Group Blog
 
All blogs
 

sailing into a keen plan

เรื่องบางเรื่อง
... 
ปล่อยให้รู้ด้วยตัวเองเถอะ
ไม่มีใครสามารถบอกได้หรอก
ว่า..ไฟน่ะ มันร้อนแบบไหน
จนกว่าจะได้ลองจับเอง



อืมมมม ... จำไม่ได้...
ว่าระหว่างวันที่ไม่ได้บันทึกเลยนั้น
ได้ทำอะไรนอกเหนือจากงานอีกบ้างหรือเปล่า

เพราะมันเบลอ ๆ เหมือนว่าลืมนะเนี่ย

แต่ที่แน่ ๆ สายวันศุกร์มีงานออกทริป
แล้วก็เลยได้แวะไปปล่อยปลาที่วัดป่าในเมือง el monte
(ฝากพี่ที่ทำงานซื้อมาจากร้านไทยซึ่งขาย 4 ตัว 1 เหรียญ)
((ถูกกว่าซื้อจากร้านฝรั่งเยอะเลย))



จากนั้นหยุดพักทานบ่ายที่ costco
เพราะมีเหตุให้ซื้อของใช้ในออฟฟิศ
งานนี้ บอกน้อง ๆ ว่า
ขอเลี้ยงที่หน้า costco เป็น
chicken bake ก่อนนะ
และพบว่ายังคงอร่อยแบบคงที่
แต่ราคาเพิ่มเป็น 2.99 เหรียญต่อชิ้นแล้ว
หากก็ยังคุ้มอยู่นะ เพราะพออิ่มเลยแหละ
แล้วก็ซื้อมอคค่าปั่นให้น้อง ๆ อีกคนละแก้ว
ด้วยเหตุผลว่าเด็ก ๆ เกรงใจที่จะสั่ง

จากนั้นทั้งหมด 6 คนก็นั่งกินด้วยกันที่โต๊ะหน้า costco นั่นล่ะ
เพื่อที่ว่าหลังจากอิ่มแล้ว
จะได้เดินเข้าไปช่วยกันขนของไปขึ้นรถได้เลย

พอจัดการเรื่องงานเรียบร้อย
ก็ถึงเวลาแว่บไปงานวันเกิดพอดี

จริง ๆ เป็นงานหาเรื่องเลี้ยงวันเกิดของพี่เฟียมากกว่า
เป็นงานแบบฮา ๆ ระหว่างเพื่อนหลังห้อง
มีกันทั้งหมด 18 คน ซึ่งก็จัดที่บ้านพี่เฟียนั่นแหละ

พอฉันไปถึง พบว่าบางคนก็เมาเสียงดังแล้ว
และโชคดีที่ทุกคนรู้ดีว่าฉันไม่ดื่มแน่
ก็เลยไม่มีใครมาคะยั้นคะยออะไร

ระหว่างนั่งคุยกับเพื่อน ๆ ก็นั่งเล่นกับหมาของพี่เฟียไปด้วย
3 ตัวนอกบ้านและอีก 2 ตัวในบ้าน



ได้เลือดซิบ ๆ จากโดนเจ้าหมาน้อย
ข่วนแขนอิท่าไหนไม่รู้ไม่ทันระวัง
แต่ไม่ได้อะไรมาก
กับเจ้าหมาก็ไม่ได้ตั้งใจนิ
มันแค่จะเล่นด้วยเท่านั้นเอง

เพื่อนฝูงบอก
"หมามันน่าจะกลัวว่าจะได้เชื้อบ้าจากแกไปมากกว่านะ"
อิอิ

แป๊บนึง 'ต้าร์' ก็เดินมาบอกว่า
เจ๊ .. ผมอยากสูบมาลีฮวนน่าแล้วล่ะ
ฉันเลยลุกเดินไปดู
(เคยบอกนานแล้วว่า สูบวันไหน เรียกด้วยนะ อยากรู้)

ที่แคลิฟอร์เนียเปิดให้สูบกัญชาได้ถูกต้องตามกฎหมาย
เปิดกันเป็นร้านสูบเลย
หรือถ้าไม่ไปสูบที่ร้านก็จะต้องมีใบอนุญาตสูบตามกฎหมาย


ปรากฏว่าฉันเมาซะงั้น
ขนาดนั่งไม่ใกล้มากนะ

หัวเราะไม่หยุดไม่หย่อน
ใบไม้ไหวยังขำเลยอะ

จนประมาณเกือบ 6 โมงเย็น
มะเฟืองที่เลิกงานตามมาถึง
ถามว่า
"เพื่อน .. เมากัญชาใช่ปะเนี่ย"

พอมีหลายเสียงยืนยันว่าใช่

มะเฟืองก็นินทาฉันต่อหน้า
"แบบว่าลมหายใจนางบริสุทธิ์มากเลยรับเต็ม ๆ"

จึงต้องสารภาพว่า
สงสัยตะกี้เพราะดมแบบแห้ง ๆ ไปฟืดนึงด้วยล่ะเพื่อน
แบบสงสัยว่าทำไมกลิ่นเหมือนสกั๊งค์เลยอะ



กับตอนที่ต้าร์พ่นควันออกมา
สายลมก็พัดมาทางฉันเต็ม ๆ

มะเฟืองบอกนั่นแหละ
คนอื่นเขาต้องสูบ แต่หล่อนนั่งใกล้ ๆ ก็เมาแล้ว

ฉันก็ อ้าว เหรอ แบบนี้เหรอเมา

คุยกันสักพัก เริ่มสุมฟืนจุดไฟผิงเพราะอากาศหนาว ๆ
แต่พอเสียงคนเมาเริ่มดังมากขึ้น
ฉันคงแสดงสีหน้าปวดหัวกับเสียงดัง
แฟนพี่เฟียซึ่งเป็นศิลปินตัวเอกของแอลเอ
เดินมาถามว่า
"กลับบ้านไหวมั้ยเนี่ย"

ฉันบอกว่า
ไหวแหละค่ะ แต่คงขับรถไปส่งอีก 4 คนไม่ไหว

พอพูดแบบนั้นก็เลยแยกย้ายกันกลับบ้านหมด
โดยซูยุอาสาไปช่วยส่งให้ครบทุกคน
เพื่อให้ฉันตรงกลับบ้านเลย

ตอนเดินออกมาหน้าบ้าน
ฉันหารถไม่เจอ 555+
คือมีคนช่วยย้ายไปจอดอีกฝั่งถนนให้
แล้วศิษย์พี่ของฉันก็เริ่มนอยด์เมื่อเห็นอาการฉัน

เฮ้ยยยย กลับไหวปะเนี่ย
ฉันบอกว่าไหวสิรุ่นพี่

ส่วนพี่เฟียก็ส่งเสียงโวยตามหลัง
แกถึงบ้านแล้วโทรบอกเจ๊ด้วย
แต่ทุกคนที่เดินตามฉันออกมาหมดบอกเสียงเดียวกันว่า
"ฝันไปเหอะพี่"


คืนนั้นกลับถึงบ้านได้ไงไม่รู้
รู้ว่าเสี่ยงมากที่ขับรถมาแบบลอย ๆ

.

.

เช้าวันเสาร์ ก็เหมือนจะมึนนิด ๆ

ต้มกาแฟแก้วแรกแล้วก็เลยเดินไปเด็ดมะนาวจากต้นมาลูกนึง
หั่นฝานเป็นแว่นแล้วหย่อนลงในกาแฟ


จิบแล้วค่อยดีขึ้นหน่อย

นั่งดูงานไปพัก ๆ แบบยังมึน เลยต้องกินกาแฟอีก

วันเสาร์เลยอยู่บ้านนิ่ง ๆ จนบ่ายถึงออกไปตลาดชาวนา
แป๊บนึง
แต่ออกไปสายมากแล้วเลยไม่เจอดอกไม้ถูกใจ
บวกกับเมื่อวานซื้อดอก tuberose มาแล้วด้วยล่ะ

เลยไม่รู้สึกอยากได้ดอกไม้เท่าไหร่นัก




ประกอบกับเพราะหน้าหนาว
ดอกไม้ก็ไม่ค่อยมีด้วย

แต่กระนั้นก็ยังหยุดยืนดูต้นการ์ดีเนีย
ขายถูกมากต้นใหญ่เชียว
$12
ฉันแอบคิดถึงต้นเดิมที่บ้าน
เกรงใจต้นไม้ว่าจะถ้าซื้อต้นใหม่ไปปลูกข้าง ๆ
เจ้าต้นเดิมจะน้อยใจไหมหนอ

เลย..เดินผ่านร้านต้นไม้ดอกมาอีก 1 ร้าน
โดยไม่ซื้ออะไร

แค่แวะไปซื้อผักจากพ่อค้าหนุ่มชาวฝรั่งเศส
แล้วก็กลับบ้านเลย

พอกลับถึงบ้านพบว่า
เจ้าอาร์มีเนี่ยนบ้านฝั่งตรงข้าม
"ย้ายออก"

ยิ่งกว่าถูกหวยแน่ะ
เกือบได้เปิดแชมเปญฉลองด้วยความดีใจ
เสียดายก็แค่ว่าดื่มไม่เป็น

ตอนเย็น ๆ มะเฟืองโทรมาถามอาการ
มะเฟืองบอก
"แกรู้ปะ เมื่อวานแกเมากัญชาจริง ๆด้วย"
บอก
เหมือนจะรู้นะแต่ไม่รู้ว่ะ
มะเฟืองเทศน์
เออ ดีแล้ว ต่อไปอย่าไปนั่งใกล้อิต้าร์อีก

แล้วมะเฟืองก็ถาม
อิตาร์มันโทรมาถามอาการแกปะ

จะโทรทำไม

มะเฟืองเฉลย
ก็..เมื่อวาน ก่อนแกจะกลับอิตาร์มันขอเบอร์แกนี่
แล้วแกก็ให้มันด้วยนะ
มันยังบอก
"เจ๊ เอาเบอร์ที่เจ๊รับสายนะ เบอร์งานไม่เอา"

งงกับข่าวนี้
อ้าวว เหรอ ชั้นให้เบอร์ไปเหรอเนี่ย
555+

และเสริมกับมะเฟืองว่า
คงไม่โทรมาหรอก ถึงโทรมา ชั้นก็ไม่รับอยู่ดี

ปวดหู


แต่บอกมะเฟืองว่า
เมื่อคืนพอกลับถึงบ้าน
พี่เฟียและอีกบรรดาพี่ ๆ 108 – 1009 คนก็โทรมาเช็คนะ

แต่ไม่ได้รับสาย
รับแค่ของพี่เฟีย

มะเฟืองบอก
นั่นแหละ แกเมาแบบลอยเลยล่ะ
เค้าเลยห่วงกัน

โอเค
สัญญา
ต่อไปจะอยู่ห่างอิตาร์ 100 เมตรอย่างต่ำ

มะเฟืองหัวเราะร่าและบอก
100 เมตรของ "อาจารย์โท" ใช่ปะ

(ซีน 100 เมตร ตรงระเบียงคอนโดในซีรี่ย์เกาหลี)

ก่อนวางสาย
บอกมะเฟืองว่า
"เออ อาร์มีเนียนข้างบ้านชั้น ย้ายบ้านแล้วนะ"

มะเฟืองร้อง
เย้ เย้ อย่างนี้ต้องฉลอง

ตอบเพื่อนว่า
รอก่อน ขอเคลียร์งานก่อนนะ
งานเยอะจริง ๆ

.

.


วันอาทิตย์คือวันนี้ตื่นมาสายมาก
7.50 แน่ะ
เดินลงมาเจอ missed call จากแม่
แล้วก็ฟังข้อความ
เมื่อพบว่าไม่มีอะไรด่วน
แค่ทักทายรายวันก็เลยโอเค

เดี๋ยวค่อยโทรหาแม่ตอนเช้าเมืองไทย


เพิ่งนึกออกว่าเมื่อวานไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา

ถึงว่าเช้านี้ หิว

เปิดตู้เย็น
ตู้เย็นเกลี้ยงเลย 555+ ก็เลยต้มกาแฟ
กินกะ “ไข่ตู้ม”ของละม่อม
ไข่ 2 ฟอง กับกาแฟ 1
ค่อยหายใจเข้าออกได้รื่นขึ้น

แล้วก็แช่หมูสับแพ็คสุดท้ายในน้ำให้ละลาย
เพื่อใช้ทำสปาเก็ตตี้หมูสับมื้อเที่ยง
จะได้จบ ๆ ไปอีก 1 มื้อ

.

.

ตอนบ่าย ป้าเอาหมูปิ้งกะข้าวเหนียว
และก็ขนมครกมาแขวนให้ที่หน้าบ้าน

.

.


ช่วงนี้ มีเรื่องคิดในสมองเยอะจัง

แต่อย่างแรกพบว่า
การที่มีกฎหมายเรื่องถุงพลาสติคออกมา
ทำให้ฉันซื้อของน้อยลง
เพราะขี้เกียจหอบถุงผ้าไปหลายใบ
ขอใช้วิธีแวะซื้อก่อนเข้าบ้านทีละ 4-5 อย่างพอ
จึงเป็นเหตุให้ตู้เย็นว่างละมั้ง

อย่างที่ 2 คิดว่า
จะต้องจัดตารางเวลางานใหม่
ด้วยเหตุผลว่า
มีงานเอกสารของ dr. kris เพิ่มขึ้นมา 3 เล่ม
เป็นงานวิจัยที่ต้องอัพเดทข้อมูล
ซึ่งเปิดดูแล้วมึนมากมายเกือบหงายหลัง

และคาดว่า ด้วยความมึน
จนบัดนี้ฉันจึงยังไม่ได้ลงมืออ่านและแก้ไขเลย

กับอีกอย่างคือ
เรื่อง "เส้นตาย 15 เมษายน" ที่ต้องส่งตัวเลข
ก็ยังไม่เริ่ม
ทั้งที่เอกสารรอจัดการก็วางอยู่บนโต๊ะมา 3-4 วีคแล้วล่ะ

อีกเรื่องคือ stock ของงาน 10 ชุด
ที่ก็... เหอ เหอ


อะไรนี่ฉัน!

ทั้งหมดทั้งมวล
ไม่นับงานรายสัปดาห์ที่ก็เหมือนไม่ลดลงเลย

งานไม่คืบหน้า


ตั้งใจว่าบันทึกช่วยจำนี้เสร็จแล้ว
เห็นทีต้องจัดตารางงานใหม่จริง ๆ ซะที
ไม่งั้นตายคาเขียงไม้มะฮอกกานีหน้าออฟฟิศแน่นอน

.

.

แต่ตอนนี้ปวดหัว
อยากนอนนนนนนนน


สิ่งที่ค้นพบอีกอย่าง
ตอนแว่บไปรื้อบันทึกเก่าและเปิดอ่านบางหน้า
แปลกใจว่าเรื่องราวเหล่านั้น
เคยเกิดขึ้นในชีวิตฉันด้วยหรือ


จำไม่ได้เลย

แต่นี่ก็คือข้อดีของการจดบันทึกไว้ทุกเรื่องราว
และดีใจที่ได้จดบันทึกไว้ซะละเอียดขนาดนั้น
เป็นบันทึกนับ 100 ๆ เล่มที่เมื่ออ่านหวนอดีตแล้ว

แม้ใจจะโหวงเหวงพิกล



แต่ก็ดีใจ .. ที่วันนี้
ตัวเองยังคงเป็นตัวเอง




 

Create Date : 27 มกราคม 2557    
Last Update : 27 มกราคม 2557 12:04:53 น.
Counter : 773 Pageviews.  

the nodding violet grows!

"มีความสุขแต่ไม่มีความหมาย"

เราปรารถนาจะนำพาชีวิตป่ายปีนไปสู่จุดนั้นจริงหรือ
..ผมว่าไม่น่าใช่

ทางโลก, วรพจน์ พันธุ์พงศ์




ไปไหนมาบ้าง

วันเสาร์ไปช่วยดูการเซ็ตอัพออฟฟิศย่อยให้มินน่า
พอไปถึงก็เริ่มกรุ่น ๆ เพราะนัดติดตั้งระบบบ่ายโมง
แต่ปรากฏว่าบ่าย 2 แล้วยังไม่ลงมือ
เลยมอง ๆ นิ่ง ๆ แล้วก็เลยต้องถามคำเดียว

สรุป
ทุกอย่างเสร็จสรรพในบัดดล

พอจะเริ่มทดสอบระบบ
คุณป้าเรดี้ก็ดันมาบอกว่า เอ่อ นัดแขกมาคุยเรื่องภาษี
ฉันก็ไม่เป็นไร พวกเรานั่งรอละกัน
ระหว่างนั่งรอก็อ่านหนังสือไปพลาง
แต่เมื่อเริ่มจะนานก็เลยเงี่ยหูฟังว่า
ำไมนานเกิน

พอแว่วเสียงว่า เอ๊ะ นี่มันคุยเล่นอยู่นี่นา
ก็เริ่มจะกรุ่น ๆ อีกรอบ
แต่ยังรออีกครึ่งชั่วโมง
จนไม่ไหวแล้วมั้ง
วางหนังสือแล้วตรงไปเคาะประตูห้อง
บอกว่า

ถ้ายูยังไม่เสร็จธุระ ชั้นขอตัวกลับก่อนนะ
เมื่อไหร่ยูพร้อมจะทดสอบระบบ
ก็โทรไปนะ
จะส่งคนมาช่วย
เพราะฉันจะไม่มาอีก

ปรากฏว่า 'วงแตก' ทันควัน

พวกที่นั่งรอเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกหัวเราะกันหึหึ
ป้าเพิ่งเข้ามาร่วมทีมเรา
เลยยังไม่รู้จักรังสีอำมหิตของฉันนั่นแหละ

ใช้เวลาสอนระบบใหม่แค่ 20 นาที
แล้วย้ำ
ทุกเคสที่ส่งมาให้ต้องส่งคืนตรงเวลา
เพราะถ้าเลยเส้นตายเมื่อไหร่
แปลว่าตายหมู่เลยนะ
.
.


ระหว่างทางขับรถกลับบ้าน
มะเฟืองส่งข้อความมาว่า

เพื่อน...พรุ่งนี้ไปดูหนังกันปะ
ตอบสั้น ๆ ระหว่างรถติดไฟแดง

k

.
..
...

เช้าวันอาทิตย์ตื่นมาดูงานค้าง
เพราะวีคก่อนไม่ได้เคลียร์งานไว้ล่วงหน้าเลย

ดู ๆ แล้วก็พอจะไหวอยู่นะ เลยวางไว้ก่อน
แล้วก็ลุกไปจัดการงานบ้านนิดหน่อย

บ่ายครึ่ง มะเฟืองมาถึงบ้าน
บอกให้เพื่อนเอารถมาจอดหลังบ้าน
เพราะถ้ากลับค่ำ
มะเฟืองจะได้ไม่ต้องเดินไปเอารถแบบหนาวมาก

พอขึ้นรถก็บอกเพื่อนว่า
ชั้นยังไม่ได้ล้างรถตั้งแต่ก่อนคริสต์มาสแน่ะ
มะเฟืองทำหน้าแบบ .. ใช่เธอเหรอเนี่ย
แล้วหัวเราะ
บอก

ขนาดไม่ล้างยังสะอาดกว่ารถเพื่อนทุกคนย่ะหล่อน

เลยเอ้อ เอ่อ ดีแฮะ

พอออกไปสู่ถนนสายหลักก็ถามมะเฟืองว่า
จะไปกินบ่ายที่ไหนดี

มะเฟืองบอกว่าชอบร้าน bento
ฉันบอกว่าวันอาทิตย์มันปิดอะ
เลยปิดท้ายพร้อมกันว่า
งั้นไป blue fish

แต่พอไปถึง ก็นึกได้ว่า
คราวก่อนพี่นัทบอกว่า
แถวบ้านฉันมีร้าน sake อาหารอร่อยเชียว
พอเดินผ่าน เราเลยว่าก็ลองดูมะ
ถ้าไม่ไหวค่อยข้ามไป blue fish
หรือถ้าที่นั่นคนแน่นก็ค่อยไป super plus

แต่ทันที่ีที่เปิดประตูเข้าไป
เออจัดร้านน่านั่งดี ก็เลยใช้ได้แฮะ



ดูราคาอาหารก็โอเค
จัดว่าถูกแหละถ้าเทียบกับ blue fish
แต่ข้อเสียของเรา 2 คนคือ
สั่งอาหารตอนหิวทีไร เยอะเกินอิ่ม
ทำให้บิลออกมา 70 เหรียญ 2 คน
แต่เทียบกับปริมาณ และราคาก็ยังนับว่าถูกกว่า blue fish

หารค่าอาหารคนละครึ่งแล้วก็ใส่กล่องทูโก
เพราะเหลือ

ออกจากร้านประมาณบ่าย 3 หนังเข้า 4.10pm
มะเฟืองบอก
เพื่อนแวะบ้านก่อนนะ เอาอาหารไปเก็บ
และจะได้เข้าห้องน้ำ
(ลืมบอก มะเฟืองเป็นพวกท่อปัสสาวะสั้น (ฮา))

ออกจากบ้านก็ 3.30
ถามมะเฟืองว่า โรงไหนของ burbank
เพราะมันมี 3 โลเคชั่น
ข้างร้านหนังสือคือ AMC-6 มี 6 โรงย่อย
ในห้างมี AMC-8 มี 8 โรงย่อย
กับสุดท้ายตรงกลางดาวน์ทาวน์เบอร์แบงค์
มี AMC-16 คือ 16 โรง

มะเฟืองงง
ทำไมแกรู้เยอะ
ฉันหัวเราะ ... ไม่ได้ตอบอะไร
(เรื่องบางเรื่อง ลืมไปบ้างก็ดี ใช่ไหม ใช่ไหม)

มะเฟืองเช็คตารางหนังอีกรอบแล้วบอก
AMC-16

ฉันก็ อืมมมมม
จริง ๆ ขับไปทางถนน local อ้อมภูเขานิดเดียวก็ถึง
แต่ว่าช่วงวันอาทิตย์รถเยอะ
เลยตัดสินใจไปจอดที่ AMC-6
แล้วเดินข้ามเมืองไป AMC-16

ถามมะเฟืองว่าเดินไหวปะ ไกลพอควร
(นางขาสั้นกว่าฉันเยอะ)
มะเฟืองบอก ไหวเพื่อน

ระหว่างทาง ผ่านร้านไอติม
น่ากินอะ เดี๋ยวขากลับเรามาแวะนะ
ผ่านร้านหนังสือ
เอ้ย มีหนังสือออกใหม่ด้วย ปกสวยดี
ผ่านร้านขายเครื่องประดับ
ร้านขายกระเป๋า

ฉันแตะชิ้นไหน นางเป็นห้าม
ดีเหมือนกัน ไม่ต้องซื้อ

เดินไปถึงแลกคูปองเป็นตั๋วหนัง
แต่ต้องเพิ่มเงินอีก 3 เหรียญ ไม่รู้ค่าอะไร
พอเดินเข้าโรงหนังไปก็เป็นอิสระ



ฉันบอกมะเฟืองว่า
ที่นี่ ฉันเคยซื้อตั๋วครั้งเดียว ดูซะ 6 เรื่อง
นางทำหน้าตาตื่น ๆ
(เป็นเรื่องช่วงนั้นที่ไม่ค่อยบอกเพื่อน)

เดินไปถึงล็อบบี้ขายป๊อปคอร์น

ปกติโรงหนังใกล้บ้านฉันจะได้ฟรี+เครื่องดื่ม
เพราะเป็นสมาชิก
แต่ที่นี่ ต้องซื้อ
เลยบอกเพื่อนว่า ซื้อป๊อปคอร์นกัน
ฉันเลี้ยง

เราสองคนยืนดูเมนู
แล้วทันใดก็ อืมมม สะกิดกันโดยมิได้นัดหมาย
ไปช่องนั้นเลยเพื่อน
เอ่อ พนักงานขายในช่องนั้นอะน่ารักดี

บ้าทั้งคู่
มะเฟืองบอกเค้า "ใช่" อะแก
บอกไม่เป็นไร
แค่ซื้อกับคนหน้าตาดี แค่นี้ป๊อปคอร์นก็อร่อยขึ้นแล้ว

ป๊อบคอร์น 1 ถุงกลาง + โค้ก 1 แก้วกลาง + น้ำิ่ดื่ม 1 ขวด
แล้วก็คาปูชิโน่ร้อน 2 แก้ว
ค่าเสียหาย 25 เหรียญพอดี

มะเฟืองเดินออกมาจากห้องน้ำ
แกจะบ้าเหรอ ซื้อกาแฟ 2 แก้วร้อนไปดูหนังเนี่ยนะ

ฉันหัวเราะ ไม่ตอบ

บางที
ชีวิตบางแง่มุมของเราก็มีบางเรื่องที่เราควรมีเหตุผลส่วนตัว
ซ่อนไว้ลึก ๆ

เดินเข้าไปในโรงหนัง
จำได้ว่าทุกครั้ง ฉันต้องนั่งแถวบนหลังสุด
แต่ .. อืมมมมม
บอกเพื่อนเดินลงไปนั่งแถวหน้าล่างสุด
จะได้หายหนึบ ๆ ในใจ

นั่ง ๆ อยู่ สงสารกลุ่มคนที่มาช่วงหลัง
มากัน 4 คน แต่เก้าอี้ว่างเป็นฟันหลอ
เลยต้องนั่งแยกกันไป 1 คน

ฉันตัดสินใจสะกิดว่า
บอกเพื่อนมานั่งที่ฉันสิ
เดี๋ยวฉันลุกไปนั่งอีกตัวด้านในให้

ทั้งผิวขาว ผิวดำ และน่าจะจีน เอ่ยขอบคุณยกใหญ่

มะเฟืองยิ้ม ๆ นางบอก
ชั้นหน้าบานไปด้วยเลยแก
บอกนาง อืมมมม ตามสบาย

หนังที่ไปดู
August: Osage County
หนังรวมนักแสดงขั้นเทพ
มั่นใจว่าจะต้องขึ้นหิ้งอีกแน่นอน

สุดยอดมาก
แต่คุยกะมะเฟืองว่าคงไม่ดังในบ้านเรา
หนังมันออกจะ
darkblack comedy drama เลยล่ะ

อาจจะไม่ถูกจริตคนไทยเท่าไหร่

 แต่สำหรับฉัน
น้ำตาซึมเลย

เป็นเรื่องราวของแม่กับลูกสาว 3 คน
หลังจากที่พ่อจากไป

.

.

ซึ่งไม่สามารถบอกเล่าอะไรได้เลย
เพราะมันสปอยล์ซะทุกจุดทุกคำ
ทุกอารมณ์

ความห่วงใยที่แสดงออกมาไม่เหมือนกัน
เป็นเพราะเรามักคิดไปเองว่ามันควรจะเท่านี้แหละ
หรือแค่นี้ก็พอมั้ง แต่ก็น่าจะเท่านี้เท่านั้น
ควรจะต้องทำอย่างนี้หรือว่าอย่างโน้น

หากแท้ที่จริงแล้ว

เราเดินกันคนละเส้นทาง
และ
ก้นบึ้งของทุกเรื่อง
มันย่อมมีความลับดำมืดซุกซ่อนอยู่ 




เช้าวันจันทร์ ที่คือวันหยุด
ควรจะได้อยู่บ้านสบาย ๆ แต่ก็ต้องออกไป
ไกลถึง redondo beach ที่เพื่อกินซีฟู้ดเนี่ยนะ

เลย อืมมม ว่าไงว่าตามกัน
หนูไม่ขัดใจผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือแน่นอน



กลับถึงบ้าน 2 ทุ่ม
เหลือบสายตามองงานแล้วอยากร้องไห้


.

.

เช้าวันอังคารเลยเร่งงาน
และก็โชคดีว่าไม่เจองานหิน ๆ เลย
จึงได้เสร็จสรรพกลับบ้านตอน 3 ทุ่ม 45 พอดี

ถึงบ้านก็หมดแรง

นั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ มองจอคอมฯ

แล้วยิ้ม


.

.

เช้าวันพุธคือวันนี้

จัดการงานคั่งค้าง แล้วก็ได้รับ UP พอดี


สั่งซื้อสีส้ม น่ารักเชียว
(ยังขี้เกียจถ่ายรูป ดึงรูปหน้าเว็บมาก่อนละกัน)

หลังจากโหลด app มาแล้ว
ก็เริ่ม set up จากนั้นก็
สวมเข้าข้อมือซ้าย


มามะ

.

.


มาดูกันว่าฉันจะทำได้ดีแค่ไหนกับเป้าหมาย
ตลอดปี 2014


วันนี้มีเรื่องแปลก
ออกไปธนาคาร พนักงานธนาคารทัก
คนไทยเหรอ ผมชอบอาหารไทย ร้านไหนอร่อย

ไปเติมน้ำมันรถ

พนักงานในปั๊มที่หน้าเหมือน jack johnson มากมายเอ่ยทัก

เลยออกไปล้างรถ

พนักงานแคชเชียร์สาวสวยเอ่ยทัก

ยูหายไปนานเลย เป็นปี ๆ เชียวนะ

ฉันก็ยิ้ม ๆ แหม ... แค่เดือนเดียว
เพียงข้ามปีเท่านั้น

คุยกันแป๊บ ๆ แล้วออกไปนั่งรอรถข้างนอก

และกลับบ้าน

เริ่มงานต่อไป




 

Create Date : 23 มกราคม 2557    
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2557 7:11:50 น.
Counter : 781 Pageviews.  

right to grieve

ซาตาน .. ต่อให้เปลี่ยนเสื้อผ้า
ก็เป็นเทวดาไม่ได้

::
i hear your voice, ซีรี่ย์เกาหลี




ไม่กี่วันก่อน
บ้านในซอยถัดไป เกิดไฟไหม้
ความที่เจ้าของบ้านไม่อยู่
กว่าจะรู้ว่าไฟไหม้ก็ตอนที่เห็นเปลวไฟบนดาดฟ้าแล้ว

ฉันเองได้กลิ่นไหม้แหละ
แต่คิดว่าคงมีบ้านไหนจุดเตาผิง

สรุปผลว่าไหม้ลามไป 2 หลัง

แว่วว่าเจ้าของบ้านไม่ได้ขนต้นคริสต์มาสแห้งไปทิ้ง
ครั้นเจอลมแรง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา
แบบพัดเข้าหน้าต่างจนทำให้ต้นไม้ล้ม
ก็คงไปชนกับเตาผิงหรือเปล่า
เดานะเดา เพราะมันไหม้ไปแล้ว

ถัดมาวีคก่อน
ไฟป่าไหม้ภูเขาในเมือง azusa เพราะเด็กจุดไฟเล่น
ไหม้อยู่หลายวัน
เมืองย่านนั้นขี้เถ้าคลุ้ง
วันนี้เจอทิน่า กับเฮเลนที่ออฟฟิศ
สองนางก็บ่นเรื่องนี้
บอกว่าแสบจมูกไปหมดแล้ว
ฉันเลยโอโห ขนาดสองคนนี้อยู่เมือง rosemead นะ
ควันไฟยังลอยลมมาถึงเลย

น่ากลัวจริง ๆ 

.
.



แม่เงียบเสียงไป 10 กว่าวัน
ได้แต่คุยกับพ่อ และน้องคนเล็ก
พอเช้านี้ นึกยังไงไม่รู้ ประมาณว่าเดี๋ยวจะถามน้องซิว่า
"แม่ไปไหน รู้มั้ย"

ปรากฎว่า 6.49 แม่โทรมาหาพอดี

แม่บอกว่า
สายโทรศัพท์บ้าน คือสายรวมมั้ง เกิดไฟไหม้ขึ้น
เจ้าหน้าที่เพิ่งมาซ่อมเสร็จวันนี้
พอถาม..อ้าว แล้วมือถือแม่ล่ะไปไหน
แม่บอก
ไม่ได้ใช้ ไม่รู้วางไว้ห้องไหนแล้ว

เสียงน้าตะโกนแซวแว่วว่า
จริงเหรอพี่ ไม่บอกลูกสาวล่ะว่าไปไหนมา

ฟังแล้วขำ ๆ แต่แอบปวดหัว
เลยพอวางสายก็จัดการคุยกับน้อง
ให้ห้ามแม่ว่า ห้ามไปอีก

เพิ่งหายป่วยแท้ ๆ ทำซ่าไปได้นะแม่นะ

เรื่องเลือดรักชาติแรงกล้านี้ของแม่
เป็นเรื่องที่พวกเราแปลกใจกันมากมาย
เพราะแม่เป็นผู้หญิงผิวขาว ตัวเล็ก ๆ ยิ้มหวาน ๆ
และค่อนข้างจะคุณผู้หญิงมาก
วัน ๆ แม่ก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากเอกสารการเงิน
ที่แม่ชอบมาก
กับงานสอนแบบวิทยากรพิเศษ (แล้ว) บ้างบางวัน
แล้วก็ชอบเดินสายบรรยายนั่นนี่นู่น

หรือถ้าไม่ไปไหน แม่ก็จะง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้
จะดอกไม้สด หรือดอกไม้ประดิษฐ์
คุณนายก็สามารถ

แล้วผู้หญิงอย่างนี้อะนะ ที่ยอมลุกขึ้นออกจากบ้าน
เพื่อไปทำอะไร ๆ แบบที่ไม่คิดว่าแม่จะไป

แต่เราก็ไม่ห้าม เพราะมันคือสิทธิส่วนตัว
หาก...ก็ต้องมั่นใจว่าจะระวังตัวเองดี ๆ
อย่าลืมว่าคุณนายเพิ่งหาย (เกือบ) ดีจากอาการป่วย
นะจ๊ะนะ

เอาว่าที่แม่แกล้งทำมือถือหาย
นั่นเพราะกลัวลูก ๆ โทรไปยินเสียงอึกทึกในถิ่นที่แม่อยู่ละมัง
เลยบอกแล้วว่าช่วยกรุณานำมือถือติดตัวไปด้วย
แล้วจะไปไหนก็ขอให้บอกคนที่บ้านสักนิด

ขอเท่านั้นล่ะนะคะคุณนาย

...

วันนี้วันเสาร์ ปกติหยุด หรือไม่ก็ไปทำบุญ
แต่เสาร์นี้ ต้องไปทำงานบ่าย
ไปถึงก็นั่งทำงานแบบเรื่อย ๆ เสร็จเรียบร้อยก็กลับบ้าน
ระหว่างทางรับโทรศัพท์ 2 สาย
ทั้งที่ไม่ชอบรับโทรศัพท์ตอนขับรถ

แต่ 2 สายนี้ก็ต้องรับ

คนแรก คือรุ่นพี่ที่เป็นมะเร็งขั้นที่ 3
รายงานผลเรื่องการตรวจเมื่อวันศุกร์
ฟัง ฟัง ฟัง และฟัง
และบอกหลังจากคิดถึงตารางงานวันจันทร์-อังคาร

อืมมมมม คิวงานหนูแน่นเลยค่ะ
แต่วันศุกร์เช้า จะพอได้ ช้าไปมั้ยคะ
พอคำตอบว่ารอได้ ฉันก็สรุป

หนูจะขับรถพาพี่ไปเองค่ะ

แอบคิดในใจนิด ๆ ว่า
แล้วลูกสาวพี่ตั้ง 2 คนนั้น ทำไมไม่พาพี่ไปเองหนอ
แต่ไม่ได้เอ่ย
เรื่องบางเรื่อง เงียบดีกว่า

วางสายแล้วก็นึก ๆ ว่าแล้วคนไข้อีกรายล่ะ

อืมมมมมม
เดี๋ยวคงต้องรออีกสักพักสำหรับรายนี้
แล้วค่อยย่องไปเยี่ยม

ขับรถเกือบถึงบ้าน พี่โซโทรมา
จริง ๆ ไม่ค่อยรับสายพี่โซเท่าไหร่นัก
แต่หนนี้จำต้องรับ เพราะมีคดีกันอยู่ในกลุ่ม

และชื่อฉันถูกขอยืมไปเป็นหนังหน้าไฟ

พี่โซถามว่า
เจ๊ถามหนูหน่อยนะ ไม่ใช่หนูใช่มั้ยลูกที่เป็นตัวตั้งตัวตี
เพราะเจ๊มั่นใจว่า
หนูน่ะนะเป็นคนแบบ "ยังไงก็ได้" อะไรก็ได้

อืมมมมมมมมมมมม
ช่างมันเหอะค่ะเจ๊ ว่าแต่เจ๊มีอะไร

ก็เจ๊บอกพวกมันว่า
เจ๊กะหนูน่ะสนิทกัน
ถ้าอิหนูมันมีมัญหาเรื่องนี้ เจ๊จะคุยกะมันเอง
เจ๊เลยโทรมาคุย

อืมมมมมมมมมมมมม
ช่างมันเหอะเจ๊ ทุกคนก็ต้องเคารพกฎอะนะ
เมื่อต่างก็มีเหตุผล หนูน่ะยังไงก็ได้
เอาว่าเสียงส่วนใหญ่ละกันค่ะเจ๊

เห็นมะ เจ๊ว่าแล้ว ว่าต้นตอไม่ใช่หนู
บอกเจ๊ได้มั้ย ใครมันต้นคิดเอาชื่อหนูมาอ้าง

ฉันหัวเราะเสียงดังเลย
"ไม่เป็นไรเจ๊ คนอ้างเขาบอกหนูแล้ว
หนูก็บอกแล้วว่า ตามใจ หนูไม่แคร์หรอก
จะพูดอะไรก็พูดไปเหอะ"

เลยเป็นที่มาของวลีล่าสุดในกลุ่ม

เนื้อ...หนูก็ไม่กิน หมู...หนูก็ไม่ชอบ
หนังไก่อบกรอบ ๆ หนูก็ไม่ได้ชิม
ยังทิ้งกระดูกให้หนูเก็บกวาดอีกนะ

ก็สรุปว่าถึงอ้างชื่อฉัน
เจ๊โซเขาก็ไม่เชื่อหรอกว่ามันเป็นไอเดียของฉันน่ะ
บอกแล้วว่า
เจ๊โซน่ะแกรู้จักฉันดีเกินไป๊เกินไป

ผลสุดท้ายก็วกกลับมาสู่ข้อกำหนดเดิม
บ้านเจ๊โซ วันศุกร์ ไม่กำหนดเวลา

.
.

เคสนี้ปวดหัวจนต้องขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่า
โดนแอบอ้างชื่อมา 1 สัปดาห์
แต่ว่าไม่สำเร็จ

.
.


เฮ้อ...เหนื่อยด้วย ง่วงด้วย

แต่เดี๋ยว ๆ นึกก่อนว่าวันที่ผ่านมาไปทำอะไรบ้าง
นอกเหนือจากงาน

.
.


หรือว่าจะ "ช่างมันเหอะ" ผ่านแล้วผ่านเลยละกันนะ




 

Create Date : 19 มกราคม 2557    
Last Update : 19 มกราคม 2557 9:10:30 น.
Counter : 721 Pageviews.  

tears are only water

ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร
ไม่อยากรู้ว่าเคยนอนร้องไห้
ไม่อยากรู้ว่าเคย .. เคยให้ชีวิตใครไป
เจ็บลึกมันจมลงใจ สลบไสลไปเลยคงดี
ให้ฟื้นมาเป็น .. เป็นคนที่ ไม่มีเรื่องราว
ไม่มีหัวใจ
:: 
ฟั่นเฟือน




เมื่อวานคุยกับน้องชายคนกลาง

น้องชวนคุยทบทวนความหลัง
ช่วงหนึ่งอิเมฆบอก
ตะเอง ตะเองจำตอนพ่อให้ตะเองเมาครั้งแรกได้ปะ
ที่พ่อซื้อเหล้ามาวางกลางบ้าน
แล้วบอกให้ตะเองเมาต่อหน้าพ่อ

บอกน้อง จำได้นะ

เป็นเรื่องเล่าของต้นตระกูลไทยเลย
เมื่อพ่อระลึกว่าลูกเป็นสาวแล้ว
และต้องไปใช้ชีวิตดูแลตัวเองคนเดียว
วันนั้นพ่อซื้อเหล้ามาวางตรงหน้า

พ่อบอก
มาลูก มากินเหล้ากับพ่อ
กินให้เมาเลยนะ

เมาให้พ่อดูหน่อย

โห ทรมานมากเลยกับน้ำขม ๆ แหวะ ๆ
แล้วก็เมาแบบไม่เหลือมาดใด ๆ

น้องชายบอก
ตะเองเมาน่ารักว่ะ
แบบร้องเพลง "ฟั่นเฟือน" อะ

พอเพลงจบ
ทั้งบ้านตะลึง ไม่ใช่ตะลึงที่ลูกสาวตะโกนร้องเพลง
แต่ตะลึงว่า เฮ้ย มันอกหักเหรอ

น้องชายบอก โดนซักเรียงตัวเลยทีนี้

ฉันนั่งขำ
จำไม่ได้หรอก แต่ขำทุกทีที่เล่ากันถึงเรื่องนี้

และจำไม่ได้ด้วยว่าไปหลงรักใคร

น้องบอกสงสัยพี่แตง...ปะ
ฉันหัวเราะดัง ๆ จำไม่ได้อะ
นึกไม่ออก


แต่นับจากนั้นไม่เคยเมาอีกเลย
แม้พ่อจะอนุญาต
หากฉันก็เชื่อมั่นว่า ไม่ถูกชะตากับเหล้าเบียร์
ก็แหม ไม่ต้องมีเหล้ามีเบียร์
ฉันก็เมาอารมณ์ทุกวันอยู่แล้ว

แต่ที่แน่ ๆ เพลงประจำของเรา 3 คนพี่น้อง
คือ
"ทะเลใจ"

ไม่รู้ทำไม
แต่เวลากลับไปบ้านแล้วจัดเลี้ยงกัน
ฉันผู้ซึ่งไม่เคยชอบการร้องเพลงเพราะขี้อาย
เป็นถูกน้องชายลากไปยืนกอดบ่ากอดไหล่
ให้ช่วยกันร้องเพลงนี้ทุกที

มีอยู่ครั้ง
ไปบ้านยายในสวน
แล้วลุงป้าน้าอาจัดงานหาเรื่องเมาต้อนรับหลานสาว

น้องชายคนเล็กน่าจะเมาแล้วล่ะตอนนั้น
น้องเดินขึ้นเวทีที่ก็คือแคร่กว้าง ๆ หน้าบ้านยาย
น้องบอกออกไมค์

"ผมขอร้องเพลงต้อนรับพี่สาวครับ"

พอทะเลใจขึ้นเท่านั้นแหละ
ทุกคนแบบชะงักแก้วเหล้าในท่าค้าง
ปานประหนึ่งถึงมนุษย์ต่างดาวสาปเป็นหิน

ส่วนฉันน้ำตาซึม

นั่งคุยกันกับน้องชายคนกลางแบบนี้
นี่ถ้าน้องชายคนเล็กมาคุยด้วย
คงได้น้ำหูน้ำตาไหลกันอีก

รักน้องจัง

พ่อกับแม่บอกว่า
ของขวัญล้ำค่าที่สุดในชีวิตของท่านทั้งสองคือ
เราสามคนพี่น้อง "รักกัน" และรักกัน

ฉันคิดถึงที่ตาเคยสอนเสมอ
"กินข้าวหม้อเดียวกันต้องรักกันนะหลานนะ"

จริง ๆ นะ เวลาอยู่กับน้องชาย 2 คน
มันคือความสุขที่สุดของชีวิตเลยล่ะ
เพราะเรารู้ว่าเรารักกันจริง ๆ

เวลาฉันเห็นพี่น้องบ้านอื่นทะเลาะกัน
ฉันเลยไม่เข้าใจ
ไม่ค่อยเข้าใจเลย

เหมือนชีวิตได้ผ่านเลยวัยแห่งความฝัน
วันที่ผ่านมาไร้จุดหมาย
ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ
เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน
ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย
ใจในร่างกายกลับไม่เจอ
ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ
หาหัวใจให้เจอ...ก็เป็นสุข






ต้นไม้ที่ได้มาบานแอร่มทั้ง 2 ต้นแล้ว
ต้นซ้ายจากน้อง 2J ส่วนต้นขวาจากพี่เปล่งศรี



มาเพิ่มเติม :
สองสามวันที่ไม่ได้บันทึก นึกย้อนไปว่าทำอะไรบ้างนะ

พบว่าดีใจที่เช้าวันจันทร์ได้ฟังบทสัมภาษณ์
LIVE กับ เมอรีล สตรีฟ สุดโปรดปรานหมายเลขเดียวของฉัน
เป็นการสัมภาษณ์ผ่าน 103.5FM
เกริ่นว่า เมื่อคืน นางอยู่ไหนตอนถ่ายทอดสด Golden Globe Awards # 71
นางก็บอก
...ใส่ชุดนอนเปิดแชมเปญ นั่งบนโซฟาหน้าทีวีดูถ่ายทอดสดนี่ล่ะ
กับ a good friend of mine

วิ้วววววววววววววววววว ชอบ ๆ ๆ

แล้วก็คุยนั่นนี่ ที่น่ารักสุด ๆ เกี่ยวกับงาน เกี่ยวกับเพื่อน
นั่งฟังจนเพลิน
ช่างสมเป็นผู้หญิงที่ฉันแสนจะรักตั้งแต่แรกรู้จัก จนบัดนี้

มะเฟืองเคยถามว่า .. นอกจากเมอรีลแล้ว ใครอีกที่เพื่อนชอบอะ
เห็นกี่ปี ๆ ก็แค่คนนี้คนเดียว

ฉันบอก ชอบแบบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ไม่มีข้อยกเว้นเลย
มีแค่ 2 คนนี้แหละ
คือ เมอรีล สตรีฟ กับอีกคนน่าจะไม่พ้น "เม็ก ไรอัน"
นอกเหนือจากนี้ ก็ชิงตำแหน่งครองเก้าอี้กันไปตามวาระ

อ้อ อ้อ แต่ช่วงหลัง..
หลังจากดู the band thailand ฉันชอบ "เจี๊ยบ" วรรธา อีกคนนะ
ฉันว่า เค้า cool ดี ดูว่าน่าจะ 'สปีชี่' เดียวกับฉันแหละ
(ยกเว้นแกนะ ... มะเฟือง)

เมื่อวันเด็ก 11 มกราคม เปิดใจกับมะเฟือง ว่า...
"เพื่อน เพื่อนรู้ใช่ปะ เพื่อนเป็นเพื่อนที่เรารักที่สุดนะ"
"เออ ชั้นน่ะรักแกมากกว่าแกรักชั้นอีก"
"อิอิ เออน่า เดี๋ยวเพิ่มปริมาตรให้"
"ย่ะ จะคอยดู"

"เพื่อน... เราจะบอกเพื่อนว่า...ขอบใจนะที่อยู่ด้วยกันตลอดมา
อดทนกับความงี่เง่าเวลาที่เราอยากหาคนจะงี่เง่าด้วย
อดทนกับความเป็นตัวเรา
ที่เราก็รู้นะว่า บางทีเราน่ะแสนจะเส้นรอบวงกว้าง
นึกจะคุยก็คุย นึกจะเงียบก็เงียบ เหมือนเอาแต่ใจตัว"

มะเฟืองค้านทันควัน
"แต่แกก็...ตามใจชั้นทุกเรื่องเหมือนกันนะเฟร้ย"

ฉันบอก...
"เออ...แกก็รู้ ชั้นชอบตัดความรำคาญ 555+ ทำให้ได้ก็ทำ"

ถึงกาล มะเฟืองเงื้อมะเหงกใส่
และฉันก็บอกมะเฟืองอีกเป็นรอบที่ 72 ว่า

"...ขอบใจนะ ที่ 'วันนั้น' เพื่อนกระชากสติให้ลุก ด้วยประโยคว่า
'มะไฟ แกไม่ต้องเป็นคนดีมากนักก็ได้เพื่อน แกจะเลวลงสักนิด แกก็ยังเหนือว่ะ'
จำได้ว่า พอฟังปุ๊บ ฉันหยุดรถกึ๊กตรงถนนหน้าบ้าน ..
ก้มหน้าเพื่อจะเงยขึ้นอีกครั้ง ... ได้"

กำลังซึ้ง ๆ มะเฟืองขัดจังหวะ ..
"แต่ตอนนี้ กระดาษทิชชู่อยู่ไหน น้ำมูกจะไหลอะ"

เอ้อ เพื่อน ... เมื่อไหร่ ๆ ก็ยังร้องไห้แล้วน้ำมูกไหลทุกทีสิน่า

สรุปว่าหาทิชชู่ตรงเบาหลังรถจนหมดอารมณ์ซื้งต่อ
แล้วก็เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวเรือเพื่อน 1 ชาม 555+

.
.
.

แต่วันนี้ บอกอีกที "รักเพื่อนนะ"
ถ้าอีก 90 วัน เพื่อนจะกลับไปอยู่เมืองไทยจริง (จริงอะ)
เพื่อนก็ยังเป็นที่ 1 ในใจนะ

"แก ๆ ชั้นยังไม่ได้ไปตาย ... "

อ้าว เหรอ เออ ลืมไป
รถนางยังต้องมาฝากจอดที่บ้าน ให้ชั้นรับภาระคอยสตาร์ทรถให้
นางยังขน "ที่นอน" ราคา 800 เหรียญ ของนางมาฝากไว้บ้านฉัน
นางยังขนต้นไม้สารพัดมาฝากตามมุมบ้านฉัน
และนางยังใช้บ้านฉันเป็นที่อยู่ในใบขับขี่รอบ 2 ของนาง
พร้อมใช้เป็นญานมั่นในการกลับมาสมัครสอบเป็นซิติเซ่น
เพราะเวลานางต้องการจะไปยุโรป นางจะลำบากในการไปขอวีซ่า
พอนางเห็นความสะดวกของฉัน นางเลยจะเอาเยี่ยง

แต่เออนะ นางก็ยังไป ๆ มา ๆ และอยู่เป็นภาระนี่หว่า (555+)

ที่เขียนนี่เพื่อปลอบใจที่นาง "ตกรอบ" เพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทร
เอ๊ะ หรือ ขอเบอร์โทรแลกใจเธอ
อะนะ อะนะ เพลงนั้นแหละ!

อ้อ อ้อ วันอาทิตย์ที่งานปาร์ตี้ร้าน ๙ 
มีเรื่องฮาเกี่ยวกับคำศัพท์ว่า "แฟน" ไม่เท่ากับ "fan"
และเรื่องสะกดคำว่า "อาย" ไม่เป็น (ฮามาก แต่เล่าไม่ได้)

สุดท้ายคือ วันที่ 12 มกราคม เค้กชาเขียวของร้านปารีส
อร่อยมากค่ะ

และดีใจที่ได้รู้จักรุ่นพี่เพิ่ม 3 คน คือ พี่ชาติ พี่ญา พี่วี
แอบจดไว้ว่า พี่ชาตินี่ 'ช่างกลศรีปทุม' เชียวนะ
ถึงว่า พี่ช่างดูร็อคมากเลยอะ และที่พี่สั่งว่า...
เจอกันที่ไหน ห้ามยกมือไหว้อีกนะ ขอให้ hi 5 แทน

มุกใช่ปะพี่ มุกเนอะ

ขากลับ ไม่รู้ว่าเมาเค้กหรือเปล่า
ขับรถหลงซะงั้น แทนที่จะขึ้น 91 west กลายเป็น 91 east
เลยอ้อมโลกไป 15 นาที กว่าจะวกกลับมาได้
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีอีก 1 วัน

อีกบทบันทึกคือ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2014 เป็นมา
เปิดหลังไมค์ยิ่งกว่าเปิดกระทู้ซะอีกแน่ะ!
ทำไปได้ลำเนาเอ๋ยยยยยยยยย...




i believe in being strong when everything seems to be going wrong.
i believe that happy girls are the prettiest girls.
i believe that tomorrow is another day, and i believe in miracles.

::
-- audrey hepburn




 

Create Date : 15 มกราคม 2557    
Last Update : 15 มกราคม 2557 9:01:48 น.
Counter : 1144 Pageviews.  

the ravishing blooms appear

เปิดหัวใจ, แล้วจะมีคนเข้ามา
..จะมีคนมาหาคุณเอง
แต่คุณต้องเปิดใจก่อน


-- you who came from the star, ep. #8 



ซีนประทับใจในวันเด็กไทย
คือตอนไปแวะซื้อดอกไม้ 1 ช่อที่ ralphs กับมะเฟือง
แล้วระหว่างรอจ่ายเงินที่ช่อง express
ซึ่งซุปเปอร์แห่งนี้มีข้อระบุว่า
ช่องนี้ให้บริการผู้ซื้อสินค้าไม่เกิน 10 ชิ้น
และจ่ายด้วย card หรือ cash เท่านั้น

แต่คุณตารูปหล่อข้างหน้าฉัน
ผิดกฎทุกข้อ
ซื้อข้าวของเยอะอยู่นะ แต่จำพวกอาหารหมาแมว

และตอนที่มะเฟืองพูดว่า
สมัยนี้จะมีใครจ่ายเงินด้วยเช็คอีกนะเพื่อน
ทันใดนั้น คุณตาเสื้อฟ้าก็หยิบสมุดเช็คออกมา

ปกติฉันจะหงุดหงิด (ฮา) แบบอ้าว..ไหงงั้น
แต่หนนี้ไม่รู้ทำไม
ฉันสามารถอมยิ้ม และโคตรหัวใจละมุนเลยอะ

คิดถึง "ตา" ที่อยู่บนฟ้า
เชื่อว่าตาจะยังอยู่ข้างบนมองลงมาดูแลฉัน
เพราะเราสัญญากันในฝันว่า
ตาจะไปเกิดวันไหน ต้องหิ้วกระเป๋ามาบอกหนูก่อนนะคะ

....

ระหว่างยืนรอจ่ายเงิน
ความงกเงิ่นของคุณตาเสื้อฟ้าทำให้ฉันแสนคิดถึง
....
คิดถึงจริง ๆ ค่ะที่รัก
ไม่มีตาแล้วหนูก็ยังไปธนาคารสะสมเงินนะคะ
ไม่มีตาแล้วหนูก็ยังกินเฉาก้วยถ้วยของตานะคะ
ไม่มีตาแล้วหนูก็ยังรักตาที่ซู๊ด

และทุกวันของหนูก็ยังเป็นวันพิเศษ
เพราะหนูเชื่อว่าตายังคงซ่อนตัวแอบอวยพรหนูเบา ๆ

คิดถึงตาจัง
นานแค่ไหนที่หนูไม่ได้ฝันถึงตา
ทั้งที่หนูคิดถึงตาทุกวันเล้ยยยยยยยยยย


.
.



เมื่อวานไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดมอญ
ตอนไปซื้อข้าวของ
คนขายที่จำได้บอกว่า
ยูสังเกตป่ะ? เวลายูเข้ามาซื้อของ
ชั้นคิดว่าคริสต์มาสหวนคืนทุกที
แถวยาวทุกที

มะเฟืองบอกคนขาย
นางคนนี้มีน่ะมีนางกวักในวิญญาณนะ

เลยได้ขำที่คนขายทำหน้างงแต่คงเข้าใจ
ก่อนลากันนางบอก
"กลับมาทุกวันนะ ชั้นจะได้ขายดีอย่างนี้ทุกวัน"

พอซื้อของเสร็จก็ไปบ้านป้าจิ๋ว
ป้าจิ๋วให้ไชโป้วที่ป้าจิ๋วดองเอง
บอกว่าเอาไปกินกับข้าวต้มตอนเช้า

แล้วก็ร่ายมนตร์รวมทั้งเขอไฟลท์บังคับ
ป้าว่าหนูมาเรียนงานฝีมือกับป้าได้แล้ว
เริ่มเดือนหน้าละกัน
หามา 1 วันใน 1 วีค
เรียนสัก 1 เดือนก็พอ

มะเฟืองพูดในรถตอนออกมาแล้วว่า
แกจะมีเวลาเหรอเพื่่อน

คำตอบคือไม่เป็นไร
เดี๋ยวลองหาเวลาสักวัน น่าจะได้นะ
.
.

ไปทำบุญแล้ว
พระมอญที่รับถวายสังฆทานทุกครั้งที่ไป
ก็ถามว่า
"ใครคือรัฐ"
เลยนั่งเงียบทั้งคู่

มะเฟืองมองหน้านิด ๆ ฉันเลยพยักหน้า
มะเฟืองบอกท่านไป

หลังจากนั้นท่านก็บอกว่า
วันนี้โดนน้ำมนต์เยอะ ๆ หน่อยนะจะได้ชื่นใจ
แล้วจู่ ๆ ตอนแบมือรับสายสิญจน์
ท่านก็บอกว่า อืมมมม...บลา บลา

มะเฟืองเลยบอกว่าท่านดูให้หน่อยสิคะ
เพราะมะเฟืองรู้มาว่าท่านดูแม่น
แต่ไม่ค่อยจะดูให้ใครเลย

เราเคยพูดกันว่า
มาวัดนี้ดีมาก ไม่มีใครรู้จักเราเลย
เพราะไม่ใช่พระไทย และไม่ใช่คนไทย

ท่านก็ยิ้มแบบเอ็นดูเลยล่ะ
แล้วก็หลับตาไปพักนึง
ลืมตาแล้วบอกว่า

โยมนี่รักใครแล้วรักหมดใจ รักมั่นคง
แต่ถ้าไม่ก็ไม่เลยนะ
มีคนอายุน้อยกว่ามารักมาชอบใช่ไหมน่ะ
ดีนะ
มะเฟืองหัวเราะก๊ากแล้วนางก็บอกพระ
พระเอกซีรี่ย์เกาหลีค่ะท่าน
แม่คนนี้กำลังบ้า "อาจารย์โท"
นางมโนว่า อาจารย์โทคือแฟนนาง
(ในเรื่อง you who came from the star)



แล้วท่านก็บอกว่าชอบเที่ยวนะ
จำไว้ปีนี้อย่าเที่ยว อย่าเิดินทาง
ท่องไว้
เที่ยวไม่มีเงิน ทำงานมีเงิน

แล้วก็บอกเรื่องอุบัติเหตุ
ชอบขับรถใช่ไหม เห็นนะ ขอให้มีสติ
ทำอะไรก็ระมัดระวังนะ มีสติกำกับตลอดนะ

แล้วก็บอกเวลาทำบุญให้อธิษฐาน
เป็นคนไม่ชอบอธิษฐานเลยนี่

ถัดมาก็เตือนเรื่องงาน
อย่าเถียง อย่าขัดแย้ง
มีอะไรขึ้นก็ให้ "ยอม" การยอมแพ้สบายใจ
ท่องไว้นะ

แล้วท่านก็พูดประโยคนึง
เป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงมาก สูงลิ่วเลย
ต้องการที่ว่างรอบตัวเยอะ
คัดกรองเพื่อนสนิท
เลยมีเพื่อนน้อย แต่มีคุณภาพ 2-3 คน
แล้วรักเพื่อนมากเลยนะ

ก็บลา บลาที่ก็ อืมม ใช่นะ

จากนั้นก็กราบลาท่าน

มะเฟืองบอก
แก..อะโชคดี ท่านยอมดูให้

ก็ อืมมม เหรอ
พออกจากวัดไม่ทันเท่าไหร่ เกือบรถชน
555+ 
แม่นยังกะตาเห็นจริง ๆ เชียว

.
.

มะเฟืองสั่งเลย
แกต้องทำตามท่านบอก
สติ สติ สติ

เลยบอก งั้นชั้นก็ไปเที่ยวไม่ได้แล้วสิ
มะเฟืองว่า เออ งั้นให้ผ่านปีนี้ไปก่อนค่อยไป

ว๊ายยยย นางแมนเลยอะ

.
.

ขากลับบ้าน
แวะซื้อยาทาผิวให้แม่บุญธรรม
ที่จะแวะไปหาค่ำนี้

ตอนจ่ายเงิน มะเฟืองชี้ให้ดู
"พนักงานช่อง 1 หล่ออะแก ยังกะเจ้าชาย"
แล้วก็ดั่งโชคไปจ่ายเงินช่อง 1 พอดี

ซื้อยาขวดเดียว
คนขายหยิบถุงกระดาษขึ้นมา
ฉันบอก Thank you, but i don't need any bag.
เขาบอกว่า ที่นี่เราไม่เก็บเงินนะครับ
(หลังวันที่ 1 มกราคม 2014 กฎหมายใหม่คือ
คิดค่าถุงพลาสติค 10 เซนต์ ต่อใบ
ถ้าซื้อเกิน $40 ให้ถุงฟรี 1 ใบได้)
ฉันก็ยิ้มตอบ ไม่เป็นไรค่ะ เก็บไว้เถอะ ช่วยโลก
เขายิ้มตอบ ... บลา บลา 
ฉันก็ .. บลา บลา
ปิดท้ายด้วยคำร่ำลาปกติ

เดินออกมา
มะเฟืองบอก
แอบฟังนะเว้ย
แค่ช่วงสั้น ๆ หล่อนยังคุยเป็นเรื่องเป็นราวได้
เก๋ว่ะเพื่อน

เลยได้ฮากัน
เพราะมะเฟืองก็เป็นพวกบทสนทนารื่นไหลเช่นกัน

.
.

ตอนค่ำไปเจอแม่บุญธรรม เพื่อนแม่
และน้องแพร
วิ่งไหว้คนโน้นคนนี้และได้ผ้าถุงสีม่วงมา 1 ผืน
สวยดี เอาไว้ใส่ไปเดินตลาดได้เลย

บอกลาแม่กับเพื่อน ๆ แม่ตอน 3 ทุ่ม
ต้องกลับบ้านเพราะมะเฟืองจอดรถไว้บ้านฉัน
และต้องขับรถย้อนกลับเข้าเมืองอีก
กลัวเพื่อนดึกมากเกิน
เพราะบ่ายวันอาทิตย์คือเช้านี้
มะเฟืองต้องขึ้นเวทีประกวดร้องเพลง
(ฮา)
นางจะต้องร้องเพลงขอใจเธอฯ
ฟังนั่งซ้อมในรถก็พอไหวพอไหว

แต่ฉันไม่ได้ไปเชียร์เพื่อน
ซื้อบัตรส่งตัวแทนไป 4 คน
เนื่องจากฉันต้องไปวัด และไปปาร์ตี้ที่พี่ใหญ่จัดให้

แต่บัดนี้ 10am ยังไม่อยากลุกเลย

ทำไมปีนี้ชีพจรลงเท้าเยอะจังหว่า!




 

Create Date : 13 มกราคม 2557    
Last Update : 13 มกราคม 2557 1:19:42 น.
Counter : 792 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

พุดดิ้งรสกาแฟ
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




สิ่งต่าง ๆ เคยสำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง
อาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน
อาจไร้สาระสำหรับใครอีกบางคน


ถ้ามันไร้สาระ
โปรดทิ้งมันไปเฉย ๆ อย่างง่าย ๆ
หากมันมีประโยชน์ ฉันก็ดีใจ


..
..
..
Friends' blogs
[Add พุดดิ้งรสกาแฟ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.