สุดก่อนถึงมือผู้รับ
งานที่ละเอียดแบบนี้จึงต้องมีความใส่ใจ มากเป็นพิเศษ ที่จริง อะไรๆที่บอบบางในชีวิตคนเราก็ล้วนแต่ต้องอาศัยความใส่ใจด้วยกันทั้งนั้น เช่นความสัมพันธ์ นั่นไง แม้ไม่มีตำราไหนบอก แต่เราก็รู้กันว่ามันต้องใช้ความพยายามตั้งมากมายเท่าไหร่ในการดูแล
พูดกันมานักหนาว่ามีสายใยบางๆ ที่มองไม่เห็น คอยเชื่อมความสัมพันธ์ของคนเราเอาไว้ นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คนๆหนึ่ง ถูกโยงเข้ามาหาคนๆหนึ่ง สายใยโยงระยางที่ว่าอาจถูกลากมากจากความเป็นเพื่อน เพื่อนข้างบ้าน เพื่อนมัธยม เพื่อนมหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ในรูปแบบอื่นๆ เช่น ครูกับศิษย์ หัวหน้ากับลูกน้อง ระดับของความสัมพันธ์จะค่อยๆเขยิบขึ้นไป แล้วแต่องค์ประกอบอื่นๆ ถ้าทำ flow chart ขึ้นมา จะพบว่า ตัวเราอาจถูกลากไปโยงถึงจุดเล็กจุดหนึ่ง จนกระทั่งมีจุดเล็กๆ แวดล้อมอยู่มากมาย ฉันคิดว่ามากหรือน้อยยังไม่สำคัญเท่ากับว่าจุดเล็กๆนั้นจะอยู่ได้คงทนถาวรเท่าไหร่มากกว่า
เมื่อเราโตขึ้น วันเวลารวมถึงเรื่องราวในชีวิตชักนำให้มีผู้คนผ่านเข้าออกมากขึ้นเป็นเงา ก็บอกแล้วว่ามีทั้งเข้าและก็ออก มีหลายเหตุผลที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคนเราไม่คงทนหรือไปไม่ถึงไหน แต่อย่างหนึ่งมันคงเป็นเรื่องน่าเสียดาย หากเราต้องตัดใครสักคนออกจากชีวิตไป โดยที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องทำให้ดี นั่นคือการพยายามรักษาความสัมพันธ์ก่อนที่มันจะขาดสะบั้นลง
แต่ถ้าใครที่บอกตัวเองได้ว่า ฉันทำดีที่สุดแล้ว ก็คงไม่จำเป็นต้องมาคิดเสียใจ เสียดายว่าเราปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร
ฉันเองก็เคยผ่านประสบการณ์ความสัมพันธ์ที่ต่อไม่ติด แต่นั่นก็เป็นเพราะฉันเลือกที่จะไม่ต่อมันเอง จากความรู้สึกโกรธแค้นที่เพื่อนทำไว้จนรู้สึกว่าแม้แต่คำขอโทษก็เยียวยาจิตใจฉันไม่ได้ หลายปีผ่านไป เมื่อมองกลับไปถึงเหตุการณ์นั้นแล้วทบทวนจากเวลาปัจจุบัน ฉันก็คงต้องทำอย่างนี้เหมือนกัน ถามว่าเสียดายไหม ไม่เลย แต่การต้องห่างเหินกันไปโดยไม่มีคำพูดอะไรทิ้งท้ายที่จะทำให้รู้สึกดี เพียงเพื่อเราจะหายโกรธกันไปแล้วรักษาความสัมพันธ์ให้คงอยู่ เรากลับไม่ได้ทำอย่างนั้น ในที่สุดเราต่างห่างหายไปจากชีวิตของกันและกันอย่างถาวร
ที่จริง เวลาในชีวิตของเราก็ไม่ได้ยืดยาวถึงขนาดที่เราจะใช้ไปกับการแสวงหาคนใหม่ๆมารับช่วงต่อความสัมพันธ์อยู่เรื่อยๆ สิ่งที่ดีที่สุดจึงน่าจะเป็นการรักษามิตรภาพที่มีอยู่ในรูปแบบต่างๆให้คงอยู่เพื่อที่ต่างฝ่ายจะได้เติบโตไปด้วยกัน
เพื่อนจึงต้องรักษาน้ำใจเพื่อน คนรักจึงต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ในกันและกัน พี่น้องจึงต้องเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อดูว่าต่างฝ่ายสบายดีหรือไม่ ครูกับศิษย์เคารพกันด้วยความนับถือจากใจ หัวหน้ามีใจที่เป็นธรรมกับลูกน้อง ความเอื้ออาทรใส่ใจเหล่านี้ไม่ใช่หรือ ที่จะทำให้เกิดความสุขในแต่ละที่ที่เราสวมบทบาทนั้นอยู่
ถ้าคุณเป็นเพื่อน เป็นคนรัก เป็นพี่เป็นน้องของใคร ลองมองดูสักหน่อยดีไหม ว่าได้ดูแลความสัมพันธ์ที่แวดล้อมรอบตัวให้เหมาะสมเพียงพอแล้วหรือยัง คุณอาจไม่เคยรู้เลยว่าคนรักของคุณไม่ได้ชอบในสิ่งที่คุณทำ หรือแม้แต่การทะเลาะกันแต่ละครั้งด้วยเรื่องเล็กน้อยเสียเหลือเกินนั้น เคยคิดหรือเปล่าว่ามันเสียเวลาแค่ไหน
ผู้คนแวดล้อมรอบตัวคุณ ไม่ต่างอะไรกับกลีบดอกไม้นั้นหรอก มันพร้อมจะร่วงโรยปลิดปลิวได้ตลอดเวลา บ้างตามอายุขัย บ้างร่วงไปโดยไม่คาดฝัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าปล่อยให้หลุดมือหรือร่วงโรยไปเพราะไปดึงทึ้งมันก็แล้วกัน
ก็บอกแล้วว่ามันบอบบาง
Create Date : 08 มกราคม 2549 | | |
Last Update : 8 มกราคม 2549 11:42:11 น. |
Counter : 408 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|