ชีวิต คือการเริ่มอย่างไม่เข้าใจ แต่พยายามจบอย่างมีความหมาย +ด.ช.ไม้ดาบ+ KaravaThai.WEBS.COM
Group Blog
 
All Blogs
 

RESCUE HOME




 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2558    
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2558 22:32:16 น.
Counter : 805 Pageviews.  

จดหมายถึง ผู้ว่า กทม.

เมืองบางกอกในอนาคต

จาก: a-o-i
ส่งเมื่อ: 1 กุมภาพันธ์ 2551 22:26:12
ถึง: apirak@bma.go.th

ดิฉัน จินดา หาญทวิชัย ศิษย์เก่าสถาปัตย์ จุฬาฯ รุ่น ๕๖
ได้มีโอกาสเดินทางมาทำงานด้านออกแบบ เขียนแบบ และเขียนหนังสือเป็นงานอดิเรกในนิวยอร์คกว่า ๑๐ ปี
หนังสือเล่มแรกกำลังวางแผงที่ร้านหนังสือดอกหญ้า "ที่แท้ทั้งหมด เ ป็ น อยู่"
//www.freewebs.com/karavathai/index.htm


หนังสือเด็กอีกสองเล่มกำลังวางแผงที่ ร้านนายอินทร์ ซีเอ็ด B2S ศูนย์หนังสือจุฬา
"ที่ว่าง ที่ ก ว้ า ง" และ "การกำเนิด (ความคิด) ใหม่"
//www.naiin.com/04search.asp?keyword=%B4.%AA.%E4%C1%E9%B4%D2%BA&searchby=authors&imageField22.x=14&imageField22.y=13

ดิฉันได้เห็นโฆษณาเกี่ยวกับประเทศไทยจาก U.S.NEWS & WORLD REPORT ฉบับ September 24,2007
Special Advertising Section ได้กล่าวถึงเมืองบางกอกในอนาคตเกี่ยวกับ
Bangkok makes green progress, the new gold ของท่านผู้ว่า...ว่า
One million trees to be planted annually to a thirty percent increase in green areas by 2012

การที่กรุงเทพจะมีสวนขนาดใหญ่ ๑๗ แห่ง เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับคนไทย
แต่ดิฉันอยากให้ท่านผู้ว่าลองพิจารณาอีก Concept นึงว่า
หากเราแบ่งสวนขนาดใหญ่ ๑๗ แห่งออกเป็นสวนขนาดเล็ก ๑๗๐ แห่ง แต่ละแห่งห่างกันในรัศมีสองป้ายรถเมล์
เพื่อให้ทุกครัวเรือนในกรุงเทพมีสวนให้เดินเล่นภายในระยะหนึ่งป้ายรถเมล์
เพราะคนกรุงไม่ค่อยมีโอกาสได้เงยหน้าขึ้นมองฟ้า หายใจใต้ต้นไม้ ฟังเสียงนก เสียงน้ำ
สวนสาธารณะขนาดเล็กให้ความอบอุ่นเป็นชุมชนมากกว่าสวนขนาดใหญ่ซึ่งดูแห้งแล้ง และต้องใช้งบประมาณมาก
คนส่วนน้อยที่ได้ไปใช้ เพราะไม่มีใครอยากนั่งรถเพื่อไปเดินเล่นในสวน

ดิฉันได้กลับไปเมืองไทยเมื่อหกเดือนที่แล้ว
มีอย่างหนึ่งที่เห็นว่าเมืองไทยเปลี่ยนไปมาก
คือเรื่องป้ายโฆษณาที่เกลื่อนเมือง
เหมือนกับป้ายโฆษณากำลังหาที่ ที่จะอยู่อย่างลงตัวในเมือง แต่ยังหาไม่ได้
เพราะยังไม่มีใครเข้าไปดูแลความลงตัวระหว่างอาคารกับป้ายโฆษณา
กทม.มีกฎหมายควบคุม แต่เราต้องการ DESIGNER(ภูมิสถาปนิก) ที่จะเข้าไปดูแลตรงนี้ด้วย
อย่างเช่น เราสามารถปรับเสารถไฟฟ้า hopewell ที่รกร้างว่างเปล่าซึ่งมีเส้นทางยาวเกือบครึ่งกรุงเทพ
ให้เป็นเสารับป้ายโฆษณาของเมือง ที่ว่างระหว่างเสาด้านล่างสามารถออกแบบเป็นสวนของเมืองได้




The High Line,NewYork, is a 1.45-mile-long elevated, steel structure built in the 1930s to carry freight trains. The last train ran on it in 1980.
On this Monday.June.8.2009, They open High Line to be a P A R K on T R A I N T R A C K.


ด้วยความนับถือ
จินดา หาญทวิชัย




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2559 17:59:56 น.
Counter : 617 Pageviews.  

บ้านฉันกว้างสามแขนกาง









บ้านแถวของเราอยู่หลังริมสุด เป็นบ้านที่เย็นที่สุดโดยไม่ต้องติดแอรฺคอนดิชั่น เพราะบ้านเราขายน้ำแข็ง บ้านหลังเล็กสองชั้นสามารถบรรจุแปดคนให้อยู่อย่างมีความสุขได้ มันต้องมีอะไรมากกว่าคอนกรีตสี่เหลี่ยมเป็นแน่ ในความนึกคิดของเรา บ้านเราหลังใหญ่ เวลาที่คุณครูถาม “บ้านจินดา ทำอะไร?” “บ้านหนูเป็นโรงน้ำแข็งค่ะ” บ้านเราไม่รวยแต่มันมีอะไรพิเศษยังไงบอกไม่ถูก ถึงหน้าร้อนแม่จะขนน้ำแข็งหนึ่งกั๊กใส่แท้งคฺน้ำใต้บันไดให้พวกเราลงไปว่ายเล่น พ่อจะมีเทคนิคไม่เหมือนใครที่น่าจดจำนำมาใช้กันทั่วประเทศ เพราะสายยางฉีดน้ำที่พ่อต่อขึ้นบนหลังคา สามารถช่วยพาความร้อนออกไปจากบ้านจนสิ้น แค่นี้บ้านเราก็เย็นสบายโดยวิธีธรรมชาติแล้ว

พื้นที่หน้าบ้านของเรามีแค่สองเมตร แต่มองเลยออกไปเป็นสะพานไม้กว้าง ข้ามคลองหกเมตร แถมยังมีพื้นที่ไว้ปลูกต้นก้ามปูสูงใหญ่ พ่อจะปลูกสวนครัวย่อมๆไว้ให้แม่ทำกับข้าว ให้ลูกตื่นเต้น เวลาที่เห็นข้าวโพดออกฝัก ดอกเชียงใหม่บาน เมล็ดถั่วเขียวกลายเป็นถั่วงอก พอถั่วงอกโตออกฝักก็จะกลายเป็นถั่วเขียวอีก <เดี๋ยวนี้ มีเด็กสักกี่คนรู้และเห็นวงจรนี้ทั้งระบบ เพราะที่โรงเรียนเราได้แค่ปลูกถั่วสูงแค่คืบก็จบการทดลองซะแล้ว> ในช่วงชีวิตที่ได้มีโอกาสอยู่กับพ่อ พ่อไม่เคยเอ่ยคำว่ารักกับใคร แม้แต่แม่ อย่าหวังได้ยิน คนที่จะเห็นความรักของพ่อได้ ต้องลึกถึงธรรมชาติของพ่อจริงๆ มีไม่กี่ครั้งที่เรารู้สึกได้ออกมาเป็นคำพูด แต่รักของพ่อโอบล้อมเราอยู่ตลอดเวลา วินาทีที่ดอกทานตะวันบานออกรับแสงตะวัน วินาทีที่มะละกอออกลูกแล้วพ่อผ่าเอามาวางอวดพวกเราบนโต๊ะ วินาทีที่พ่อเด็ดดอกมะลิใส่ลงหม้อน้ำ โอ๊ย...ชื่นใจ วินาทีที่พ่อสอนเราให้ใช้กระดาษห่อลูกทับทิม ครั้งเดียวที่เราแน่ใจว่าพ่อกำลังบอกรักแม่คือ วินาทีที่พ่อล่ำลาแม่ก่อนจะไปเยี่ยมญาติที่เมืองจีน พ่อสั่งแม่ให้มองพระจันทร์ก่อนนอน เพราะวินาทีนั้นพ่อก็มองอยู่เหมือนกัน เทคนิคของพ่อซับซ้อนซ่อนความหมายเกินใจเหลือหลาย

แต่แล้วเมื่อวันนั้นที่เค้าเริ่มถมคลอง ขยายถนน ปีต่อจากนั้น แม่เป็นหอบ และเป็นมาจนถึงทุกวันนี้ สามสิบปี น้ำที่ไม่เคยท่วมบ้าน ก็ไหลเข้าบ้านทุกปี หลังจากนั้นหน้าฝนอาจเป็นเรื่องตื่นเต้นของเด็กอย่างเรา แต่เจ็บปวดสำหรับพ่อแม่ เพราะน้ำท่วมน้ำแข็ง บ้านเหลือแค่ชั้นเดียว ส้วมเต็ม เพราะเค้าเอาคลองของเราไป คลองที่เราพี่น้องหกคนพากันไปช้อนปลา ดูเต่าลอยคอ เฝ้ารอวันที่หน้าฝนมาถึง เราจะเห็นฝูงลูกปลาช่อนว่ายเป็นฝูงสีแดงไปทั่วคลอง วันดีคืนดี เราก็จะเห็นงูเขียว งูสามเหลี่ยม งูสารพัดงูหนีน้ำขึ้นมาให้แม่สอนว่า นี่นะงู ลายสวยแต่อันตราย ส่วนที่หลังบ้านก็มีแค่อีกสองเมตรนั่นแหละ พ่อตอกเล้าไก่จากเศษไม้ลัง เลี้ยงไก่ไว้ปีละสามสี่ตัว ไว้กินตอนตรุษจีน มีอยู่ปีนึงงูเหลือมตัวใหญ่เท่าคู เลื้อยมากินไก่ไปตัวนึง แต่ตลกที่พอมันกินไก่แล้วตัวอ้วนกว่าเดิม เลยเลื้อยกลับเข้าคูไม่ได้ เป็นอันว่าจบไม่เป็นท่า ลูกน้องพ่อจะฆ่าเอาไปแกล้มเหล้า แต่แม่ขอไว้ให้ไปส่งมันที่เขาดินแทน เราเชื่อว่าลูกหลานเจ้าเหลือมนั่นคงยังอยู่ที่เขาดิน หลังๆพวกเราเลียนแบบพ่อ ขอเลี้ยงลูกไก่ประจำตัวคนละตัว แม่สอนขุดดินหาไส้เดือนให้ลูกไก่กิน พร้อมกับสอนว่าไส้เดือนมันช่วยพรวนดิน อย่าเอาไปให้ไก่กินจนหมดล่ะ พวกเราพี่น้องหกคนต่างขุดต่างร้องเพลง ไก่ กุ๊กๆไก่ ร้องเพลินขุดเพลิน วันรุ่งขึ้นลูกไก่ท้องแตกตายกันทุกตัว เป็นอันได้บทเรียน หันไปจับปลามาเลี้ยงใส่ขวดแทน ดูว่ากี่วันมันจะตั้งท้อง ออกลูก ถ้าพวกเพื่อนผู้ชายก็ชอบเลี้ยงปลากัด เราเลี้ยงแค่ปลาช่อน หางนกยูง แค่เห็นลูกมัน ก็จับไปปล่อยลงคลอง รอบคลองเราก็เด็ดผักบุ้ง ผักกระเฉด มาให้แม่ผัดกินได้ทุกเมื่อที่ต้องการ นี่ถ้าตอนเด็กไม่เห็นแม่ขุดเผือกมาจากต้น เราคงไม่มีวันรู้ว่าต้นเผือกมันเป็นยังไง ใบมันแสบแค่ไหน




ด.ช.ไม้ดาบ:เขียนคำ+วาดรูป
“แค่ผมมุดลงไปใต้โต๊ะ ผมก็สมมติตรงนั้นเป็นบ้านถ้ำได้แล้วครับ”
“พอหนูไปยืนอยู่ระหว่างสองแถวต้นไม้ในหมู่บ้าน นั่นก็เป็นบ้านต้นไม้ของหนูค่ะ”
“ก็ตอนที่พ่อกับแม่กางแขนออก แล้วผมแทรกไปอยู่ตรงกลางระหว่างนั้น นั่นแหละครับบ้าน”











 

Create Date : 05 มิถุนายน 2549    
Last Update : 19 มิถุนายน 2559 18:54:24 น.
Counter : 305 Pageviews.  


KaravaThai
Location :
นิวยอรฺค United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ในปฐมวัย เราเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ปั้น
ช่วงชีวิตต่อจากนั้น...เราจะปั้น สิ่งที่เราเป็น

Unauthorized reproduction any part of this blog is prohibited by federal law, copyright 2005

เนื่องจาก ด.ช.ไม้ดาบ เป็นลิขสิทธิ์แม้จะอยู่ใน Internet ห้ามทำการคัดลอกเพื่อการค้า หากต้องการคัดลอก ขอให้เป้าหมายเพื่อการเผยแพร่ให้ความรู้พร้อมลงชื่อ ด.ช.ไม้ดาบ เท่านั้น
ในปฐมวัย เราเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ปั้น ช่วงชีวิตต่อจากนั้น...เราจะปั้น สิ่งที่เราเป็น Unauthorized reproduction any part of this blog FOR COMMERCIAL is prohibited by federal law, copyright 2005 เนื่องจาก ด.ช.ไม้ดาบ เป็นลิขสิทธิ์แม้จะอยู่ใน Internet ห้ามทำการคัดลอกเพื่อการค้า หากต้องการคัดลอก ขอให้เป้าหมายเพื่อการเผยแพร่ให้ความรู้พร้อมลงชื่อ ด.ช.ไม้ดาบ เท่านั้น
Friends' blogs
[Add KaravaThai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.