ข้อความที่เขียนในblog นี้เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณ
Group Blog
 
All blogs
 

Knight and Day – กับป๋าทอมและดิแอซ

June , 2010
นักแสดง Tom Cruise, Cameron Diaz



เรื่องราวของสุดยอดสายลับ รอย มิลเลอร์ (ทอม ครูซ) ที่ได้พบกับสาวงาม จูน เฮเว่นส์ (คาเมรอน ดิแอซ) โดยบังเอิญที่สนามบิน วิชิต้า หลังจากนั้น ชีวิตของเจ้าหล่อนก็พลิกผันหลายสิบตลบ ทั้งตะลุย ตะเลง กระเตงเสี่ยงตาย ไปเกือบทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สเปน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน เป็นต้น
และทั้งคู่ก็เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดูดเอาแต่เรื่องมันส์ๆเข้าหาตัวเอง เป็นเหตุให้ เอฟบีไอ, ผู้ค้าอาวุธ, หน่วยงานลับทางราชการ รวมไปถึงบรรดาผู้ก่อการร้ายและอีกมากมาย ต้องมาตะลุมบอนกันแบบชุลมุนชุลเกแบบนี้ จนเดาไม่ออกบอกไม่ถูกว่าใครเป็นมิตรแท้ ศัตรูถาวร กันแน่
ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะทุกคนต้องการสุดยอดอุปกรณ์ไฮเทค “เซเฟอร์” ซึ่งถ้าใครได้ไว้ครอบครองแล้วล่ะก็...สามารถกดระเบิดโลกได้เพียงพริบตา ทั้ง “รอย” และ “จูน” จึงต้องปฏิบัติการล่าข้ามโลกแข่งกับเวลา รวมถึงต้องใช้ปฏิภาณไหวพริบ หักเหลี่ยมเฉือนคมไปตามเกมส์ที่เหล่าผู้ประสงค์ร้าย ขนมาจัดการกับพวกเขาทุกรูปแบบโดยไม่คำนึงถึงวิธีการและหลักการใดๆทั้งสิ้น ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ “เซเฟอร์” ตกไปอยู่ในมือของคนร้าย

สิ่งที่ชอบ
• ฉากที่นางเอกโดนวางยานอนหลับ ไม่รู้ว่าจะพยายามสื่ออะไร หรือว่าจริงๆ แล้วแค่่เป็นมุขตลกเฉยแต่ก็เป็นช่วงของการดำเนินเรื่องที่ดี ผ่านมุมมองของนางเอกที่สลึมสลือ หลับๆ ตื่นๆแปลกดีชอบ
• ฉากนางเอกโดนวางยาพูดความจริง น่ารักดีเรียกเสียงหัวเราะได้
• มุขตลกเล็กๆน้อย ที่มีตลอดทั้งเรื่อง ก็สมกับเป็น Action comedy เช่น With me without me หรือว่าจะเป็นเหตุการณ์
• มุมกล้องที่เปิดมาตอนพระเอกห้อยหัว มันเป็นส่วนหนึ่งของฉากนางเอกโดนวางยานอนหลับ รู้สึกชอบมันแปลกดี
• ฉากจบ นางเอกเอาคืนพระเอกหมดมีคำพูดมาแก้กัน อืมชอบ
• ฉากบนรถมอเตอร์ไซค์ ก็เข้าใจว่ามันเวอร์ตามแบบหนังแอคชั่น แต่ฉากนี้มันดูคิดเยอะดีชอบ

สิ่งไม่ที่ชอบ
• Over action ของพี่ทอมอะ เพลียหัวใจกับมิสเตอร์ครูซจริงๆ หนังแอคชั่นทุกเรื่องพี่แกต้องทำหน้าทรงนี้ กึ่งคิดกึ่งจะพูดกึ่งไม่พูด (แค่พูดนี่บางคนก็นึกออกแล้วว่าปะว่าเป็นหน้าแบบไหน) พี่แกไม่ปรับเปลี่ยนหน้าตาท่าทาง นึกว่านั่งดู MI อยู่
• ดิแอซแก่อะ ดูแล้วแอบหงุดหงิดอะ ทำไมไม่โบท๊อกซ์มั่งเนี่ย เป็นสิ่งที่สังเกตุตลอดทั้งเรื่อง อ่อนกว่าป๋าทอมเป็น 10 ปี แต่ริ้วเท่ากันเลย เฮ้อ เหนื่อยใจกับดิแอซ

บทสรุป
เป็นหนังกึ่งๆ Action comedy ซึ่งโดยปรกติไม่ได้ชอบดูหนังแอคชั่นขนาดนั้น ดูแล้วก็รู้สึกสนุก แต่ไม่ได้รู้สึกจดจำอะไร เฉยๆ ทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่เคยเห็นมาแล้วทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นคอหนังแอคชั่น คงชอบนะคิดว่า




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2553    
Last Update : 24 มิถุนายน 2553 15:42:19 น.
Counter : 1144 Pageviews.  

Letter to Juliet - หนังรักที่ชอบมากที่สุดในรอบสองปีนี้เลยอะ

June , 2010
นักแสดง Amanda Seyfried, Chris Egan, Vanessa Redgrave, Gael García Bernal, Franco Nero


เรื่องย่อ

โซเฟีย (อาแมนด้า ไซเฟร็ด) คือนักเขียนคอลัมน์ในนิตยสาร เธอเดินทางไปยังอิตาลีกับคู่หมั้นหนุ่ม วิคเตอร์ (กาเอล การ์เซีย เบอร์นัล) ก่อนที่ทั้งคู่จะแต่งงานจริง ในขณะที่ วิคเตอร์ ต้องไปทำธุระ โซเฟีย ก็เดินทางมาถึง “บ้านของจูเลียต” สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ โรมิ โอ และ จูเลียต คู่รักในบทละครอมตะของ วิ ลเลียม เช็คสเปียร์ พบรักกัน และเป็นที่ซึ่งผู้หญิงทั่วโลกเขียนจดหมายจ่าหน้าซองถึงจูเลียต เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับความรักของพวกเธอ โซเฟีย พบกับจดหมายฉบับ หนึ่งที่มีอายุกว่า 50 ปี เขียนขึ้นโดย แคลร์ (วาเนสซ่า เร็ดเกรฟ) ถึงผู้ชายชาวอิตาลี(ขอโทษด้วยจำชื่อไม่ได้55) ที่เธอเคยตกหลุมรักเมื่อตอนอายุ 15

เมื่อได้อ่านจดหมายแล้ว โซเฟีย ก็รู้สึกแปลกใจและเกิดแรงบันดาลใจบางอย่าง เธอจึงขอร้องต่อกลุ่มเลขาธิการของจูเลียต ให้เธอเป็นผู้เขียนตอบกลับไปหา แคลร์เอง
จดหมายฉบับนั้นในนามจูเลียต ได้ทำให้ แคลร์ ตัดสินใจเดินทางมายังอิตาลีพร้อมกับหลานชาย ชาร์ลี (คริสโตเฟอร์ อีแกน) เพื่อตามหาชายคนรักที่พรากกันไปเมื่อ 50 ปีก่อน

โซเฟียใช้เรื่องราวในการเดินทางตามหานี้ เพื่อเขียนเป็นบทความของเธอ ซึ่งระหว่างการเดินทางตามหาเกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย พอที่จะทำให้โซเฟียหญิงสาวที่มีคู่หมั่นและชาร์ลีหนุ่มอังกฤษตกหลุมรักกัน ที่สุดการเดินทางได้สิ้นสุดลงโดยไม่ตั้งใจ แคลร์เจอชายคนรักที่ตามหา แต่ความรักที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางก็ดูเหมือนต้องสิ้นสุดไปด้วย โซเฟียตัดสินใจเดินทางกลับอเมริกาพร้อมกับคู่หมั้นของเธอ
เมื่อเธอมาถึงอเมริกาเธอได้รับจดหมายเชิญไปงานแต่งงานของแคลร์ และเธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เธอตัดสินใจบอกเลิกคู่หมั้นของเธอเพื่อกลับไปตามหัวใจของเธอ

สิ่งที่ชอบ

• ดนตรีประกอบ ไม่ได้หมายความแค่เพลงประกอบภาพยนต์ที่ลงตัวเหมาะเหม็ง แม้ว่าฟังดูแล้วมันจะเป็นอิตาลี๊อิตาลี แต่ยอมรับว่าเข้ามาถูกที่ถูกเวลาตลอด ยังหมายรวมถึงดนตรีประกอบที่เหมาะเจาะเหมาะเหม็งทำให้รู้สึกสนุกไปกับหนังด้วย
• พลอตเรื่อง แม้ว่าจะเป็นหนังรักที่คงมีอยู่ไม่กี่รูปแบบในโลกนี้ เรื่องนี้เป็นสไตล์นางเอกกับพระเอกไม่ถูกกันก่อน แต่ว่าเรื่องของการตามหารักที่หายไปตั้ง 50 ปี ของชายหญิงอีกคู่้มันดูเป็นพลอตเรื่องวิเศษมากๆ มันเหมือนได้ดูหนังรักสองเรื่องในเรื่องเดียวกัน
• ฉากนางเอกไปที่บ้านจูเลียตครั้งแรก มันดูวิเศษ มันดูเหมือนผู้หญิงที่มีความรักและมีเรื่องไม่สบายใจมักจะต้องการที่พึ่ง (ไม่ใช่เป็นแต่คนไทยนะเนี่ย) ไม่รู้ว่าการตอบจดหมายของเลขาธิการของจูเลียตนี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า อยากไปดูจัง
• การลุ้นในการค้นหาชายที่พลัดพราก การตามหาคนที่ไม่ได้เจอกัน 50 ปี ที่ไม่รู้ที่อยู่ ดูเหมือนจะต้องลุ้นทุกครั้ง เวลาที่พบผู้ชายที่ดูเหมือนจะใช่ เหมียวรู้สึกว่า(ไม่รู้รู้สึกคนเดียวหรือเปล่า) ลุ้นนิดๆ ว่าจะใช่หรือเปล่า ชายที่เคยนัยตาส์สีฟ้าสดใส จะกลายเป็นชายตาบอดหรือเปล่า อืมชอบ
• มุขตลกเล็กๆน้อย ที่มีตลอดทั้งเรื่อง ก็สมกับเป็น โรแมนติคคอมเมอดี้ แต่เป็นมุขตลกที่ใช้ได้เลยทีเดียว
• บทของนางเอกและนางเอก ในทุกๆฉาก อแมนดาแสดงให้เห็นว่าเธอมีดี ดูเป็นผู้หญิงที่มีพลัง อ่อนไหว และช่างคิด รวมถึงในบทนางเอกก็เป็นผู้หญิงที่ช่างคิด มีความรู้สึกผิด(เพิ่งรู้ว่าอเมริกันก็มีด้วย) เมื่อเธอรู้ว่าเธอเริ่มตกหลุมรักชายที่ไม่ใช่คนรัก เธอพยายามหยุดสิ่งเหล่านั้น
• บทคู่หมั้นนางเอก ผู้ชายต่างชาติที่มาอยู่ในอเมริกา ใฝ่ฝันอยากเปิดร้านอาหาร มีคนรักพาเธอไปเที่ยวแต่กลับทำแต่สิ่งที่จะทำให้ฝันของเขาเป็นจริง ไปตามหาวัตถุดิบโดยที่ไม่ได้สนใจคู่หมั้น และสุดท้ายก็เสียเธอไป เป็นบทที่่น่าสงสารมาก โดยเฉพาะคำพูดสุดท้ายตอนที่ถูกบอกเลิก “ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไป แล้วผมก็จะเปลี่ยนไป” เป็นไดอะลอกที่น่าสงสารจริงๆ
• ฉากนางเอกบอกเลิกกับคู่หมั้น แม้ว่าตาคู่หมั้นจะเป็นคนที่ดูไม่ค่อยใส่ใจอะไรรอบข้าง แต่เมื่อนางเอกมาบอกว่าเธอจะไปงานแต่งแคลร์เพียงลำพัง เค้ากลับสั่งให้พ่อครัวทุกคนออกจากครัวเพื่อคุยกับเธอเพียงลำพัง แม้ว่าจะดูแล้วน่าสงสารตาคู่หมั้นแค่ไหน แต่คำว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ (ดูแล้วยังไงมันก็ไม่ใช่ป คำว่าเปลี่ยนไปก็คือคำว่าเปลี่ยนไป (อินไปป่าวเนี่ย55++)
• เนื้อความในจดหมาย ไม่รู้เป็นประโยคหลักๆในหนังรักเลยหรือเปล่าแต่ก็เป็นประโยคที่ชอบเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ถ้า..... หมายถึงการได้ทำอะไรที่ใจปรารถนาเราจะไม่มีวันสงสัยว่า “จะเป็นอย่างไรถ้าวันนั้นชั้น.....”

สิ่งไม่ที่ชอบ
• ผมของย่าแคลร์ คือก็พอเข้าใจะนะ ว่าพยายามจะสื่อว่าเป็นสาวผมบอด์นเมื่อ 50 ปีก่อน แต่เป็นสิ่งเดียวในเรื่องที่ดูแล้วรู้สึกหงุดหงิดมาก พอเธอเจอคนรักเ่ก่าแล้วทีนี้เริ่มรวบผมแล้ว สบายตาขึ้นเยอะ เฮ้อ
• ฉากหวานมันน้อยไปสำหรับคู่เอก สำหรับหนังรัก มันดูน้อยไปจริงๆ ถ้าจะให้ดีแทรกอยู่ระหว่างการเดินทางเยอะกว่านี้หน่อยก็น่าจะดีค่ะ

บทสรุป
ก็อย่างที่บอกว่าช่วงนี้ดูหนังแป้กบ่อย ก่อนหน้านี้ไปดูเรื่อง nightmare on ELM street ออกมาจากโรงก้อรู้สึกว่างๆ ไม่รู้จะเขียนอะไร
แต่พอดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกมีอะไรอยู่ในหัวเต็มไปหมด ไม่เีขียนไม่ได้แล้ว ต้องบอกว่าชอบเลย เป็นหนังที่ดูแล้วชอบในรอบสองปี เนื้อเรื่องกระชับ สนุก ตลก พระเอกหล่อ นางเอกสวย วิวสวย ภาพสวย มุมกล้องดี ดนตรีเพราะ มีคำคม สอดตลอดเรื่อง เป็นหนังที่ดูแล้วเพลินจริงๆ ให้ดูอีกกี่รอบก็คิดว่าดูได้ค่ะ




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2553    
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 13:19:50 น.
Counter : 16637 Pageviews.  

Remember me – หนังฝรั่งพลอตเดิมๆ เพิ่มหักมุม

Mar, 2010


นักแสดง  Robert Pattinson, Emilie De Revin, Chris Cooper



เรื่องย่อ เรื่องราวของชายหญิง 2 คน ที่ต่างมีเบื้องหลังร้าวรานจากการเสียคนสำคัญในชีวิตของตนเอง และเติบโตมาพร้อมๆ กับความสูญเสียนั้น และบังเอิญได้มารู้จักกัน รักกัน


...โดยที่นางเอก Ally Craig (Emilie de Ravin) ในวัยเด็กต้องเสียแม่ไปจากเหตุการณ์ปล้นบนสถานีรถไฟ ในขณะที่พระเอก Tyler Hawkins (Robert Pattinson) ต้องเสียพี่ชายไปจากการฆ่าตัวตายและเค้าเองเป็นผู้พบศพพี่ชายเอง


...เมื่อทั้งมาพบกันและรักกันเหมือนได้มาเติมเต็มและรักษาบาดแผลเบื้องหลังที่เจ็บปวดของทั้งคู่ ดูเหมือนสถานการณ์ต่างๆจะดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวของพระเอก หรือสถานการณ์ระหว่างนางเอกกับพ่อของเธอ แต่หนังก็หักมุมด้วยการให้พระเอกตายจากสถานการณ์ 911 เพราะว่าเค้าไปอยู่บนตึกของพ่อหลังจากที่ปรับความเข้าใจกันได้


 


.........อืมมมมม หักมุมได้อีก 555


 


สิ่งที่ชอบ

 


·        ตอนจบ คือว่ามันแปลกดี ทีแรกตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอาไว้ในหัวข้อที่ชอบหรือไม่ชอบดี 55 เพราะว่ามันรู้สึกทั้งสองอย่างน่ะ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเอามาไว้ในส่วนที่ชอบ เพราะไม่งั้นมันจะไม่ชอบอะไรเลยยกเว้นพระเอก 55+


·        ฉากน้องพระเอกโดนตัดผม ไม่รู้ดิว่าชอบเพราะอะไร แต่พอเห็นแล้วรู้สึกจิ๊ดเลยอะ น่าจะสงสารนะ ก็ถือว่าดึงอารมณ์กันออกมาได้


สิ่งไม่ที่ชอบ

 


·        พลอตเรื่อง มันดูเชยๆ เดิมๆ ไ่ม่มีอะไรแปลกใหม่ยังดีที่มีหักมุมมาช่วยไว้นะเนี่ย ไม่งั้นเสียดายตังค์แย่เลย อิอิ


·        บทภาพยนตร์ คือ

 


1.     รู้สึกว่าเล่าเืรืื่องได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ใช้หลายสถานการณ์ในการเล่าเรื่องเรื่องเดียว ยกตัวอย่างเช่น จะเล่าเรื่องความขัดแย้งระหว่างพระเอกกับพ่อ แต่เอาทั้งเรืื่่องของน้องสาวและพี่ชายที่ฆ่าตัวตายมาทับกันไปมา รู้สึกเยอะ


2.     แล้วคือแทนที่จะเอาเวลาไปเล่าเรื่องความขัดแย้งเหล่านั้นเยอะๆ ควรจะเอาเวลามาสร้างช่วงเวลาที่ดีระหว่างนางเอกกับพระเอก ซึ่งมันจะทำให้หนังสมบูรณ์มากตอนที่พระเอกตาย จะกระชากอารมณ์ได้มากกว่านี้

 


3.     แต่อภัยให้เพราะได้ข่าวว่าเพิ่งเขียนบทภาพยนตร์เรื่องแรก คิดได้ขนาดนี้ก้อโอเคแหล

 


ข้อสรุป

 


ได้คาดหวังอะไรจากหนังเรื่องนี้มากมาย แต่ด้วยชื่อเรื่อง และ
โปสเตอร์ (แอบคิดไปเอง) เข้าใจว่ามันต้องเป็นหนังโรแมนติกดราม่าแน่นอน เลยขู่เข็ญแกมบังคับเพื่อนว่าต้องไปดูเรื่องนี้ให้ได้ อิอิ พอดีช่วงออกแนวซาดิสต์หน่อยๆ อยากร้องไห้ 55++


สิ่งที่ต้องยอมรับเลยจากการที่ได้ดูหนังเืรื่องนี้คือ พลอตเรื่องที่มันเดิม(เก่า) มากๆ เรื่องปัญหาในครอบครัวเนี่ยเป็นเรื่องที่ไม่มีใคร(ในฮอลลีวู๊ด) เอามาทำนานแล้ว (หรือว่าตรูไม่ได้ดูหว่า) เลยกลายเป็นว่าไม่ได้ดูหนังแนวแบบนี้นานมากแล้ว เลยรู้สึกน่าติดตามน่าสนใจตลอด แต่มันแย่ตรงที่ว่าบางฉากติดตามไปแล้วมันก็ไปไม่สุดอะ


เห็นจะมีสองฉากในเรื่องนี้ ที่ได้พูดไปแล้วในสิ่งที่ชอบ ที่พอจะเรียกมันว่าฉากสุดได้แค่นั้น


หนังแบบนี้ที่ควรจะดึงน้ำตาผู้คนได้มากกว่าเรื่อง Schindler's list (ยกตัวอย่างจากกรณีของพลอตเรื่องนะคะ) กลับเรียกน้ำตาจากคนบ่อน้ำตาตื้นอย่าง จขบ.ไม่ไ้ด้แม้แต่หยดเดียว (ทั้งๆ ที่พยายามแล้วนะ T_T ไม่ได้ฝืนเลยอะ)


สรุปว่าก็ผิดหวังไปตามระเบียบ แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้ผิดหวังอะไรมากมายเพราะว่าไม่ได้หวัง 555 แค่ได้ไปดูพระเอกหล่อ (ที่แอบติดบุคคลิกแวมไพร์มาด้วย) ก็คงคุ้มแล้วหละมั๊ง


 




 

Create Date : 29 มีนาคม 2553    
Last Update : 29 มีนาคม 2553 15:01:09 น.
Counter : 8894 Pageviews.  

Valentine’s Day – ทุกเพศ ทุกวัย ทุกที่ มีความรัก

Valentine’s Day – ทุกเพศ ทุกวัย ทุกที่ มีความรัก

 


Feb,  2010

 


นักแสดง – เยอะมากอะ  Jessica Alba, Kathy Bates, Jessica Biel, Bradley Cooper, Eric Dane, Patrick Dempsey, Hector Elizondo, Jame foxx, Jennifer Garner (love love), Topher Grace(น่ารักอิอิ), Anne Hathaway, Ashton Kutcher(ผัวป้าเดมี่แต่เปงแฟนเจ้าของบล๊อค55++) , Queen Latifah, Taylor Lautner(หมาป่าของใครหลายคน), George Lopez, Shirley Maclaine, Emma Roberts, Julia Roberts, Taylor Swift โอ้แม่เจ้าดาราเยอะเจรงๆ 55++

 



เรื่องย่อ  เรื่องราวในวันวาเลนไทน์วันแห่งความรักเพียงวันเดียว ที่มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นมากมายกับตัวละครที่มีส่วนเกี่ยวพันกันเล็กๆน้อยๆ มากกว่า 10 ชีวิต มีทั้งเรื่องความรักของหนุ่มสาว แก่เฒ่า ผู้ชายผู้หญิง ผู้ชายผู้ชาย แม่ลูก เพื่อน หรือแม้กระทั่งคนโสด


 


สิ่งที่ชอบ


·        พลอตเรื่อง รวบรวมความรักที่มีอยู่ในโลกได้เกือบครบ หลากหลาย และมีรสชาติ แสดงให้เห็นถึงความรักเกือบทุกแบบและเกือบทุกวัย


·        “คำคม” หรือเราจะเรียกว่าเป็นนิยามของความรักก็ว่าได้


·        ความพยายามที่จะทำให้หนังรักอ่านไม่ง่าย


·        เจสสิก้า บีล ชอบจริงๆ เรื่องนี้น่ารักมากกกกกก โดยเฉพาะฉากที่เธอเห็นว่าเพื่อนเธอมาร่วมงาน ปาร์ตี้ I hate Valentine น่ารักจริง


·        มุขตลก ที่สอดแทรกเข้ามาตลกจริง แอบมีจิกกัดหนังรักด้วยกันเอง55++


·        ความเกี่ยวโยงของเรื่องราวแต่ละคู่ที่ดูเนียนดี ชอบมากเป็นพิเศษคู่ของลุงHector กับหนุ่มTopher ที่มาเกี่ยวพันและสัมพันธ์กันโดยไม่ได้ตั้งใจ (ดูน้ำเน่าหน่อยๆ)แต่ก็ชอบ 55++



 


 

 


สิ่งไม่ที่ชอบ


·        ช่วงต้นๆ ของหนัง มันดูอึดและสะดุและไม่แน่ใจว่าจะเสนออะไร



อื่นๆ ก็ไม่ถึงกับรับไม่ได้นะ เข้าข้างกันมากไปป่าววะเนี่ย 55



ข้อสรุป

 


ถ้ายังจำหนังรักในตำนานเมื่อหลายปีก่อนได้ ที่สไตล์คล้ายๆกัน ของฝั่งอังกฤษได้ Love Actually หนังเรื่องนี้ก็คงไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ถ้าเทียบถึงพลอตเรื่องหรือสไตล์ แต่พอได้เห็นชื่อนักแสดงก็ไม่แปลกใจที่เจ้าของบล๊อคขอจองดูวันแรกที่หนังเข้า (แม้จะต้องไปดูคนเดียว T_T)  

 


แต่ก็ไม่ได้คาดหวังมากมาย เพราะว่าช่วงนี้รู้สึกเข้าไปดูหนังแล้วแป้ก บ่อย 55++  

 


พอหนังเริ่มมา ดูงงๆ ตะกุกตะกัก ก็เริ่มรู้สึกสงสัยแป้กอีกแล้วตรู แต่พอยิ่งดู ยิ่งซึมซับได้ถึงนิยามความรักดีๆ(ที่มีคนต่างด้าวเป็นผู้นำเสนอ) เรื่องราวประทับใจที่นำเสนอ มุขตลกที่ขำจริงๆ (แต่คนอื่นไม่ฮาอะ ไม่รู้โดนคนในโรงด่าป่าว55++)

 


เรื่องราวความรักของคนทุกวัย ทุกแบบ ทุกเพศ แล้วก็พยายามจะทำให้ไม่ซ้ำแบบแนวหนังรักเดิมๆ แต่ก็หนีไม่พ้น 55+ แอบมีประชดประชันจิกกัดนิดหน่อย เรื่องของวัฒนธรรมความรักและSEX ของวัยรุ่น (นึกว่ามีปัญหาแต่บ้านเรานะเนี่ย) ความเกี่ยวโยงของเรื่องแต่ละเรื่องที่ผูกกันแนบเนียนเนียนและแอบมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ



 

สรุปว่าดูหนังเรื่องนี้จบออกมาก็อิ่มดี ชอบๆ เข้าใจว่าน่าจะไปดูอีกรอบเพื่อเก็บรายละเอียด 55++ แล้วก็คงซื้อดีวีดีมาเก็บจ้า




 

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553    
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 12:05:33 น.
Counter : 725 Pageviews.  

32 ธันวา – หนังตลก มีดีแค่พระเอก

** ข้อความทั้งหมดที่เขียนใน blog นี้ เป็นความเห็นของจขบ.ผู้เดียว**


** ไม่เห็นด้วยก็ได้นะคะ ไม่ว่ากัน ต่างคนต่างความเห็น **


** โปรดใช้วิจารณญาณด้วยค่ะ **

32 ธันวา – หนังตลก มีดีแค่พระเอก


ปี 2009


นักแสดง – แดน วรเวช, สายป่าน อภิญญา, โหน่ง สามช่า




เรื่องย่อ  โน๊ต (แดน วรเวช) ชายหนุ่มที่มีอาการประหลาดคือการนอนละเมอ หัวเราะบ้างร้องไห้บ้าง ในตอนกลางคืน จน เมย์ (สายป่าน อภิญญา) น้องสาว(คนละพ่อคนละแม่ แต่เป็นน้องสาวเนื่องจากการแต่งงานกันของพ่อและแม่ของทั้งคู่) ต้องบังคับให้ไปหาหมอ จนได้พบกับ โจ (โหน่ง สามช่า) ชายหนุ่มที่ไม่มีเพื่อน และกลายเป็นโรคชักกระตุกเนื่องจากอาการริดสีดวง เพราะกลั้นอุจจาระเนื่องจากเคยมีประวัติ "แขกตี้" ในวัยเด็ก (คนเขียนบทมันคิดได้ไงเนี่ย) 


                     คุณหมอวิเคราะห์ว่าโน๊ต มีความทรงจำบางอย่างหายไป แต่เมื่อ โน๊ตและ โจได้กลายมาเป็นเพื่อนกันด้วยความไม่ตั้งใจ โจได้พาโน๊ตไปหาหมอดูคนหนึ่ง หมอดูทำนายว่าที่โน๊ตมีอาการเช่นนี้เนื่องจากไม่รู้ว่าคนที่ตัวเองรักคือใครกันแน่ การตามหาคนที่ตัวเองรักของ โน๊ตและโจจึงเกิดขึ้น


อาจจะเป็น อั้ม (ปาย-ศิตางค์) ,นุ่น (ยิปโซ รมิตา) ผู้หญิงคนที่โน๊ตคบอยู่ ,หรืออาจจะเป็น บอย (แจ๊ส ชวนชื่น) เพื่อนสนิท ช่างทำผม ที่หลงรักเค้ามาตลอด


ในที่สุดโน๊ตก็รู้ว่าคนที่เค้าตามหาก็คือ เมย์  แต่จะทันหรือ เพราะว่าเมย์กำลังจะหมั้นและไปเยอรมัน แต่ในที่สุดทั้งสองก็ได้บอกรักกันในวันที่ 32 ธันวา



 



เฮ้อ จบซะที

 


 


สิ่งที่ชอบ


     - พระเอก แดน วรเวช จัดว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เล่นหนังได้ดีคนนึงในยุคนี้ ด้วยคาแรคเตอร์มึนๆ ของพระเอกถือว่าแดน ถ่ายทอดออกมาได้ดี และถือเป็นข้อดีที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ด้วยมั๊ง


     "คำคม" ดีๆ ที่ผู้เขียนแทรกเข้าไปในแต่ละฉาก เช่นที่กลายเป็นคำโปรยของหนังว่า "ดีพอ หรือ พอดี” แต่ไม่เข้าใจ ทำไมต้องยัดเยียดให้รู้สึกว่าเป็นคำคมโดยการจดของโหน่ง


   - บทประชดประชันผู้หญิง เข้าใจว่าคนเขียนบทพยายามประชดประชันผู้หญิง หรืออยากถ่ายทอดความเป็นนิสัยผู้หญิงออกมาหรือเปล่าไม่แน่ใจ  เช่นฉากจบที่ไม่ว่า โน๊ตจะพูดว่ารักเมย์ด้วยสาเหตุอะไรก็ตามเมย์ก็ยังไม่พอใจจนกว่าจะบอกว่าเธอสวย (จริงๆ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ผู้หญิงทุกคนไม่ได้เป็นแบบนี้)  แต่ที่ชอบมากเห็นจะเป็น ฉากที่น้องอั้มร้องไห้และรู้สึกว่าเลิกกับผู้ชายที่ไม่มีดีสักอย่างไม่ได้ ไม่ว่าจะถ่ายทอดด้วยเจตนาใด แต่ก็ถือว่าเข้าผู้หญิงพอสมควร


 


สิ่งไม่ที่ชอบ


     - พลอตเรื่อง ขอโทษแฟนคลับด้วยหากต้องพูดตรงๆ ต้องยอมรับจริงๆ ว่า พลอตเรื่องสับสน ไม่มีแนวทาง ไม่มีที่มาที่ไป พระเอกกำลังหาคนที่ชอบ แต่เมื่อไปค้นหาแทนที่จะได้คำตอบจากใจตัวเองว่าไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ กลับเป็นการถูกปฏิเสธจากอีกฝ่ายไปซะหมด (ยกเว้นกรณีเกย์)


      - บทภาพยนต์ สับสน บางบทไม่รู้ว่าแทรกเข้ามาเพียงเพื่อจะนำเสนอ คำคมดีๆ แค่นั้นหรือเปล่า ยกตัวอย่างนะเช่นฉากที่ไปนวดหน้ากับแม่โจ มีเพื่ออะไร


     -  มุขตลก หยาบคาย มีแต่เล่นเรื่อง  ขี้ เรื่องตด และเรื่องล้อเลียนเกย์ คือเข้าใจว่ามุขแบบนี้พอมีได้บ้างนะคะ ไม่ได้รังเกียจขนาดนั้น แต่ถ้ามีทั้งเรื่องขนาดนี้ มันออกแนวขยะแขยง มากกว่าสร้างสรรค์น่ะ แม้แต่ฉากสุดท้ายก่อนจบที่ โจ ตดใส่แม่ก่อนไปผ่าตัด ใส่มาทำไม ไม่ตลกอะ ขยะแขยง



ข้อสรุป


    


     ต้องยอมรับว่า ตอนที่พยายามเขียนเล่าเรื่องย่อ มันยากมาก เพราะเรืองราวมันคล้ายๆ สับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก ตอนที่จะไปดูอยากดูมากเพราะว่าทีเซอร์ที่ตัดมา ตลกไม่หยาบคายมีคำคม คิดว่าหนังคงจะคล้ายกับ ”แสบสนิทฯ” แต่ต้องยอมรับว่า พอไปดูแล้วอึ้งจริงๆ เพราะว่าไม่ชอบดูหนังตลกที่มุขไม่สร้างสรรค์แบบนี้เลย ช่วงต้นๆ ยังพอมีมุขพอให้ขำได้บ้าง แต่ยิ่งไป ต่อไป ต่อไป กว่าจะจบเรื่องยอมรับเลยว่า ไม่ชอบมากๆ


     ยิ่งดูพล๊อตเรื่องแล้วไม่มีอะไร บทภาพยนต์ไม่ได้เรื่อง ยิ่งทำให้รู้สึกเสียดายเงินจริงๆ  แต่ก็ช่างมันเถอะ คิดว่าสนับสนุนหนังไทยละกัน




 

Create Date : 06 มกราคม 2553    
Last Update : 6 มกราคม 2553 14:15:07 น.
Counter : 3771 Pageviews.  

1  2  

ปลาตะป๋อน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ปลาตะป๋อน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.