"Plaza Athenee" เรืองนี้นะ มันเป็นจดหมายเล่าอะไรนิดๆหน่อยๆ อ๋อ แน่นอน มันต้องมีอะไรเกี่ยวพันถึง>>>>> คีอานู มายเดียร์ มิเช่งนั้น จาเอามาให้ดูทำไร >>>>> แต่ว่า เนื่องจาก แองจี ขี้เกียจแปล ก็เลย แปลให้เท่าที่ แองจีชอบ อิๆ ใครจะอ่านเต็มๆ ก็ คลิกลิงค์ไปอ่านต้นฉบับตอนท้ายหน้านี้ละกัน เรื่องมันมีอยู่ว่า สาวนางหนึ่งเธอไปฮันนีมูนที่แพรีส แล้วก็ตระเวนหาโรงแรม และก็.....บลา บลา บลา..... (ตัดมาที่) .....วันนึง เราตัดสินใจไปเที่ยวแถวเนินมงมาร์ท (the hill of Montmartre.) โรงแรมของเราอยู่ที่Port D'Aniereซึ่งไกลกันพอใช้ได้ เราจึงเรียกแท็กซี (ถึงแม้จะแพงก็เถอะ) ชั้นนั่งมองวิวผ่านหน้าต่างไปเรื่อยๆ ตึกรามในปารีสนี่สวยจัง แต่ทันใดนั้น ชั้นเห็นอาคารหนึ่งที่คุ้นตา ชั้นรีบตะโกนว่า “ จอด จอด จอด จอดเด๋วนี้เลย “ คนขับแท็กซีดีใจหาย เบรกให้ทันที ขณะที่ปั๋วชั้นมองมาอย่างมึนๆ เพราะงงว่าเกิดไรขึ้น ชั้นวิ่งลงจากรถเข้าไปในตึกนั้น ซึ่งก็ไม่ได้ดูมีชื่อเสียงอะไรนัก "Plaza Athenee". ปั๋วชั้นรีบตามลงมาแถมด้วยตะโกนโหวกเหวกว่า “เป็นบ้าอะไรของเธอ” ดีที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใจภาษาของเรา ชั้นตรงไปที่โต๊ะ รีเซฟชันแล้วถามพนักงานว่า “คุณทำงานที่นี่นานรึยังคะ” โชคดีที่พนักงานพูดอังกฤษได้ และสุภาพพอที่จะไม่แสดงออกมาว่าชั้นเพี้ยนขนาดไหน ดังนั้น เขาตอบว่า “แปดปีแล้วครับ” โอ โชคดีแท้ๆเลยตรู ถ้าคุณยังงงอีกนะ Plaza Athenee คือโรงแรมที่ Keanu เคยถ่ายรูปที่นี่โดยฝีมือของWilly Rizzo เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา ชั้นอยากจะบ้า ชั้นหยุดหายใจอย่างเป็นสุขไม่ได้ ชั้นถามพนักงานว่า เขาจำวันประวัติศาสตร์วันนั้นได้หรือไม่ เขาตอบชั้นว่า เขาจำได้แม่ยำไม่ลืมเลือนเลยเชียว (อี๊ยย ดีใจโคด ) เพราะโรงแรมนี้ มีดารากับตากล้องมาใช้บริการอยู่เสมอ .. ปั๋วชั้นเดินมาสมทบแล้วถามว่า : "What's happening?" ( เหงปะ มานพูดได้แต่คำเนียะ) แต่ชั้นไม่ได้สนใจ ชั้นปั้นยิ้มส่งให้พนักงานคนนั้น พร้อมชวนคุยต่อไป “คุณช่วยกรุณาพาชั้นไปชม ห้องที่ถ่ายรูปนั่นหน่อยได้ไหมคะ” เขามองชั้นแบบว่า..คุณเข้าใจมะ เหมือนเวลาเราต้องทำอะไรที่ ไม่ตรงตามสายงาน แล้วมันต้อง มีอะไรให้กันบ้างแบบนั้นละ ชั้นรับคำเขา โดยการขยิบตา และในตอนนั้น ชั้นรู้ตัวว่า ถ้ามีหาง หางชั้นคงกระดิกไปมา เพราะสุขใจเหลือ เขายิ้มกลับมา เดินนำหน้าชั้นไป กระซิบเบาๆว่า “คุณอย่าบอกใครแล้วกัน” และ ปั๋วชั้นก้ตามเรามา พร้อมถามว่า: "What's happening?" วินาทีที่ ชั้นเข้าไปในห้องๆนั้น ตัวชั้นก็เริ่มสั่นน้อยๆ ชั้นไม่อยากเชื่อว่าจะโชคดีขนาดนี้ แม้แต่ตัวเองก็ยังถามตัวเองว่า: "What's happening?" ชั้นรู้สึกเหมือนเขายังอยู่ที่นี่ เดินออกไปที่ระเบียงเพื่อดูหอไอเฟล รู้สึกดีและสุขอย่างบอกไม่ถูก ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ ยังอยู่ที่เดิมเหมือนในรูป ชั้นเดินกลับเข้าไปคุยกับพี่พนักงาน ว่ามีอะไรเล่าให้ฟังอีกไหม เขาตอบว่าคงไม่มีอะไรมาก เพราะตากล้องเค้าไม่ได้ให้เข้ามาช่วยงานอะไร แต่เขาจำได้ว่า คีอานูเป้นคนน่ารัก สุภาพ เป็นมิตร และช่างคุยแม้แต่กับพนักงานโรงแรม และไม่เคยเรียกร้องอะไรวุ่นวาย แบบที่พวกดาราใหญ่หลายคนชอบทำ และยังใช้เวลาแจกลายเซ็นให้ทุกคนที่ขอด้วย ชั้นมองไปรอบๆห้อง พยายามนึกว่าตรงไหนบ้างที่เขายืน พูด คุย ยิ้ม หัวเราะ และมอง ชั้นสูดลมหายใจลึกๆ ขอบคุณพี่พนักงาน จ่ายทิปให้เขา และจ้องห้องนี้อย่างหลงไหล และแน่นอน ปั๋วชั้นยังคงถามว่า: "What's happening?" ชั้นจากที่นั่นมาทั้งน้ำตา แล้วจึงนึกได้ว่า มีคนมาด้วยนี่หว่า ปั๋วเราเอง! "What's happening?", เขายังถามอีก ชั้นคิดว่า เขาคงไม่คิดหรอกว่าคำตอบมันจะ..ขนาดนั้น ชั้นก็เลยเล่าให้เขาฟัง แต่เขากลับทำตาเหลือก แล้วตะโกนว่า “ ผมว่าคุณต้องไปเช็คประสาททันทีที่เรากลับบ้าน” หุๆ เช็คทำไรกันฟะ ก็เหมือนที่พูดกันเล่นๆในภาษาฝรั่งเศส au revoir mon cheri (or something like this)!!! ใครอยากอ่านต้นฉบับ เชิญที่คลิกที่รูปนะคะ   Create Date : 26 กันยายน 2548     Last Update : 26 กันยายน 2548 4:10:38 น. Counter : 1717 Pageviews.   3 comment Share Tweet

Keanu Taste UPDATE ----23 Aug 2008 Blogเกี่ยวกับรสนิยมของคีอานูนี้ publishครั้งแรกตั้งแต่ 08-08-2005 เป็นการรวบรวม"ของชอบ"ของพี่คี ที่ได้รับการพูดถึงอยู่ในเว็บไซด์ต่างๆ หรือในคำพูดที่เขาพูดถึงตนเอง หรือที่คนใกล้ชิดพูดถึงเขา ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ยืนยันในบทความวิชาการใดๆได้ รวมถึงไม่สามารถให้ท่านใช้เป็นไกด์ไลน์ในการหาของขวัญให้เขาเป็นการส่วนตัวด้วย เครื่องดื่ม น้ำแร่ คีอานูดื่มน้ำเก่งมาก โดยเฉพาะเมื่อเล่นดนตรีหรือเล่นกีฬา หากเขาขาดน้ำ ริมฝีปากจะแห้งผาก(จนน่าเป็นห่วง) ซึ่งมักพบภาพแบบนั้น ขณะเขาอยู่ต่างแดนเพื่อทำงานโปรโมทหนังบางเรื่อง ไวน์แดง Bordeaux อันนี้ ท่านนิยมดื่มแกล้มสเต็กและสาวสวย กาแฟร้อน คือเครื่องดื่มยามเช้า เบียร์ไฮเนเก้นเป็นเครื่องดื่มยามบ่าย อาหารหลัก คีอานูรับประทานอาหารได้หลากหลายมาก ส่วนใหญ่เขาชอบไปกินข้าวในภัตตาคารที่มีอาหารอร่อย แต่เมื่อซื้อบ้านหลังแรกบนฮอลลีวูดฮิลล์ คีอานูสั่งทำครัวขนาดใหญ่ไว้รองรับการทำครัวเต็มพิกัด ส่วนฝีมือการปรุงอาหารของพี่คี เพื่อนๆเล่าว่าเขาทำแซนด์วิชกินเองได้(....ยากนะ... ทำแซนด์วิชเนี่ย) อย่างไรก็ดี อาหารที่คีอานูรับทานได้ มีรายงานไว้ดังนี้ -สเต็ก -ราเม็งเผ็ดๆ -ซูชิ -แซนด์วิช เนยถั่วกับ แอพริค็อต -แซนด์วิช ฟิลลี ชีส สเต็ก -แซนด์วิช ไส้กรอกอิตาเลียนพริกไทยดำ -ขนมปังปิ้ง กับ แฮม แบล็กฟอร์เรสต์ -สลัด โคว์สลอว์ ในน้ำสลัดรัสเซีย -ข้าวโอ๊ต กับกล้วยหอม และนม -เป็ดปักกิ่ง รถ คีอานูมีรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อดังทั้งHarley Davidson และ Norton รวมทั้งซูซุกิ และคาวา รวมทั้งสิ้นแปดคัน (....อู๊ย พ่อหนุ่มสิบหกล้อ) สำหรับรถเก๋ง เขาใช้ยี่ห้อดัง Porche คาเรรา ซึ่งแม้จะเปลี่ยนเป็นคันที่สองก็ยังใช้ยี่ห้อเดิม สีดำเช่นเดิม เขาบอกว่า เป็นรถสี่ล้อที่ให้ความรู้สึกเหมือนขี่สองล้อ หนังสือ แน่นอนเรยย >> เช็คสเปียร์ ต่อมา ก็ หนังสือของฟิลิป เค ดิ๊กส์ ผู้แต่งScanner Darkly และที่เห็นบ่อยๆในภาพแคนดิดคือหนังสือพิมพ์ เพลง The ramones , Crash , Sex Pistols ของเล่น และ ท่องเที่ยว -หมากรุก อันนี้ ได้ข่าวว่าเล่นดี เที่ยวประชันฝีมือกับพวกทีมงานหลังกองถ่ายประจำ -ปิงปอง พี่แกเล่าว่า ในบ้านมีโต๊ะปิงปอง ดังนั้น คาดว่า คงเอาไว้เล่นปิงปอง มิได้เอาไว้ทำอย่างอื่น อิๆ -ฮอคกีน้ำแข็ง อู๊ยย อันนี้ มีดีกรีด้วยนะจ๊ะ เคยเล่นในลีกเยาวชนของแคนาดา ไฝ่ฝันจะเป็นนักกีฬาโอลิมปิกให้ชาติเลยนะนั่น เพราะได้ตำแหน่ง ผู้เล่นทรงคุณค่าขณะเล่นในลีกของแคนาดา -เบสสบอล เคยไปงานตีเบสสบอลการกุศล รวมดารามาแล้ว -ชอบดูละครเวทีเช็คสเปียร์ เคยรับบทเจ้าชายแฮมเล็ต ที่วินิเป็ก แคนาดาและยังหวังว่าจะได้เล่นเป็น คิงแม็คเบ็ธ ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า -ร็อคคอนเสิร์ต คืออีกสถานที่หนึ่งที่คุณอาจพบเขาอยู่ข้างๆคุณโดยบังเอิญ เสื้อผ้า รองเท้า -เสื้อยืด ย้วย สารพัดสี บางที ชายเสื้อ ขาดยังกะหนูแทะ ก็ไม่ทิ้ง -รองเท้าหนังกลับของClarkes ที่เห็นๆนี่ ใส่รองเท้าอยู่ สามคู่ เหลือเชื่อสุดๆ -ถุงเท้าก็ชอบใส่แต่สีขาว น่ารักโคด ไม่รู้ว่า ใส่ทีเดียวทิ้งรึเป่า หรือว่าใครซักถุงเท้าให้ก็ไม่รู้ แต่ที่เห็นบ่อย คือ นิยม แบร์ฟุต เอามั่กๆ โอ้ SEXY -jeansเป็นชิ้นที่ใช้ประจำ ขาดบริเวณก้นก็หลายตัว คาดว่า เนื่องมาจากการต้องออกแรง สตาร์ท มอเตอร์ไซค์ มันถึงได้ขาดแถวนั้น -ผ้าพันคอ อันนี้ ก็จะเห็นเสมอในฤดูปลายปี เพราะว่า ขี้หนาวมากกกก มิน่า เห็นต้องหาผู้ให้ความอบอุ่นปากแดงๆ เดินประกบเป็นประจำ -สูทอิตาลี ไม่สีดำ ก็สีน้ำตาล เพราะว่ามันเข้ากับเสื้อผ้าง่าย -นาฬิกาข้อมือ ....คีอานูไม่เคยขาดชิ้นนี้เลย -โทรศัพท์มือถือ :::: เดิมน่ะ คีอานูใช้แต่ตู้โทรฯหยอดเหรียญ แต่ตอนนี้ พี่เค้าใช้ โมโตโรลาสีดำ จ้า -รอยสัก ไม่มีสักรอย นิยมสะสมแผลเป็นมากกว่า จริงใจและเสี่ยงตายกว่ากันเยอะ   Create Date : 08 สิงหาคม 2548     Last Update : 23 สิงหาคม 2551 12:02:06 น. Counter : 4508 Pageviews.   10 comment Share Tweet

Our First Kiss ปีหนึ่งแล้วล่ะ ที่ฉันได้รับจูบแสนหวานจาก คีอานู รีฟส์ นี่คือครั้งแรก ที่ชั้นจะประกาศให้ทุกคนรู้ ก่อนหน้านี้ นอกจากเพื่อนสนิทบางคนแล้ว ชั้นไม่เคยบอกใคร ชั้นอยากเก็บมันไว้เป็นความทรงจำของฉันคนเดียว แต่ว่า นี่เป็นวันครบรอบปีของเรื่องนี้ และ ชั้นว่า จริงๆแล้ว มัน ก็ไม่ใช่เรื่องลับสักหน่อยเพราะมีคนเห็นเหตุการณ์ในวันนั้นตั้ง 7000 คนเห็นจะได้ ที่สำคัญ คีอานู คงยินดี ที่ชั้นรวบรวมความกล้าทำสิ่งนี้ได้ และอีกอย่างหนึ่ง เรื่องจูบแสนหวานของฉันนี่ เคยมีคนรายงานเป็นสคูปข่าวไปแล้ว ทั้งใน นิวยอร์คไทม์ ลอสแอนเจลิสไทม์ ทีวีไกด์ และสารพัดสื่อ และนี่ คือเรื่องที่เกิดขึ้น ราวๆ เดือนพฤษภา หรือ มิถุนา ของปีที่แล้ว ชั้นได้ข่าวว่า คีอานู จะมาร่วมงานของ คอมิค คอนเวนชัน ใน ซานดิเอโก เพื่อโพรโมตงาน คอนสแทนทิน ตอนแรกชั้นคิดว่า คงไม่ได้ไปงานนี้แน่ เพราะมันเป็นวันศุกร์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฉันรู้แน่แก่ใจ ไอ้วันนั้น ชั้นทำอะไรไม่ได้แน่ๆ นอกจากจะไปดูเขา สุดที่รักของฉัน ชั้นรู้อะไรบางอย่าง ชั้นไม่ยอมให้เค้าเดินทางมาถึงเมืองที่ฉันอยู่ แล้วจากไปโดยที่ไม่รู้ว่าชั้นรักเค้าหรอก นั่นล่ะ สิ่งที่ชั้นต้องทำให้ได้ ฉันตัดสินใจจะหาของขวัญให้เขา และด้วยความตื่นเต้นในแผนการ ชั้นแล่นไปบอกแม่ แม่มองฉันเหมือนว่าชั้นเป็นเด็กโง่ เธอไม่เข้าใจ ว่าทำไมเรื่องนี้ มันถึงทำให้ฉันสุขใจนัก โอ๊ะ โอ แล้วนี่ฉันจะหาอะไรให้ มิสเตอร์รีฟส์ ดีนะ อูห์ เค้าชอบอ่านหนังสือนี่นะ งั้น นั่นละ หนังสือไง ฉันตรงไปร้านขายหนังสือ เดินดูไปทั่ว เอาอะไรดีน้า มันต้องไม่ใช่แบบส่วนตัวเกินไป แต่ก็ต้องไม่ธรรมดาไป จะว่าไป ชั้นก็ไม่รู้จักเค้ามากนัก แล้วจะรู้ได้ไงว่าเขาชอบอะไร หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉันเริ่มหมดแรงใจ คิดว่าสงสัยต้องไปหาที่อื่น ก็พอดี เห็นเล่มนั้น “ซูเปอร์สตริง” ฉันจำได้นี่ เค้าสนใจทฤษฎีเกี่ยวกับจักรวาล เค้าต้องชอบแน่ๆเลย ฉันซื้อหนังสือมาสองเล่ม เข้าไปเลือกการ์ดในร้าน ฮอลล์มาร์ค ซื้อการ์ดสองใบ ใบหนึ่งสำหรับวันเกิดที่กำลังจะมาถึงของเขา ส่วนอีกใบ สำหรับยินดีในความสำเร็จทั้งปวง ฉันดีใจที่เลือกของที่คิดว่าเขาน่าจะชอบ และเป็นสิ่งที่ไม่ทำให้เค้ากังวลว่าฉันจะคิดก้าวร้าวหรือล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของเขา ชั้นแค่อยากให้เขารู้ ว่าฉันรักและหวังดีต่อเขาเสมอ ความจริง ชั้นอยากตามล่าหาคีอานูไปทั่วเมืองซานดิเอโก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือในร้านอาหาร แต่เรื่องจริงก็คือ ชั้นไม่รู้เลยว่าเค้าจะอยู่ที่ไหน และแน่นอน วันศุกร์นั้น กำลังใกล้เข้ามาแล้ว ทางเดียวที่ฉันจะมอบของขวัญจากใจชิ้นนี้ให้เขา คงจะเป็นไปได้ ที่เดียว ในงานแถลงข่าววันนั้น ซึ่งฉันค่อนข้างจะลำบากใจมาก มันเป็นงานเป็นทางการ ต่อหน้าคนเป็นพัน ชั้นคงสั่นเป็นจ้าวเข้า แต่ ชั้นต้องทำให้ได้ ต้องให้เค้ารู้ ว่านี่ไงชั้นอยู่ที่นี่ คนที่รักเขาเหลือเกิน มีอยู่จริงๆที่นี่นะ ฉันต้องบอกคุณ คีอานู วันนั้นมาถึงแล้ว ก่อนออกจากบ้าน ชั้นขอให้แม่อวยพรให้ กำลังใจสำหรับลูกสาวที่จะมอบของขวัญให้คนที่เธอรัก เมื่อไปถึง คอนเวนชันเซ็นเตอร์ ไม่มีแม้ที่จอดรถ ฉันต้องจอดมันไว้ไกลเป็นกิโล แล้วเดินข้ามเนินเขากลับมา ตลอดทาง ก็แค่คิดว่า ชั้นทำเพื่อคีอานู ชั้นทำเพื่อคีอานู ชั้นกอดของขวัญไว้แนบอก ราวกับมันเป็นลูกน้อย ชั้นอยากให้มันเรียบร้อยสวยงามจนถึงมือเขา มันต้องสมบูรณ์แบบ เหมือนความรัก และความตั้งใจที่ฉันมี รายการแถลงข่าว เป็นงานของ วอร์เนอร์ เริ่มด้วยแบทแมน ฉันนั่งรออย่างอดทน แต่มันก็ใช้เวลาร่วมชั่วโมง รอจนแสนนาน แต่แล้ว ในที่สุด มันก็มา คอนสแทนทิน เปิดตัวคนแรกด้วย ฟรานซิส ลอว์เรนส์ ตามมาด้วย ดจิมอน ฮอนซู และพวกผู้หญิงที่ฉันไม่รู้จัก และนั่น คนของฉัน คีอานู ปรากฏตัวขึ้นแล้ว ฉันกรี๊ดแทบสลบ ผู้คนต่างเริ่มขอไมค์ เพื่อยิงคำถามใส่คีอานู ส่วนใหญ่เป็นคำถามงี่เง่า หนังเรื่องอะไรที่คุณชอบที่สุดเท่าที่เล่นมา? คุณจะเล่นสปีด สามรึเปล่าคะ? บลา บลา บลา โอ้ ฉันว่า ถ้าถามคำถามแบบนี้ได้ ชั้นก็ให้ของขวัญของฉันได้ล่ะวะ ชั้นเดินไปเข้าคิวรอไมโครโฟน คนดูแลรีบเข้ามาบอกว่า ถ้าไม่ได้รับเชิญให้เข้าไปถาม ก็ห้ามลุกจากเก้าอี้ ชั้นจึงตอบว่า แถวเก้าอี้ที่ชั้นนั่ง ไม่มีพนักงานคนไหนมองเลย คนยกมือถามกันเยอะแยะ ไม่เห็นเรียกสักที ชั้นทนนั่งรอไม่ไหว ชายคนนั้นตอบว่า คนเยอะขนาดนี้ ผมก็ทำได้แค่นี้ละครับ ชั้นว่า ก็ได้ ชั้นก็แค่ถามดู แล้วก็เริ่มเซ็งเต็มทีจะเดินกลับ ทันใดนั้น เค้าก็ว่า คุณครับ เอางี้แล้วกัน ไหนๆคุณก็ยังพูดดีกับผม คุณต่อคิวต่อไปแล้วกัน โอ พระเจ้าได้ยินชั้นอ้อนวอนแล้ว และแล้วก็ ถึงคิวของฉัน ชั้นรู้ คีอานูมักประหม่ากับความสนใจทั้งมวลที่สาธารณชนให้เขา เขาถ่อมตัว ขี้อาย และไม่ชอบทำให้ใครยกย่องเขามากไป และชั้นรู้ ว่าชั้นท่วมท้นไปด้วยความรู้สึก สิ่งเดียวที่ชั้นอยากบอก และนี่เป็นโอกาสเดียวที่จะแสดงให้เขารู้ ว่าฉันรักเขามากแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่า ขืนชั้นทำแบบนั้น เขาต้องอายมุดดินแน่ๆ ในที่สุด ชั้นพุดว่า ชั้นนำของขวัญวันเกิดมาให้เขา และถามว่า จะขอมอบสิ่งนี้ให้ จะได้ไหม สิ่งที่ชั้นคิด ก็คือ เค้าคงตอบว่า “ ส่งให้คนของผม แล้วผมจะไปรับมันทีหลัง” แต่ เขาไม่ได้ตอบแบบนั้น เขาตอบฉันว่า “แน่นอน ได้เลยครับ” และทันใดนั้น เขาลุกจากเก้าอี้และก้าวยาวๆมาที่ริมเวที โอ้ มัย ก็อช เค้ามายืนรอชั้น ฉันจำอะไรไม่ได้ ว่าส่งไมค์คืนพนักงานไปทางไหน ชั้นก้าวไปหน้าเวทีอย่างตื่นเต้น คนหนึ่งกลับพาชั้นขึ้นบันไดเวทีไปทางขวาพร้อมยิ้มขันๆ ในใบหน้าของชั้น ชั้นเดินช้าๆไปที่นั่น สายตาจับอยู่แน่วแน่ตรงนั้น นั่นไง คีอานูของฉัน เขายิ้ม และก้าวยาวๆมาที่ฉัน ชั้นน่ะได้แต่จ้องมอง ในสมองมีแต่คำว่า นี่ไงคีอานู นี่ไงคีอานู คนที่ชั้นรักมาแสนนาน ยืนอยู่ตรงนี้แล้วไง นี่ไงคีอานู เค้าจ้องมองชั้นกลับมา คล้ายกับว่ากำลังค้นหาวิญญาณฉัน เค้ามองไปที่ถุงในมือชั้น แล้วก็กลับมามองตา ฉันได้แต่เคลิบเคลิ้มสงสัย เค้ามองอะไรชั้นหนอ โอ แล้วชั้นก็นึกได้ ชั้นจะให้ของขวัญเค้านี่นา โอ้ตายละ นี่ฉันเบลอไปหมดขนาดนี้ ฉันรีบเอาถุงส่งให้เขา เค้าขอบคุณ ชั้นตอบว่า ไม่เป็นไรเลยค่ะ และเริ่มจะถอยกลับช้าๆ แต่ว่าเขาไม่เคลื่อนไหว ฉันหลับตาแล้วอ้าแขนออก หากเขาจะปฏิเสธชั้นก็ไม่อยากเห็น ฉันรู้สึกเหมือนนาทีนั้นนานชั่วชีวิต และกำลังรู้สึกอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ฉันแอบกระพริบตาดูว่า เขาทำอะไร ในขณะที่ เขาก้าวเข้ามา และโอบกอดฉัน เขากอดฉัน เขากอดฉัน เขากอดฉัน เขากอดฉัน ชั้นไม่รู้เวลานั้นมันเป็นเวลานานแค่ไหน ชั้นอยากให้มันหยุดลงแค่นั้น แต่ว่าในที่สุดมันก้สิ้นสุดลง ชั้นถูกดึงออกมา แต่ว่า ชั้นกลับรู้สึกถึงหนวดเคราของเขาบนแก้มฉัน เค้าจูบฉันที่ใต้ตาขวา เขาจูบฉัน เขาจูบฉัน เขาจูบฉัน เขาจูบฉัน ชั้นขอบคุณในจูบนั้น แต่คีอานูไม่ได้ตอบอะไร เขายังคงจ้องมองชั้น ชั้นเดินจากมา เค้าเดินกลับไป โชว์ของขวัญของฉันให้ผู้ชมคนอื่นดู และหลังจากนั้นไม่นาน ก็เดินลงจากเวทีไปพร้อมกับมัน นี่จะเป็นภาพที่ชั้นจำไปชั่วชีวิต สิ่งที่ชั้นจะบอกตัวเองว่า เค้าได้รับสิ่งหนึ่งที่ฉันนำมาให้เขาวันนี้ คีอานูที่รัก ไม่ว่าโชคชะตาใดที่จะทำให้คุณจะได้อ่านเรื่องนี้ ชั้นขอบอกคุณว่า ชั้น ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณที่คุณน่ารักและแสนดีกับฉัน คุณมอบความทรงจำที่ชั้นจะเก็บมันไว้ชั่วชีวิต ชั้นรักคุณเหมือนกับครอบครัวของฉันเอง หุๆ หุๆ หุๆ อ่านแล้วเป็นไงกันมั่ง บางคนคงคิดว่า นี่เรื่องของแองจี ใช่ปะ ถ้าใช่ก็ดีจิ แง แง โฮ โฮ มะช่ายอะ ยัยคนเขียนนี่เค้าชื่อ Renée Dupree บ้านอยู่ ซานดิเอโก เรื่องน่ะเกิดเมื่อวันที่23 July 2004 ครบรอบปีไปเมื่อไม่กี่วัน ยัยเรเน่ มานเพิ่งเอามาอวด อะจึ๋ย ความจริง แองจี ก็เจอตัวจริง คีอานูมาแล้ว ห่างกันไม่กี่หลา ไม่กล้าทำแบบ เรเน อี๊ยยยย เสียดายโอกาศทองยิ่งนัก อี๊ยยยยย   Create Date : 28 กรกฎาคม 2548     Last Update : 10 พฤษภาคม 2550 15:29:21 น. Counter : 1317 Pageviews.   12 comment Share Tweet

????? ทำไมถึงไม่แก้ข่าว ????? ทำไมถึงไม่แก้ข่าว แทบทุกคนที่รู้จัก คีอานู รีฟส์ มักเคยได้ยินเรื่องข่าวฉาวของพ่อคนนี้ และก็เหมือนทุกที มันไม่เคยแก้ข่าว เค้าเป็นอะไรของเค้า ชอบถูกลือ บ้าๆบอๆ รึ ... ไม่น่าจะใช่ ... ใครจะบ้าขนาดนั้น เป็นโรคขี้เกียจมั้ง คงกะว่า เดี๋ยวเค้าคงลืมกันไปเอง ... โอ้ มองโลกแง่ดีเกินไปละพี่ อย่างไรก็ตาม ถึงเวลาจะผ่านไป ข่าวลือมั่วๆก็ยังเปลี่ยนหน้ามาเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังไม่มีเมียเป็นตัวเป็นตนมีลูกหนึ่งโขยง หรือไม่ ง่ายกว่านั้นก็คือเลิกเล่นหนัง อืมม ช่างเป็นตัวเลือก แย่ๆ ทั้งนั้นเลยว่ะ คีอานูคงคิดแล้วว่า เอาเป็นว่า ไม่มีใครลืม กูลืมเองแล้วกัน (ฮา ขำกลิ้ง นั่นมันนิสัยแกย่ะ แม่แองจี ชอบเอานิสัยตัวเองไปยัดเยียดให้ป๋าเค้าเรื่อยนะยะ) เอาล่ะ ในเมื่อเกิดข้อสงสัย เราต้องตามไปขุดๆๆๆ และได้บทสัมภาษณ์ที่พอจะทำให้นึกออกเรียงลำดับตามช่วงเวลาดังนี้ Angry Young Man Time Out Amsterdam ( Netherlands) - September 1995 Q เรื่องข่าวลืออื้อฉาวในหนังสือพิมพ์ ที่ปั้นเรื่องการแต่งงานของคุณกับ โพรดิวเซอร์ เดวิด เกฟเฟน คุณว่ามันเป็นหนึ่งในแผนการทำลาย คีอานู รีฟส์? K “อูห์หหห” เขาถอนหายใจ “ผมไม่รู้จะคิดว่า มันมาได้ไงเลย ผมหมายถึงว่า มันจะมีอะไรบ้าไปกว่านี้อีกไหม เว้นแต่ว่าครั้งหน้าผมจะมีลูกกับมนุษย์ดาวอังคารละมั้ง ผมพยายามอย่างยิ่งเลยที่จะไม่สนใจมัน ในชีวิตผม ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือพวกนี้อยู่แล้ว เพราะว่า ถ้าขืนผมไปอ่านมันเข้า ผมก็จะโกรธเอามากๆ เซ็งสุดๆกับ การถูกรายงานผิดๆ อ้างคำพูดผมก็ผิด ปั้นข่าวไปมา พยายามทำให้ผมขึ้นแท่น ไม่ก็พยามยามอัดผมให้ร่วง” ทางเดียวที่จะจัดการกับข่าวลือไร้สาระเรื่องแต่งงานกับผู้บริหารรายนี้ได้ คือ การแถลงข่าวต่อสาธารณะ “ ผู้จัดการ กับตัวแทนของผม ต่างก็บอกว่า ผมต้องจัดการแบบนั้น เพราะไอ้ข่าวบ้านั่น มันไปไกลกว่าที่คิด แล้วมันก็ทำให้ผู้คนหวั่นไหว บางคนก็เชื่อไปจริงๆ ก็ได้ เอางั้นก็ได้ แต่ว่า สรุปแล้วผมก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่ดีนั่นล่ะ ก็เอาดิ เอาไงเอากัน พวกคุณอยากได้ยินข่าวแบบนี้เองนี่ ใช่ ใช่ ผมเกลียดมันมากมาก มันคือขยะ อีกอย่างหนึ่ง ผมว่า นี่มันไม่ใช่ธุระของใคร หรือบางที ผมก็คิดว่า ผมพยายามคิดว่า มันเป็นตลกบ้าๆชนิดหนึ่งที่ผมต้องเจอ” เขาคำราม ต้องการอ่านแบบเต็มๆเชิญคลิกที่นี่เลยจ้ะ อันนี้ช่วงแรกที่โดนข่าวนี้ คีอานูท่าทางจะโกรธเอามากๆ แต่ดูอารมณ์ก็พอนึกออกว่า แค่พี่แกนึกภาพตัวเองตั้งโต๊ะแถลงข่าว แล้วเจอนักข่าวถาม ซักไซ้ เรื่องบนเตียงของแกแล้ว แกคงไม่กล้า จะคิด อะ คือมันต้องโดนถามอะไรที่โป๊มั่กๆ หรือไม่ก็ล่อเป้าให้ด่าเกย์อะไรงั้น ซึ่งมันไม่ใช่ นิสัยน่ะ คีอานูไม่ชอบว่าใคร (เว้นด่านักข่าว อิๆ) แกก็เลยทำใจให้เชื่อว่า เดี๋ยวเค้าคงลืมกันไปเอง ส่วนอันนี้ปีถัดมา แหมโว้ย เหลือเชื่อ หลายคนยังจำได้ แล้วก็อีกละน้า รับงานไม่ดูตาม้าตาเรือ ดันไปเป็นปกให้นิตยสารชื่อ out ที่เป็นหนังสือของบรรดาชาวเกย์เข้าไปอีก โดนครับโดนเต็มๆ ทีนี้ นิตยสารจากฝรั่งเศสขอสัมภาษณ์ เรามาดูกันว่า ความคิด คีอานู ไปถึงไหนแล้ว Keanu Reeves Têtu Magazine ( France) - November 1996 Q ทำไมคุณไปเป็นหน้าปกหนังสือ เอ๊าท์ ที่เป็นนิตยสารของเกย์ล่ะ? K "ผมไม่ได้ขอไปเป็นปกให้เค้านะ ไม่ใช่ว่าผมเป็นฝ่ายเสนอ แต่ว่าเค้าติดต่อมาแล้วผมก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก พอดีเห็นว่า เป็นฉบับที่นำเสนอเรื่องแบบตรงไปตรงมา หรืออะไรแบบนั้น ผมรู้ว่าคนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่อยากจะฟังเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าคุณได้อ่านบทสัมภาษณ์ คุณก็จะได้เห็นว่า มันไม่มีประเด็นที่เกี่ยวกับคำว่า เกย์เลยแม้แต่น้อย." Q ทำให้ ประวัติศาสตร์ข่าวเดวิด เกฟเฟนกลับมาให้ลือกันอีกครั้ง? K "ครั้งแรก ที่ผมโดนถามเรื่องข่าวนี้ ผมกำลังเล่นแฮมเล็ต ที่โทรอนโท ในตอนเริ่มแรก ผมว่ามันเป็นเรื่องตลก และต่อมา ก็เริ่มจะบ้ากันไปใหญ่ แล้วต่อมา ก็เกินกว่าที่มันควรจะเป็นทั้งบ้าและเพี้ยนสุดๆ ผมตระหนักเลยว่า ผมต้องจัดเปิดโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แต่ว่า สุดท้ายผมก็ไม่ได้ทำ และทำให้ผมเรียนรู้ว่า มันจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้สื่อรู้บ้าง ไม่เช่นนั้น บรรดาสื่อก็จะรู้สึกว่าผมมีปัญหากับพวกเขา แล้วบางคนก็พัฒนาไปเป็นความไม่ชอบผมเป็นการส่วนตัว แล้วเราก็ต้องเผชิญกับข่าวลือที่ไมสิ้นสุด และหนีมันไม่พ้น” สรุปได้ว่า คีอานู รู้แล้ว ว่าอำนาจของปากกานั้นร้ายกว่าปืน บอกแล้ว คนเรามันต้องประสบกับตัวถึงจะรู้ทุกราย แล้วก็มารู้เอาป่านนี้ มันจะช่วยอะไรได้ สรุปแล้วบางคนเค้าอยากจะเชื่อก็ปล่อยเค้าไปเทอะ ชีวิตคนดังก็มักเป็นแบบนี้ และนี่ ก็บทสัมภาษณ์อีกชิ้น ที่แสดงว่า คีอานู ปลงได้แล้วจริงๆ Keanu: Gossip Doesn't Bother Me Contactmusic ( United Kingdom) - January 19, 2004 ยอดดาราฮอลลีวูด คีอานู รีฟส์ ไม่เคยเสียเวลาสนใจ ข่าวซุบซิบรอบๆตัวเขา เพราะเขาตระหนักว่า มันก็แค่เรื่องโกหก นักแสดงรูปหล่อจาก เดอะ แมทริกซ์ มักจะพบว่าตนเองเป็นหัวข้อข่าวลือฉาวคาวโลกีย์อยู่เสมอ แต่ที่ต่างไปจากดาราคนอื่นก็คือเขาปฏิเสธที่จะให้ข่าวใดๆออกมาต่อต้านมัน ราวกับว่าข่าวลือพวกนั้น ไม่สะเทือนเขาแม้แต่น้อย และรวมทั้งการไม่ต่อว่าสาธารณะชนทั้งหลาย ในการซื้อหาข่าวเหล่านี้มาบริโภคอีกด้วย. เขากล่าวว่า “นี่คุณ ผมไม่เคยใส่ใจมันหรอก ไม่เลยจริงๆ รู้ไหม มันก็แค่เรื่องมั่วๆที่เป็นผลข้างเคียงจากงานแสดง แค่นั้น” "ภาพพจน์ของฮอลลีวูดในสายตาของคนนอก มันดูเหมือนโลกของดารา ซึ่งมันก็แค่เรื่อง ปลอมๆสำหรับผม ไม่ยั่งยืนอะไร แค่บางอย่างที่มันไม่จริง ผมเข้าใจดี ว่าทำไมผู้คนถึงสับสนกับข่าว นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อไร ที่คุณเป็นคนนอก มันไม่ใช่เรื่องของคุณ ข่าวที่คุณได้รับ ก็เป็นภาพแฟนตาซี ” "และเมื่อคุณคุ้นเคยกับภาพมายาบนจอ ก็จะคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง." วาว อย่างหนึ่งที่ทำให้รัก คีอานูนะ ก็คือความสามารถในการตอบคำถาม เขาช่างตอบได้ถูกใจใช่เลยอะไรแบบนี้ไม่รู้ คือมันคล้ายคำคม แล้วก็ดูเหมือนไม่ได้ว่าใคร เพียงแค่เข้าใจสถานการณ แล้วก็ ทำใจกับมันได้อย่างนั้นแหละ จริงใจไม่เสแสร้ง รู้ค่าตัวเองแต่ไม่ดูถูกผู้อื่น น่ารักจริงๆ เอา หลงเข้าไป หนักกว่านี้สงสัยต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไปแอลเอสักทีละมั้ง เฮอ(ถอนหายใจ) ควบคุมตัวเองไว้บ้าง angy_11   Create Date : 16 มิถุนายน 2548     Last Update : 16 มิถุนายน 2549 10:22:45 น. Counter : 2066 Pageviews.   5 comment Share Tweet

อะไรดึงดูดคุณเข้าหา Keanu Reeves ? *อะไรดึงดูดคุณเข้าหา Keanu Reeves ? *มีหลายคนบนโลก ใช้เวลาขุดคุ้ยเรื่องราวของชายคนนี้ แน่นอนว่า เขาเป็นคนธรรมดาเหมือนคุณ แต่บางอย่างของเขาดึงดูดคุณใช่ไหม มิเช่นนั้น คุณคงไม่เสียเวลาอ่านบทความชิ้นนี้ *Keanu Reeves มีรูปร่างลักษณะที่ชวนมอง ตัวเขาเองยอมรับความจริงข้อนี้ในบทสัมภาษณ์ของ cosmopolitan เยอรมัน ฉบับเดือนวันเกิดของเขา กันยายน ปี 2004 ต่อคำถามที่ว่า “มีหลายคนพูดว่า กล้องรักคุณ คุณคิดว่ายังไง” “ผมไม่รู้จะคิดยังไง แต่ก็เข้าใจว่ามันหมายความว่าอะไร ภาพที่คุณเห็นบนจอมันมีความสัมพันธ์กับตัวจริงผมอยู่บ้าง และในกรณีของผมก็คือ กล้องมันสามารถอำพรางข้อบกพร่องของผมได้ดีกว่าคนอื่น ก็แค่นั้น” คำตอบแบบถ่อมตัว ทำให้เขาดูน่ารักน่าเอ็นดู Keanu เป็นแบบนี้เสมอเมื่อได้รับคำชม อาจเป็นเพราะเขาไม่อยากจะยอมรับนัก เรื่องข้อได้เปรียบทางรูปร่างหน้าตาของเขาก็เป็นได้ *แต่ที่ลำบากว่านั้น อาชีพนักแสดงในปัจจุบัน แทบจะมีสปอตไลท์ส่องอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไร Keanuเป็นที่สนใจของผู้คน เรื่องราวชีวิตส่วนตัวของเขา “ขายได้” และโชคร้ายไปกว่านั้น ที่เรื่องของKeanuมันไม่ธรรมดาสามัญ เริ่มจากครอบครัวแตกแยก เรื่องอื้อฉาวของพ่อและแม่ ชีวิตรักที่ไม่ลงตัว การสูญเสียคนรักเพราะอุบัติเหตุ ทุกข่าวของ Keanuเป็นที่สนใจของแฟนๆ นี่ยังไม่รวมข่าวลือ ข่าวลวงอีกหลายๆข่าว *มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ We live in The Matrix ถึงแม้จะไม่ได้กลายเป็นแบตเตอรีจ่ายไฟ เหมือนในภาพยนตร์ แต่เราทุกคน ก็ต้อง “จ่าย” สิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ “ระบบ” มิใช่หรือ ระยะหลัง Keanu Reeves ดูจะทำใจได้ ก่อนหน้านี้ในสมัยวัยรุ่น เขาตอบโต้การอยากรู้อยากเห็น ด้วยการประชด หรือการไม่ให้ข่าว ซึ่งนอกจากจะกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น แล้วยังทำให้เกิดข่าวลือหนักขึ้นกว่าเดิม แล้วคุณคิดว่า เขาแคร์มันไหม ไม่มีใครรู้ว่าตอนนั้นเขาคิดอย่างไร แต่ในวันนี้ Keanu Reeves มองมันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป (จากบทสัมภาษณ์ในปี 2000) “ผมเริ่มรู้ว่า ผมต้องยอมบอกเรื่องราวของผมบ้าง เรื่องที่ผมพอจะบอกได้ไม่งั้นพวกสื่อก็จะตั้งตัวเป็นศัตรูกับผม แล้วไอ้เรื่องไม่จริงทั้งหลายก็จะเกิดขึ้นมาเพื่อเติมช่องว่างเหล่านี้” “ผมชอบอาชีพนักแสดง มันให้คุณได้เข้าถึงแบบต่างๆของชีวิต คล้ายๆกับเป็นจิตบำบัดชนิดนึง ภาพยนตร์เปลี่ยนชีวิตคุณได้ ในฐานะนักแสดง คุณเข้ามาดูภาพยนตร์ และดูผมเล่าเรื่อง ที่นอกจากมันจะทำให้คุณสนุกแล้ว บางที มันยังสอนคุณด้วย ผมคิดว่ามันเปลี่ยนชีวิตคุณได้ ถ้าคุณต้องการ ผมมองตัวเองเป็นแค่นักแสดง ที่ยังต้องการแสดงต่อไป เพราะผมรักที่จะทำมันจริงๆ” *คุณพอจะนึกออกหรือยัง ทำไมคุณสนใจชายคนนี้ Keanu Reeves *บทความนี้ ไม่ได้แปลมาจากไหน เขียนขึ้นใหม่ โดย แองจี อิเลเวน   Create Date : 27 พฤษภาคม 2548     Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2549 14:09:32 น. Counter : 1771 Pageviews.   5 comment Share Tweet

• ไร้ระเบียบ
• ข่าว
• บทความ
• งาน
• คลิป
• ไม่เกี่ยวกับเขา

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com