Group Blog
 
All blogs
 

ผีเสื้อมันกันทั้งบล๊อก (+วิธีเจาะพื้นหลังภาพให้โปร่งใส)

สืบเนื่องมากจากเมื่อวานซืนเพิ่งได้ฟอนท์อักษรไทยที่อยากได้มานานจากเวบ f0nt.com เลยนั่งทำแบนเนอร์หน้า My K-series, My rating ใหม่ ...

แงะบล๊อกไป แงะบล๊อกมา ก็แงะรูปผีเสื้อจาก template ของตัวเองออกมาได้ เลยเอามาใช้ทำพื้นแบนเนอร์ซะเลย

แล้วใหนๆ ก็ใหนๆ ก็เลยเอากลอนประจำตัว ที่ได้มาจากอจ.วิชาจิตวิทยาสมัยนมนาน มาทำเป็น .jpg ... จับผีเสื้อใส่ลงไปด้วย ..

วันนี้ก็ดั้นไปเจอมาว่ามีวิธีเปลี่ยน bullet ของบล๊อกได้ด้วย...โอ๊ะ โอ น่าสนใจแฮะ ... แล้วเราจะเปลี่ยนเป็นรูปอะไรหละ ...

... หุหุ ใหนๆ ก็เริ่มต้นกันมาด้วยผีเสื้อแล้ว ... งั้น bullet ตรูก็ควรเป็นผีเสื้อต่อไป ... ฮี่ๆ

แล้วมันทำยังไงหว่า ผีเสื้อถึงจะไม่มีพื้นสี ... ถามไปถามมา ได้ผู้ใจดีจากเวบสอนทำรูปเค้ากระซิบบอกว่า "ให้เซฟเป็นนามสกุล .gif จิ" ... กรี๊ดดด ถึงบางอ้อ ปล้ำอยู่ตั้งนาน

... ตอนนี้บล๊อกอิชั้นก็เต็มไปด้วยผีเสื้อ ... ทั้งๆ ที่คอนเซ็ปต์นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกะความชอบส่วนตัวอะไรเล้ย เพราะไม่ได้ชอบผีเสื้อเป็นพิเศษ แต่เขาเริ่มมาแบบนี้ ไอ่เราก็คิด(html)เองทำเองม่ายเป็น เลยต้องตามน้ำกันไป ... มันเลย ผีเสื้อมันกันทั้งบล๊อก ... แล้วอนาคต ผีเสื้อจะไปโผล่มุมใหนอีกละเนี่ยะ!

Note : วิธีเจาะ background ให้โปร่งใส ด้วย Photoshop ซักหน่อยกันลืม

1. เปิดไฟล์รูปที่ต้องการ
2. เลือกพื้นที่รูปที่ต้องการใช้ แล้วสร้างงานใหม่ ในรูปแบบ .psd
3. copy layer รูป 1 layer
4. ลบพื้นหลังที่ไม่ต้องการออกให้หมด
5. save as .gif

เรียบร้อย ...


ขอบคุณคุณ Shioon @ tipzhowto.com ที่ซู้ดดดด ... นี่หละข้อดีของโลกอินเตอร์เน็ตที่ชั้นรัก ... ทุกคำถามมีคำตอบ ... อับดุลยังต้องหลีกทาง 555




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2550 22:34:41 น.
Counter : 597 Pageviews.  

ความมืด การไร้ข่าวสาร และความเครียด

18 กุมภาพันธ์ 2550

วันนี้วันตรุษจีน เป็นวันเที่ยว เราเลยทำตัวสบ๊าย สบาย เที่ยวตามคอนเซ็ปต์เค้า ไปกิน ไปดูหนัง กลับถึงบ้านหกโมงกว่าๆ

ทุ่มกว่าๆ ... ไฟดับ! ... ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ... ไฟยังไม่มา ... กินข้าวกลางแสงเทียนและแสงไฟฉาย ... กินข้าวอิ่ม ไฟก็ยังไม่มา ... ยังไงกัน มันผิดปกตินะ ไม่เคยดับนานขนาดนี้ พ่อบอกให้โทรเช็คการไฟฟ้า ... โทรไป พนง.ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า...เกิดเหตุวินาศกรรมหลายจุด แค่นี้นะครับ แต่ก็วางสายไปแบบรีบๆ... โอววว ขนลุก! เกิดอะไรขึ้นกับบ้านฉัน ...

... เอาละสิ ทีวีก็ดูไม่ได้ มือถือก็ไม่มีสัญญาณ จะหาข่าวยังไงวะ อึดอัดมาก คิดถึงเวบข่าวทางเน็ต คิดถึงข่าวทีวี คิดถึงข่าววิทยุ ... อะไรก็ได้ ขอชั้นฟังได้ซักที่เถอะ

สุดท้ายคนที่กทม.โทรมา เราเลยได้ฟังข่าวผ่านหูโทรศัพท์บ้าน ... รู้สึกชีวิตเหมือนเจอทางออก

... ความสว่างเพิ่งกลับมา ก่อนหน้านี้ไม่นาน ... เฮ่ออออ ... คุณพระคุ้มครอง ... เพิ่งเข้าใจวันนี้เองว่า ความรู้สึกที่ต้องทนอยู่ในความมืด และไร้ข้อมูลข่าวสาร มันน่ากลัวเช่นใด อึดแค่ใหน ... เครียด และ เครียด ...

... เอาหละความสว่างกลับมาแล้ว หมดเวลาความเครียด เล่นเน็ตต่อ เอิ๊กๆๆ ...




 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2550 19:01:33 น.
Counter : 482 Pageviews.  

ในที่สุดก็ถึงเวลา "ยามเฝ้าแผ่นดิน" รายวัน!

ไชโย...ประกาศจากคุณสนธิล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 29 เป็นต้นไป เราจะได้ดูรายการใหม่ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" รายวัน (ชื่อจริงๆ เค้าไม่มีคำว่า รายวัน หรอก...อิชั้นเติมเอง) ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 2 ทุ่มครึ่ง ถึง 3 ทุ่มครึ่ง (เฉพาะวันศุกร์ จะยาวถึง 4 ทุ่มครึ่ง) ... เยส!!! รอมานานแล้ว

เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จัดแบบนี้ เพราะข่าวมันมีมาใหม่ทุกวัน รอคุณสนธิมาวิเคราะห์ทีๆ ต้องรอวันศุกร์โน่น...มันอึดอัดชมัด แม่ชอบพูดทุกทีเวลามีเรื่องอะไร ... "เดี๋ยวศุกร์นี้ สนธิต้องเอามาพูด คอยดูสิ" ... ไอ่เราก็เฮ่อ...นาน(เว้ย)

ส่วนเรื่องเวลา อันเดิม 1 ทุ่มครึ่ง มันเป็นเวลาที่เราเพิ่งปิดร้าน ต้องกินข้าว ... โอ้ย...ทุกศุกร์ต้องรีบปิดร้านตามเวลาเป๊ะ รีบกินข้าว รีบล้างจาน ขนาดนังหมาจูดี้ ยังต้องรีบกินของขบเคี้ยวเล้ย (เพราะเจ้าของมันรีบ มันเลยต้องรีบตาม) มันคงงงๆ นะ บ้านนี้เค้าจะรีบไปใหนกันทุกวันศุกร์ ... ต่อไปนี้แกจะได้กินแบบสบายๆ แล้วหละนังลูกหมู

อันใหม่เค้าจะจัด 2 ทุ่มครึ่ง โอ้ย เวลาสบายๆ ชิลด์ ชิลด์ แถมจัดทุกวัน พิธีกรเป็นคุณแอนสลับกะคุณแอ้ม...

โฮะๆๆ คุณแอนเจอคุณสนธิ...ต้องมันส์แน่ๆ เพราะเราชอบสไตล์คุณแอน ว่าแต่จะมีซักวันมั๊ย คุณเติมศักดิ์เจอคุณสนธิ หรือคุณอัญชลีเจอคุณสนธิ ... วิบวิ้วว แน่ๆ

ว่าแต่เวลาดูหนังเกาหลีเราคงลดลงซะแร้ว ฮี่ๆๆ ... ไม่เป็นไรหรอก เอาสาระใส่หัวซะมั่ง




 

Create Date : 26 มกราคม 2550    
Last Update : 26 มกราคม 2550 22:08:40 น.
Counter : 557 Pageviews.  

เึค้า Tag กันง่ายๆ อย่างเงี้ยะหนะเหรอ? ว้า...ไม่เห็นตื่นเต้นเรย

หลายวันก่อนแวะมาอัพบล๊อก สายตามองปราดไปทั่วหน้าแรกของ bloggang เห็นคำว่า Tag เกลื่อนเพจ ... อะไรวะ? สังคมบล๊อกเค้าทำอะไรกัน?

เห็นหัวข้อ “เชิญสนุกและต้อนรับ Blog Tag ที่กำลังตามไปถึง blog คุณ” เลยแวะไปอ่านผ่านๆ ได้ความมาว่ามันเป็นเกมส์อย่างนึง ที่ใครโดน Tag ต้องเปิดเผยความลับ 5 ประการ ต่อสาธารณชนคนบล๊อกแกงค์ ส่วนรายละเอียดมากกว่านั้น ไม่ได้อ่าน กะว่าไว้มีคนมา Tag ค่อยว่ากัน ...

มีแอบนึกถึงหนังเกาหลีชั่วขณะจิต (ตามประสาคนบ้าไม่เลิก) ที่เวลาตั้งวงกินเหล้า เค้าจะเล่นหมุนขวดเหล้า ถ้าหันไปทางใคร คนนั้นก้อต้องตอบคำถามที่เพื่อนในวงตั้ง อย่างเปิดเผยและเป็นความจริง ... เหอๆๆ ไอ่คนคิดเกมส์นี้ มันต้องบ้า หรือเคยบ้าดูหนังเกาหลีแน่ๆ คิดอยู่ในใจ ... เอิ๊กๆๆ

หลังจากนั้น ทุกวันต้องคอยเล็งหา ว่าหัวข้อ Tag ใครน่าสนใจบ้าง แล้วก็แวะเวียนไปอ่าน บางคนใจถึง กล้าๆ แฉตัวเองซะหมดเปลือก ... จะมีซักกี่คนกล้าแฉว่า “ผมเป็นเกย์” ยกนิ้วให้จริงๆ ...

นึกถึงตัวเอง...แล้วใครนะ จะมา Tag ตรู? แล้วตรูจะเผยอะไรดี? แอบมีเสียงค้านอยู่ในใจ ถ้าเปิดเผยได้ แล้วจะเรียกมันว่า “ความลับ” ไปทำไม

สงสัยอยู่ทุกวัน ว่าไอ่อาการโดน Tag มันจะเป็นยังไงนะ เดาๆ เล่นๆ ว่าหลังจากล๊อกอินมา คงมีป๊อบอัพ หรือ ข้อความอะไรซักอย่าง ส่งผ่านทางระบบ แจ้งมาว่า “คุณโดน Tag!!” ...

...และแล้ววันนี้เราก็ถึงบางอ้อ...เมื่อน้อง QingQing มา Tag!

กรี๊ดดด...อะไรกัน! นี่เค้า Tag แล้วเหรอ มะเห็นมีอะไรตื่นเต้นเลย ก้อแค่มาบอกประมาณว่าชั้น Tag เธอนะ ... ว้า ... หมดสนุกไป 50%

แต่ชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป รับเชื้อมาแล้วนี่ ต้องปฏิบัติตามกฎเค้าหน่อย ไม่งั้นเด๋วถูกเขี่ยออกจากวงการ ...

เอาหละมาดูกัน ...

5 ข้อต่อไปนี้เราไม่เรียกมันว่า “ความลับ” เพราะอย่างที่บอก ความลับ ควรเป็นความลับ ไปจนวันสุดท้ายของชีวิต ... แต่มันเป็นแค่...

“ 5 ข้อ ที่น้อยคนนักจะรู้ และไม่ค่อยอยากเผย แต่โดนสังคมบล๊อกแกงค์เค้าบังคับ ”

ข้อแรก : เราเคย “ถูกยิง”
อันนี้ประมาณ ป.5-ป.6 พี่ชายมันได้ืปืนอัดลมใหม่มา (เรียกถูกรึปล่าวหว่า ไอ่ปืนที่มันมีลูกเป็นเม็ดๆ พลาสติกอะ) วันนั้นเราเล่นอยู่ในห้อง พี่ก็เล่นของมันไป ยิงอะไรของมันไม่รู้ สนุกใหญ่...แล้วเล่นกันยังไงไม่รู้จำไม่ได้ มันก็หันกระบอกปืนมาทางเรา เรานั่งอยู่บนเตียง หลังพิงฝา พี่มันทำท่าจะยิง เราก็บอกว่าไม่เอา ไม่เล่น (ก้อมันเจ็บนะ ถ้าโดนจริงๆ) แล้วเอาหมอนปิดตัว ปิดหน้า ... แต่ ... พี่เรามันก็ยิง … ปั้ง!!

ณ วินาทีนั้น เรารู้สึกว่าปลายเท้าเราชาไปหมด รู้สึกเหมือนขาจะบวมๆ เจ็บมากๆ เอามือกุมฝ่าเท้า ตัวงอเลย จะร้องก็ร้องไม่ออก พี่มันตกใจรีบวิ่งมาดู ถามว่าเป็นอะไรรึปล่าว? เราก็ถามว่าเอาอะไรมายิงอะ? พี่มันบอกว่า กระสุนจริง!! … เห้ยยย ... ไอ่พี่บ้า ... กระสุนจริงๆ เนี่ยะนะ ... มันบอกว่าไปหยิบของพ่อ ที่วางอยู่บนตู้โชว์ มาลองใส่ในปืนมันดู

เราไม่รู้ว่า ด้วยบารมีหลวงปู่ทวด ที่เราใส่ติดตัวเป็นประจำคุ้มครอง หรือ เพราะปัญหาทางเทคนิค ที่ทำให้วันนั้นเราโชคดี ขาแค่บวม ไม่มีเลือด ไม่มีแผล!

ไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้ว่ากระสุนมันไม่ระเบิดหรืออย่างไร ว่าจะถามผู้รู้ดูซักทีว่ากระสุนจริง มันใช้กับปืนอัดลมไม่ได้เหรอ ก็ลืมไปทุกที

ด้วยความกลัวความผิด พี่เราขอว่าอย่าบอกพ่อนะว่าขโมยกระสุนมาเล่น ด้วยความรักพี่ จนถึงบัดนี้ พ่อคงยังไม่รู้ ว่ากระสุนพ่อหายไปใหน 1 นัด??

ฝากเตือนคนเป็นพ่อทั้งหลาย ที่ชอบเอากระสุนมาตั้งโชว์เล่น (แม้จะเก็บกระบอกปืนไว้มิดชิด) วันนึง ลูกคุณอาจเจอแบบเรา … แต่อาจจะไม่โชคดี

ข้อสอง : เราเคยเป็น “ขโมย”
จำไม่ได้แน่นอนว่าเป็นตอนเรียนชั้น ป. อะไร ระหว่าง ป.1-ป.4 ที่ รร. ทุกๆเที่ยง จะมีอาบังขับรถเข็นมาขายขนม จำไม่ได้ว่าบังแกขายอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ มีวุ้นแช่เย็นขาย มีให้เลือก 2 รส วุ้นกะทิ กับ วุ้นไข่ อาบังจะแช่วุ้นที่บรรจุอยู่ในพิมพ์เป็นถ้วยๆ ไว้ในถังน้ำแข็งด้านข้างรถเข็น

วันนั้นเพื่อนชวนไปกิน ก็อืม..ตามไป ... วิธีซื้อวุ้นอาบังก็คือ เด็กนักเรียนจะไปยืนออๆ หยิบวุ้นมาตักกิน กินเสร็จค่อยให้บังนับถ้วย ว่ากี่ถ้วย กี่บาท

เรากับเพื่อนไปถึง ก็หยิบมากินเหมือนๆ ชาวบ้าน เราเลือกวุ้นไข่แสนอร่อย ส่วนเพื่อนเลือกอะไร จำไม่ได้ ก็กินๆ คุยๆ กันไป ... เพื่อนเรา พอมันกินถ้วยแรกหมด มันก็เอา้ถ้วย ไปวางรวมไว้กับกองถ้วยที่เค้าคิดเงินไปแล้ว แล้วก็ทำเนียน หยิบถ้วยใหม่มากินต่อหน้าตาเฉย โดยที่อาบังไม่ทันเห็น เราเห็นแล้วหละ แต่จำไม่ได้ว่าตอนนั้นคิดอะไร มันนานมากแล้ว แต่จำได้ดีว่าเพื่อนขยิบตา ให้ทำตามมัน ... อ๊ายยยย ไม่รู้อะไรดลใจ เราทำตามมันจริงๆ ด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำลงไปได้ สรุปแล้ววันนั้น กินไป 2 ถ้วย จ่ายเงินถ้วยเดียว!!

เราเป็น “ขโมย” ...

ข้อสาม : เราเป็น “เพชรฆาต”
สมัยเด็กๆ (อีกแล้ว) หลังบ้านเป็นหนองน้ำ เวลาหน้าฝนน้ำจะเยอะและใสกว่าปกติ วันนึงขณะยืนเล่นๆ อยู่หลังบ้าน เหลือบไปเป็นปลาช่อนตัวขนาด 5 นิ้วตัวนึง มันลอยตัวสงบนิ่งอยู่บนผืนทรายใต้น้ำใสตื้นๆ นั้น ด้วยความซ่าส์ของเรา เลยหยิบไม้ไผ่บ้องเล็กๆ ที่วางอยู่แถวๆ นั้นขี้นมา นึกในใจว่า...เอ...เราจะตีโดนมันมั๊ยนะ ... คงไม่หรอก ปลามันไวจะตาย ... สิ้นสุดความคิด เราก็ฟาดไม้ผั่ว! ... น้ำกระจาย ... ฝุ่นทรายใต้น้ำตลบ ...

หลังจากฝุ่นทรายจางหาย...สิ่งที่เราเห็นคือ ปลาช่อนนอนหงายท้อง ลอยตุ๊บป่อง ... เรากลายเป็นเพชรฆาตไปแล้ว...

ทุกวันนี้ เมื่อใดก็ตามที่เราหัวเราะมากๆ เราจะรู้สึกชาที่ท้ายทอย เรากลัวว่าจะเป็นอะไรแถวๆ กะโหลก เคยไปหาหมอ หมอก็บอกว่าไม่มีอะไร ... สรุปเอาเองว่า ... กรรมคงตามสนอง ... ทุกวันนี้เราปล่อยปลาช่อน เลิกกินทั้งน้ำและเนื้อ ...

ข้อสี่ : เรามี “สิ่งนี้” ด้วยหละ



เบื้องหลังผ้าสีเหลืองผืนน้อย บรรจุไว้ด้วยความทรงจำ และความภูมิใจ

ข้อห้า : งดใช้สิทธิ เพราะคิดไม่ออกแร้วคร้าบ (ผู้รับเชื้อ Tag กรุณาอย่าลอกเลียนแบบ)

จบแล้วค่ะ ถึงคิวท่านทั้ง 3 ต่อไปนี้ มารับเชื้อ Tag บ้างนะคะ

1 ครอบครัวโชแปงและคุณ nutuang @ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nutuang

2 คุณพี่ AUN_SAP @ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=aun-sap

3 คุณนราเกตต์ @ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=naragade

ครอบครัวโชแปง บ้านใหญ่โต หาไม่เจอว่าโดน Tag ไปหรือยัง ยังไงถ้าซ้ำ ก็ต้องทำใจนะจ๊ะ เพราะหนูหนะน่าร๊าก และ worldwide สุดๆ

คุณพี่ AUN_SAP เคยเจอะเจอกันแถวๆ BP ท่าทางจะนิยมเที่ยวละไมเหมือนกัน แต่คุณพี่เที่ยวเก่งกว่า เลยต้องโดนหนู Tag

คุณนราเกตต์ Tag เพราะคุณเคยไป Shangri-La ที่ๆ เราอยากไป ไปเยี่ยมบล๊อกคุณนานแล้ว และแอ๊ดเป็น friend's list ด้วย แต่เพิ่งสังเกตเมื่อวาน ว่าเป็นนักเขียนเสียด้วย น่าจะตอบโจทย์ Tag ได้น่าอ่าน จะรอติดตามค่ะ

อีก 2 ท่าน ขอเก็บโควต้าไว้ก่อน วันใหนเจอบล๊อกถูกใจ ค่อยขอใช้สิทธิ์ อิอิ...




 

Create Date : 20 มกราคม 2550    
Last Update : 21 มกราคม 2550 18:13:19 น.
Counter : 678 Pageviews.  

Shangri-La, One day I'll be there 2

แอบไม่ได้ให้เวลากับ แชงกรีล่า ไปหลายวันนะเรา เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปหรอก...ไม่ได้...ไม่ได้...มาจุดไฟกันหน่อย...

อ่าน "แชงกรีล่า มนต์ขลังสุดขอบโลก" จบมาหลายวันแล้ว ขอบอกว่าเป็นหนังสือที่ประหยัดรูปภาพอย่างแรง ทำให้อรรถรสในการอ่านและจินตนาการไม่ค่อยบรรเจิดเท่าไหร่ น่าเสียดายจัง (+ เสียดายเงินด้วย 55)

จุดที่เราอยากไป เค้าดันไปไม่ถึง น่าเสียดายจัง แต่บางจุดเค้าก็ไปได้ลึก ซะจนแอบคิดว่า ถ้าเราไปทัวร์ เราก็อยากให้ทัวร์มันจัดแบบนั้นบ้าง...อืมม...เก็บข้อมูลไว้ต่อรองกะทัวร์ (เหมือนจะทำได้เรยนะ)

แต่ยังไงหนังสือเล่มนี้ก็พอทำให้เรามองเห็นภาพคร่าวๆ ของเส้นทางสายนี้ได้พอสมควร อ่านจบแล้วก็ยิ่งอยากไป...

วันนี้ หลังจากสั่งหนังสือที่เหลืออีก 2 เล่ม กับร้านประจำไปหลายวัน เราก็ได้ "เมืองแมนที่ปลายฟ้า" มาแล้ว ดีใจจัง ตอนแรกที่ร้านบอกว่าหมด ดีนะยังไม่ทันซื้อทางเวบ เพราะรอคำตอบอีกเล่มอยู่ จู่ๆ วันนี้เค้าก็มายื่นให้ บอกว่า มาแล้ว...เอ๊า...แต่ก็ยิ้ม...ฮี่ๆ

เปิดดูด้านใน เพิ่งรู้ว่าหนังสือเล่มนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 45 ค่อนข้างนานเชียว แต่ไล่ดูคร่าวๆ น่าจะให้ข้อมูลได้ดีกว่าเล่มแรก ที่สำคัญ 1 ในชื่อผู้เขียน เป็นช่างภาพมือโปร แน่นอน ภาพต้องสวยและเยอะกว่า...

อื้มม...ดูแล้วน่าจะวางไม่ลง คืนนี้เราจะไปค้นหาเมืองแมนที่ปลายฟ้าละกัน...

ปล. เพิ่มเติมนิดนึง วันก่อนเราลงไว้ว่า หนังสือ "เมืองแมนที่ปลายฟ้า" เป็นของ ดร.ขจิต จิตตเสวี คนเดียว แต่พอได้หนังสือมาแล้วถึงได้รู้ว่า จริงๆ เล่มนี้เค้าเรียบเรียงมากจากผู้เขียนทั้งหมด 4 ท่าน อีก 3 ท่านที่เหลือก็คือ สุขสันต์ วิเวกเมธากร, ปริวัฒน์ จันทร และ ธีรภาพ โลหิตกุล ซึ่งท่านหลังสุดเป็นบรรณาธิการคัดสรร ด้วย




 

Create Date : 17 มกราคม 2550    
Last Update : 17 มกราคม 2550 20:20:53 น.
Counter : 586 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

ขอโทษนะคร้าบ ขอแจมด้วยคน
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




www.flickr.com
This is a Flickr badge showing public photos and videos from koo-story. Make your own badge here.

Counter Stats
optometry
optometry Counter


Free shoutbox @ ShoutMix
Friends' blogs
[Add ขอโทษนะคร้าบ ขอแจมด้วยคน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.