ได้ข่าวไม่สู้ดีจากเพื่อนแต่เช้าว่า ผลการรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองของภรรยาไม่ดีขึ้นและเจอก้อนเนื้อที่โตเท่าของเดิมก่อนรักษาเมื่อเมษาที่ผ่านมาก็เลยต้องไปให้เคมีบำบัด (chemotherapy) ที่โรงพยาบาล วันพรุ่งนี้ กว่าจะกลับบ้านได้ก็คงคริสต์มัสพอดีตอนนี้กำลังใจของผู้ป่วยคงไม่ดีนักเราเองก็ได้แต่ขอให้ทุกอย่างราบรื่นดีก็เลยอัพเดตบล็อกเรื่องยาแก้อาเจียนจากการให้เคมีบำบัดซะเลยเพราะอย่างหนึ่งที่ผู้ป่วยอาจได้รับเป็นของแถม ก็คือการคลื่นไส้อาเจียนซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการได้รับเคมีบำบัดหรือ Chemotherapy-Induced Nausea and Vomiting (CINV)ซึ่งจะเป็นมากหรือน้อย หรือไม่เป็นเลยนั้น ขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่ได้รับความเข้มข้น และปริมาณยาที่ให้ และตัวผู้ป่วยเองด้วยเคมีบำบัดบางอย่าง เวลาให้ความเข้มข้นต่ำๆ ก็ไม่ค่อยทำให้คลื่นไส้ อาเจียนเท่าไหร่แต่พอเพิ่มขนาดการรักษาขึ้น ก็จะกลายเป็นว่า มีแนวโน้มในการเกิดการคลื่นไส้อาเจียน สูงตามมา ตัวอย่างเช่น Methotrexateหรือยาเคมีบำบัด Cyclophosphamide, และ Mitoxantrone ที่ขนาดการรักษาต่ำ จะจัดว่าทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้ปานกลางแต่พอเพิ่มขนาดสูงขึ้น ก็จะจัดเป็นตัวที่ทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้มากการคลื่นไส้อาเจียน อาจเกิดแบบเฉียบพลัน ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนให้ยา หรือแบบล่าช้า หลัง 24 ชั่วโมงไปแล้วหรือแบบเกิดก่อนการให้เคมีบำบัดคอร์สต่อไป โดยที่ครั้งก่อนหน้านั้นมีอาการคลื่นไส้อาเจียนแล้วไม่ได้มีการป้องกันที่ดีพอผู้ป่วยที่มีประวัติ motion sickness หรือเมารถเมาเรือง่ายอยู่แล้วก็จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดคลื่นไส้อาเจียนแบบ CINV ได้ง่ายขึ้นการป้องกัน สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัดที่มีแนวโน้มที่จะทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้สูง อย่างเช่น Cisplatin สามารถให้ยาเพื่อป้องกันและลดการคลื่นไส้อาเจียนได้หลายกลุ่มเช่นการให้ยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ ตัวอย่างเช่นเดกซาเมธาโซน หรือเมธิลเพรดนิโซโลน นอกจากนี้ยังมียาในกลุ่มของ Cannabinoids ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกัญชาเช่น Dronabinol และ Nabilone และกลุ่มยา Benzodiazepines เช่น Lorazepam ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ก็จะมีผลข้างเคียงในเรื่องของการง่วงซึมกลุ่มยาต้านซีโรโตนิน เช่น Palonosetron, Ondansetron, Dolasetron, Granisetron ยากลุ่มนี้อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้จะเห็นว่ายาส่วนใหญ่ มีทั้งผลในการรักษา และอาการข้างเคียงซึ่งการจะใช้ยาตัวใด ก็จะต้องมีการชั่งน้ำหนักถึงผลดีผลเสียที่ได้จากการรักษาเทียบกันอาการข้างเคียงที่กล่าวถึง เป็นอาการข้างเคียงที่พบได้บ่อยสำหรับยาตัวนั้น หรือกลุ่มนั้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเกิดกับทุกคนในขณะที่บางคนเกิดผลข้างเคียงแม้กระทั่งแบบที่มีรายงานว่าพบได้ยากอันนั้นก็ต้องบอกว่า ซวยไป เช่นตัวคนเขียนเอง เป็นต้นดังนั้นเภสัชกร และแพทย์ก็จะเตือนเฉพาะผลข้างเคียงที่พบได้ง่ายในผู้ป่วยส่วนใหญ่ หรือพบประจำเท่านั้นเพราะคงไม่สามารถเตือนหมดทุกอย่างได้ก่อนแถมผู้ป่วยบางคนจะเกิดอาการวิตกกังวลเกินเหตุซะด้วยซ้ำ หากทราบอาการข้างเคียงที่พบได้น้อย 2% หรือ 0.5% ของผู้ป่วยทั้งหมด ทำเอาไม่อยากกินยาไปเลยการให้ยาอาจจะเป็นยากิน หรือยาฉีด ขึ้นกับรูปแบบที่มีของยานั้นๆหรือความสะดวกของผู้ป่วย และราคายาด้วยยาตัวใหม่ที่ใช้ป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด คือ Aprepitantหรือชื่อการค้า Emend ซึ่งมีรายงานว่าได้ผลดีในการป้องกันการคลื่นไส้อาเจียนจากการให้เคมีบำบัดทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเกิดอาการล่าช้าซึ่งอาการข้างเคียงของ Aprepitant คือ อาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนแรง หรืออาจเกิดการสะอึกได้และเนื่องจาก Aprepitant เป็นยาที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ที่ใช้ในการทำลายยาตัวอื่นอีกหลายชนิดก็เลยทำให้ระดับยาในเลือดของยาหลายๆตัวสูงขึ้น ถ้าหากให้ร่วมกันกับ Aprepitantซึ่งตรงนี้ ก็ต้องมีการปรับลดขนาดของยาตามที่แพทย์และเภสัชกรได้พิจารณาแล้วผู้ป่วยไม่ต้องกังวล หรือคิดว่าต้องปรับเองเพียงแต่ถ้าหากมีการกินยาอื่นอยู่แล้ว หรือต้องการจะกินยาอื่นร่วมด้วย ก็ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อน เพื่อป้องกันอันตรายจากการใช้ยาค่ะ
จำได้ว่า ตอนที่คุณหมอวางยาสลบ
เพื่อจะผ่าตัด..
หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว
ผลข้างเคียงเล็ก ๆ ก้อคือ อ-า-เ-จี-ย-น นี่ล่ะ
คลื่นไส้ พะอืดพะอม ถามพยาบาล
พี่เค้าบอกว่า ผลข้างเคียงคะน้อง - -"
ถ้าสามารถแก้ไข effect เล็ก ๆ พวกนี้ได้ ก้อคงจะดี
...เข้าใจว่า ภูมิต้านทานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
แต่บอกให้รู้หน่อยก้อดี ว่าจะมีอาการอะไรตามหลังมาบ้าง
เอาใจช่วยขอให้ภรรยาเพื่อนพี่ฮันนี่
มีกำลังใจแข็งแรง ผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีคะ
มีก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมูตุ๋น ร้อน ๆ มายั่วน้ำลาย อิ อิ